ส่ิงที่เรียนรู้จากพระธรรมดาเนียล คือ เรียนรู้ที่จะถวายเกียรติพระเจ้า ยำเกรงพระเจ้า ไม่เป็นศัตรูกับพระเจ้า เพราะปลายทางคือ ความพินาศ และถูกทำลาย

เมื่อท่านศึกษาเฝ้าเดี่ยวพระธรรมดาเนียลแล้ว ระมัดระวังที่จะไม่ทำผิดบาปกับพระเจ้า ไม่ประมาทในการดำเนินชีวิตที่หลู่พระเกียรติพระเจ้า โดยเฉพาะเมื่อพบความสำเร็จในชีวิต หรือในงานรับใช้พระเจ้า ให้ถวายเกียรติแด่พระเจ้าจากใจจริง เพราะพระองค์ประทานสิ่งดีให้กับเรา เราจึงขอบพระคุณและถวายเกียรติแด่พระเจ้า

งานเลี้ยงของเบลชัสซาร์

1กษัตริย์เบลชัสซาร์ได้ทรงจัดงานเลี้ยงใหญ่แก่เจ้านายหนึ่งพันคน และเสวยเหล้าองุ่นท่ามกลางคนหนึ่งพันนั้น 2เมื่อเบลชัสซาร์เสวยเหล้าองุ่นแล้ว จึงทรงบัญชาให้นำภาชนะทองคำและเงิน ซึ่งเนบูคัดเนสซาร์ราชบิดาได้ทรงกวาดมาจากพระวิหารในกรุงเยรูซาเล็ม ออกมาให้พระราชาและบรรดาเจ้านายของพระองค์ทั้งมเหสีและนางสนม เพื่อใช้ใส่เหล้าองุ่นดื่ม 3เขาทั้งหลายจึงนำภาชนะทองคำซึ่งยึดมาจากพระวิหารคือพระนิเวศของพระเจ้าในกรุงเยรูซาเล็มออกมา และพระราชาและบรรดาเจ้านายของพระองค์ทั้งมเหสีและนางสนมก็ได้ดื่มจากภาชนะเหล่านั้น 4เขาทั้งหลายดื่มเหล้าองุ่นและสรรเสริญพระที่ทำด้วยทองคำ เงิน ทองสัมฤทธิ์ เหล็ก ไม้ และหิน

ลายพระหัตถ์บนผนังวัง

5ในทันใดนั้น นิ้วมือคนได้ปรากฏขึ้นและเขียนลงที่ผนังพระราชวังของกษัตริย์หน้าคันประทีป และกษัตริย์ก็ทอดพระเนตรมือที่เขียนนั้น 6แล้วพระพักตร์ของกษัตริย์ก็ซีดไป พระองค์ตกพระทัย จนกระทั่งพระเพลาก็อ่อนเปลี้ย พระชานุก็สั่น 7กษัตริย์มีรับสั่งเสียงดังให้นำหมอดู คนเคลเดีย และหมอดูฤกษ์ยาม เข้ามาเฝ้า และกษัตริย์ตรัสกับพวกนักปราชญ์ของบาบิโลนว่า “ผู้อ่านข้อเขียนนี้และแปลความให้เราได้ เราจะให้ผู้นั้นสวมเสื้อสีม่วงและสวมสร้อยคอทองคำ และเราจะตั้งให้เป็นอุปราชตรีในราชอาณาจักรของเรา” 8แล้วพวกนักปราชญ์ของกษัตริย์ก็เข้ามาทั้งหมด แต่พวกเขาอ่านข้อเขียน หรือแปลความหมายให้กษัตริย์ไม่ได้ 9แล้วกษัตริย์เบลชัสซาร์ก็ตกพระทัยมาก และพระพักตร์ของพระองค์ก็ซีดไป และเจ้านายทั้งหลายของพระองค์ก็สนเท่ห์

10พระราชินีเสด็จเข้ามาในการเลี้ยง เพราะได้ยินถ้อยคำของกษัตริย์และเจ้านายทั้งหลาย และพระราชินีตรัสว่า “ข้าแต่พระราชา ขอทรงพระเจริญเป็นนิตย์ ขอฝ่าพระบาทอย่าได้ตกพระทัย หรือให้พระพักตร์ของพระองค์ซีดไป 11ในราชอาณาจักรของฝ่าพระบาทมีชายคนหนึ่งมีวิญญาณของบรรดาพระผู้บริสุทธิ์ในตัวเขา ในสมัยรัชกาลของพระราชบิดา ความสว่าง ความเข้าใจ และปัญญาเหมือนปัญญาของบรรดาพระทั้งหลายได้มีประจำอยู่ที่ชายคนนี้ และพระราชาเนบูคัดเนสซาร์ พระราชบิดาของฝ่าพระบาท ได้ทรงแต่งตั้งให้เขาเป็นหัวหน้าของพวกโหร หมอดู คนเคลเดีย และหมอดูฤกษ์ยาม 12เขาคือดาเนียล ซึ่งพระราชาประทานนามว่าเบลเทชัสซาร์ เขามีวิญญาณเลิศ มีความรู้และความเข้าใจที่จะแก้ความฝัน แก้ปริศนาและแก้ปัญหาต่างๆ ขอทรงเรียกดาเนียลให้เข้ามาเฝ้าเดี๋ยวนี้ แล้วเขาจะแปลความหมายถวายฝ่าพระบาท”

แปลความคำเขียนบนผนังวัง

13ดาเนียลจึงถูกเรียกให้เข้าเฝ้าพระราชา พระราชาตรัสถามดาเนียลว่า “ท่านคือดาเนียลคนนั้นในพวกที่ถูกกวาดเป็นเชลยมาจากยูดาห์ ที่พระราชาเสด็จพ่อของเรานำมาจากยูดาห์หรือ? 14เราได้ยินว่าท่านมีวิญญาณของบรรดาพระในตัวท่าน และท่านมีความสว่าง ความเข้าใจ และปัญญาเลิศประจำตัว 15พวกนักปราชญ์และพวกหมอดูถูกเรียกมาให้อ่านข้อความนี้ และแปลความหมายให้เรา แต่เขาแปลความหมายของเรื่องราวนี้ไม่ได้

16“แต่เราได้ยินว่าท่านสามารถแปลและแก้ปัญหาได้ บัดนี้ถ้าท่านอ่านข้อความและแปลความหมายให้ได้ ท่านจะได้สวมเสื้อสีม่วงและสวมสร้อยคอทองคำ และเป็นอุปราชตรีในราชอาณาจักร”

17แล้วดาเนียลทูลพระราชาว่า “ขอทรงเก็บของพระราชทานไว้เป็นของฝ่าพระบาทเถิด และขอประทานรางวัลแก่ผู้อื่น ส่วนข้าพระบาทจะขออ่านข้อเขียนถวายพระราชาและถวายคำแปลความหมายให้ฝ่าพระบาททรงทราบ 18ข้าแต่พระราชา พระเจ้าสูงสุดได้ประทานราชอาณาจักร ความยิ่งใหญ่ ศักดิ์ศรี และบารมีแก่เนบูคัดเนสซาร์ราชบิดาของฝ่าพระบาท 19และเพราะความยิ่งใหญ่ซึ่งพระองค์ประทานแก่เนบูคัดเนสซาร์ ชนทุกชาติทุกเผ่าทุกภาษาจึงสั่นสะท้านและเกรงขามพระราชา พระองค์จะทรงประหารผู้ใดก็ทรงประหารเสีย จะทรงให้ผู้ใดดำรงชีวิตอยู่ก็ทรงให้ดำรงชีวิต จะทรงแต่งตั้งผู้ใดก็ทรงแต่งตั้ง จะทรงทำให้ผู้ใดต่ำต้อยลงก็ทรงทำ 20แต่เมื่อพระทัยของราชบิดาผยองขึ้น จิตวิญญาณของพระองค์ก็แข็งกระด้างไป จึงทรงประกอบกิจด้วยความเห่อเหิม พระเจ้าทรงถอดพระองค์จากราชบัลลังก์ และทรงริบศักดิ์ศรีของพระองค์ไปเสีย 21พระเจ้าทรงขับไล่เนบูคัดเนสซาร์ไปจากท่ามกลางมนุษย์ และทรงทำให้พระทัยเป็นเหมือนใจสัตว์ป่า และทรงให้อยู่กับลาป่า ทรงให้เสวยหญ้าเหมือนโค และพระกายก็เปียกน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ จนกว่าจะทรงสำนึกว่าพระเจ้าสูงสุดทรงปกครองราชอาณาจักรของมนุษย์ และทรงแต่งตั้งผู้ที่พระองค์จะทรงแต่งตั้งให้ปกครอง 22ข้าแต่เบลชัสซาร์ ฝ่าพระบาทเป็นราชโอรส แม้ฝ่าพระบาททรงทราบสิ่งเหล่านี้แล้ว ก็ไม่ได้ถ่อมพระทัย 23แต่กลับทรงยกองค์ขึ้นสู้กับองค์เจ้านายแห่งสวรรค์ และทรงให้นำภาชนะแห่งพระนิเวศของพระองค์มาต่อพระพักตร์ฝ่าพระบาท แล้วฝ่าพระบาท พวกเจ้านายของฝ่าพระบาท ทั้งมเหสี และนางสนมของฝ่าบาทก็ดื่มเหล้าองุ่นจากภาชนะเหล่านั้น และฝ่าพระบาททรงสรรเสริญพระที่ทำด้วยเงิน ทองคำ ทองสัมฤทธิ์ เหล็ก ไม้ และหิน ซึ่งจะดูหรือฟังหรือเข้าใจก็ไม่ได้ แต่ฝ่าพระบาทไม่ได้ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า ผู้ซึ่งลมปราณของฝ่าพระบาทอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ และทางทั้งสิ้นของฝ่าพระบาทก็ขึ้นอยู่กับพระองค์

24“ฉะนั้นจึงมีมือซึ่งรับใช้มาจากพระเจ้าได้จารึกข้อเขียนนี้ลงไว้ 25ต่อไปนี้เป็นข้อเขียนที่จารึกไว้คือ เมเน เมเน เทเคล และ ฟารสิน 26ต่อไปนี้เป็นคำแปลข้อความนั้น เมเนพระเจ้าได้ทรงคำนวณวาระแห่งราชอาณาจักรของฝ่าพระบาทไว้แล้ว และทรงนำราชอาณาจักรนั้นมาถึงที่สิ้นสุด 27เทเคล ฝ่าพระบาทได้ถูกชั่งในตราชู ทรงเห็นว่ายังขาดอยู่ 28เปเรสราชอาณาจักรของฝ่าพระบาทถูกแบ่งออกให้แก่คนมีเดียและคนเปอร์เซีย”

29แล้วเบลชัสซาร์ก็ทรงบัญชาให้ดาเนียลสวมเสื้อสีม่วงและสวมสร้อยคอทองคำ และทรงให้ประกาศเกี่ยวกับท่านว่า ท่านได้เป็นอุปราชตรีในราชอาณาจักร

30ในคืนวันนั้นเอง เบลชัสซาร์พระราชาคนเคลเดียทรงถูกสังหาร 31และดาริอัสชาวมีเดียก็ทรงรับราชอาณาจักร เมื่อมีพระชนมายุ 62 พรรษา

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับมาตรฐาน 2011 สงวนลิขสิทธิ์ 2011 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย

A : Attitude

เราได้รับความรู้ใหม่ๆ หรือเราได้รับทัศนคติใหม่ๆ จากพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่อ่านเรื่องอะไรบ้าง?

คนของพระเจ้าที่ดำเนินชีวิตกับพระเจ้าจริงๆ แม้กระทั่งคนที่ไม่รู้จักพระเจ้ายังรู้ว่ามีพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่ ผ่านคนที่มีความเชื่อในพระเจ้า

คนของพระเจ้ามีความสามารถที่พระเจ้าประทานให้ใช้เพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้าไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์แห่งตน

คนที่ไม่เรียนรู้การให้เกียรติพระเจ้า จะพินาศในวันสุดท้ายอย่างแน่นอน ต้องเรียนรู้จากความผิดพลาด เพื่อจะไม่พินาศเสียเอง

C : Christ in focus

เรามองเห็นพระเยซูเป็นใคร พระองค์ทำอะไรบ้าง ผ่านพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่เราอ่านอย่างไรบ้าง?

พระเจ้าได้มอบอำนาจในการพิพากษาในวันสุดท้ายให้กับพระเยซูคริสต์ เราจึงต้องรู้จักถวายเกียรติพระเจ้าในการดำเนินชีวิตตลอดเวลา เรียนรู้ที่จะยำเกรงพระเจ้า อย่าประมาทในการดำเนินชีวิต เพื่อจะไม่มีข้อผิดพลาดจนถูกพิพากษาในวันสุดท้าย

T : Transformation

เราต้องการให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราในด้านใดบ้าง

ดำเนินชีวิตด้วยการแสวงหาพระเจ้าตลอดชีวิต ขอปัญญาเลิศจากพระเจ้าในการดำเนินชีวิต มีความเข้าใจในสิ่งต่างๆรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ปัญหา เพื่อสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆได้ เป็นการถวายเกียรติแด่พระเจ้า เป็นพระพรกับผู้อื่น

S : Serve

เราจะดำเนินชีวิตเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น และต่อพระเจ้าได้อย่างไรบ้าง?

รับใช้พระเจ้าด้วยความยำเกรงพระเจ้า ถวายเกียรติแด่พระเจ้า ถ่อมใจกับพระเจ้า มีชีวิตกับพระเจ้า ขอสติปัญญา การเรียนรู้ ความเข้าใจ จากพระเจ้าในการแก้ไขปัญหาต่างๆ แก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ให้ผู้อื่นได้รับพระพร และเราก็ได้รับพระพรเช่นกัน

ขอพระเจ้าอวยพร ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

สนใจติดต่อเรา

www.facebook.com/FORWARD.CH.TH

Email: actsministry2017@gmail.com

บทความก่อนหน้านี้เฝ้าเดี่ยวแบบ A.C.T.S. พระธรรมดาเนียล บทที่4:1-37
บทความถัดไปเฝ้าเดี่ยวแบบ A.C.T.S. พระธรรมดาเนียล บทที่6:1-28

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่