เฝ้าเดี่ยวกับ อ.สมศักดิ์ จิตรุ่งเรืองนิจ

ศบ.คริสตจักรอันติโอเกียแบ๊บติสต์ (สวนมะลิ)

พระธรรม : ปัญญาจารย์ 1:3-11

มนุษย์ได้ประโยชน์๒อะไรจากการตรากตรำทุกอย่างของเขา

    ซึ่งเขาตรากตรำภายใต้ดวงอาทิตย์นั้น

คนรุ่นหนึ่งจากไป และคนอีกรุ่นหนึ่งก็มา

     แต่แผ่นดินโลกยังคงเดิมอยู่เป็นนิตย์

ดวงอาทิตย์ขึ้น และดวงอาทิตย์ตก

     แล้วกระหืดกระหอบ๓ไปถึงที่ซึ่งขึ้นมานั้นอีก

ลมพัดไปทางใต้

     แล้วเวียนกลับไปทางเหนือ

    ลมพัดเวียนไปเวียนมา

    แล้วลมพัดกลับตามทางเวียนของมัน

แม่น้ำทุกสายไหลไปสู่ทะเล

     แต่ทะเลก็ไม่เต็ม

     แม่น้ำไหลไปสู่ที่ใด

     ก็ไหลไปสู่ที่นั่นอีก

สารพัดก็เหนื่อยอ่อนไปกันหมด

     แต่ละคนก็พูดไม่ออก

     นัยน์ตาดูก็ไม่อิ่ม

     หรือหูฟังเท่าไรไม่เคยพอใจกับสิ่งที่ได้ยิน

สิ่งใดที่มีอยู่แล้ว ก็จะมีขึ้นอีก

     สิ่งที่ทำกันแล้ว คือสิ่งที่จะต้องทำกันอีก

     ไม่มีสิ่งใดใหม่ภายใต้ดวงอาทิตย์

๑๐ มีสักสิ่งหนึ่งหรือที่ใครจะพูดได้ว่า

      ดูซี สิ่งนี้ใหม่”?

      แต่สิ่งนั้นมีอยู่แล้ว

      ในสมัยก่อนเราทั้งหลาย

๑๑ ไม่มีการจดจำถึงคนสมัยก่อน

       และไม่มีการจดจำถึงคนสมัยหลังที่จะเกิดมา

       โดยคนรุ่นต่อมา

ข้อคิด

คำพูดที่ว่า  ไม่มีสิ่งใดใหม่ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้

  🌿 มี ดวงอาทิตย์เดิมๆ

 🌿 พื้นแผ่นดินและมหาสมุทรเดิมๆ

 🌿 เรื่องราวการดำรงชีวิตของมนุษย์ชาติซำ้ๆไปมาๆ

วิถีชีวิตของมนุษย์มีแค่นี้จริงหรือ ??

🌾🌾เปล่าเลยในพระคัมภีร์ยืนยันว่า    มีสิ่งใหม่แน่นอนภายใต้ชีวิตในพระเยซูคริสต์  (2 โครินธ์ 5:17)

🌞ผู้เข้าใจพระคัมภีร์จะไม่พูดว่าอนิจจัง

🌟 ชีวิตของผู้เชื่อทุกคนมีคุณค่าในสายพระเนตรของพระเจ้า

🌟 สิ่งที่ควรทำทุกวันคือ   มาร่วมสร้างความคิดให้ตรงกับพระดำริของพระเจ้าจากพระคัมภีร์

🌟 เพราะเมื่อความคิดเปลี่ยน   ชีวิตก็เปลี่ยน

บทความก่อนหน้านี้017 สดุดี 19:1-4
บทความถัดไป019 เอเฟซัส  6:16-20

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่