หน้าแรก เฝ้าเดี่ยวแบบตามพระธรรม พระธรรมผู้วินิจฉัย เฝ้าเดี่ยวแบบ A.C.T.S. ผู้วินิจฉัย บทที่ 6:1-27

เฝ้าเดี่ยวแบบ A.C.T.S. ผู้วินิจฉัย บทที่ 6:1-27

2281
0
ภาพจาก https://www.huffingtonpost.com/entry/trump-nominee-bible-constitution_us_59b004cbe4b0354e440e5379

ส่ิงที่เรียนรู้จากพระธรรมวินิจฉัย คือ สำรวจชีวิตของตนเองกับพระเจ้าอยู่เสมอว่าดำเนินชีวิตถูกต้อง ตามพระทัยพระเจ้าหรือไม่ การสำรวจทำให้มั่นใจในพระเจ้า หรือพบความผิดบาป กลับใจใหม่ และเริ่มต้นความสัมพันธ์กับพระเจ้าได้ใหม่เสมอ

เมื่อท่านศึกษาเฝ้าเดี่ยวพระธรรมผู้วินิจฉัยแล้ว ท่านจะพบว่าคนที่ไม่มีความมั่นใจในการรับใช้พระเจ้า เขากลับกลายเป็นผู้นำของอิสราเอลได้ ความเป็นผู้นำนี้ไม่ได้เกิดจากกิเดโอน ความเป็นผู้นำในสถานการณ์นี้ก็ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ของตัวเขา ให้เราเรียนรู้จากกิเดโอนด้วยกัน

วนฉ6:1-27

พวกมีเดียนกดขี่คนอิสราเอล

1แล้วคนอิสราเอลก็ทำสิ่งชั่วในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์ และพระยาห์เวห์ทรงมอบพวกเขาไว้ในมือของคนมีเดียน 7 ปี 

2มือของคนมีเดียนก็ชนะอิสราเอล และเนื่องจากคนมีเดียน คนอิสราเอลจึงทำที่ซ่อนตัวตามถ้ำและที่กำบังแข็งแกร่งซึ่งอยู่ในภูเขา 3เพราะว่าคนอิสราเอลหว่านพืชเมื่อไร คนมีเดียน คนอามาเลข และชาวตะวันออกก็ขึ้นมาสู้รบกับพวกเขาเมื่อนั้น 4พวกเขามาตั้งค่ายแล้วทำลายพืชผลแห่งแผ่นดินไกลไปถึงเมืองกาซา และไม่ให้มีอาหารเหลือในอิสราเอลเลย ไม่ว่าแกะหรือวัวหรือลา 5เพราะว่าคนเหล่านั้นจะขึ้นมาพร้อมทั้งฝูงปศุสัตว์และเต็นท์ พวกเขามาเหมือนตั๊กแตนปาทังก้าเป็นฝูงๆ ทั้งคนและอูฐก็นับไม่ถ้วน เขาทั้งหลายเข้ามาและทำลายแผ่นดิน 

6พวกอิสราเอลก็ตกต่ำลงมากเพราะคนมีเดียน ดังนั้นคนอิสราเอลจึงร้องขอความช่วยเหลือต่อพระยาห์เวห์

7เมื่อคนอิสราเอลร้องขอความช่วยเหลือต่อพระยาห์เวห์เพราะคนมีเดียน 8พระยาห์เวห์ก็ทรงใช้ผู้เผยพระวจนะคนหนึ่งให้มาหาคนอิสราเอล ผู้นั้นพูดกับเขาทั้งหลายว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า ‘เราได้นำพวกเจ้าขึ้นมาจากอียิปต์ นำเจ้าออกมาจากแดนทาส 9และเราได้ช่วยเจ้าทั้งหลายให้พ้นจากเงื้อมมือของชาวอียิปต์ และให้พ้นจากมือของบรรดาผู้บีบบังคับพวกเจ้า และขับไล่พวกเขาออกไปพ้นหน้าพวกเจ้า และมอบแผ่นดินของพวกเขาให้แก่พวกเจ้า 

10และเราบอกกับเจ้าทั้งหลายว่า “เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า อย่ายำเกรงบรรดาพระของคนอาโมไรต์ ซึ่งพวกเจ้าอาศัยอยู่ในแผ่นดินของพวกเขานั้น” แต่เจ้าทั้งหลายไม่ฟังเสียงของเรา’ ”

พระเจ้าทรงเรียกกิเดโอน

11ทูตของพระยาห์เวห์มาประทับใต้ต้นโอ๊กที่โอฟราห์ ซึ่งเป็นของโยอาชตระกูลอาบีเยเซอร์ ส่วนกิเดโอนบุตรของท่านกำลังนวดข้าวสาลีอยู่ในบ่อย่ำองุ่น เพื่อหลบหน้าคนมีเดียน 12ทูตของพระยาห์เวห์ทรงปรากฏแก่กิเดโอนตรัสกับเขาว่า “นักรบกล้าหาญเอ๋ย พระยาห์เวห์สถิตกับเจ้า” 13กิเดโอนจึงทูลท่านผู้นั้นว่า “ท่านเจ้าข้า ถ้าพระยาห์เวห์สถิตกับพวกเราแล้ว ทำไมเหตุการณ์ทั้งหมดนี้จึงเกิดกับเราเล่า? และการอัศจรรย์ทั้งหมดของพระองค์อยู่ที่ไหนซึ่งปู่ย่าตายายเคยเล่าให้เราฟังว่า ‘พระยาห์เวห์ไม่ได้ทรงนำเราออกจากอียิปต์หรือ?’ แต่สมัยนี้พระยาห์เวห์ทรงทอดทิ้งเราเสียแล้ว และทรงมอบเราไว้ในมือของพวกมีเดียน” 

14และพระยาห์เวห์ทรงหันมาหาท่านและตรัสว่า “จงไปช่วยคนอิสราเอลให้พ้นจากเงื้อมมือพวกมีเดียนด้วยกำลังของเจ้านี่แหละ เราใช้เจ้าไปไม่ใช่หรือ?” 

15ท่านจึงทูลว่า “องค์เจ้านายของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะช่วยอิสราเอลได้อย่างไร? นี่แน่ะ ตระกูลบิดาของข้าพระองค์ต่ำต้อยที่สุดในเผ่ามนัสเสห์ และตัวข้าพระองค์ก็เป็นคนเล็กน้อยที่สุดในบ้านบิดาข้าพระองค์” 16พระยาห์เวห์ตรัสกับท่านว่า “แต่เราจะอยู่กับเจ้าแน่ และเจ้าจะโจมตีคนมีเดียนอย่างกับตีคนคนเดียว” 17ท่านก็ทูลพระองค์ว่า “ถ้าบัดนี้ข้าพระองค์เป็นที่โปรดปรานในสายพระเนตรพระองค์ ขอโปรดให้ข้าพระองค์เห็นหมายสำคัญว่า ผู้ที่พูดอยู่กับข้าพระองค์นี้คือพระองค์เอง 18ขออย่าเสด็จไปจากที่นี่ จนกว่าข้าพระองค์จะกลับมา และนำของมาตั้งถวายเฉพาะพระพักตร์” และพระองค์ตรัสว่า “เราจะอยู่จนกว่าเจ้าจะกลับมา”

19กิเดโอนก็กลับเข้าบ้าน จัดลูกแพะตัวหนึ่งกับขนมปังไร้เชื้อจากแป้ง 10 กิโลกรัม เขาเอาเนื้อใส่กระจาด ส่วนน้ำแกงใส่ในหม้อ นำสิ่งเหล่านี้มาถวายพระองค์ที่ใต้ต้นโอ๊ก 20และทูตของพระเจ้าตรัสกับท่านว่า “จงเอาเนื้อและขนมปังไร้เชื้อวางไว้บนศิลานี้ เทน้ำแกงราดของเหล่านั้น” ท่านก็ทำตาม 21แล้วทูตของพระยาห์เวห์ก็ทรงเอาปลายไม้ที่ถืออยู่แตะต้องเนื้อและขนมปังไร้เชื้อ และมีไฟลุกขึ้นมาจากศิลาไหม้เนื้อและขนมปังไร้เชื้อจนหมด และทูตของพระยาห์เวห์ก็ทรงหายไปพ้นสายตาของท่าน 

22กิเดโอนก็ทราบว่า เป็นทูตของพระยาห์เวห์จริง และกิเดโอนทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้านาย บัดนี้ ข้าพระองค์ได้เห็นทูตของพระยาห์เวห์หน้าต่อหน้า อนิจจาเอ๋ย” 

23แต่พระยาห์เวห์ตรัสกับท่านว่า “สันติสุขจงดำรงอยู่กับเจ้า อย่ากลัวเลย เจ้าจะไม่ตาย” 24กิเดโอนก็สร้างแท่นบูชาแท่นหนึ่งถวายพระยาห์เวห์ที่นั่น และเรียกที่นั้นว่า ยาห์เวห์ชาโลม ทุกวันนี้แท่นนั้นก็ยังอยู่ที่เมืองโอฟราห์ ซึ่งเป็นของตระกูลอาบีเยเซอร์

25ต่อมาในคืนวันนั้นพระยาห์เวห์ตรัสกับท่านว่า “จงเอาโคผู้ของบิดาเจ้าคือโคผู้ตัวที่สองที่มีอายุ 7 ปีมา ไปพังแท่นพระบาอัลซึ่งบิดาของเจ้ามีอยู่นั้นลงเสีย จงโค่นเสาอาเช-ราห์ซึ่งอยู่ข้างๆ แท่นเสียด้วย 26และสร้างแท่นบูชาถวายพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าที่บนสุดของป้อมนี้ ใช้ก้อนหินก่อให้เป็นระเบียบ แล้วนำโคตัวที่สองนั้นฆ่าเสีย ถวายเป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว เผาด้วยไม้รูปอาเช-ราห์ซึ่งเจ้าโค่นมานั้น” 

27กิเดโอนจึงนำคนรับใช้ 10 คนไปทำตามที่พระยาห์เวห์ตรัสสั่งท่าน แต่ต่อมาเพราะท่านกลัวครอบครัวของตน และกลัวชาวเมือง จนไม่กล้าทำในเวลากลางวัน จึงทำในเวลากลางคืน

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับมาตรฐาน 2011 สงวนลิขสิทธิ์ 2011 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย

A : Attitude

เราได้รับความรู้ใหม่ๆ หรือเราได้รับทัศนคติใหม่ๆ จากพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่อ่านเรื่องอะไรบ้าง?

เราจะสังเกตพบว่าปัญหาหลักของคนอิสราเอลในเวลานั้นคือ การทำชั่วในสายพระเนตรพระเจ้า

ปัญหาที่จะกระทบต่อความมั่นคงของชีวิตจึงเกิดขึ้น เช่น มีสงคราม มีศัตรู พ่ายแพ้ ถูกข่มเหง ชีวิตยากลำบาก อดอยากปากแห้ง แต่เมื่อเขากลับใจใหม่มาแสวงหาพระเจ้า พระองค์ประทานความช่วยเหลือให้ผ่านผู้รับใช้ของพระองค์

ผู้นำที่พระเจ้าจะใช้มาช่วยคนของพระเจ้าเขาต้องรู้จักพระเจ้าจริงๆ เข้าใจแผนการของพระเจ้าจริงๆ และทำตามสิ่งที่พระเจ้าให้ทำจริงๆ เขาจึงจะช่วยคนของพระเจ้าได้อย่างถูกต้องตามพระทัย 

C : Christ in focus

เรามองเห็นพระเยซูเป็นใคร พระองค์ทำอะไรบ้าง ผ่านพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่เราอ่านอย่างไรบ้าง?

พระเยซูเลือกเหล่าสาวกมาสร้าง ใช้เวลากับเขา ใช้ชีวิตกับเขา เพื่อให้เขารู้ว่าเขาต้องดำเนินชีวิตอย่างไร เขาต้องรับใช้พระเจ้า และพี่น้องอย่างไร เขาต้องทำพันธกิจอะไรบ้างเพื่อเป็นพระพร การช่วยเหลือแก่พี่น้อง ในเวลาที่พระเยซูเสด็จสู่ฟ้าสวรรค์แล้ว

พระเจ้าใช้คน พระเจ้าให้พระเยซูมาเป็นคน เพื่อจะช่วยคน

ให้พ้นจากการเป็นทาสบาป ทาสมารนำไปสู่ความตาย ความทุกข์ยากลำบากต่างๆนา พระเยซูเป็นความหวังให้กับมนุษย์หมดโลกได้

T : Transformation

เราต้องการให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราในด้านใดบ้าง?  

 คนของพระเจ้าต้องหมั่นสำรวจชีวิตว่า ได้ทำชั่วในสายพระเนตรพระเจ้าหรือไม่ มีบาปที่ไม่กลับใจหรือไม่ มีความขี้สงสัย ไม่ไว้วางใจ ไม่มั่นใจ ไม่เชื่อในพระสัญญาของพระเจ้าบ้างหรือไม่ ถ้าเป็นอย่างนั้นเราจะไม่สามารถดำเนินชีวิตกับพระเจ้าได้

เราจะเอาชีวิตของเราไปเสี่ยงกับสิ่งที่เราไม่เชื่อมั่นได้อย่างไร ยิ่งกว่านั้นเราจะรับใช้พระเจ้าที่เราไม่เชื่อมั่นได้อย่างไร

S : Serve

เราจะดำเนินชีวิตเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น และต่อพระเจ้าได้อย่างไรบ้าง?

ผู้นำ ผู้รับใช้ ต้องเรียนรู้ที่จะรับใช้พระเจ้าอย่างมีหลักการ มีความเชื่อ มีความสัมพันธ์กับพระเจ้า มีชีวิตที่ยำเกรงพระเจ้า เกรงกลัวพระเจ้ามากกว่าพระอื่นๆ สิ่งอื่น แต่ใช้สติปัญญาได้ พระเจ้าบอกให้เขาไปพังแท่นบูชาพระบาอัลนี่เป็นเป้าหมาย ส่วนเขาใช้สติปัญญาว่าทำกลางวันคงไม่สำเร็จเพราะมีคนต่อต้าน เขาจึงไปทำในเวลากลางคืน ซึ่งทำสำเร็จตามเป้าหมาย

รับใช้ด้วยปัญญาที่พระเจ้าประทานให้ได้

การช่วยเหลือคนที่ทำชั่วกับพระเจ้าให้กลับมารับการยกโทษจากพระเจ้า รับการอวยพร เริ่มจากที่ผู้นำ ผู้รับใช้ และผู้เชื่อก่อน ต้องมั่นใจในพระเจ้าก่อน และมีสติปัญญาในการรับใช้ด้วย

ขอพระเจ้าอวยพร ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

สนใจติดต่อเรา

www.facebook.com/FORWARD.CH.TH

Email: actsministry2017@gmail.com

บทความก่อนหน้านี้เฝ้าเดี่ยวแบบ A.C.T.S. ผู้วินิจฉัย บทที่ 5:1-31
บทความถัดไปเฝ้าเดี่ยวแบบ A.C.T.S. ผู้วินิจฉัย บทที่ 6:28-35

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่