ผมสนใจเฝ้าเดี่ยวพระธรรมดาเนียล เพราะต้องการเปรียบเทียบว่า อิสราเอลในยุคพระธรรมผู้วินิจฉัยที่ไม่มีกษัตริย์ปกครอง ซึ่งเหมือนกับช่วงเวลาของดาเนียลที่ไม่มีกษัตริย์ปกครองเช่นกัน

แต่มีความแตกต่างกันตรงท่ีพระธรรมผู้วินิจฉัย คนอิสราเอลไม่มีเคยมีประสบการณ์ที่มีกษัตริย์ของยิวปกครองมาก่อน แต่พระธรรมดาเนียลพวกยิวมีประสบการณ์กับการปกครองแบบกษัตริย์แล้ว แต่ในท้ายที่สุดก็ตกเป็นเชลยในบาบิโลน

เรื่องนี้น่าสนใจมาก เรามาเรียนรู้ผ่านการเฝ้าเดี่ยวว่าชีวิตของเราจะให้ใครปกครองระหว่าง

“พระเจ้ากับมนุษย์”

หนุ่มอิสราเอลสี่คนในราชสำนักบาบิโลน

1ในปีที่สามของรัชกาลเยโฮยาคิมกษัตริย์ของยูดาห์ เนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์ของบาบิโลนเสด็จมายังกรุงเยรูซาเล็ม และทรงล้อมเมืองไว้ 2และองค์เจ้านายทรงมอบเยโฮยาคิมกษัตริย์ของยูดาห์ไว้ในหัตถ์ของท่าน พร้อมทั้งภาชนะบางชิ้นแห่งพระนิเวศของพระเจ้า และท่านก็นำภาชนะเหล่านั้นมายังแผ่นดินชินาร์ มายังนิเวศแห่งพระของท่าน และบรรจุภาชนะเหล่านั้นไว้ในคลังของพระของท่าน 3แล้วกษัตริย์นั้นทรงบัญชาอัชเปนัสหัวหน้าขันทีของท่านไปนำคนอิสราเอลบางคน ทั้งเชื้อพระวงศ์และเชื้อสายขุนนาง 4พวกหนุ่มๆ ที่ปราศจากตำหนิ มีรูปร่างหน้าตาดี เชี่ยวชาญในสรรพปัญญา มีความรู้ ความเข้าใจ และความสามารถที่จะรับใช้ในวังกษัตริย์ และทรงให้สอนวรรณคดีและภาษาของคนเคลเดียแก่พวกเขา 5กษัตริย์ทรงกำหนดอาหารชั้นสูงและเหล้าองุ่นซึ่งกษัตริย์เสวยแก่เขาเหล่านั้นทุกวัน พวกเขารับการเลี้ยงดูอยู่สามปี เมื่อครบกำหนดเวลานั้นแล้ว พวกเขาก็เข้ารับราชการ 6ในบรรดาคนเหล่านั้น มีคนเผ่ายูดาห์คือดาเนียล ฮานันยาห์ มิชาเอล และอาซาริยาห์ 7และหัวหน้าขันทีตั้งชื่อให้ใหม่ ดาเนียลนั้นเรียกว่าเบลเทชัสซาร์ ฮานันยาห์เรียกว่าชัดรัค มิชาเอลเรียกว่าเมชาค และอาซาริยาห์เรียกว่าอาเบดเนโก

8แต่ดาเนียลตั้งใจว่าจะไม่ทำให้ตัวเป็นมลทินด้วยอาหารชั้นสูงของกษัตริย์ หรือด้วยเหล้าองุ่นซึ่งพระองค์เสวย ท่านจึงขอหัวหน้าขันทีให้อนุญาตเพื่อท่านจะไม่ทำตัวเองเป็นมลทิน 9และพระเจ้าทรงให้หัวหน้าขันทีชอบและสงสารดาเนียล 10หัวหน้าขันทีกล่าวแก่ดาเนียลว่า “ข้าเกรงว่าพระราชาเจ้านายของข้า ผู้ทรงกำหนดอาหารและเครื่องดื่มของพวกเจ้า จะทอดพระเนตรเห็นว่า พวกเจ้ามีหน้าซูบซีดกว่าบรรดาคนหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน พวกเจ้าก็จะทำให้ชีวิตของข้ามีอันตรายเพราะพระราชา” 11แล้วดาเนียลกล่าวแก่มหาดเล็กผู้ที่หัวหน้าขันทีกำหนดให้ดูแลดาเนียล ฮานันยาห์ มิชาเอล และอาซาริยาห์ว่า 12ขอทดลองผู้รับใช้ของท่านสักสิบวัน ขอนำผักมาให้เรากินและน้ำมาให้เราดื่ม 13แล้วให้ท่านตรวจดูหน้าตาของเรา เทียบกับหน้าตาของบรรดาคนหนุ่มผู้รับประทานอาหารชั้นสูงของพระราชา และเมื่อท่านเห็นอย่างไร แล้วจงทำแก่ผู้รับใช้ของท่านอย่างนั้น” 14เขาก็ยอมทำตามคำขอของคนเหล่านั้นในเรื่องนี้ และทดลองพวกเขาอยู่สิบวัน 15เมื่อครบสิบวันแล้วจึงเห็นว่าบรรดาคนเหล่านั้นรูปร่างหน้าตาดีกว่า และเนื้อหนังเปล่งปลั่งกว่าบรรดาคนหนุ่มที่รับประทานอาหารชั้นสูงของกษัตริย์ 16ดังนั้นมหาดเล็กจึงเอาอาหารชั้นสูงส่วนของพวกเขา และเหล้าองุ่นซึ่งเขาควรจะได้ดื่มนั้นไปเสีย แล้วให้ผักแทน

17คนหนุ่มทั้งสี่คนนี้ พระเจ้าประทานความรู้ ความเข้าใจในวรรณกรรมทั้งปวง และปัญญา และดาเนียลเข้าใจนิมิตและความฝันทุกประการ 

18พอถึงกำหนดเวลาที่กษัตริย์ทรงบัญชาให้นำเขาทั้งหลายเข้าเฝ้า หัวหน้าขันทีจึงนำเขาทั้งหลายเข้ามาเฝ้าเนบูคัดเนสซาร์ 19และกษัตริย์ก็ทรงสัมภาษณ์พวกเขา ในบรรดาคนหนุ่มเหล่านั้นไม่พบสักคนหนึ่งที่เหมือนดาเนียล ฮานันยาห์ มิชาเอล และอาซาริยาห์ เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงได้เข้ารับราชการ 20ในบรรดาเรื่องราวอันเกี่ยวกับปัญญาและความรอบรู้ซึ่งกษัตริย์ตรัสถามพวกเขา ทรงเห็นว่าพวกเขาดีกว่าพวกโหรและพวกหมอดูทั้งหมดซึ่งอยู่ในอาณาจักรของพระองค์สิบเท่า 21และดาเนียลก็ได้รับราชการเรื่อยมาจนต้นรัชกาลกษัตริย์ไซรัส

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับมาตรฐาน 2011 สงวนลิขสิทธิ์ 2011 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai Standard Version 2011 Copyright © 2011 Thailand Bible Society

A : Attitude

เราได้รับความรู้ใหม่ๆ หรือเราได้รับทัศนคติใหม่ๆ จากพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่อ่านเรื่องอะไรบ้าง?

ตอบ คนของพระเจ้าดำเนินชีวิตไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

เพราะเขาดำเนินชีวิตกับพระเจ้าไม่ใช่สถานการณ์

แม้บาบิโลนพยายามเปลี่ยนชีวิตของเขาจากชนชาติของพระเจ้าให้เป็นชนชาติบาบิโลน เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนตัวตน เปลี่ยนวิถีชีวิต เปลี่ยนเจ้านายใหม่ แต่ดาเนียลกับเพื่อนแสดงให้เห็นว่า พระเจ้า ยังคงเป็นศูนย์กลางในชีวิตของพวกเขาเสมอ

C : Christ in focus 

เรามองเห็นพระเยซูเป็นใคร พระองค์ทำอะไรบ้าง ผ่านพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่เราอ่านอย่างไรบ้าง? 

ตอบ พระเยซูคริสต์เป็นพระบุตรของพระเจ้า มาบังเกิดเป็นมนุษย์อยู่ในโลก แต่พระองค์ไม่คิดที่จะเป็นกษัตริย์ที่จะปกครองอิสราเอลในฝ่ายโลก พระองค์ดำเนินชีวิตไม่เป็นของโลก บาปในโลกไม่สามารถทดลองให้พระองค์กระทำผิดได้

ในทางตรงกันข้ามพระองค์สำแดงความเป็นพระเจ้าเพื่อให้เป็นความหวังของคนบาปในโลกที่จะรอดพ้นจากการพิพากษาในวันสุดท้าย เพื่อให้ได้รับชีวิตนิรันดร์

T : Transformation

เราต้องการให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราในด้านใดบ้าง?

ตอบ เราควรดำเนินชีวิตกับพระเจ้าอย่างใกล้ชิด เพื่อจะรักษาชีวิตให้เป็นคนของพระเจ้าได้จนกว่าจะกลับไปอยู่กับพระเจ้า ถ้าเราไม่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้า หรือเราไม่ได้รู้จักพระเจ้าจริงๆ ค่านิยมของโลก ความสนุกเย้ายวนในโลกก็จะล่อลวงให้เราเป็นคนของโลกนี้ ไม่ใช่เป็นคนของพระเจ้า

“คริสเตียนเป็นผู้มีจุดยืนเป็นคนของพระเจ้าที่ดำเนินชีวิตอยู่ในโลกนี้ แต่ไม่เป็นของโลกนี้”

S : Serve  

เราจะดำเนินชีวิตเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น และต่อพระเจ้าได้อย่างไรบ้าง?

ตอบ รับใช้พระเจ้าด้วยการขอสติปัญญา ขอความรู้ ขอความเข้าใจ เมื่อเราต้องเผชิญสถานการณ์ยากลำบาก หรือถูกทดสอบทดลองให้ทำผิดต่อพระเจ้า ขอให้เราผ่านไปได้แบบมีชัยชนะ เกิดผล ประสบความสำเร็จ เพราะมีพระเจ้าประทานความสามารถ ประทานปัญญา ประทานชัยชนะให้กับเรา เหมือนที่ดาเนียลและเพื่อนได้รับ

 

บทความก่อนหน้านี้ซีรี่ส์คำเทศน์ เติบโตผ่านการรับใช้ โดย คริสตจักรอันติโอเกียแบ๊บติสต์(สวนมะลิ)
บทความถัดไปเฝ้าเดี่ยวแบบ A.C.T.S. พระธรรมดาเนียล บทที่2:1-23

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่