.ประยูร ลิมะหุตะเศรณี   

อสย6:1-8 “ มีชีวิตแห่งการสรรเสริญ

อาทิตย์เช้าที่ 14 .. 2019  คริสตจักรสาทร

ในปีที่กษัตริย์อุสซียาห์สิ้นพระชนม์ ข้าพเจ้าเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าประทับณพระที่นั่งสูงและเทิดทูนขึ้น และชายฉลองพระองค์ของพระองค์เต็มพระวิหาร

2 เหนือพระองค์มีเสราฟิมยืนอยู่ แต่ละตนมีปีกหกปีก ใช้สองปีกบังหน้า และสองปีกคลุมเท้า และด้วยสองปีกบินไป

3 ต่างก็ร้องต่อกันและกันว่าบริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ พระเจ้าจอมโยธา แผ่นดินโลกทั้งสิ้นเต็มด้วยพระสิริของพระองค์

4 และรากฐานของธรณีประตูทั้งหลาย ก็สั่นสะเทือนด้วยเสียงของผู้ร้อง และพระนิเวศก็มีควันเต็มไปหมด

5 และข้าพเจ้าว่าวิบัติแก่ข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าพินาศแล้ว เพราะข้าพเจ้าเป็นคนริมฝีปากไม่สะอาด และข้าพเจ้าอยู่ในหมู่ชนชาติที่ริมฝีปากไม่สะอาด เพราะนัยน์ตาของข้าพเจ้าได้เห็นกษัตริย์ คือพระเจ้าจอมโยธา

6 แล้วตนหนึ่งในเสราฟิมบินมาหาข้าพเจ้า ในมือมีถ่านเพลิง ซึ่งเขาเอาคีมคีบมาจากแท่นบูชา

7 และเขาถูกต้องปากของข้าพเจ้าพูดว่าดูเถิด สิ่งนี้ได้ถูกต้องริมฝีปากของเจ้าแล้ว กรรมชั่วของเจ้าก็ถูกยกเสีย และเจ้าก็จะรับการลบมลทินบาป

8 และข้าพเจ้าได้ยินพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่าเราจะใช้ผู้ใดไป และผู้ใดจะไปแทนเราแล้วข้าพเจ้าทูลว่าข้าพระองค์นี่พระเจ้าข้า ขอทรงใช้ข้าพระองค์ไปเถิด

คำนำ

พระธรรมตอนนี้เป็นเรื่องนิมิตของอิสยาห์ เกี่ยวข้องกับการนมัสการพระเจ้าในสวรรค์ หลังจากเหตุการณ์อีกหลายๆศตวรรษ ได้มีอีกท่านหนึ่งเห็นนิมิตในแบบเดียวกันกับอิสยาห์ คือ ยอห์น

วว4:1-11ต่อจากนั้นข้าพเจ้าได้เห็นประตูสวรรค์เปิดอ้าอยู่ และพระสุรเสียงแรกซึ่งข้าพเจ้าได้ยินนั้น ได้ตรัสกับข้าพเจ้าดุจเสียงแตรว่าจงขึ้นมาบนนี้เถิด และเราจะสำแดงให้เจ้าเห็นเหตุการณ์ที่จะต้องเกิดขึ้นในภายหน้า” 2 ในทันใดนั้นพระวิญญาณก็ทรงดลใจข้าพเจ้า และนี่แน่ะ มีพระที่นั่งตั้งอยู่ในสวรรค์และมีท่านองค์หนึ่งประทับบนพระที่นั่งนั้น 3 และท่านผู้ประทับบนพระที่นั่งนั้นปรากฏประดุจแก้วมณีโชติและแก้วทับทิม และมีรุ้งล้อมรอบพระที่นั่งนั้น ดูประหนึ่งแก้วมรกต 4และล้อมรอบพระที่นั่งนั้นมีที่นั่งอีกยี่สิบสี่ที่นั่ง และมีผู้อาวุโสยี่สิบสี่คนนั่งอยู่บนที่นั่งเหล่านั้น ทุกคนนุ่งห่มขาวและสวมมงกุฎทองคำบนศีรษะ 5 มีฟ้าแลบฟ้าร้อง และเสียงต่างๆดังออกมาจากพระที่นั่งนั้น และมีคบเพลิงเจ็ดดวงจุดไว้ตรงหน้าพระที่นั่ง คบเพลิงเหล่านั้นคือวิญญาณทั้งเจ็ดของพระเจ้า 6และตรงหน้าพระที่นั่งนั้นมองดูเหมือนทะเลแก้วผลึกและบริเวณรอบพระที่นั่งทั้งสองข้างนั้น มีสัตว์สี่ตัวซึ่งมีตาเต็มทั้งข้างหน้าและข้างหลัง 7 สัตว์ตัวที่หนึ่งนั้นเหมือนสิงห์ สัตว์ตัวที่สองนั้นเหมือนโค สัตว์ตัวที่สามนั้นมีหน้าเหมือนมนุษย์ และสัตว์ตัวที่สี่เหมือนนกอินทรีกำลังบิน 8 สัตว์ทั้งสี่นั้นมีปีกหกปีกและมีตาทั้งรอบนอกและข้างใน และสัตว์เหล่านั้นร้องตลอดวันตลอดคืนไม่ได้หยุดเลยว่าบริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ พระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด ผู้ได้ทรงดำรงอยู่ในกาลก่อน ผู้ทรงดำรงอยู่ในปัจจุบัน และผู้ซึ่งจะเสด็จมา 9 เมื่อสัตว์เหล่านั้นถวายคำสรรเสริญ ถวายพระเกียรติ และคำโมทนาแด่พระองค์ ผู้ประทับบนพระที่นั่ง ผู้ทรงดำรงอยู่ตลอดไปเป็นนิตย์คราวใด 10 ผู้อาวุโสทั้งยี่สิบสี่นั้นก็ทรุดตัวลงถวายบังคมพระองค์ผู้ประทับบนพระที่นั่งนั้น และนมัสการพระองค์ผู้ทรงดำรงอยู่ตลอดไปเป็นนิตย์ และถอดมงกุฎออกวางตรงหน้าพระที่นั่งร้องว่า 11 “องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์ทรงสมควรที่จะได้รับคำสรรเสริญ พระเกียรติและฤทธิ์เดช เพราะว่าพระองค์ได้ทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งปวง และสรรพสิ่งทั้งปวงนั้นก็ทรงสร้างขึ้นแล้ว และดำรงอยู่ตามชอบพระทัยของพระองค์

นิมิตทั้งสองครั้งนี้ บรรยายให้เห็นเป็นลักษณะของการนมัสการพระเจ้าในสวรรค์เหมือนกัน ต่างกันแต่เพียงแต่ละท่านเห็นนิมิตนี้เป็นคนละสมัยกัน สิ่งที่อิสยาห์เห็นกับสิ่งที่ยอห์นเห็นกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต พระเจ้าเปิดเผยให้เราเห็นการนมัสการในสวรรค์เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับคำสรรเสริญ

เสียงสรรเสริญของเสราฟิม เกี่ยวข้องกับคำว่า บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ ในนิมิตอิสยาห์ เสราฟิมสรรเสริญพระเจ้า สิ่งมีชีวิตในวิวรณ์ของยอห์นสรรเสริญพระเจ้า พระเจ้าสำแดงให้เราเห็นเพราะเยซูสอนให้เราอธิษฐาน ขอให้สิ่งที่พระเจ้าสำแดงกับเราในสวรรค์ให้เป็นสิ่งที่ให้เกิดขึ้นในแผ่นดินโลก ผ่านคำอธิษฐานของพระเยซู 

มธ6:10 ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นไปอย่างนั้นในแผ่นดินโลก

เกี่ยวข้องกับการนมัสการ ขอให้แผ่นดินของพระเจ้ามาตั้งอยู่ แผ่นดินของพระเจ้าเต็มเปี่ยมไปด้วยการนมัสการ ขอให้พระนามของพระเจ้าเป็นที่เคารพสักการะ ขอให้มีการนมัสการในแผ่นดินของพระเจ้า ในสวรรค์เป็นอย่างไรขอให้เป็นอย่างนั้นในแผ่นดินโลก

พระเจ้าเปิดเผยให้เราเห็นการนมัสการในสวรรค์ เพื่อให้การนมัสการเป็นอย่างนั้นในแผ่นดินโลกด้วย พระเจ้าตั้งอณาจักรของพระองค์ในแผ่นดินโลกด้วย เมื่อพระเยซูสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ทำให้ความจริงของอาณาจักรพระเจ้าผ่านการสิ้นพระชนมและเป็นข้ึนจากตายของพระเยซู  การนมัสการแท้จริงเกิดขึ้นได้ก่อให้เกิดชีวิต ถ้าไม่มีการสิ้นพระชนม์ไม่มีใครสามารถเข้าถึงพระเจ้าเที่ยงแท้ได้ พระเจ้าไม่สามารถรับการนมัสการของเราได้ เพราะบริสุทธิ์ไม่พอ แต่เมื่อมีการสิ้น พระชนม์ของพระเยซู ทำให้การนมัสการเกิดขึ้นได้ พระเจ้าอยู่ในแผ่นดินโลกที่พระเจ้าตั้งไว้

เราต้องดำเนินชีวิตในการนมัสการพระเจ้า เหมือนการนมัสการในสวรรค์

จากอิสยาห์นี้ เราจะสรุปผลกระทบที่เกิดขึ้นในทุกครั้งที่เรานมัสการพระเจ้า ในแผ่นดินโลกไม่ว่าจะเป็นเวลาใด ที่ไหน จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

1.เราได้ร่วมนมัสการพระเจ้าเหมือนการนมัสการในสวรรค์

เมื่อเรานมัสการพระเจ้าในแผ่นดินโลกไม่ว่าจะเป็นเวลาใด สถานที่ใด เราก็ได้ร่วมนมัสการพระเจ้าในสวรรค์ด้วย

2. เราได้นำพระที่นั่งของพระเจ้ามาในแผ่นดินโลก (ข้อ1)

อิสยาห์ได้ไปถึงพระที่นั่งของพระเจ้า  หลังจากพระเยซูเป็นขึ้นจากตาย เมื่อพระองค์กำชับเหล่าสาวกแล้วก็เสด็จสู่สวรรค์ มก16:19 ครั้นพระเยซูเจ้าตรัสสั่งเขาแล้ว พระเจ้าก็ทรงรับพระองค์ให้ขึ้นสู่ฟ้าสวรรค์ ประทับเบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า

พระองค์ประทับข้างขวาพระที่นั่งของพระเจ้า  ดังนั้นเมื่อเรานมัสการพระเจ้า เราได้นำพระที่นั่งของพระเจ้า มาอยู่ท่ามกลางเรา เป็นพระที่นั่งอันสูงส่ง น่าเทิดทูน ผู้ที่นั่งเป็นองค์เจ้านาย หมายถึง ผู้ที่อยู่ท่ามกลางเราคือ พระเจ้าสูงส่ง ยิ่งใหญ่ ทรงมีชัยชนะ เป็นพระเจ้าที่ทรงปกครองอยู่ท่ามกลางเรา

ในสมัยอิสราเอลเป็นทาสอยู่ในอียิปต์ พวกเขาไม่มีโอกาสได้นมัสการพระเจ้า เมื่อโมเสสได้รับบัญชาให้ช่วยอิสราเอล ให้พ้นจากการเป็นทาสของอียิปต์ เพื่อพวกเขาจะได้มีชีวิตนมัสการพระเจ้า

อพย5:1-3ต่อมาภายหลังโมเสสกับอาโรนพากันเข้าเฝ้าฟาโรห์ ทูลว่าพระเจ้าของอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า จงปล่อยประชากรของเราไป เพื่อเขาจะได้ทำการเลี้ยงนมัสการเราในถิ่นทุรกันดาร2 ฟาโรห์จึงตรัสว่าพระเจ้านั้นเป็นผู้ใดเล่าเราจึงจะต้องฟังคำของพระองค์และปล่อยคนอิสราเอลไป เราไม่รู้จักพระเจ้า และยิ่งกว่านั้นเราจะไม่ยอมปล่อยคนอิสราเอลไปเป็นอันขาด3 เขาทั้งสองจึงทูลว่าพระเจ้าของคนฮีบรูทรงปรากฏแก่ข้าพระบาท ดังนั้นขอโปรดให้ข้าพระบาททั้งหลายเดินทางไปในถิ่นทุรกันดารสักสามวัน เพื่อจะได้ทำพิธีถวายสัตวบูชาแด่พระเจ้าของข้าพระบาท หาไม่พระองค์จะทรงลงโทษพวกข้าพระบาทด้วยโรคภัย หรือด้วยดาบ

นี่เป็นคำท้าทายของฟาโรห์ และในที่สุดพระเจ้า ชนะกษัตริย์ฟาโรห์ ที่ฟาโรห์กล้าท้าทายพระเจ้า เพราะเขาคิดว่าเขามีพระเจ้าเยอะ มีพระเจ้ายิ่งใหญ่ในอียิปต์ นับประสาอะไรกับพระยาเวห์องค์เดียวของอิสราเอล แต่พระยาเวห์พระเจ้า ชนะพระทุกองค์ในอียิปต์ไม่ใช่แค่ชนะฟาโรห์เท่านั้น

อพย12:12เพราะในคืนวันนั้น เราจะผ่านไปในประเทศอียิปต์ และเราจะประหารลูกหัวปีทั้งหมดในอียิปต์ทั้งของมนุษย์และของสัตว์ และเราจะพิพากษาลงโทษพระทั้งปวงของอียิปต์ เราคือพระเจ้า

พระเจ้าพิพากษาพระท้ังหมด เมื่อเรานมัสการพระเจ้า พระที่นั่งของพระเจ้าอยู่กับเรา

3. การนมัสการทำให้มีการนำการสำนึกบาป การกลับใจใหม่มาสู่ที่ประชุม

อิสยาห์บทต้นๆ จะพบว่าอิสยาห์ต่อต้านคนอิสราเอลที่ทำบาปเพราะเขาคิดว่าเขาเป็นคนชอบธรรมไม่ใช่คนบาป อสย3:9ความลำเอียงของเขาเป็นพยานปรักปรำเขาทั้งหลาย เขาป่าวร้องความผิดของเขาอย่างโสโดม เขามิได้ปิดบังไว้ วิบัติแก่เขา เพราะว่าเขาได้นำความชั่วร้ายมาเหนือตัวเขาเอง

ข้อ11วิบัติแก่คนอธรรม ความร้ายจะตกแก่เขา เพราะว่าสิ่งใดที่มือเขาได้กระทำ เขาจะถูกกระทำเช่นกัน

วิบัติแก่คนอธรรมเพราะสิ่งเลวร้ายจะเกิดกับเขา

อสย5:8 วิบัติแก่ผู้เหล่านั้นที่เสริมบ้านหลังหนึ่งเข้ากับอีกหลังหนึ่ง และเสริมนาเข้ากับนา จนไม่มีที่อีกแล้ว และเจ้าทั้งหลายต้องอยู่ลำพัง ในท่าม กลางแผ่นดินนั้น,11วิบัติแก่คนเหล่านั้นที่ลุกขึ้นแต่เช้ามืด เพื่อวิ่งไปตามเมรัย ผู้เฉื่อยแฉะอยู่จนดึก จนเหล้าองุ่นทำให้เขาเมาหยำเป,18วิบัติแก่คนเหล่านั้นที่ลากความบาปผิดด้วยสายของความเท็จเทียม ผู้ลากบาปอย่างกับใช้เชือกโยงเกวียน,20 วิบัติแก่คนเหล่านั้นที่เรียกความชั่วร้ายว่าความดี และความดีว่าความชั่วร้าย ผู้ถือเอาว่าความมืดเป็นความสว่าง และความสว่างเป็นความมืด ผู้ถือเอาว่าความขมเป็นความหวาน และความหวานเป็นความขม 21 วิบัติแก่คนเหล่านั้นที่ฉลาดในสายตาของตัวและเฉียบแหลมในสายตาของตน 22 วิบัติแก่คนเหล่านั้นที่เป็นวีรชนในการดื่มเหล้าองุ่นและเป็นคนแกล้วกล้าในการประสมเมรัย

คำเทศน์แรงของอิสยาห์ เพราะตัวเองรู้สึกว่าตนเองไม่ใช่คนบาป แต่เมื่อเขานมัสการพระเจ้า เขาเห็นนิมิตการนมัสการในสวรรค์ เขาบอกว่าวิบัติเกิดขึ้นกับเขาแล้ว เพราะเขาเป็นคนบาป

ทุกครั้งที่มีการนมัสการพระเจ้า จะทำให้คนสำนึกบาป กลับใจใหม่จาก บาป แต่เวลาที่เรามีงานคอนเสิรต์นมัสการ มีรายการนมัสการ Music Night ส่วนตัวผมไม่แน่ใจว่าเป็นไปตามหลักการในพระคัมภีร์ไหม ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ขอให้เป็นอย่างนั้นในแผ่นดินโลก ลองสำรวจดูว่ามีกี่คนกลับใจใหม่ มีกี่คนต้องการการชำระล้างบาป มีกี่คนสำนึกในความบาป

4.การนมัสการทำให้ชีวิตแท้จริงจะเกิดขึ้น

หมายถึง สองประการ คือชีวิตได้รับการปลดปล่อยจากทาสบาปเป็นไท และชีวิตที่เต็มไปด้วยบาป ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์   บาปทำให้ตายไม่ได้ทำให้มีชีวิต การปลดปล่อยและชำระให้บริสุทธิ์ทำให้เกิดชีวิตแท้จริง

5.เราได้นำน้ำพระทัยพระเจ้า ที่สำเร็จในสวรรค์มาในโลกด้วย (ข้อ3)

แผ่นดินโลกเต็มด้วยพระสิริของพระเจ้า การนมัสการในสวรรค์ยังมีการ นมัสการแต่เมื่ออิสยาห์ไปร่วมนมัสการในสวรรค์ พระสิริของพระเจ้าในสวรรค์เกิดขึ้นในแผ่นดินโลกด้วย

เราที่เป็นคนของพระเจ้า ควรมีชีวิตการสรรเสริญพระเจ้า ด้วยท่าทีการ นมัสการพระเจ้าตลอดเวลา เพื่อชีวิตของเราจะได้ไปเปิดช่องให้พระสิริของพระเจ้าปรากฎในแผ่นดินโลก ความบริสุทธิ์ของพระเจ้าผ่านมายังชีวิตเราไปปรากฎกับคนอื่น ในสวรรค์เป็นอย่างไร ให้เป็นอย่างนั้นในแผ่นดินโลก

วว4:8 สัตว์ทั้งสี่นั้นมีปีกหกปีกและมีตาทั้งรอบนอกและข้างใน และสัตว์เหล่านั้นร้องตลอดวันตลอดคืนไม่ได้หยุดเลยว่าบริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ พระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด ผู้ได้ทรงดำรงอยู่ในกาลก่อน ผู้ทรงดำรงอยู่ในปัจจุบัน และผู้ซึ่งจะเสด็จมา

ขยายความจากอิสยาห์ คือ เขาร้องตลอดวันตลอดคืนไม่หยุดเลย ในสวรรค์สรรเสริญพระเจ้า ตลอดวันตลอดคืนในสวรรค์นมัสการพระเจ้า ไม่หยุดเลย

ใครที่จะสามารถนมัสการพระเจ้าได้ คือ คนที่เกิดใหม่จากการตายและคืนพระชนม์ของพระเยซู เราควรเป็นคนที่รักการนมัสการพระเจ้า ตลอดวันตลอดคืน ไม่หยุดเลย ให้เป็นไปตามคำอธิษฐานของพระเยซู สวรรค์เป็นอย่างไรให้เป็นอย่างนั้นในแผ่นดินโลก

เราลองสำรวจตนเองว่ามีความบกพร่องไหมในการนมัสการพระเจ้า ตลอดวันตลอดคืน ขอให้เราเห็นคนที่มีชีวิตการนมัสการพระเจ้าเหมือนการนมัสการในสวรรค์  ให้เรามาศึกษาเหตุผล ทำไมเราต้องสรรเสริญพระเจ้า ตลอดไป 4 ประการ

1.พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่ (ข้อ1)

กษัตริย์อุซียาห์ตายแต่พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่ อิสยาห์เขาได้เห็น พระเจ้า เห็นพระที่นั่ง เราสรรเสริญพระเจ้าเพราะพระองค์ทรงพระชนม์อยู่ 

ดนล4:34เมื่อสิ้นสุดวาระนั้นแล้ว ตัวเราเนบูคัดเนสซาร์ก็แหงนหน้าดูฟ้าสวรรค์ และจิตปกติของเราก็คืนมา และเราก็สาธุการแด่ผู้สูงสุดนั้น และสรรเสริญถวายเกียรติยศแด่พระองค์ผู้ดำรงอยู่เป็นนิตย์ เพราะราชอาณาจักรของพระองค์ เป็นราชอาณาจักรนิรันดร์และแผ่นดินของพระองค์ดำรงอยู่ทุกชั่วอายุ

นี่เป็นคำสารภาพของกษัตริย์ที่ตั้งตัวเป็นพระเจ้า เขาเป็นคนฉลาดมาก มีเรื่องไสยศาสตร์เต็มเมืองบาบิโลน แต่เนบูคัดเนซาร์ไม่เชื่อพระเจ้า เขามีโหรมากมายอาศัยแนวทางไสยศาสตร์มาขู่เนบูคัดเนซาร์ แต่แกไม่กลัว วันหนึ่งแกฝันด้วยความฉลาดรู้ว่าฝันนี้ไม่ธรรมดา แต่ไม่ยอมเล่าความฝันเหมือนครั้งก่อนๆที่ผ่านมา แกต้องการรู้ว่าพระองค์ไหนเจ๋งจริงต้องรู้เรื่องนี้และบอกได้ว่า ผมฝันเห็นอะไร พวกโหรบอกว่าไม่มีใครสามารถบอกได้ ถ้าอย่างนั้นเนบูสั่งให้ฆ่าโหรให้หมด เนบูคัดเนซาร์ตั้งตนเองเป็นพระเจ้าฆ่าสมุนของพระต่างๆ แต่เมื่อเขามีประสบการณ์กับพระเจ้าองค์เที่ยงแท้ เขาจึงสรรเสริญพระเจ้า และได้ยอมสวามิภักดิ์ต่อพระเจ้า

ดนล6:26เราออกกฤษฎีกาว่าให้คนทั้งหลายสั่นสะท้านและยำ เกรงพระเจ้าของดาเนียล ในราชอาณาจักรของเราทั้งหมดเพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ ทรงดำรงอยู่เป็นนิตย์ แผ่นดินของพระองค์จะไม่ถูกทำลาย และราชอาณาจักรของพระองค์จะดำรงจนถึงที่สุด

กษัตริย์ดาริอัสก็ยอมรับพระเจ้าของดาเนียล ถ้าคนไม่เอาพระเจ้า คนไม่เชื่อพระเจ้ายังสรรเสริญพระเจ้า แล้วคนของพระเจ้าทำอะไรอยู่ กษัตริย์หลายคนตายแล้ว แต่พระเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ เราจึงสมควรนมัสการพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงพระชนม์อยู่

 

2.ทรงเป็นพระเจ้ายิ่งใหญ่สูงสุด

พระที่นั่งของพระองค์อยู่สูงส่ง รับการเทิดทูน

อฟ1:20-22ซึ่งพระองค์ได้ทรงกระทำในพระคริสต์ เมื่อทรงชุบให้พระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย และให้สถิตเบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์ในสวรรคสถาน 21 สูงยิ่งเหนือบรรดาเทพผู้ครอง เหนือศักดิเทพ เหนืออิทธิเทพ เหนือเทพอาณาจักร และเหนือนามทั้งปวงที่เขาเอ่ยขึ้น มิใช่ในยุคนี้เท่านั้น แต่ในยุคที่จะมาถึงด้วย 22 พระเจ้าได้ทรงปราบสิ่งสารพัดลงไว้ใต้พระบาทของพระคริสต์ และได้ทรงตั้งพระองค์ไว้เป็นประมุขเหนือสิ่งสารพัดแห่งคริสตจักร 

พระเยซู ได้รับการยกให้สูงเหนือนามใด

3.พระเจ้าเป็นพระเจ้าผู้บริสุทธิ์

อิสยาห์และเสราฟิมสรรเสริญพระเจ้า บนความบริสุทธิ์ๆๆของพระเจ้า  เราสร้างอารมณ์ตนเองให้บริสุทธิ์ในการนมัสการไม่ได้ เพราะเราไม่บริสุทธิ์ เราไม่สามารถทำได้ ค่าจ้างของความบาปคือความตาย และพระเจ้าให้เรามีส่วนในความบริสุทธิ์เพื่อเราจะมีชีวิต

1ปต1:15-16 แต่เพราะพระองค์ผู้ทรงเรียกท่านทั้งหลายนั้นบริสุทธิ์ ท่านทั้งหลายจงประพฤติให้บริสุทธิ์พร้อมทุกประการ 16 ดังที่มีพระวจนะเขียนไว้แล้วว่า ท่านทั้งหลายจงเป็นคนบริสุทธิ์ เพราะเราบริสุทธิ์

เป็นคนบริสุทธิ์เหมือนพระเจ้าที่บริสุทธิ์ ถ้าเราอยากมีชีวิตต้องบริสุทธิ์แบบพระเจ้า

4.พระเจ้าทรงฤทธานุภาพสูงสุด (3)

พระยาเวห์จอมทัพ แผ่นดินโลกเต็มด้วยพระสิริ หมายถึง การแสดงฤทธานุภาพยิ่งใหญ่ของพระเจ้า

วว4:8 สัตว์ทั้งสี่นั้นมีปีกหกปีกและมีตาทั้งรอบนอกและข้างใน และสัตว์เหล่านั้นร้องตลอดวันตลอดคืนไม่ได้หยุดเลยว่าบริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ พระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด ผู้ได้ทรงดำรงอยู่ในกาลก่อน ผู้ทรงดำรงอยู่ในปัจจุบัน และผู้ซึ่งจะเสด็จมา 

ทรงฤทธานุภาพสูงสุด ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่จุดเล็กๆในการบันทึกของพระคัมภีร์ ให้เหตุผลสนับสนุนว่าเราควรมีชีวิตในการสรรเสริญพระเจ้าอย่างไร เราด้อยในเรื่องการนมัสการตลอดวันตลอดคืนหรือไม่ ตลอด ชีวิตไม่หยุดเลยในการสรรเสริญนมัสการพระเจ้า เราทำได้ไหม ขอสรุปจบคำเทศนาด้วยพระคัมภีร์

1พศด16:25 เพราะพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่ และสมควรจะสรรเสริญอย่างยิ่ง พระองค์ทรงเป็นที่เกรงกลัวเหนือพระทั้งปวง

ข้อ34-36 จงโมทนาขอบพระคุณพระเจ้าเพราะพระองค์ประเสริฐเพราะ ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์ 35 และท่านจงกล่าวว่าข้าแต่พระเจ้าแห่งความรอดของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอจงช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายให้รอด และขอทรงรวบรวมข้าพระองค์ทั้งหลายและทรงช่วยข้าพระองค์ทั้งปวง จากประชาชาติทั้งหลาย เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะโมทนาขอบพระคุณพระนามบริสุทธิ์ของพระองค์ และลิงโลดในการสรรเสริญพระองค์36 จงถวายสาธุการแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอลแต่นิรันดร์กาลจนถึงนิรันดร์กาล แล้วประชาชนทั้งปวงได้กล่าวว่าอาเมนและได้ซ้องสรรเสริญพระเจ้า

พระยาเวห์ยิ่งใหญ่ทรงสมควรรับการสรรเสริญอย่างยิ่ง

ให้เราร่วมใจอธิษฐาน

สนใจติดต่อเรา หรือเชิญให้เทศนา ให้สอนหรือให้อบรม

www.facebook.com/FORWARD.CH.TH

Email: actsministry2017@gmail.com

 

บทความก่อนหน้านี้แสวงหาพระเจ้าผ่านการอ่านพระคัมภีร์
บทความถัดไปเฝ้าเดี่ยวแบบ A.C.T.S. โครงร่างพระธรรมยากอบ

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่