ในก้าวที่ 5 ที่ผ่านมาทำให้เราเห็นว่า พระเจ้ามีแนวทางให้เราดำเนินชีวิตเพื่อความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตของเรา เมื่อเราเชื่อวางใจพระเจ้า เรากลับใจใหม่จากบาป เราต้องการรู้จักพระองค์มากขึ้น ผ่านการแสวงหาพระเจ้าผ่านพระคัมภีร์เพื่อจะดำเนินชีวิตตามทางของพระเจ้า

ก้าวที่ 6 ตอนนี้จะเป็นเรื่องของมารีย์ที่คอยฟังคำของพระเยซู ทำให้เราได้เรียนรู้จากมารีย์

ลก10:38-42

38เมื่อพระเยซูกับพวกสาวกเดินทางไป พระองค์ทรงเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง และมีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อมารธาต้อนรับพระองค์เข้าไปพักที่บ้านของนาง 39มารธามีน้องสาวชื่อมารีย์และ

มารีย์ก็นั่งอยู่ใกล้พระบาทของพระเยซู

คอยฟังถ้อยคำของพระองค์ 

40แต่มารธาวุ่นวายอย่างมากกับการปรนนิบัติ จึงมาทูลพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ไม่สนพระทัยหรือที่น้องสาวของข้าพระองค์ปล่อยให้ข้าพระองค์ปรนนิบัติอยู่คนเดียว? ขอพระองค์สั่งน้องให้มาช่วยข้าพระองค์ด้วย” 41แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบนางว่า “มารธา มารธาเอ๋ย เธอกระวนกระวายและร้อนใจหลายอย่างเหลือเกิน 42สิ่งที่จำเป็นนั้นมีเพียงสิ่งเดียว และ

มารีย์ก็เลือกเอาส่วนที่ดีนั้น

ใครจะชิงเอาไปจากเธอไม่ได้”

(พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับมาตรฐาน 2011 สงวนลิขสิทธิ์ 2011 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย)

“ก้าวที่ 6 ชีวิตที่ประพฤติตามพระวจนะ

ลก10:38-42″

A : Attitude

เราได้รับความรู้ใหม่ๆ หรือเราได้รับทัศนคติใหม่ๆ จากพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่อ่านเรื่องอะไรบ้าง?

ตอบ    พระธรรมตอนนี้มีการเปรียบเทียบระหว่างมารธาคนที่เชิญพระเยซูเข้าไปในบ้าน คนที่ทำดีเพื่อปรนนิบัติดูแลพระเยซู กับมารีย์น้องสาวของนางคนที่นั่งอยู่ใกล้พระบาทของพระเยซูคอยฟังถ้อยคำของพระองค์ โดยไม่ได้ไปช่วยพี่สาวของตน

มุมองของมารธาเห็นว่าการต้อนรับพระเยซูเข้ามาในบ้านก็ต้องดูแลปรนนิบัติ ดังนั้นนางจึงไม่มีเวลามาเฝ้า มาใกล้ชิด หรือมาฟังถ้อยคำของพระองค์ นางให้ความสำคัญกับการรับใช้มากกว่าใกล้ชิดพระเยซู

มุมมองของมารีย์ให้ความสำคัญกับความใกล้ชิดพระเยซูก่อน ฟังถ้อยคำของพระองค์ก่อน ยังไม่ได้ไปทำสิ่งอื่น ไม่ได้หมายความว่า จะนั่งแบบนั้นไปตลอดชีวิต แต่เป็นเพียงช่วงเวลาพิเศษที่พระเยซูเสด็จมาเยี่ยมเยียนที่บ้าน

พระเยซูบอกว่าสิ่งที่จำเป็นนั้นมีเพียงสิ่งเดียว

และมารีย์เลือกเอาส่วนที่ดีนั้น

ใครจะชิงเอาไปจากเธอไม่ได้ 

C : Christ iN focus

เรามองเห็นพระเยซูเป็นใคร พระองค์ทำอะไรบ้าง ผ่านพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่เราอ่านอย่างไรบ้าง?

ตอบ  พระเยซูเห็นด้วยกับมารีย์ ในเรื่องที่นางตัดสินใจนั่งอยู่ใกล้พระบาท คอยฟังถ้อยคำของพระองค์

เพื่อจะมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระองค์

คนที่ไม่ฟังพระคำของพระเจ้า คนที่ไม่ให้เวลาใกล้ชิดกับพระเจ้า เขาจะทำตามพระทัยพระเจ้าได้อย่างไร

เราจะเห็นว่ามารธาเริ่มไม่พอใจ เริ่มวุ่นวาย เริ่มต่อว่าพระเยซูไม่สนใจส่ิงที่นางทำหรือ นางเริ่มขอให้พระเยซูปล่อยให้น้องของนาง มาช่วยงานนางได้แล้ว 

ส่ิงที่สำคัญตอนนี้คือ พระเยซูต้องการให้เรามาเข้าใกล้พระองค์ แสวงหาพระองค์ เพื่อพระองค์จะสื่อสารกับเขาได้เป็นการส่วนตัว ขอให้สนใจฟังคำของพระองค์ก่อน เหมือนนางมารีย์ เพื่อจะทำตามพระองค์ ไม่ใช่ทำดี หรือรับใช้เพื่อพระองค์ตามความคิดของเรา แต่ไม่ถามว่าพระองค์ต้องการให้เราทำอะไร

“ให้ความสำคัญสิ่งที่พระเจ้าให้ความสำคัญ ไม่ใช่เราให้ความสำคัญ”

T : Transformation

เราต้องการให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราในด้านใดบ้าง?      

ตอบ เราต้องให้ความสำคัญกับพระเจ้าเป็นอันดับหนึ่ง เพื่อจะรู้ว่าพระเจ้าต้องการให้เราดำเนินชีวิตอย่างไร ต้องการให้เราทำอะไร  อย่าคิดว่าเราทำให้พระเจ้า พระเจ้าต้องเป็นหนี้บุญคุณเรา หรือเราเป็นคนเดียวที่ทำดีให้พระเจ้าคนอื่นไม่ทำอะไรเลย อย่าเอาการกระทำมาเปรียบเทียบ เพราะนั่นจะทำให้เราผิดหวัง โกรธ ขมขื่น หรือแม้แต่ทำผิด ต่อว่าพระเจ้าได้ ที่ไม่เห็นความดี ความตั้งใจของเรา 

แต่ขอให้เราเรียนรู้จากพระธรรมตอนนี้ นำสิ่งที่พระเจ้าให้ความสำคัญ คือ การใกล้ชิด ฟังถ้อยคำพระองค์ มาเป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ เพื่อดำเนินชีวิตและทำตามพระทัยพระองค์

“ใกล้ชิดพระเจ้า ก่อนรับใช้พระเจ้า” 

“รับใช้พระเจ้าหลัง ใกล้ชิดพระเจ้า”

S: Serve

เราจะดำเนินชีวิตเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น และต่อพระเจ้าได้อย่างไรบ้าง?

ตอบ   การมีชีวิตที่ประพฤติตามพระวจนะพระเจ้า คือ การดำเนินชีวิตตามพระวจนะของพระเจ้า เราจะทำได้อย่างไร ถ้าไม่ใกล้ชิดพระเจ้า เราจะทำได้อย่างไรถ้าเราไม่ศึกษาพระคำของพระเจ้า ถ้าเราไม่แสวงหา หรือศึกษาพระคำพระเจ้าก็เพราะว่าเราไม่ได้ต้องการรู้จักพระเจ้านั่นเอง

เราต้องให้โอกาสพระเจ้า

ในการสื่อสารกับเราเป็นการส่วนตัว

แต่เราก็อย่าปฎิเสธการรับใช้ทุกครั้งโดยอ้างแต่ว่าต้องการแสวงหาพระเจ้าก่อนเพียงอย่างเดียว ต้องการศึกษาพระคัมภีร์ก่อน แต่ไม่มีผลแห่งชีวิตที่เป็นพระพรต่อผู้อื่นเลย

อย่าเอาการกระทำดีมาอวดต่อกันและกัน หรือเปรียบเทียบกันและกัน เพราะจะทำให้เราไม่เข้าใจว่าพระเจ้ามีแผนการสำหรับแต่ละคนไม่เหมือนกัน อาจจะแตกต่างกับเราก็ได้ อย่าเปรียบเทียบกัน

การรับใช้เป็นเรื่องระยะที่มีเวลายาวนานตลอดชีวิตของเรา มีผลกระทบต่อผู้คนเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเราต้องมีพื้นฐานชีวิตที่รู้จักพระเจ้าจริงๆเป็นการส่วนตัวในชีวิตของ

เรามีชีวิตกับพระเจ้าเพื่อจะรับใช้

ไม่ใช่รับใช้โดยปราศจากชีวิตกับพระเจ้า

เราต้องรู้จักเรียงลำดับความสำคัญระหว่างพระเจ้า กับงานของพระเจ้า เราต้องให้กับพระเจ้าก่อน 

พระเจ้าทอดพระเนตรที่ภายในใจว่า คนไหนต้องการรู้จักพระองค์ ใช้เวลากับพระองค์ รอฟังคำพระองค์ เพื่อจะทำตามพระทัยพระองค์ต่างหาก มากกว่าการวุ่นวายกับกิจกรรมรับใช้พระเจ้ามากมาย

ส่ิงที่ต้องเรียนรู้ คือ เป็นคนที่พระเจ้าพอพระทัย

ให้ทำตามพระทัยพระเจ้า

เป็นคนที่ตนเองพอใจ ก็ให้ทำตามใจตนเอง 

“ทำให้พระเจ้า หรือพระเจ้าให้ทำ”

ขอพระเจ้าอวยพรท่าน ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

สนใจติดต่อเรา

www.facebook.com/FORWARD.CH.TH

Email: actsministry2017@gmail.com

บทความก่อนหน้านี้ก้าวที่ 5 ชีวิตที่ประพฤติตามพระวจนะ (มธ 7:21-27)
บทความถัดไปก้าวที่ 7 ชีวิตที่นมัสการพระเจ้า (ยน4:1-42)

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่