เทศนา คริสตจักรชีวิตรุ่งเรือง(GLC:H.I.M.) อาทิตย์ที่ 11 มิ.ย.2023

เทศนา คริสตจักรเตาปูนไมตรีจิต อาทิตย์ที่ 18 มิ.ย.2023

เทศนา คริสตจักรแบ๊บติสต์อันติโอเกีย(สวนมะลิ) อาทิตย์ที่ 28 ม.ค.2024

สดด30:1-12 เหตุผลที่เราควรใช้ชีวิตนมัสการ(สดุดียกย่อง)พระเจ้า

1.เราได้รับความช่วยเหลือพระเจ้า (1-4)

2.เราได้รับความโปรดปรานจากพระเจ้า (5-7)

3.เราจะได้รับสิ่งดีจากพระเจ้า (11-12) 

4.เราจะได้ประกาศเรื่องราวของพระเจ้า (8-10)

1ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพระองค์จะยกย่องพระองค์ เพราะพระองค์ทรงดึงข้าพระองค์ขึ้นมาและมิได้ทรงให้ศัตรูของข้าพระองค์ยินดีเพราะข้าพระองค์

2ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ได้ทูลขอความช่วยเหลือจากพระองค์ และพระองค์ทรงรักษาข้าพระองค์ให้หาย 3ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงนำข้าพระองค์ขึ้นมาจากแดนคนตาย ทรงให้ข้าพระองค์มีชีวิต จึงไม่ต้องลงไปยังหลุมมรณา 4ท่านผู้จงรักภักดีต่อพระยาห์เวห์เอ๋ย จงร้องเพลงสดุดีพระองค์ ยกย่องพระนามบริสุทธิ์ของพระองค์

5เพราะความกริ้วของพระองค์นั้นเป็นแต่ชั่วขณะหนึ่ง แต่ความโปรดปรานของพระองค์นั้นตลอดชีวิต การร้องไห้อาจจะคงอยู่สักคืนหนึ่ง แต่ความยินดีจะมาเวลาเช้า 6ส่วนข้าพระองค์ ข้าพระองค์พูดในความเจริญรุ่งเรืองของข้าพระองค์ว่า“ข้าพเจ้าจะไม่หวั่นไหวเลย” 7ข้าแต่พระยาห์เวห์ โดยความโปรดปรานของพระองค์ พระองค์ทรงสถาปนาข้าพระองค์ไว้อย่างภูเขาแข็งแกร่ง พอพระองค์ซ่อนพระพักตร์ ข้าพระองค์ก็ใจเสีย

8ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพระองค์ได้ร้องทูลพระองค์ และข้าพระองค์ได้วิงวอนองค์เจ้านายว่า 9“จะมีประโยชน์อะไร ถ้าข้าพระองค์ตาย? ผงคลีจะยกย่องพระองค์หรือ? มันจะบอกเล่าเรื่องความซื่อสัตย์ของพระองค์หรือ?10ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงฟังและทรงพระกรุณาข้าพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงเป็นผู้อุปถัมภ์ข้าพระองค์”

11พระองค์ได้ทรงเปลี่ยนการไว้ทุกข์ของข้าพระองค์เป็นการเต้นรำพระองค์ทรงถอดเสื้อผ้ากระสอบของข้าพระองค์ออกและทรงคาดเอวข้าพระองค์ด้วยความยินดี12เพื่อข้าพระองค์จะร้องเพลงสดุดีพระองค์และไม่นิ่งเงียบข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะขอบพระคุณพระองค์เป็นนิตย์

“สดด30:1-12 เหตุผลที่เราควรสดุดียกย่องพระเจ้า 

1.เราได้รับความช่วยเหลือพระเจ้า (1-4)

2.เราได้รับความโปรดปรานจากพระเจ้า (5-7)

3.เราจะได้รับสิ่งดีจากพระเจ้า (11-12) 

4.เราจะได้ประกาศเรื่องราวของพระเจ้า (8-10)

ตัวอย่าง หมอบอกข่าวดีและข่าวร้าย ข่าวร้ายคือ คุณเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย อยู่ได้ไม่ถึง 30 วัน อยากทำอะไรให้รีบทำ เมื่อคนไข้กลับมาพบหมออีกครั้งเพื่อบอกลา ข่าวดี คือ หมออ่านผลการตรวจร่างกายผิด

เบื้องหลังพระธรรมตอนนี้

ผู้เขียนสดุดีตอนนี้ หนุนใจเราให้สดุดี ยกย่องพระเจ้า ย้ำ2ครั้งในข้อ 4,12 เพราะเขาเชื่อว่าเขาจะได้รับความช่วยเหลือจากพระเจ้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเจ็บไขได้ป่วยหนักจนจะตาย แต่พระเจ้าจะรักษาเขาให้หาย เขาจะไม่ตาย

ในช่วงเวลาที่เขาประสบความสำเร็จ มั่งคั่ง ร่ำรวย ทำให้เขาอวดดีมากขึ้น มั่นใจในตนเองมาก หยิ่งยโสขึ้น ความเจริญรุ่งเรืองทำให้จิตใจเขาชั่วร้ายขึ้น จนกระทั่งพระเจ้าทรงถอนความโปรดปรานจากชีวิต เขาจึงพบกับปัญหา เขาก็พบกับความเจ็บป่วยหนักใกล้เสียชีวิต  แล้วเขากลับมาอ้อนวอนขอพระเจ้าไว้ชีวิต อย่าให้เขาต้องตาย

อุปสรรคสำคัญที่ทำให้เราไม่นมัสการพระเจ้า  คือ เราไม่มีชีวิตกับพระเจ้า ไม่มีความสัมพันธ์สนิทกับพระเจ้า ไม่มีประสบการณ์ การเริ่มต้นจัดการกับอุปสรรคนี้ คือ เริ่มจากใจที่แสวงหาพระเจ้า ให้เวลากับพระเจ้า กลับมาอธิษฐาน อ่านพระคัมภีร์ มานมัสการพระเจ้า มาสามัคคีธรรม 

  • ผู้เขียนสดุดี มีประสบการณ์กับพระเจ้า

  • คำอธิษฐานของเขาได้รับคำตอบจากพระเจ้า เขามีชีวิตยืนยาว เขารู้ว่าที่เขายังไม่ตาย  เพื่อจะได้สดุดียกย่องพระเจ้า และใช้เวลาที่เหลืออยู่ในการขอบพระคุณพระเจ้า 

  • ถ้าเราเป็นคนที่พระเจ้าโปรดปราน เขาจะรับสิ่งดี ผลดีจากพระเจ้า 

  • ผู้เขียนสดุดีมีชีวิตที่มีความสัมพันธ์กับพระเจ้า และอดไม่ได้ที่จะประกาศเรื่องราวของพระเจ้า ด้วยการสดุดียกย่องพระเจ้า 

หัวข้อคำเทศนาในวันนี้คือ เหตุผลที่เราควรใช้ชีวิตนมัสการ (สดุดียกย่อง) พระเจ้า 

4 ประการ

1.เราได้รับความช่วยเหลือพระเจ้า (1-4)

1ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพระองค์จะยกย่องพระองค์ เพราะพระองค์ทรงดึงข้าพระองค์ขึ้นมาและมิได้ทรงให้ศัตรูของข้าพระองค์ยินดีเพราะข้าพระองค์

2ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ได้ทูลขอความช่วยเหลือจากพระองค์ และพระองค์ทรงรักษาข้าพระองค์ให้หาย 3ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงนำข้าพระองค์ขึ้นมาจากแดนคนตาย ทรงให้ข้าพระองค์มีชีวิต จึงไม่ต้องลงไปยังหลุมมรณา

แดนคนตาย หมายถึง ก้นลึกของความยากลำบาก หลุมลึกของเชโอล (Sheol) ภาพเหมือนการตักน้ำถังขึ้นจากบ่อ หรือคนออกมาจากคุกใต้ดิน

4ท่านผู้จงรักภักดีต่อพระยาห์เวห์เอ๋ย จงร้องเพลงสดุดีพระองค์ ยกย่องพระนามบริสุทธิ์ของพระองค์ 

  • สัญญาณของมนุษย์ ในการกลับมาหาพระเจ้า คือ การสดุดี ยกย่องพระเจ้า ขอบพระคุณพระเจ้า 

  • พระเจ้ารักษาความเจ็บป่วยหนักปางตาย แต่ให้ฟื้นขึ้นมาได้ เขาเจ็บหนักแต่พระเจ้ารักษาให้หายได้ ทั้งฝ่ายร่างกายและจิตใจ

  • ผู้เขียนไม่ตาย ไม่อาย เพราะได้รับความช่วยเหลือจากพระเจ้า 

  • สิเมโอนได้เห็นพระเยซูคริสต์ เขาจะไม่ตาย เขาจะได้เห็นความรอด

  • ลก2:26-32 พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสำแดงแก่ท่านว่าท่านจะไม่ตายจนกว่าจะได้เห็นพระคริสต์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า 27เมื่อสิเมโอนเข้าไปในบริเวณพระวิหารโดยการทรงนำของพระวิญญาณ และขณะที่บิดามารดานำพระกุมารเยซูเข้าไปเพื่อจะทำต่อพระกุมารตามธรรมเนียมของธรรมบัญญัตินั้น 28สิเมโอนเข้าไปอุ้มพระกุมาร และสรรเสริญพระเจ้าว่า29“ข้าแต่องค์เจ้านาย บัดนี้ขอทรงให้ทาสของพระองค์ไปเป็นสุขตามพระดำรัสของพระองค์30เพราะว่าตาของข้าพระองค์ได้เห็นความรอดของพระองค์แล้ว31ซึ่งพระองค์ทรงจัดเตรียมไว้ต่อหน้าชนชาติทั้งหลาย32เป็นความสว่างที่ส่องแก่คนต่างชาติและเป็นศักดิ์ศรีของพวกอิสราเอลชนชาติของพระองค์”

2.เราได้รับความโปรดปรานจากพระเจ้า (5-7)

5เพราะความกริ้วของพระองค์นั้นเป็นแต่ชั่วขณะหนึ่ง แต่ความโปรดปรานของพระองค์นั้นตลอดชีวิต การร้องไห้อาจจะคงอยู่สักคืนหนึ่ง แต่ความยินดีจะมาเวลาเช้า 6ส่วนข้าพระองค์ ข้าพระองค์พูดในความเจริญรุ่งเรือง ของข้าพระองค์ว่า“ข้าพเจ้าจะไม่หวั่นไหวเลย” 

ความเจริญรุ่งเรือง หมายถึง ความมั่นคงปลอดภัยอันเป็นผลจากสิ่งดีไม่ขาดสาย

7ข้าแต่พระยาห์เวห์ โดยความโปรดปรานของพระองค์ พระองค์ทรงสถาปนาข้าพระองค์ไว้อย่างภูเขาแข็งแกร่ง พอพระองค์ซ่อนพระพักตร์ ข้าพระองค์ก็ใจเสีย 

  • ขั่วขณะหนึ่ง เปรียบเทียบกับตลอดชีวิต แสดงว่า ความทุกข์มีวันสิ้นสุดลงได้ ความสุขนิรันดร์เกิดขึ้นได้เมื่อรู้ว่าเราเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้า

  • พระเจ้าให้กำลังใจคนที่ทนทุกข์ ความทุกข์แสนสั้น ความสุขแสนนาน 

  • คนที่รู้ว่าตัวเองเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้า มีความมั่นคงในชีวิต

  • ปลายทางชีวิตจบดี จบชีวิตอย่างมีความหวัง

3.เราจะได้รับสิ่งดีจากพระเจ้า (11-12)  

11พระองค์ได้ทรงเปลี่ยนการไว้ทุกข์ของข้าพระองค์เป็นการเต้นรำ

พระองค์ทรงถอดเสื้อผ้ากระสอบของข้าพระองค์ออก และทรงคาดเอวข้าพระองค์ด้วยความยินดี

12เพื่อข้าพระองค์จะร้องเพลงสดุดีพระองค์และไม่นิ่งเงียบ

ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะขอบพระคุณพระองค์เป็นนิตย์ 

  • พระเจ้าเปลี่ยนงานศพ เป็นงานรื่นเริง เพราะไม่ตาย คนละอารมณ์ คนละความรู้สึกกันเลย 

  • ตัวอย่างจาก พคค5:15 เปรียบเทียบ อสย61:3

  • พคค5:15 ความปลาบปลื้มก็หายไปจากใจของพวกข้าพระองค์การเต้นรำของพวกข้าพระองค์กลายเป็นการไว้ทุกข์.

  • อสย61:3 เพื่อจัดเตรียมให้กับพวกที่ไว้ทุกข์ในศิโยน คือให้มงกุฎแทนขี้เถ้าแก่พวกเขาและให้น้ำมันแห่งความยินดีแทนการไว้ทุกข์เสื้อคลุมแห่งการสรรเสริญแทนจิตวิญญาณที่ท้อแท้แล้วคนจะเรียกพวกเขาว่าต้นโอ๊กแห่งความชอบธรรมที่พระยาห์เวห์ทรงปลูกไว้เพื่อสำแดงพระสิริของพระองค์

  • สวมความยินดี เหมือนสวมเสื้อผ้าในงานเทศกาล แทนที่ผ้ากระสอบ ซึ่งเป็นเครื่องแต่งการของผู้ไว้ทุกข์ 

4.เราจะได้ประกาศเรื่องราวของพระเจ้า (8-10)

8ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพระองค์ได้ร้องทูลพระองค์ และข้าพระองค์ได้วิงวอนองค์เจ้านายว่า 9“จะมีประโยชน์อะไร ถ้าข้าพระองค์ตาย? ผงคลีจะยกย่องพระองค์หรือ? มันจะบอกเล่าเรื่องความซื่อสัตย์ของพระองค์หรือ?

10ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงฟังและทรงพระกรุณาข้าพระองค์

ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงเป็นผู้อุปถัมภ์ข้าพระองค์” 

  • การร้องทูลวิงวอน ไวยากรณ์บอกว่า เขาอธิษฐาน ร้องทูลบ่อยๆตั้งแต่ในอดีตถึงตอนนี้ เขาอธิษฐานจนกว่าจะได้รับคำตอบ เขารู้ว่าจะไม่ตาย เพราะเขาจะได้ประกาศเรื่องราวของพระเจ้า 

  • ธุรกิจ การงาน เศรษฐกิจ การเรียน สุขภาพ อาจมีจุดจบสิ้นสุดได้ 

  • แต่การที่เรายังมีชีวิตไปต่อได้ เพราะพระเจ้า ช่วยเหลือเมื่อเราร้องขอ พระเจ้า โปรดปราน เราควรจะยกย่อง สดุดีพระเจ้า 

  • ผงคลี เป็นสิ่งไม่มีชีวิต ไม่สามารถพูดได้ ไม่สามารถสดุดี ยกย่องได้

  • การเล่าเรื่องพระเจ้าที่ทรงอวยพรแก่เรา ทรงทำดี ทรงช่วยเหลือ เป็นเรื่องธรรมดาของคนที่ได้รับสิ่งดีจากพระเจ้า 

  • ตรงกันข้ามกับคนที่ด่า ล้อเลียน ด้อยค่า ดูถูกเกลียดชัง พระเจ้า 

  • กษัตริย์เฮเซคียาห์ (องค์ที่14) ประชวรใกล้สิ้นพระชนม์ พระองค์ร้องทูลพระเจ้าด้วยน้ำตาไหล พระเจ้าต่ออายุให้ 15 ปี ให้หมายสำคัญเงาย้อนกลับมาสิบขั้นบนนาฬิกาแดด อสย38:9,16-20

  • 9 บทประพันธ์ของเฮเซคียาห์กษัตริย์ของยูดาห์ หลังจากประชวร และทรงมีชีวิตรอดจากการประชวรของพระองค์นั้น มีว่า16ข้าแต่องค์เจ้านาย มนุษย์ดำรงชีพด้วยสิ่งเหล่านี้ 16 และวิญญาณจิตของข้าพระองค์ก็มีชีวิตด้วยสิ่งทั้งหมดนี้ขอทรงให้ข้าพระองค์หายดีและให้ข้าพระองค์มีชีวิตอยู่ 17นี่แน่ะ เพื่อสวัสดิภาพของข้าพระองค์ข้าพระองค์จึงมีความขมขื่นอย่างยิ่ง แต่พระองค์ทรงฉุดชีวิตของข้าพระองค์ออกจากหลุมของความพินาศ เพราะพระองค์ทรงเหวี่ยงบาปทั้งหมดของข้าพระองค์ไว้ข้างหลังของพระองค์ 18เพราะแดนคนตายขอบพระคุณพระองค์ไม่ได้ ความมรณาก็สรรเสริญพระองค์ไม่ได้บรรดาคนที่ลงไปยังหลุมนั้นจะหวังในความซื่อสัตย์ของพระองค์ไม่ได้19คนมีชีวิต คนมีชีวิต เขาขอบพระคุณพระองค์เหมือนอย่างที่ข้าพระองค์ทำอยู่ในเวลานี้บิดาจะบอกบุตรทั้งหลายให้รู้ถึงความซื่อสัตย์ของพระองค์ 20พระยาห์เวห์จะทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดและพวกเราจะบรรเลงเพลงด้วยเครื่องสายตลอดวันเวลาแห่งชีวิตของพวกเราที่พระนิเวศของพระยาห์เวห์

  • เปาโลหนุนใจผู้เชื่อให้ขอบพระคุณพระเยซูคริสต์  

  • คส2:6-7เพราะฉะนั้น ในเมื่อพวกท่านรับพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าไว้แล้ว ก็จงดำเนินชีวิตในพระองค์ด้วย 7จงหยั่งรากและก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์ จงมั่นคงในความเชื่อตามที่ได้รับการสอนมาแล้ว และจงให้การขอบพระคุณทวียิ่งขึ้น

  • เปาโลหนุนใจให้ผู้เชื่อ สดุดี และขอบพระคุณพระเยซูคริสต์ 

  • อฟ5:19-20 จงปราศรัยกันด้วยเพลงสดุดี เพลงนมัสการ และเพลงฝ่ายจิตวิญญาณ คือร้องเพลงและสดุดีจากใจของพวกท่านถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า 20จงขอบพระคุณพระเจ้าคือพระบิดาอยู่เสมอสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ในพระนามของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา

การนมัสการพระเจ้าในพระคัมภีร์เดิม เป็นการแสดงออกถึงการขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับพระพร สำหรับความสำเร็จที่ได้รับ  เป็นการแสวงหาความโปรดปรานจากพระเจ้า ผ่านการอธิษฐาน แสดงออกมาเป็นการกระทำ เช่น การถวายบูชา การเข้าร่วมพิธีการเทศกาลาตามที่พระเจ้ากำหนด การสรรเสริญนมัสการด้วยการร้องเพลงด้วยดนตรี ประชุมนมัสการ 

การนมัสการพระเจ้าในพระคัมภีร์ใหม่ พบว่าเป็นการประชุมนมัสการในระดับสาธรณะ การนมัสการในพระวิหาร การนมัสการในธรรมศาลา  มีกิจกรรม ฟังพระวจนะ อธิษฐาน อ่านพระวจนะ  อธิบายพระวจนะ 

การนมัสการของคริสเตียนในปัจจุบัน จึงประยุกต์รูปแบบมาจากพระคัมภีร์ใหม่ มีการร้องเพลงนมัสการ มีการอธิษฐาน มีการอ่านพระคัมภีร์และอธิบาย มีการแนะนำการใช้ชีวิต มีการเผยวจนะในที่ประชุม มีการพบปะสามัคคีธรรม

พระเยซูคริสต์สอนผู้เชื่อให้มีชีวิตส่วนตัวในการนมัสการพระเจ้าเป็นหลัก ไม่ใช่ยึดรูปแบบการนมัสการ หรือพิธีการเป็นสำคัญแต่เพียงอย่างเดียว 

ยน4:24พระเจ้าเป็นพระวิญญาณ และคนที่นมัสการพระองค์จะต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณและความจริง”

จุดมุ่งหมายของการนมัสการ คือ ให้ทุกเวลาในชีวิตของเราเป็นการนมัสการพระเจ้า เรารับผลดีเมื่อทั้งหมดของชีวิตเราอยู่เพื่อนมัสการพระเจ้า ขอให้พี่น้องใส่ใจกับการนมัสการ จนเป็นวินัยชีวิต

ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

 

อ้างอิง

  1. https://biblehub.com/commentaries/cambridge/psalms/30.htm
  2. https://biblehub.com/commentaries/pulpit/psalms/30.htm
  3. https://biblehub.com/commentaries/kad/psalms/30.htm
  4. https://biblehub.com/commentaries/ellicott/psalms/30.htm
  5. https://biblehub.com/commentaries/benson/psalms/30.htm
  6. https://biblehub.com/commentaries/mhc/psalms/30.htm
  7. https://biblehub.com/commentaries/barnes/psalms/30.htm
  8. https://biblehub.com/commentaries/jfb/psalms/30.htm
  9. https://biblehub.com/commentaries/tod/psalms/30.htm
  10. https://biblehub.com/commentaries/gill/psalms/30.htm
  11. https://bibleinoneyear.org/th/classic/63/
  12. https://biblehub.com/topical/w/worship.htm

 

 

บทความก่อนหน้านี้สดด146:1-10 หวังใจในการปกครองของพระเจ้า
บทความถัดไปสดด126:1-6 พระเจ้าอวยพร

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่