ส่ิงที่เรียนรู้จากพระธรรมยากอบ คือ คนที่ดำเนินชีวิตกับพระเจ้าอย่างถูกต้องแสดงว่าเขามีปัญญามีความเข้าใจ ชนะการทดลองใจและผ่านบททดสอบความเชื่อ โดยดำเนินชีวิตอย่างคนมีปัญญา เกิดผลดีในชีวิต

เมื่อท่านศึกษาเฝ้าเดี่ยวพระธรรมยากอบแล้ว ท่านจะระมัดระวังการทดลองใจ ที่ทำให้ท่านดำเนินชีวิตอย่างคนไม่มีปัญญา ส่งผลร้ายต่อชีวิตในที่สุด

13มีใครบ้างในท่านทั้งหลายที่มีปัญญาและมีความเข้าใจ? ให้เขาแสดงออกมาด้วยความประพฤติที่ดีงาม คือด้วยการกระทำที่สุภาพอ่อนโยนพร้อมด้วยปัญญาของเขา 14แต่ถ้าหากในใจของพวกท่านมีความขมขื่นเพราะริษยาและมีความมักใหญ่ใฝ่สูง ก็อย่าโอ้อวดและอย่าต่อต้านความจริงด้วยการโกหก 15ปัญญาอย่างนี้ไม่ใช่ปัญญาที่มาจากเบื้องบน แต่เป็นปัญญาฝ่ายโลก ฝ่ายเนื้อหนังและฝ่ายผีปีศาจ 16เพราะว่าที่ไหนมีความริษยาและความมักใหญ่ใฝ่สูง ที่นั่นก็มีความวุ่นวายและการทำชั่วทุกอย่าง 17แต่ปัญญาจากเบื้องบนนั้นบริสุทธิ์เป็นประการแรก แล้วจึงเป็นความสงบสุข การผ่อนหนักผ่อนเบา การยอมรับฟัง การเต็มเปี่ยมด้วยความเมตตาและผลดีต่างๆ ไม่มีการลำเอียง ไม่มีการหน้าซื่อใจคด 18และพวกที่สร้างสันติ ซึ่งหว่านด้วยสันติ ก็จะได้รับผลคือความชอบธรรม

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับมาตรฐาน 2011 สงวนลิขสิทธิ์ 2011 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย

A : Attitude

เราได้รับความรู้ใหม่ๆ หรือเราได้รับทัศนคติใหม่ๆ จากพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่อ่านเรื่องอะไรบ้าง?

คนมีปัญญาไม่โอ้อวด ไม่ต่อต้านความจริง ด้วยการโกหก แต่จะยอมรับความจริงและแก้ไข เวลาที่เราต้องโกหกเราต้องใช้ความคิดมากมาย วางแผนกลบเกลื่อน สร้างหลักฐานเท็จ ผลสุดท้ายการที่เราใช้ปัญญาอย่างมากมายในเรื่องที่โกหก จะทำให้เกิดความชั่วร้ายทุกอย่างกับตนเอง และกับคนอื่นๆ

แต่คนมีปัญญา คนของพระเจ้า สร้างสันติ หว่านสันติ ได้รับผลคือ ความชอบธรรม ข้อ17-18 ได้อธิบายการประพฤติของคนมีปัญญา มีใจบริสุทธิ์ สงบสุข ผ่อนหนักผ่อนเบา รับฟัง มีความเมตตา และทำทุกอย่างให้เกิดผลดี

ตรงกันข้ามกับคนที่คิดว่าตนมีปัญญาแต่ไม่สามารถชนะการทดลองใจ และผ่านบททดสอบความเชื่อด้านสติปัญญาได้ เวลาที่เจอปัญหาที่มากระทบใจ ทำให้เกิดใจขมขื่น ใจริษยา มักใหญ่ใฝ่สูง ไม่ยอมรับความจริงว่าตนมีปัญหาที่มากระทบจิตใจ แต่กลับแก้ไขด้วยการโกหก ต่อจากนั้นก็ทำความชั่วทุกอย่างที่มาจากใจที่ไม่มีปัญญา

C : Christ in focus

เรามองเห็นพระเยซูเป็นใคร พระองค์ทำอะไรบ้าง ผ่านพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่เราอ่านอย่างไรบ้าง?

พระเยซูสอนให้เรารักศัตรู สอนให้เรายกโทษ สอนให้เราอภัยต่อผู้อื่น เพราะส่ิงที่พระเยซูสอนช่วยทำให้ใจของเราบริสุทธิ์ ใจเรามีสันติสุข มีความสงบ ทำให้เกิดปัญญา เราไม่ต้องทำความชั่วร้ายตอบแทนการชั่วด้วยการแก้แค้นทำให้เกิดผลร้ายและความชั่วมากขึ้น

T : Transformation

เราต้องการให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราในด้านใดบ้าง

ตระหนักเรื่องการทดลองใจด้านมืด ไม่สามารถทำให้เราสร้างสันติได้ และบททดสอบความเชื่อด้านสติปัญญาเราต้องสร้างสันติ หว่านสันติ เพื่อให้เกิดความชอบธรรม

เมื่อเราเจอคนทำร้ายเรา หวังร้ายกับเรา เราต้องตอบสนองอย่างคนมีปัญญา ยอมรับความจริง และสร้างสันติ มีใจบริสุทธิ์ เมตตา เพื่อให้ผลดี คือ ความชอบธรรมจะเกิดขึ้นในชีวิตของเรา

S : Serve

เราจะดำเนินชีวิตเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น และต่อพระเจ้าได้อย่างไรบ้าง?

รับใช้พระเจ้าด้วยปัญญาของพระเจ้า สร้างสันติ มีเมตตา รักษาใจไม่ให้มีความขมขื่น ริษยา ช่วยเหลือคนอื่นให้เข้าใจความจริงเรื่องเผชิญการทดลองใจ และผ่านบททดสอบความเชื่อ อย่างคนมีปัญญาของพระเจ้า คือ ให้ตระหนักถึงผลของความชอบธรรมที่จะเกิดขึ้น

เมื่อเรามีปัญญาเราจะประพฤติดีงาม เราจะแก้ไขปัญหาที่มากระทบใจด้วยการยอมรับความจริง และสร้างสันติ ไม่สร้างศัตรู ไม่แก้แค้น

ขอพระเจ้าอวยพร ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

สนใจติดต่อเรา

www.facebook.com/FORWARD.CH.TH

Email: actsministry2017@gmail.com

บทความก่อนหน้านี้เฝ้าเดี่ยวแบบ A.C.T.S. พระธรรมยากอบ บทที่ 3:1-12
บทความถัดไปเฝ้าเดี่ยวแบบ A.C.T.S. พระธรรมยากอบ บทที่ 4:1-10

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่