ส่ิงที่เรียนรู้จากพระธรรมดาเนียล คือ การรู้จักพระเจ้าในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่ เป็นเหตุที่ทำให้เราไม่กลัวความตาย ไม่กลัวชีวิตหลังความตาย แต่กลับทำให้เรามีความหวังใจในพระเจ้า ทำให้มีความหวังมีกำลังใจในการดำเนินชีวิตมากกว่าตอนที่เราไม่รู้จักพระเจ้า

เมื่อท่านศึกษาเฝ้าเดี่ยวพระธรรมดาเนียลแล้ว ความจริงเรื่องชีวิตหลังความตายนี้ พระเจ้าเปิดเผยและสำแดงให้คนของพระเจ้าได้รู้ความจริงเพื่อจะดำเนินชีวิตในโลกนี้อย่างมีความหวัง และไม่กลัวต่อความตาย ทำให้คนของพระเจ้าไม่สิ้นหวังเมื่อเชื่อในพระคำของพระเจ้า

การเป็นขึ้นของบรรดาคนตาย

1“ในครั้งนั้น มีคาเอลเจ้าผู้ครอบครองยิ่งใหญ่ ผู้คุ้มกันชนชาติของท่านจะลุกขึ้น และจะมีเวลายากลำบากอย่างไม่เคยมีมาตั้งแต่ครั้งมีประชาชาติจนถึงสมัยนั้น แต่ในครั้งนั้นชนชาติของท่านจะได้รับการช่วยกู้ คือทุกคนที่มีชื่อบันทึกไว้ในหนังสือ 2และคนเป็นอันมากในพวกที่หลับในผงคลีแห่งแผ่นดินโลกจะตื่นขึ้น บ้างก็จะเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ บ้างก็เข้าสู่ความอับอายและความขายหน้านิรันดร์ 3และบรรดาคนฉลาดจะส่องแสงเหมือนแสงท้องฟ้า และบรรดาผู้ที่ได้นำคนเป็นอันมากมาสู่ความชอบธรรมจะส่องแสงเหมือนอย่างดาวเป็นนิตย์นิรันดร์ 4แต่ตัวเจ้าดาเนียลเอ๋ย จงปิดถ้อยคำเหล่านั้นไว้และประทับตราหนังสือนั้นเสียจนถึงวาระสุดท้าย คนเป็นอันมากจะวิ่งไปวิ่งมา และความรู้จะทวีขึ้น”

5แล้วข้าพเจ้าคือดาเนียลก็มองดู และ นี่แน่ะ มีอีกสองคนยืนอยู่ คนหนึ่งยืนอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำข้างนี้ อีกคนหนึ่งยืนอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำข้างโน้น 6และคนหนึ่งก็พูดกับชายที่สวมเสื้อผ้าป่าน ผู้ซึ่งอยู่เหนือน้ำแห่งแม่น้ำนั้นว่า “ยังอีกนานเท่าไรจึงจะถึงที่สุดปลายของสิ่งน่าอัศจรรย์เหล่านี้?” 7ชายที่สวมเสื้อผ้าป่าน ผู้ซึ่งอยู่เหนือน้ำแห่งแม่น้ำนั้น ได้ยกมือขวาและมือซ้ายของท่านสู่ฟ้าสวรรค์ ข้าพเจ้าได้ยินท่านปฏิญาณอ้างพระผู้ทรงพระชนม์อยู่เป็นนิตย์ว่า ยังอีกวาระหนึ่ง สองวาระ และครึ่งวาระ และเมื่อการทำลายอำนาจของชนชาติบริสุทธิ์สิ้นสุดลงแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็จะสำเร็จไปด้วย 8ข้าพเจ้าได้ยินแต่ไม่เข้าใจ แล้วข้าพเจ้าจึงพูดว่า “นายเจ้าข้า สิ่งเหล่านี้จะลงเอยอย่างไร?” 9ท่านพูดว่า “ดาเนียลเอ๋ย ไปเถอะ เพราะว่าถ้อยคำเหล่านั้นก็ถูกปิดไว้แล้ว และถูกประทับตราไว้จนถึงวาระสุดท้าย 10คนเป็นอันมากจะชำระตนเอง ทำให้ตนเองสะอาดหมดจดและถูกถลุง แต่คนชั่วจะยังทำการชั่วอยู่ และไม่มีคนชั่วสักคนหนึ่งจะเข้าใจ แต่บรรดาคนฉลาดจะเข้าใจ 11และตั้งแต่เวลาเลิกเครื่องเผาบูชาเนืองนิตย์นั้น และการตั้งสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน ซึ่งทำให้เกิดการร้างเปล่าขึ้น จะเป็นเวลา 1,290 วัน 12ความสุขจะมีแก่ผู้ทนอยู่ได้ถึง 1,335 วัน 13ส่วนเจ้าจงดำเนินไปจนถึงที่สุดเถิด แล้วจะได้พักสงบ และจะยืนขึ้นรับมรดกของเจ้าเมื่อสิ้นสุดวันทั้งหลายนั้น”

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับมาตรฐาน 2011 สงวนลิขสิทธิ์ 2011 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย

A : Attitude

เราได้รับความรู้ใหม่ๆ หรือเราได้รับทัศนคติใหม่ๆ จากพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่อ่านเรื่องอะไรบ้าง?

แนวความคิดเรื่องชีวิตหลังความตายคงมีหลายแบบเป็นไปตามปรัชญา ศาสนาหรือตามความเชื่อต่างๆ เช่น การเวียนว่ายตายเกิด เป็นไปตามกรรมหรือเป็นไปตามการกระทำ หรือตายแล้วตายเลยสลายไปเลย หรือตายแล้วไปสวรรค์หรือไปนรก

แม้กระทั่งเรื่องวันสิ้นโลก คือ เชื่อว่าโลกมีวันจบสิ้นสูญสิ้นสลายหายไป มนุษย์จะตายหมดโลก จึงมีบางคนพยายามหาที่อยู่ใหม่ในจักรวาลเพื่อรักษาเผ่าพันธ์ของมนุษย์ไว้

อย่างไรก็ดีพระธรรมดาเนียลได้บันทึกทั้งสองเรื่องนี้ไว้ คือ มีพระเจ้าองค์หนึ่งที่จะพิพากษามนุษย์ที่ตายไปแล้วและยังมีชีวิตอยู่ในวันพิพากษา มีคนถูกลงโทษจากความผิดที่ได้กระทำ และคนหนึ่งได้รับรางวัลจากการเป็นคนชอบธรรม ความจริงนี้ถูกปิดบังไว้สำหรับคนที่ไม่เชื่อ แต่พระเจ้าเปิดเผยให้กับคนของพระเจ้า

และความจริงเหล่านี้ พระเจ้าให้บอกกล่าวแก่มนุษย์เพื่อเขาจะมีความหวังในการดำเนินชีวิตในโลกที่เต็มไปด้วยความบาป ทำให้ผิดหวังได้ แต่การมีความหวังในพระเจ้าทำให้มั่นใจในเรื่องชีวิตหลังความตาย เรื่องการพิพากษา และเรื่องวันสิ้นโลก

C : Christ in focus

เรามองเห็นพระเยซูเป็นใคร พระองค์ทำอะไรบ้าง ผ่านพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่เราอ่านอย่างไรบ้าง?

พระเยซูคริสต์ได้ให้ความมั่นใจเรื่องการมีชัยชนะเหนือความตาย คือ การเป็นขึ้นจากความตายในวันที่สามหลังจากสิ้นพระชนม์ที่กางเขน และคนที่เป็นขึ้นจากตายนั่นแหละ พระเจ้าทรงแต่งตั้งให้เป็นผู้พิพากษาในวันสุดท้าย

คนที่เชื่อพระเจ้าและไม่เชื่อพระเจ้าจะเป็นขึ้นจากความตายและเข้าสู่การพิพากษา จะมีคนถูกโยนลงไปในบึงไฟ วว20:15 และคนเชื่อ คนของพระเจ้าจะได้ครอบครองร่วมกับพระเยซูคริสต์ วว20:4

T : Transformation

เราต้องการให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราในด้านใดบ้าง

ตระหนักเรื่องชีวิตเรื่องหลังความตาย เพราะไม่มีใครไม่ตาย แต่เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่จะพบกับองค์พระผู้เป็นเจ้า ดำเนินชีวิตให้ดีตามพระทัยของพระเจ้า เพื่อเราจะไม่กลัวความตาย ไม่กลัวการพิพากษา แต่มั่นใจในพระเจ้า

S : Serve

เราจะดำเนินชีวิตเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น และต่อพระเจ้าได้อย่างไรบ้าง?

รับใช้พระเจ้าจนถึงที่สุด รับใช้ด้วยมีความหวังว่าจะได้รับมรดกตามที่พระเจ้าสัญญาว่าจะประทานให้ เมื่อชีวิตฝ่ายกายภาพในโลกนี้เราสิ้นสุดลง

ขอพระเจ้าอวยพร ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

สนใจติดต่อเรา

www.facebook.com/FORWARD.CH.TH

Email: actsministry2017@gmail.com

บทความก่อนหน้านี้เฝ้าเดี่ยวแบบ A.C.T.S. พระธรรมดาเนียล บทที่11:1-45
บทความถัดไปความเชื่อเท่านั้น ปฐก22:1-19

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่