หน้าแรก คำสอน ร่วมพันธกิจ สอน 3  พันธกิจกับผู้เชื่อ รม15:22-33

สอน 3  พันธกิจกับผู้เชื่อ รม15:22-33

4601
0

.ประยูร ลิมะหุตะเศรณี   ค่ายพระสิริ “ร่วมพันธกิจ สู่นิมิตปี 2020″

สอน 3  พันธกิจกับผู้เชื่อ รม15:22-33

พุธสายที่  3 เม.. 2019  คริสตจักรพระกิตติคุณสมบูรณ์ภาคใต้

คำนำ

ส่ิงที่เราควรรู้ 7 ประการ  เกี่ยวกับพันธกิจที่เราจะร่วมทำกับพระเจ้า

1.พันธกิจทุกชนิดขึ้นอยู่กับพระคุณของพระเจ้า (15-16)

รม15:15-16 แต่การที่ข้าพเจ้ากล้าเขียนบางเรื่องถึงท่าน เพื่อเตือนความจำของท่าน ก็เนื่องจากพระคุณของพระเจ้าที่ได้ประทานแก่ข้าพเจ้า 16เพื่อให้เป็นผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์ไปยังคนต่างชาติ และทำหน้าที่ปุโรหิตฝ่ายข่าวประเสริฐของพระเจ้า เพื่อคนต่างชาติจะเป็นเครื่องบูชาที่ชอบพระทัย คือเป็นที่ชำระไว้โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ 

ส่ิงแรกที่เราทั้งหลายจะต้องรู้อย่างชัดเจนคือ ในท่ามกลางพวกเราไม่มีใครซักคนเดียวที่มีคุณสมบัติเพียงพอกับการทำพันธกิจของพระเจ้า

แต่พระเจ้าทรงให้เราทั้งหลายได้มีส่วนในพันธกิจต่างๆ ก็โดยพระคุณพระเจ้าล้วนๆ

อยากให้ลองชิมความดีของพระเจ้า คำว่า ชิม ไม่ใช่แปลว่า ลอง แต่หมายถึง ให้มาเป็นคริสเตียนจริงๆ ให้มารับเชื่อจริงๆเลย แล้วจะรู้ว่าพระเจ้าดียังไง ไม่ใช่แค่มาเชื่อเล่นๆ มาลองๆเล่นๆ คนไทยขี้เล่น อะไรๆก็เล่นไปหมด เช่น เล่นหุ้น เล่นหวย ไม่พอใจใครก็เล่นงาน กินเล่นๆ เดินเล่น แต่มาเชื่อพระเจ้า เดินกับพระเจ้า ขออย่าเชื่อเล่นๆ ขอให้ไม่เชื่อเล่นๆ ทุกอย่างต้องจริงจัง แต่ไม่เครียด

พันธกิจเป็นของพระเจ้าเป็นพระคุณ ซ้อนพระคุณ

รม1:5-6โดยทางพระองค์นั้นพวกข้าพเจ้าได้รับพระคุณและหน้าที่เป็นอัครทูต เพื่อเห็นแก่พระนามของพระองค์ ให้ไปประกาศแก่ชนทุกชาติให้เขาวางใจและเชื่อฟัง 6รวมทั้งพวกท่านที่พระเจ้าทรงเรียกให้เป็นคนของพระเยซูคริสต์ด้วย

เปาโลได้รับพระคุณในการเป็นอัครฑูตเพื่อร่วมพันธกิจกับพระเจ้า 

กจ18:27เมื่ออปอลโลต้องการจะข้ามไปยังแคว้นอาคายา พี่น้องก็หนุนใจท่านและเขียนจดหมายฝากไปถึงสาวกที่นั่นให้รับรองท่านไว้ เมื่อไปถึงแล้วท่านก็ได้ช่วยเหลือคนทั้งหลายที่เชื่อโดยพระคุณของพระเจ้าอย่างมากมาย 

ช่วยคนทั้งหลายที่เชื่อโดยพระคุณ

อฟ2:8-9 เพราะว่าท่านทั้งหลายได้รับความรอดแล้วด้วยพระคุณโดยทางความเชื่อ ความรอดนี้ไม่ใช่มาจากตัวท่าน แต่เป็นของประทานจากพระเจ้า 9ไม่ใช่มาจากการกระทำ เพื่อไม่ให้ใครอวดได้

รอดโดยพระคุณ

กท1:6 ข้าพเจ้ารู้สึกประหลาดใจที่พวกท่านด่วนละทิ้งพระองค์ผู้ซึ่งทรงเรียกท่านมาโดยพระคุณของพระคริสต์ และหันไปหาข่าวประเสริฐอื่นเสีย 

เรียกมาโดยพระคุณ

เรื่องอื่นๆที่คนอื่นๆทำดีกับเรา เราสำนึกในพระคุณของคน แต่กับพระเจ้าเมื่อพระองค์ทำดีต่อเรา เราสำนึกพระคุณพระเจ้า หรือไม่

ทต3:7 เพื่อว่าเมื่อเราถูกชำระให้ชอบธรรมโดยพระคุณของพระองค์แล้ว ก็จะได้เป็นผู้รับมรดกตามที่หวังไว้คือชีวิตนิรันดร์

เป็นคนชอบธรรมแล้วโดยพระคุณ

2ทธ2:1เพราะฉะนั้นบุตรของข้าพเจ้าเอ๋ย จงเข้มแข็งขึ้นด้วยพระคุณซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์ 

เข้มแข็งขึ้นด้วยพระคุณ คนอ่อนแอ มักจะสะดุดบ่อยๆ คนอ่อนแอล้มง่ายแต่ลุกขึ้นยาก เพราะเราไม่ได้เข้าไปในพระคุณพระเจ้า ความเข้มแข็งมาจากการตอบสนองพระคุณของพระเจ้า

ฮบ12:15จงระวังให้ดี อย่าให้ใครขาดจากพระคุณของพระเจ้า และอย่าให้มีรากขมขื่นงอกขึ้นมา ก่อความยุ่งยากให้และทำให้หลายคนเป็นมลทิน

ระวังให้ดีอย่าให้ใครขาดจากพระคุณพระเจ้า อย่าเพิกเฉยต่อพระคุณพระเจ้า เราทำอย่างนั้นบ้างไหม การไม่ร่วมพันธกิจของพระเจ้า คือ การเพิกเฉยต่อพระคุณ การเกิดผลเป็นประโยชน์ต่อคนอื่น ไม่ใช่ประโยชน์ต่อตนเอง การร่วมพันธกิจ เป็นประโยชน์ต่อคนอื่น อย่าเพิกเฉยต่อพระคุณของพระเจ้า

ในด้านนี้พระคุณ หมายถึง พระเจ้าทรงรู้จุดอ่อนและความบกพร่องของผมทุกอย่างในชีวิตของผม แต่พระองค์ ยังเลือกผมให้เข้ามามีส่วนร่วมในพันธกิจของพระองค์

ดังนั้นการที่พระเจ้าทรงเลือกผมให้มีส่วนในการรับใช้ พระเจ้าไม่ได้หมายความว่าเราต้องเป็นคนดีพร้อมแล้วทุกเรื่อง พระคุณพระเจ้าในด้านนี้ คือ พระเจ้าทรงใช้คนที่ไม่สมบูรณ์อย่างพวกเราทั้งหลายได้

เพราะฉะนั้นเราต้องตระหนักอยู่ตลอดเวลาในขณะที่อยู่ในพันธกิจของพระเจ้าว่า พระคุณ พระคุณ ทุกสิ่งทุกอย่างที่พระเจ้าทรงทำในชีวิตของเราทั้งหลาย เพื่อเราทั้งหลาย และผ่านชีวิตของเราทั้งหลายนั้น โดยพระคุณเพราะความเชื่อ ไม่ใช่มาจากคุณงามความดีอะไรในชีวิตของเราสักอย่างเดียว เพราะชีวิตของเราไม่มีอะไรดีเลย รม3:23เพราะว่าทุกคนทำบาป และเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า

สอง พันธกิจสร้างขึ้นบนพระวจนะของพระเจ้า

รม15:16 เพื่อให้เป็นผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์ไปยังคนต่างชาติ และทำหน้าที่ปุโรหิตฝ่ายข่าวประเสริฐของพระเจ้า เพื่อคนต่างชาติจะเป็นเครื่องบูชาที่ชอบพระทัย คือเป็นที่ชำระไว้โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์

ข่าวประเสริฐคือ พระวจนะของพระเจ้า

ข้อ18เพราะว่าข้าพเจ้าไม่มีสิทธิ์อ้างสิ่งใด นอกจากสิ่งซึ่งพระคริสต์ได้ทรงทำ โดยทรงใช้ข้าพเจ้าทางคำสอนและการกระทำ เพื่อจะให้คนต่างชาติเชื่อฟัง

พระเจ้าใช้เปาโลทางคำสอน และการกระทำ เพื่อให้คนต่างชาติเชื่อฟัง

กจ20:32บัดนี้ข้าพเจ้าฝากท่านไว้กับพระเจ้าและกับคำแห่งพระคุณของพระองค์ซึ่งสามารถก่อสร้างท่านขึ้นได้และให้ท่านมีมรดกด้วยกันกับบรรดาธรรมิกชน 

ฝากไว้กับคำแห่งพระคุณ ซึ่งสามารถก่อสร้างท่านขึ้นได้

สาม พันธกิจต้องทำเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า

เราทั้งหลายที่เป็นผู้รับใช้พระเจ้า ต่างก็รู้อยู่แก่ใจเป็นอย่างดีว่า พระเจ้า ทรงทำกิจของพระองค์ผ่านคน เมื่อคนของพระเจ้าก้าวเข้ามาสู่พันธกิจของพระองค์ ตามของประทานที่พระเจ้าทรงประทานให้ ของประทานดังกล่าวจะได้รับการพัฒนา และยิ่งมีความขยันขันแข็งในการรับใช้พระองค์มากเท่าใด ของประทานก็ยิ่งได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น ดีขึ้น เพราะนี่เป็นความจริงของของประทานฝ่ายจิตวิญญาณยิ่งรับใช้ ยิ่งได้รับการพัฒนามาก

ดังนั้นเพราะความสำเร็จทุกอย่างมาจากพระเจ้า จงถวายเกียรติคืนแด่พระเจ้า ส่ิงที่เกิดขึ้นตามมาคือ ความถ่อมใจในการรับใช้พระเจ้า ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในเรื่องการถวายเกียรติแด่พระเจ้า จากประสบการณ์ชีวิตการทำพันธกิจของเรา ต้องไม่มีอะไรที่เราแอบนำมาเพื่อยกย่องตัวเองโดยเด็ดขาด

2ธส1:11-12 เพราะเหตุนี้ เราจึงอธิษฐานเพื่อพวกท่านเสมอ ขอพระเจ้าของเราทรงให้ท่านเป็นผู้ที่สมควรแก่การทรงเรียกนั้น และขอพระองค์ทรงให้ความตั้งใจดีทุกประการ และกิจการแห่งความเชื่อทุกอย่างสำเร็จด้วยฤทธิ์เดชของพระองค์ 12เพื่อพระนามของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราจะได้รับพระเกียรติเพราะท่านทั้งหลาย และท่านจะได้รับเกียรติเพราะพระองค์ ตามพระคุณแห่งพระเจ้าของเรา และแห่งพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า

เพื่อพระนามของพระเยซูจะได้รับเกียรติตามพระคุณ  มีสามประการย่อยในเรื่องความสำเร็จที่มาจากฤทธิ์เดชของพระเจ้า

หนึ่ง) มีชีวิตที่สมควรกับการทรงเรียก

ไม่ทำบาป พระเจ้าเรียกออกจากความบาปแล้ว ไม่กลับไปทำบาป อีก ไม่กลับไปดำเนินชีวิตในความบาปอีก

สอง) ความตั้งใจดีทุกประการ

คนทุกคนมีทั้งใจดีและไม่ดี แต่พระเจ้าใส่ใจความตั้งใจดีทุกประการให้กับคนที่อยู่ในพระเจ้ามีแต่ความตั้งใจดี ความไม่ดีไม่มีปรากฎ

สาม) กิจการแห่งความเชื่อทุกประการ

มาจากการเปลี่ยนความตั้งใจเป็นการกระทำ ตั้งใจดีการกระทำก็ดี ไม่มีเนื้อหนัง ข้อ12 สำเร็จเพื่อพระเยซูจะได้รับเกียรติ ตามพระคุณของพระเจ้า พระองค์แบ่งเกียรตินั้นให้เราด้วย ในฐานะเป็นอวัยวะในพระกาย

สี่ พันธกิจของพระเจ้า ต้องทำด้วยฤทธิ์เดชของพระเจ้า

รม15:19คือด้วยอิทธิฤทธิ์แห่งหมายสำคัญและการอัศจรรย์ ในฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณของพระเจ้าจนข้าพเจ้าได้ประกาศข่าวประเสริฐของพระคริสต์อย่างถ้วนถี่ ตั้งแต่กรุงเยรูซาเล็มอ้อมไปยังเมืองอิลลีริคุม

เพนเทคอสปัจจุบันนี้ทำไมหมดฤทธิ์เดชไป แท้จริงเรื่องการอัศจรรย์เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพระเจ้า เมื่อเรามาร่วมพันธกิจกับพระเจ้า งานจะสำเร็จได้ไม่ยาก ไม่ฝืด ถ้าเราไปด้วยฤทธิ์เดชของพระเจ้า มีใครจะรับใช้โดยไม่ใช้ฤทธิ์เดชของพระเจ้าแล้วจะประสบความสำเร็จได้บ้าง  คำตอบคือ ไม่มี ทุกๆก้าวที่เราไปมีฤทธิ์เดชของพระเจ้า แล้วเราจะหยุดรับใช้ทำไม สะดุดทำไม

กจ1:8 แต่พวกท่านจะได้รับพระราชทานฤทธานุภาพ เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็นสักขีพยานของเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย ทั่วแคว้นสะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก

พระเยซูตรัสกับสาวกก่อนเสด็จสู่สวรรค์ ให้รับฤทธิ์เดชก่อนรับใช้

มธ28:18-20 พระเยซูจึงเสด็จเข้ามาใกล้แล้วตรัสกับพวกเขาว่าสิทธิอำนาจทั้งหมดในสวรรค์ก็ดี ในแผ่นดินโลกก็ดีทรงมอบไว้แก่เราแล้ว 19เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงออกไปและนำชนทุกชาติมาเป็นสาวกของเรา จงบัพติศมาพวกเขาในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ 20และสอนพวกเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดที่เราสั่งพวกท่านไว้ และนี่แน่ะ เราจะอยู่กับท่านทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค

พระเยซูให้สาวกออกไปสั่งสอนชนทุกชาติ แต่ให้รอรับฤทธิ์เดชก่อน แล้วค่อยก้าวออกไป เริ่มจากเยรูซาเล็ม ยูเดีย สะมาเรีย ประจวบคีรีขันธ์ ถ้าสาวกไม่ได้รับฤทธิ์เดชเขาก็ยังสามารถเป็นพยานได้ ช่วงเวลานั้นเป็นเวลาที่เขาคลุกคลีใกล้ชิดอยู่กับพระเยซู พวกสาวกเขาสามารถเป็นพยานเรื่องพระเยซูได้ เรื่องการตาย การเป็นขึ้นจากตาย แต่จะเป็นพยานแบบเล่าประวัติศาสตร์ แต่ไม่มีชีวิต

งานของเราไม่ใช่การเล่าเรื่องประวัติศาสตร์พระเยซู

พระองค์ต้อง การให้สาวกออกไปประกาศด้วยถ้อยคำแห่งพระคุณเพื่อนำชีวิตมาสู่เพื่อฟัง ได้ชีวิตใหม่ในพระคริสต์ จากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ไม่ใช่จากเรื่องราวประวัติศาสตร์ แต่ด้วยฤทธิ์เดชที่มาจากพระเจ้า ผ่านการใช้เวลากับพระเจ้าส่วนตัว

ศคย4:6 แล้วท่านจึงตอบข้าพเจ้าว่านี่เป็นพระวจนะของพระยาห์เวห์ที่ให้ไว้กับเศรุบบาเบล ว่า ไม่ใช่ด้วยกำลัง ไม่ใช่ด้วยฤทธานุภาพ แต่ด้วยวิญญาณของเรา พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้แหละ 

1คร2:1-5 พี่น้องทั้งหลาย เมื่อข้าพเจ้ามาหาท่านเพื่อประกาศความล้ำลึกของพระเจ้าแก่พวกท่านนั้น ข้าพเจ้าไม่ได้มาด้วยถ้อยคำหวานหูหรือด้วยความฉลาดปราดเปรื่อง 2เพราะข้าพเจ้าตั้งใจว่าจะไม่แสดงความรู้เรื่องใดๆ ในหมู่พวกท่านเลย เว้นแต่เรื่องพระเยซูคริสต์และการที่พระองค์ทรงถูกตรึงที่กางเขน 3และข้าพเจ้ามาหาท่านทั้งหลายด้วยความอ่อนแอ ด้วยความกลัวและความหวาดหวั่นมาก 4คำพูดและคำเทศนาของข้าพเจ้าไม่ใช่เป็นการ พูดชักชวนด้วยปัญญาแต่เป็นการสำแดงพระวิญญาณและฤทธานุภาพ 5เพื่อความเชื่อของพวกท่านจะไม่ขึ้นกับปัญญาของมนุษย์ แต่ขึ้นกับฤทธิ์เดชของพระเจ้า

การพูดด้วยการสำแดงพระวิญญาณและฤทธานุภาพ ไม่ใช่การพูดด้วยปัญญาอย่างชาญฉลาด หลายคนเวลาไปเป็นพยานบอกว่าใครจะเชื่อในส่ิงที่ฉันพูด แต่คนจะเชื่อได้ด้วยฤทธิ์เดชของพระเจ้า

ห้า พันธกิจของพระเจ้า ดำเนินไปตามน้ำพระทัยพระเจ้า

รม15:19-20 คือด้วยอิทธิฤทธิ์แห่งหมายสำคัญและการอัศจรรย์ ในฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณของพระเจ้า จนข้าพเจ้าได้ประกาศข่าวประเสริฐของพระคริสต์อย่างถ้วนถี่ ตั้งแต่กรุงเยรูซาเล็มอ้อมไปยังเมืองอิลลีริคุม 20อันที่จริงข้าพเจ้าได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะประกาศข่าวประเสริฐในที่ซึ่งไม่เคยมีใครออกพระนามพระคริสต์มาก่อน เพื่อข้าพเจ้าจะได้ไม่ก่อขึ้นบนรากฐานที่คนอื่นได้วางไว้ก่อนแล้ว 

เรียนรู้เดินตามน้ำพระทัยพระเจ้า ในการทำพันธกิจ สอง ประการ

ประการแรก ข่าวประเสริฐอย่างถ้วนถี่(19)

แปลความว่า ประกาศข่าวประเสริฐอย่างสมบูรณ์ คือ ไม่อยู่เพื่อตนเองอีกต่อไปแต่เพื่อคนอื่น เรื่องที่พระเยซูมาตายไถ่บาป เป็นขึ้นจากตาย เพื่อให้เรารอด เราจึงมารับใช้ รับฤทธิ์เดช เพื่อประกาศข่าวประเสริฐต่อไป ไม่ใช่มาเชื่อเพื่อจะรับพระพรอย่างเดียว หรือมาแค่นมัสการอย่างเดียว

ข้อ32เพื่อข้าพเจ้าจะได้มาหาท่านตามพระประสงค์ของพระเจ้า ด้วยความชื่นชมยินดี และมีความชื่นบานที่ได้พบท่าน

มาตามพระประสงค์ของพระเจ้า

ประการที่สอง ประกาศข่าวประเสริฐในที่ซึ่งไม่มีใครไปประกาศมาก่อน

ไปในที่ที่ไม่มีคนเชื่อ คริสตจักรไม่ควรมีปัญหาเรื่องการแย่งลูกแกะของกันและกัน เพราะประกาศข่าวประเสริฐให้กับคนที่ไม่เคยได้ยินเรื่องของพระเจ้าได้ ก็จะมีลูกแกะใหม่ๆเพิ่มขึ้น ไม่ต้องแย่งกัน

หก พันธกิจของพระเจ้า ต้องได้รับการสนับสนุนจากคนของพระเจ้า

รม15:24เมื่อข้าพเจ้าจะไปประเทศสเปน ข้าพเจ้าจะแวะมาหาพวกท่าน เพราะข้าพเจ้าหวังว่าจะได้พบท่านขณะที่ไปตามทางนั้น และเมื่ออิ่มใจอยู่กับท่านทั้งหลายบ้างแล้ว หวังว่าท่านจะช่วยจัดส่งให้ข้าพเจ้าเดินทางต่อไป 

หวังว่าท่านจะช่วยจัดส่งให้ข้าพเจ้าไปต่อ งานของพระเจ้า มอบให้พระกายรับผิดชอบ ดังนั้นทุกอวัยวะต้องมีส่วนร่วมในพันธกิจ ช่วยสนับสนุนส่งเสริม ให้คนมาเชื่อพระเจ้า ให้ผู้เช่ือเติบโตขึ้น

รม15:27-32 คริสตจักรเหล่านี้ยินดีจะทำเช่นนี้ ที่จริงพวกเขาก็เป็นหนี้ธรรมิกชนเหล่านั้นด้วย เพราะเมื่อคนต่างชาติเข้าส่วนกับชาวเยรูซาเล็มในของประทานฝ่ายวิญญาณจิต ก็เป็นการสมควรที่พวกเขาจะได้ปรนนิบัติชาวเยรูซาเล็มด้วยสิ่งของฝ่ายเนื้อหนัง 28เมื่อข้าพเจ้าไปส่งเงินเรี่ยไรแก่พวกเขาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะเดินทางไปประเทศสเปนโดยแวะเยี่ยมท่านตามทาง 29และข้าพเจ้ารู้ว่า เมื่อมาหาท่านนั้น ข้าพเจ้าจะมาพร้อมด้วยพรอันบริบูรณ์ของพระคริสต์

30พี่น้องทั้งหลาย โดยพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา และโดยความรักของพระวิญญาณ ข้าพเจ้าวิงวอนขอให้ท่านร่วมอธิษฐานต่อพระเจ้าด้วยใจกระตือรือร้นเพื่อข้าพเจ้า 31ที่ข้าพเจ้าจะพ้นจากมือของคนในแคว้นยูเดียที่ไม่เชื่อ และเพื่อพันธกิจซึ่งข้าพเจ้าทำที่กรุงเยรูซาเล็มจะเป็นที่พอใจของธรรมิกชน 32เพื่อข้าพเจ้าจะได้มาหาท่านตามพระประสงค์ของพระเจ้า ด้วยความชื่นชมยินดี และมีความชื่นบานที่ได้พบท่าน

แรงสนับสนุนสองด้าน คือ ด้านปัจจัยกำลังทรัพย์(24-29) กับด้านการ อธิษฐาน(30)

แต่ในที่สุดเราพบว่าพระเจ้าจัดเตรียมให้อ.เปาโลไปโรมเพื่อประกาศกับทหารโรม มีทหารคุ้มกัน มีอาหารกิน .เปาโลเดินทางไปโรมโดยไม่ต้องใช้งบประมาณของพระกายเลย

ขอให้เราร่วมพันธกิจกับพระเจ้า โดยทำตามพระเจ้าให้ทำ อย่าทำให้พระเจ้า ตัวอย่างสมาชิกในคริสตจักรต้องการทาสีคริสตจักรให้สวยงาม ได้เลือกทาสีฟ้าอ่อน แต่อีกกลุ่มหนึ่งต้องการทาสีเขียวส้ม ในที่สุดทำให้เกิดการแตกแยกในคริสตจักรทั้งๆที่ต้องการทำงานให้พระเจ้า  ขอให้เราทำงานที่พระเจ้าให้ทำดีกว่า เพื่องานจะสำเร็จลุล่วงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

บทความก่อนหน้านี้สอน 2 รม15:14-21 “พันธกิจสำหรับคนที่ไม่เชื่อ”
บทความถัดไปสอน 4  2ทธ 2:20-21 “ ภาชนะที่ใช้ร่วมพันธกิจ ”

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่