ส่ิงที่เรียนรู้จากพระธรรม2 เปโตร คือ ดำเนินชีวิตโดยรอคอยการเสด็จกลับมาของพระเยซูคริสต์

เมื่อท่านศึกษาเฝ้าเดี่ยวพระธรรม2 เปโตรแล้ว ตั้งใจระมัดระวังการดำเนินชีวิตไม่ให้พลาดจากทางของพระเจ้าแม้แต่เสี้ยววินาทีด้วยพระคุณของพระเจ้า เพื่อเราจะไม่พลาดในเวลาที่พระองค์เสด็จกลับมา

8แต่ท่านที่รักทั้งหลาย อย่ามองข้ามความจริงข้อนี้เสีย คือวันเดียวของพระเจ้าเป็นเหมือนกับพันปี และพันปีก็เป็นเหมือนกับวันเดียว 9องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงเฉื่อยช้าในเรื่องพระสัญญาของพระองค์ ตามที่บางคนคิดนั้น แต่ทรงอดทนกับพวกท่าน พระองค์ไม่ทรงประสงค์ให้ใครพินาศเลย แต่ประสงค์ให้ทุกคนกลับใจใหม่ 10แต่วันขององค์พระผู้เป็นเจ้านั้น จะมาถึงเหมือนอย่างขโมย และในวันนั้น ฟ้าจะหายลับไปด้วยเสียงดังกึกก้อง และโลกธาตุจะสลายไปด้วยไฟ และแผ่นดินกับสิ่งสารพัดที่มีอยู่บนนั้นจะถูกเผาจนหมดสิ้น

11เมื่อเห็นแล้วว่าทุกสิ่งจะต้องสลายไปเช่นนี้ พวกท่านควรจะเป็นคนแบบไหนในการดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ์และที่ยำเกรงพระเจ้า 12จงเฝ้ารอและเร่งวันของพระเจ้าให้มาถึง ซึ่งวันนั้นท้องฟ้าจะถูกเผาจนสลายไป และโลกธาตุก็จะสลายไปด้วยไฟ 13แต่ว่าตามพระสัญญาของพระองค์นั้น เราจึงคอยท้องฟ้าใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ ที่ความชอบธรรมจะดำรงอยู่

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับมาตรฐาน 2011 สงวนลิขสิทธิ์ 2011 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย

A : Attitude

เราได้รับความรู้ใหม่ๆ หรือเราได้รับทัศนคติใหม่ๆ จากพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่อ่านเรื่องอะไรบ้าง?

วันของพระเจ้าจะมาอย่างแน่นอน อย่าประมาท พระเจ้าไม่ได้เฉื่อยช้าแต่ให้โอกาสคนบาปได้กลับใจใหม่

ดังนั้นในเวลาที่ผู้เชื่อมีชีวิตอยู่หรือพระเยซูคริสต์เสด็จกลับมาก่อน เรามีเวลามากพอที่จะกลับใจใหม่จากบาปเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ เรามีเวลามากพอในการดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระเจ้า เพื่อรับความชอบธรรมของพระเจ้า และมีชีวิตนิรันดร์ดำรงอยู่กับพระเจ้า

C : Christ in focus

เรามองเห็นพระเยซูเป็นใคร พระองค์ทำอะไรบ้าง ผ่านพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่เราอ่านอย่างไรบ้าง?

พระเยซูคริสต์สอนว่า พระองค์จะกลับมาอีกครั้งเพื่อพิพากษา ไม่ใช่มาตายไถ่บาปแล้วเพราะพระองค์ทำสำเร็จไปแล้วเมื่อตอนเสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์

มธ25:31,32,45,46 31“เมื่อบุตรมนุษย์เสด็จมาด้วยพระรัศมีพร้อมกับทูตสวรรค์ทั้งหมด แล้วพระองค์จะประทับบนพระที่นั่งอันรุ่งโรจน์ของพระองค์ 32ประชาชาติทั้งหมดจะมาประชุมกันเฉพาะพระพักตร์พระองค์ และพระองค์จะทรงแยกพวกเขาออกจากกัน เหมือนผู้เลี้ยงแกะแยกแกะออกจากแพะ

45เวลานั้นพระองค์จะตรัสตอบว่า ‘เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า การที่พวกท่านไม่ได้ทำกับผู้เล็กน้อยที่สุดสักคนหนึ่งในพวกนี้ ก็เหมือนไม่ได้ทำกับเราด้วย’ 46และคนเหล่านี้จะต้องออกไปรับโทษอยู่เป็นนิตย์ แต่บรรดาคนชอบธรรมจะเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์

T : Transformation

เราต้องการให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราในด้านใดบ้าง

พระคัมภีร์สอนให้ผู้เชื่อเฝ้าระวังการเสด็จกลับมาของพระเยซูคริสต์

มธ24:42-44 เพราะฉะนั้นพวกท่านจงเฝ้าระวังอยู่ เพราะท่านไม่รู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าของพวกท่านจะเสด็จมาเวลาไหน 43จงจำไว้ว่า ถ้าเจ้าของบ้านรู้ว่าขโมยจะมาเวลาไหน เขาจะเฝ้าระวังอยู่ ไม่ให้บ้านถูกงัดเข้าไปได้ 44เพราะเหตุนี้พวกท่านจงเตรียมพร้อม เพราะในเวลาที่ท่านไม่คิดไม่ฝันนั้น บุตรมนุษย์จะเสด็จมา

S : Serve

เราจะดำเนินชีวิตเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น และต่อพระเจ้าได้อย่างไรบ้าง?

แผนการความรอดจากการพิพากษาในวันที่พระเยซูคริสต์เสด็จกลับมา คือ การกลับใจใหม่เชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ผู้ทรงเป็นพระเจ้า มาบังเกิดเป็นมนุษย์ ตายไถ่บาป ยกโทษบาปและนำมนุษย์ให้กลับมาคืนดีกับพระเจ้า โดยพระคุณเพราะความเชื่อ

ดังนั้นผู้เชื่อต้องประกาศความจริงนี้ออกไป และรักษาความเชื่อตลอดชีวิตในโลกนี้

พระเจ้าสร้างโลกก็ด้วยพระวจนะ การพิพากษาก็โดยพระวจนะ ดังนั้นต้องศึกษาและสอนพระวจนะแห่งความจริง ดำเนินตามพวจนะแห่งความจริง รอคอยจนกว่าพระเยซูคริสต์จะเสด็จกลับมาอีกครั้ง

ขอพระเจ้าอวยพร ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

สนใจติดต่อเรา

www.facebook.com/FORWARD.CH.TH

Email: actsministry2017@gmail.com

บทความก่อนหน้านี้เฝ้าเดี่ยวแบบ A.C.T.S. พระธรรม 2 เปโตร บทที่3:1-7
บทความถัดไปเฝ้าเดี่ยวแบบ A.C.T.S. พระธรรม 2 เปโตร บทที่3:14-16

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่