ส่ิงที่เรียนรู้จากพระธรรมวินิจฉัย คือ มีความแตกต่างระหว่างคนที่รักพระเจ้า กับคนที่เป็นศัตรูกับพระเจ้า ปลายทางมีความแตกต่างกัน

เมื่อท่านศึกษาเฝ้าเดี่ยวพระธรรมผู้วินิจฉัยแล้ว ท่านจะพบว่าบทเพลงของนางเดโบราห์ได้ให้รายละเอียดถึง พระเจ้าเป็นผู้ช่วยเหลือดูแลพวกอิสราเอลให้มีชัยชนะเหนือศัตรูทั้งๆที่พวกเขาไม่สามารถจะต่อสู้ศัตรูได้เลย แต่พระเจ้าประทานชัยชนะให้จิตใจของพวกเขามีความสุขมาก ร้องเป็นบทเพลงสรรเสริญ ซึ่งรูปแบบบางข้อที่บันทึก เป็นรูปแบบบันทึกไว้เหมือนการร้องเป็นเพลงนมัสการพระเจ้า ในพระธรรมสดุดี

วนฉ5:1-31

บทเพลงของนางเดโบราห์

1ในวันนั้น นางเดโบราห์กับบาราคบุตรอาบีโนอัมร้องเพลงว่า

2“จงถวายสาธุการแด่พระยาห์เวห์เมื่อพวกผู้นำได้นำคนอิสราเอลเมื่อประชาชนอาสาสมัคร

3“กษัตริย์ทั้งหลายขอทรงสดับ เจ้านายทั้งหลายขอจงเงี่ยหูฟัง

ข้าพเจ้าเองจะร้องเพลงถวายแด่พระยาห์เวห์

ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอล

4“ข้าแต่พระยาห์เวห์ เมื่อพระองค์เสด็จออกจากเสอีร์

เมื่อพระองค์ทรงดำเนินจากถิ่นเอโดม

แผ่นดินก็สั่นไหว ท้องฟ้าก็หลั่งริน เออ เมฆก็หลั่งรินฝนลงมา

5ภูเขาทั้งหลายก็ไหวสะท้านเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งภูเขาซีนาย เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอล

6“ในสมัยชัมการ์บุตรอานาทสมัยยาเอล ทางหลวงก็ว่างเปล่า ผู้สัญจรไปมาก็หลบไปเดินตามทางคดเคี้ยว

7ชาวไร่ชาวนาในอิสราเอลก็หยุดเขาหยุดจนกระทั่ง ข้าพเจ้าเดโบราห์ขึ้นมา จนข้าพเจ้าขึ้นมาเป็นอย่างมารดาในอิสราเอล

8เมื่อเลือกนับถือพระใหม่สงครามก็ประชิดเข้ามาถึงประตูเมืองไม่มีโล่หรือหอกสักอันให้เห็นในพลอิสราเอล 40,000 คน

9ใจข้าพเจ้าอยู่ฝ่ายบรรดาเจ้านายแห่งอิสราเอลผู้อาสาสมัครท่ามกลางประชาชน จงถวายสาธุการแด่พระยาห์เวห์

10“บรรดาท่านผู้ขี่ลาขาวผู้นั่งบนผ้าที่ใช้เป็นอาน และผู้สัญจรไปมา จงเล่าขานเถิด

11มีเสียงนักดนตรี ณ ที่ตักน้ำเขากล่าวถึงชัยชนะของพระยาห์เวห์คือชัยชนะของชาวไร่ชาวนาในอิสราเอล”แล้วประชากรของพระยาห์เวห์ก็เดินไปที่ประตูเมือง

12“เดโบราห์เอ๋ย ตื่นเถิด ตื่นเถิด ตื่นเถิด ตื่นมาร้องเพลงลุกขึ้นเถิด บาราค บุตรอาบีโนอัมเอ๋ยพาพวกเชลยของท่านไป

13ครั้งนั้นพวกที่เหลืออยู่ลงมาหาผู้สูงศักดิ์ประชากรของพระยาห์เวห์ลงมาเพื่อข้าพเจ้าดั่งนักรบ

14จากเอฟราอิม ผู้ถอนรากถอนโคนอามาเลขได้ลงมาพวกเขาเดินตามท่านนะ เบนยามิน ท่ามกลางประชาชนของท่านจากมาคีร์ ผู้บัญชาการเดินลงมาและจากเศบูลุน ผู้ถือไม้อาญาสิทธิ์ออกมา

15พวกเจ้านายแห่งอิสสาคาร์มากับเดโบราห์และบาราคทำอย่างไร อิสสาคาร์ก็ทำด้วยพวกเขาเร่งติดตามท่านไปในหุบเขามีการคิดตัดสินใจครั้งใหญ่ในตระกูลต่างๆ ของรูเบน

16ทำไมท่านจึงนั่งอยู่ที่คอกแกะ เพื่อฟังเสียงปี่ที่เป่าให้แกะฟังในตระกูลต่างๆ ของรูเบนมีการชั่งใจ

17กิเลอาดอยู่ฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน แล้วทำไมดานยังอยู่กับเรือ? อาเชอร์นั่งอยู่ที่ฝั่งทะเล ตั้งบ้านเรือนอยู่ตามท่าเรือของเขา

18เศบูลุนเป็นเผ่าที่เสี่ยงตาย ฝ่ายนัฟทาลีก็เช่นกัน ณ ที่สูงของสนามรบ

19“พอบรรดากษัตริย์มาถึง ก็รบกันบรรดากษัตริย์คานาอันก็รบที่ทาอานาค ริมห้วงน้ำเมกิดโด โดยมิได้ริบเงินเลย

20ดวงดาวก็สู้รบจากสวรรค์จากวิถีของมัน พวกมันรบกับสิเสรา

21แม่น้ำคีโชนพัดกวาดพวกเขาไปคือแม่น้ำคีโชน แม่น้ำโบราณนั้นจิตใจของข้าเอ๋ย จงเดินต่อไปด้วยความเข้มแข็ง

22“แล้วเสียงกีบม้าก็กระทบแรงโดยม้าของเขาวิ่งควบไป ควบไป

23“ทูตพระยาห์เวห์กล่าวว่า จงสาปแช่งเมโรสเถิด จงสาปแช่งชาวเมืองให้หนัก เพราะพวกเขาไม่ได้ออกมาช่วยพระยาห์เวห์ คือช่วยพระยาห์เวห์สู้ผู้มีกำลังมาก

24“หญิงที่น่าสรรเสริญที่สุดก็คือยาเอล ภรรยาของเฮเบอร์คนเคไนต์ในพวกผู้หญิงที่อยู่ในเต็นท์ นางน่าสรรเสริญที่สุด

25เขาขอน้ำ เธอก็ให้น้ำนมเธอเอานมข้นใส่ชามอย่างดีมายื่นให้

26เธอเอื้อมมือหยิบหลักเต็นท์มือขวาของเธอฉวยค้อนใหญ่ เธอตอกสิเสราเข้าทีหนึ่ง เธอบี้ศีรษะของเขา เธอตอกทะลุขมับ

27เขาทรุดตัวล้มลง แน่นิ่งแทบเท้าของนาง แทบเท้าของนาง เขาทรุดตัวล้มลง เขาทรุดตัวลงที่ไหน ที่นั่นเขาล้มลงตาย

28“มารดาของสิเสรามองออกไปทางหน้าต่าง นางจ้องมองผ่านช่องตารางหน้าต่าง ร้องว่า ‘ทำไมหนอ รถรบของเขาจึงมาช้าเหลือเกิน? ทำไมล้อรถของเขาจึงเนิ่นช้าอยู่?’

29บรรดาสตรีสูงศักดิ์และปราดเปรื่องของนางจึงตอบนาง อันที่จริง นางรำพึงตอบตัวเองว่า

30‘พวกเขาคงกำลังแบ่งของริบที่ได้มากัน หญิงหนึ่งหรือสองคนตกเป็นของชายหนึ่งคน ผ้าย้อมสีที่ริบมาเป็นของสิเสรา ผ้าย้อมสีที่ปักลวดลาย ผ้าย้อมสีที่ปักลวดลายสองหน้าสำหรับพันคอของข้าเป็นของที่ริบมา’

31“ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอให้ศัตรูทั้งสิ้นของพระองค์พินาศดังนี้ แต่ขอให้ผู้ที่รักพระองค์เป็นดั่งดวงตะวันเมื่อโผล่ขึ้นด้วยอานุภาพ” และแผ่นดินก็สงบสุขอยู่ 40 ปี

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับมาตรฐาน 2011 สงวนลิขสิทธิ์ 2011 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย

A : Attitude

เราได้รับความรู้ใหม่ๆ หรือเราได้รับทัศนคติใหม่ๆ จากพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่อ่านเรื่องอะไรบ้าง?

เราจะสังเกตพบว่าเดโบราห์ได้ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า โดยเนื้อหามาจากประสบการณ์ชีวิตที่รู้ว่าพระเจ้าช่วยคนที่รักพระองค์ให้มีชัยชนะ จากศัตรูทั้งสิ้น (สาเหตุของปัญหาในครั้งนี้มาจากการที่คนอิสราเอลนับถือพระใหม่ หรือพระองค์อื่นที่ไม่ใช่พระยาเวห์)

หากเรามองดูคนอิสราเอลแทบจะไม่มีความหวังในการชนะศัตรูได้เลย พวกเขาเป็นแต่ชาวไร่ชาวนา ไม่ใช่นักรบ พวกเขายังไม่เป็นเอกภาพในการตัดสินใจว่าจะต่อสู้ศัตรูดีหรือไม่ แต่เดโบราห์รู้ว่าชัยชนะนี้มาจากพระเจ้า ผ่านยาเอลภรรยาของเฮเบอร์คนเคไนต์

โดยการนำเสนอเนื้อหาเหมือนการเขียนพระธรรมสดุดี ในพระธรรมผู้วินิจฉัย พวกเขายกย่อง สดุดี สรรเสริญพระเจ้าที่ประทานชัยชนะให้กับพวกเขา

C : Christ in focus

เรามองเห็นพระเยซูเป็นใคร พระองค์ทำอะไรบ้าง ผ่านพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่เราอ่านอย่างไรบ้าง?

พระเยซูสัญญากับเราว่า พระเจ้าทรงช่วยผู้ที่รักพระองค์ให้เกิดผลดีในทุกสิ่ง เงื่อนไขของการรับการช่วยเหลือ หรือการอวยพรจากพระเจ้า ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่มีกับพระเจ้า ในส่วนของพระเจ้าไม่ต้องสงสัยเลยว่า พระเจ้าทรงรักโลกจนประทานพระบุตรองค์เดียวเพื่อเราที่เชื่อทุกคนจะไม่พินาศ แต่ส่วนของเราเมื่อเชื่อพระเยซูแล้ว เรารับเรื่องความรอดนี้ไว้เป็นเรื่องจริงจังในชีวิตหรือไม่ เรารู้จักพระเจ้ามากขึ้นหรือไม่ เรามีความสัมพันธ์ที่ดีใกล้ชิดพระเจ้ามากขึ้นหรือไม่

ส่วนที่เป็นการตอบสนอง การตัดสินใจของเราต่างหากจะเป็นตัวกำหนดว่าเราจะได้รับชัยชนะ ความช่วยเหลือและประสบการณ์ชีวิตที่ได้เห็นความรักของพระเจ้าที่มีต่อชีวิตของเราหรือไม่

T : Transformation

เราต้องการให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราในด้านใดบ้าง?  

 คนของพระเจ้าต้องกลับมาสำรวจความสัมพันธ์ที่มีกับพระเจ้า โดยเฉพาะประเด็นที่ทำให้เกิดปัญหาใหญ่ในชีวิตคือ การมีพระใหม่ หรือพระองค์อื่น ที่ไม่ใช่พระเจ้า หรือการมีสิ่งอื่นที่เป็นรูปเคารพในชีวิตที่เราให้ความสำคัญกว่าพระเจ้า

เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ชีวิตของเราจะเจอปัญหา ทุกข์ยากลำบากของชีวิต

เราลองสำรวจมุมมองของเราว่าเราเห็นพระลักษณะพระเจ้าเป็นอย่างไรในชีวิต โดยมุมมองเหล่านี้ไม่ใช่ได้มาจากความรู้ในการอ่านพระคัมภีร์แต่เพียงอย่างเดียว แต่มาจากการที่เรามีประสบการณ์ชีวิตส่วนตัวกับพระเจ้าในการดำเนินชีวิตประจำวัน

หรือเราเข้าใจแผนการของพระเจ้าในชีวิตของเรามากขึ้นในแต่ละวันหรือไม่ เราสามารถยกย่อง สดุดี สรรเสริญพระเจ้าด้วยความจริงใจ จากประสบการณ์ชีวิตของเราได้ไหม คำถามเหล่านี้กระตุ้นให้เราตระหนักว่าเรามีชีวิตสัมพันธ์สนิทกับพระเจ้ามากขึ้นหรือไม่

S : Serve

เราจะดำเนินชีวิตเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น และต่อพระเจ้าได้อย่างไรบ้าง?

เรียนรู้ที่จะรับใช้พระเจ้าด้วยความเข้าใจพระลักษณะของพระเจ้า แผนการของพระเจ้าที่มีต่อเราเพื่อผู้อื่นอย่างไร เมื่อชีวิตของเรามีพระพรมีประสบการณ์แห่งชัยชนะอะไรบ้างที่พระเจ้าเป็นผู้ช่วยเหลือ

ส่ิงเหล่านี้ทำให้เราเกิดความมั่นใจในพระเจ้าที่เราเชื่อ ทำให้เกิดความรักที่เรามีต่อพระเจ้า ส่งผลสนับสนุนให้เรารับใช้พระเจ้าอย่างมีความสุข

การรับใช้ทำให้เกิดเป็นผลดีกับชีวิตของเราก่อน แล้วคนทั้งหลายจึงสามารถเรียนรู้ที่จะรับพระพรจากพระเจ้า ผ่านชีวิตของเรา

เหมือนพระธรรมตอนนี้ที่เดโบราห์ได้ร้องเพลงสรรเสริญ สาธุการ พระเจ้าจากประสบการณ์ชีวิตส่วนตัวของเธอที่มีกับพระเจ้า แต่เป็นพระพรกับชนชาติอิสราเอลทั้งสิ้น

ขอพระเจ้าอวยพร ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

สนใจติดต่อเรา

www.facebook.com/FORWARD.CH.TH

Email: actsministry2017@gmail.com

บทความก่อนหน้านี้เฝ้าเดี่ยวแบบ A.C.T.S. ผู้วินิจฉัย บทที่ 4:1-24
บทความถัดไปเฝ้าเดี่ยวแบบ A.C.T.S. ผู้วินิจฉัย บทที่ 6:1-27

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่