Preach Sun 9 Oct 2022  คริสตจักร GLC

โยบ1:13-22 ความเชื่อมีชัยเหนือความเจ็บปวดและโศกเศร้า

1.เชื่อในการนมัสการพระเจ้านำมาซึ่งผลดี (20)

2.เชื่อในการทรงครอบครองของพระเจ้า(21)

3.เชื่อในการใกล้ชิดพระเจ้า(22)

13อยู่มาวันหนึ่ง เมื่อบุตรชายหญิงของท่านกำลังรับประทานและดื่มเหล้าองุ่นอยู่ในบ้านพี่ชายคนโตของเขา 14มีผู้สื่อสารมาหาโยบเรียนว่า “ฝูงวัวกำลังไถนาอยู่ และฝูงลาตัวเมียกำลังกินหญ้าอยู่ข้างๆ 15คนเสบาก็มาโจมตีเอามันไป และฆ่าคนใช้ด้วยคมดาบ และข้าพเจ้าคนเดียวได้หนีรอดมาเรียนท่าน” 16ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ ก็มีอีกคนหนึ่งมาเรียนว่า “ไฟของพระเจ้าตกจากฟ้าไหม้ แกะกับคนใช้ และเผาผลาญหมด และข้าพเจ้าคนเดียวได้หนีรอดมาเรียนท่าน” 17ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ ก็มีอีกคนหนึ่งมาเรียนว่า “ชาวเคลเดียจัดเป็นสามกองเข้าปล้นเอาอูฐไป และฆ่าคนใช้ด้วยคมดาบ และข้าพเจ้าคนเดียวได้หนีรอดมาเรียนท่าน” 18ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ ก็มีอีกคนหนึ่งมาเรียนว่า “ลูกชายกับลูกสาวของท่านกำลังรับประทานและดื่มเหล้าองุ่นอยู่ในบ้านพี่ชายคนโตของเขา 19และดูเถิด มีพายุข้ามถิ่นทุรกันดารมาปะทะบ้านทั้งสี่มุมจนพังลงทับคนหนุ่มสาว และพวกเขาก็ตาย ข้าพเจ้าคนเดียวได้หนีรอดมาเรียนท่าน”

20แล้วโยบก็ลุกขึ้น ฉีกเสื้อคลุมของตน โกนศีรษะ กราบลงถึงดินนมัสการ 21ท่านว่า “ข้ามาจากครรภ์มารดาตัวเปล่า และข้าจะกลับไปตัวเปล่า พระยาห์เวห์ประทาน และพระยาห์เวห์ทรงเอาไปเสีย สาธุการแด่พระนามพระยาห์เวห์”

22ในเหตุการณ์นี้ทั้งสิ้น โยบไม่ได้ทำบาปหรือกล่าวโทษพระเจ้า

ตัวอย่าง ความสูญเสียของคนเป็นพ่อแม่ที่ทำให้เจ็บปวด และโศกเศร้า

1.ลูกตายฝ่ายร่างกายและตายฝ่ายวิญญาณ

2.ลูกถูกทำร้ายแสนสาหัส

3.ลูกมีความทุกข์ยากลำบากในการดำเนินชีวิต

4.ลูกเป็นคนชั่วร้ายสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น

5.ลูกเป็นคนอกตัญญูพ่อแม่

โยบเป็นคนที่พระเจ้าชมเชยว่าเขาเป็นคนดี โยบ1:และพระยาห์เวห์ตรัสกับซาตานว่า “เจ้าได้พิจารณาดูโยบผู้รับใช้ของเราหรือไม่ว่า ในแผ่นดินโลกไม่มีใครเหมือนเขา เป็นคนดีพร้อมและเที่ยงธรรม เป็นผู้ยำเกรงพระเจ้าและหันจากความชั่วร้าย?”

โยบ1:2,3 แต่โยบสูญเสีย ฝูงวัว 500 ตัว ฝูงลา 500 ตัว ฝูงแกะ7,000 ตัว ฝูงอูฐ 3,000 ตัว ลูกชาย 7 คน ลูกสาว 3  รวมทั้งหมดสิบคน คนใช้ที่มีทั้งหมดเท่าไหร่ไม่ทราบแต่เหลือแค่ 4 คนที่รอดชีวิต

คนดีพร้อมเช่นโยบ ทำไมถึงรับเคราะห์กรรม โยบไม่มีทางรู้เลยว่ามารซาตาน ขอพระเจ้าในการทดลองท่าน เพื่อต้องการให้โยบแช่ง ให้ต่อว่าพระเจ้า เพื่อให้โยบเลิกนมัสการพระเจ้า 

โยบ1:9-12 9แล้วซาตานทูลตอบพระยาห์เวห์ว่า “โยบยำเกรงพระเจ้าเปล่าๆ หรือ? 10พระองค์ไม่ได้ทรงกั้นรั้วรอบตัวเขา ครอบครัวของเขา และทุกสิ่งที่เขามีอยู่เสียทุกด้านหรือ? พระองค์ได้ทรงอวยพรงานที่มือเขาทำ และฝูงปศุสัตว์ของเขาได้ทวีขึ้นในแผ่นดิน 11แต่ขอยื่นพระหัตถ์แตะต้องสิ่งของทั้งสิ้นที่เขามีอยู่ แล้วเขาจะแช่งพระองค์ต่อพระพักตร์พระองค์” 12และพระยาห์เวห์ตรัสกับซาตานว่า “ดูเถิด ทุกสิ่งที่เขามีก็อยู่ในมือของเจ้า เพียงแต่อย่ายื่นมือแตะต้องตัวเขา” ซาตานจึงออกไปจากเบื้องพระพักตร์พระยาห์เวห์

“พระธรรมโยบให้บทเรียน ผู้เชื่อที่เจอความทุกข์ยาก ความเจ็บปวด และความโศกเศร้าแต่บั้นปลายของเรื่องกลับจบลงด้วยการรับพระพรได้อย่างไร”

หัวข้อเนื้อหาในวันนี้ พระธรรมโยบ1:13-22 คือ ความเชื่อมีชัยเหนือความเจ็บปวดและโศกเศร้า

1. เชื่อในการนมัสการพระเจ้านำมาซึ่งผลดี (20)

โยบ1:20แล้วโยบก็ลุกขึ้น ฉีกเสื้อคลุมของตน โกนศีรษะ กราบลงถึงดินนมัสการ

การฉีกเสื้อผ้า โกนศีรษะ แสดงถึง ความเจ็บช้ำและสูญเสีย

แต่โยบมีความทุกข์หนักมาก เจ็บปวดมาก โศกเศร้ามาก แต่เขาก็ยังนมัสการพระเจ้า แม้มีคำถาม ความสงสัยมากมาย ทำไมจึงเกิดเรื่องร้ายขึ้น 

โยบเลือกที่จะโฟกัสเชื่อในพระเจ้า แทนที่จะโฟกัสความเจ็บปวด ทำให้เรามีความหวังที่เราจะได้รับคำตอบ ได้รับสิ่งที่ดีจากพระเจ้า ชีวิตต้องดำเนินต่อไปดีกว่าหมดอาลัยตายอยากและ มีความสงสัยเคลือบแคลงในพระเจ้า 

ความเจ็บปวดไม่ใช่การลงโทษคนชอบธรรมจากพระเจ้าเสมอไป แต่มุมมองของคนทั่วไปทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เขาจะรับไม่ได้เวลาเจอความเจ็บปวด ความทุกข์ยากลำบาก แสนสาหัส

ผู้เชื่อโดยทั่วไปขอบคุณพระเจ้าเวลารับพระพร และแช่งด่าพระเจ้าเมื่อรับความทุกข์ยากลำบาก

แต่ผู้เชื่อที่ตระหนักว่าชีวิตของเราอยู่ภายใต้พระหัตถ์ของพระเจ้า  เขาสามารถยอมรับ และเผชิญกับมรสุมเลวร้ายของชีวิต โดยนมัสการพระเจ้าได้ เขาไว้วางใจพระเจ้า ไม่ใช่พระพรของพระเจ้า

ผลลัพธ์ปลายทางสำคัญกว่าสถานการณ์เลวร้ายที่เริ่มต้น ถ้าเราเชื่อในพระเจ้า เราจะเห็นความยิ่งใหญ่ ความดีงามของพระเจ้า 

“ท่ามกลางสถานการณ์ทุกข์ยากที่เราควบคุมไม่ได้ แต่ทางออกยังคงมีไว้เสมอ แม้เราไม่เข้าใจ แต่วางใจ เพราะพระเจ้ายังควบคุมทุกอย่างได้ เพื่อให้เกิดผลดีสำหรับคนที่รักพระองค์”

2. เชื่อในการทรงครอบครองของพระเจ้า(21)

โยบ1:21 ท่านว่าข้ามาจากครรภ์มารดาตัวเปล่า และข้าจะกลับไปตัวเปล่า พระยาห์เวห์ประทาน และพระยาห์เวห์ทรงเอาไปเสีย สาธุการแด่พระนามพระยาห์เวห์ 

โยบทุกข์ทรมานทั้งร่างกาย จิตใจ ศักดิ์ศรีสูญสิ้น เขาอยากตายมากกว่ามีชีวิตอยู่ต่อไป เขาไม่อยากเกิดมามีชีวิตเพื่อเจอความทุกข์ใหญ่หลวงเช่นนี้

การเลือกที่จะเชื่อในพระเจ้า ท่ามกลางความเจ็บปวด ความสูญเสีย ความยากลำบาก เตือนใจเราให้รู้ว่าพระเจ้ายังทรงครอบครองอยู่ 

การยอมรับสิ่งที่ดีและไม่ดีที่เกิดขึ้นในชีวิต โดยไม่ทำผิดกับพระเจ้า เพราะรู้ว่าพระเจ้าทรงควบคุมอยู่ ทำให้เรารอคอยคำตอบ และความช่วยเหลือได้ ทำให้เรามีความหวัง

คนที่ไม่เชื่อว่าพระเจ้าทรงควบคุมอยู่ เขาจะต้องหาความยุติธรรมให้ตนเอง ไม่ว่าจะแก้แค้น หาทางลงโทษคนที่เกี่ยวข้องที่ทำให้เขาเจ็บปวด สูญเสีย โศกเศร้า ต้องติดคุกติดตะรางก็มี หรือมีชีวิตอยู่ในความโกรธแค้น โศกเศร้า ทรมานตลอดไป

แต่ความจริงคือ พระเจ้าทรงควบคุมเหนือมารซาตาน และควบคุมเหนือสถานการณ์ ถ้าพระเจ้าไม่อนุญาตให้เกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้นสิ่งเหล่านั้นจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ 

พระเจ้าอนุญาตให้มนุษย์เลือกที่จะไม่เชื่อฟังพระเจ้าได้ เลือกที่จะทำบาปได้ แต่มนุษย์ต้องรับผลบาป และรับการพิพากษาโทษบาปที่ตามด้วย

เราไม่ได้มีสติปัญญามากพอที่จะรู้ทุกเรื่อง รู้ทุกอย่าง เข้าใจทุกอย่างโดยเฉพาะราชกิจของพระเจ้า แต่เรารู้ว่าพระเจ้าไม่มีผิดพลาด เราวางใจพระเจ้าได้แม้เรายังไม่เข้าใจทั้งหมด รวมถึงเรื่องการพิพากษาด้วย

อย่าตัดสินพระเจ้า จากความเจ็บปวด ความสูญเสียที่เราได้รับ หรือจากประสบการณ์ของเรา แต่จงเชื่อในพระเจ้าอย่างที่พระองค์ทรงเป็น 

มนุษย์เย่อหย่ิงจองหอง คิดว่าตนเองดีกว่าพระเจ้า คิดว่าอยู่ได้โดยไม่ต้องเชื่อในพระเจ้า แต่เขาคิดผิด เพราะเมื่อเขาประสบความตาย พบการสูญเสีย เขาจะรู้ว่ามนุษย์เอาชนะความตายไม่ได้ เอาชนะการทรงสร้างของพระเจ้าไม่ได้ และเอาชนะพระเจ้าผู้ทรงสร้างไม่ได้ 

การรู้จักพระเจ้านั้น ดีกว่าการรู้คำตอบ ความจริงที่เป็นกำลังใจ คือ พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่ เราไว้วางใจพระองค์ได้

3.เชื่อในการใกล้ชิดพระเจ้า(22)

โยบ1:22 ในเหตุการณ์นี้ทั้งสิ้น โยบไม่ได้ทำบาปหรือกล่าวโทษพระเจ้า

โยบตั้งใจรักษาความเชื่อในพระเจ้า ตั้งแต่ตอนเริ่มต้น แม้ว่าในภายหลังโยบจะมีความสงสัยในพระเจ้าบ้าง  มีคำต่อว่าพระเจ้าบ้าง มีคำถามสงสัยพระเจ้าอย่างมากมาย แต่โยบก็ยังคงตั้งใจรักษาความเชื่อในพระเจ้าเสมอ

โยบมีความหวังและเชื่อในการช่วยกู้ของพระเจ้า โยบมองหาคนกลางระหว่างเขากับพระเจ้า 

โยบ9:33 ไม่มีคนกลางระหว่างเราผู้ซึ่งจะตัดสินให้เราทั้งสองได้ 

โยบ 16:19-21 ดูเถิด เดี๋ยวนี้พยานของข้าก็ประทับในฟ้าสวรรค์

และท่านผู้รับรองข้าก็ประทับในที่สูง 20เพื่อนๆ ของข้าด่าข้า

ดวงตาของข้าเทน้ำตาออกถวายพระเจ้า 21ขอให้พยานนั้นร้องทูลพระเจ้าเพื่อมนุษย์อย่างที่มนุษย์ทำเพื่อเพื่อนบ้านของเขา

โยบยืนยันว่าเขาดำเนินชีวิตบริสุทธิ์ เหตุการณ์ร้ายทั้งหมดนี้พระเจ้าตั้งใจให้เกิดขึ้นกับเขาแม้เขาไม่ได้ทำความชั่วร้าย  โยบหวังว่าพระเจ้าเองจะทรงเป็นพยานรับรองความชอบธรรมของโยบต่อพระพักตร์พระองค์ 

โยบ 19:25 แต่ข้าเองทราบว่า พระผู้ไถ่ของข้าทรงพระชนม์อยู่และในที่สุดพระองค์จะทรงปรากฏบนแผ่นดินโลก

โยบหวังใจในพระเจ้าซึ่งจะเป็นพระผู้ไถ่เขาในวันพิพากษา  เขาเชื่อว่าพระเจ้าจะทำให้เป็นขึ้นจากตาย

แนวคิดเรื่อง “คนกลาง” , พยาน  และ พระผู้ไถ่ แสดงให้เห็นความเชื่อว่าพระเจ้าจะทรงช่วยกู้คนชอบธรรมของพระองค์  เป็นมุมมองถึงพระเยซูคริสต์ที่จะเสด็จมาเพื่อช่วยกู้มนุษย์ให้รอดจากบาปและบึงไฟนรก   พระองค์ทำหน้าที่เป็นคนกลางผู้ไกล่เกลี่ยคดีระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า   ช่วยมนุษย์ให้รอดโดยทรงรับโทษบาปทั้งสิ้นแทนมนุษย์

1ทธ2:4-5 พระองค์ทรงประสงค์ให้ทุกคนได้รับความรอดและรู้ความจริง 5เพราะว่าพระเจ้ามีองค์เดียว และคนกลางก็มีแต่เพียงผู้เดียวระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ คือพระเยซูคริสต์ผู้ทรงสภาพมนุษย์

ตอนท้ายพระเจ้าชมเชยโยบว่าเขาพูดถึงพระเจ้าอย่างถูกต้อง 

โยบ42:7หลังจากพระยาห์เวห์ตรัสพระวจนะเหล่านี้แก่โยบแล้ว พระยาห์เวห์ตรัสกับเอลีฟัสชาวเทมานว่า “เราโกรธเจ้าและสหายทั้งสองของเจ้า เพราะเจ้าทั้งหลายไม่ได้พูดถึงเราอย่างถูกต้อง เหมือนโยบผู้รับใช้ของเราได้พูด

ความเชื่อที่เรามีต่อพระเจ้า ทำให้เราเข้าไปใกล้ชิดพระเจ้า แสวงหาพระเจ้า ไม่ใช่ต่อว่าพระเจ้า เลิกเชื่อพระเจ้า หรือโกรธแค้นพระองค์ 

เตือนใจของเราในการจัดการกับความบาดเจ็บ ความเจ็บปวด ความโศกเศร้าของเรา ไม่ใช่จัดการพระเจ้า 

หยุดคำถาม ความคิดที่สงสัย หรือหยุดหาเหตุผลต่าง ๆ นา ๆ ที่ตอบข้อสงสัย แต่ให้แสวงหาพระเจ้า  และรอคอยคำตอบที่มาจากพระเจ้า

สิ่งที่มีค่าสำหรับชีวิตของมนุษย์ คือ พระเจ้า อย่าสูญเสียความเชื่อไป

เราจะค้นพบความรู้สึกที่เรามีต่อพระเจ้าอย่างแท้จริง เมื่อพระเจ้าอนุญาตให้เราเจอความเจ็บปวด ความโศกเศร้า ความทุกข์ยากลำบาก

ใครไม่มีประสบการณ์เลวร้ายไม่มีวันเข้าใจผู้สูญเสีย คนของพระเจ้าที่เรียนรู้ความช่วยเหลือจากพระเจ้า และดำเนินชีวิตต่อไปได้ เขาจะช่วยเหลือผู้อื่นได้

ตอนจบของ โยบ42:10-17 เป็นข้อสรุปจากผู้เขียนที่เตือนผู้อ่าน

โยบกลับสู่สภาพดี

10และพระยาห์เวห์ทรงให้โยบกลับสู่สภาพดี เมื่อท่านอธิษฐานเผื่อสหายของท่าน และพระยาห์เวห์ประทานให้โยบมีมากเป็นสองเท่าของที่มีอยู่ก่อน 11และพี่น้องชายหญิงของท่านและบรรดาผู้ที่รู้จักท่านมาก่อนได้มาหาท่าน และรับประทานอาหารกับท่านในบ้านของท่าน และเขาทั้งหลายแสดงความเห็นใจและปลอบโยนท่าน ด้วยเรื่องเหตุร้ายทั้งสิ้นซึ่งพระยาห์เวห์ทรงนำมาเหนือท่าน และต่างก็ให้เงินแผ่นหนึ่งกับแหวนทองคำวงหนึ่งแก่ท่าน 12และพระยาห์เวห์ทรงอวยพรชีวิตตอนปลายของโยบมากยิ่งกว่าตอนต้นของท่าน และท่านมีแกะ 14,000 ตัว อูฐ 6,000 ตัว วัวผู้ 1,000 คู่ และลาตัวเมีย 1,000 ตัว 13ท่านมีบุตรชาย 7 คนและบุตรหญิง 3 คนด้วย 14และท่านเรียกชื่อบุตรหญิงคนแรกว่า เยมีมาห์ และชื่อคนที่สองว่า เคสิยาห์ และชื่อคนที่สามว่า เคเรนหัปปุค 15ทั่วทั้งแผ่นดิน ไม่มีหญิงใดงดงามเท่าบุตรสาวของโยบ และบิดาได้ให้มรดกแก่พวกเธอพร้อมกับพวกพี่ชายและน้องชาย 16ต่อจากนี้ไป โยบมีชีวิตอยู่อีก 140 ปี และได้เห็นบุตรชายของท่านกับหลานเหลนของท่านสี่ชั่วอายุ 17และโยบก็สิ้นชีวิตเป็นคนแก่หง่อมทีเดียว

ความทุกข์อยู่ไม่นาน มีเริ่มต้น และสิ้นสุดลง ความสุขก็เช่นกัน แต่พระเจ้าทรงครอบครองอยู่นิจนิรันดร์

ขอให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน   

Ref:

https://www.lifeway.com/en/articles/sermon-choosing-faith-suffering-job 

https://www.northsidebaptistchurch.org.au/multimedia-archive/how-should-we-respond-to-trials-job-113-210/

ฟิล. โครว์เตอร์. เทศนาโยบ. แปลโดย ศจ.ดร. ธนาภรณ์ ธนโรจน์ประดิษฐ์. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: กนกบรรณสาร, 2016, หน้า 16,48-51.

บทความก่อนหน้านี้วิถีคริสตชน 50 ก้าว
บทความถัดไปสดด16:1-11 อธิษฐานและวางใจในพระเจ้า

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่