หน้าแรก คำเทศน์ พันธสัญญาใหม่ ลก15:1-10 รักให้เหมือนที่พระเจ้ารัก

ลก15:1-10 รักให้เหมือนที่พระเจ้ารัก

2399
0
Book love

.ประยูร ลิมะหุตะเศรณี เทศนาเช้า 

ลก15:1-10 รักให้เหมือนที่พระเจ้ารัก

อาทิตย์เช้าที่ 29 .. 2019  คริสตจักรรักดั้งเดิม 

คำนำ

อุปมาเรื่องแกะหาย(มธ.18:12-14)

1ในเวลานั้นบรรดาคนเก็บภาษีและพวกคนบาปเข้ามาใกล้เพื่อจะฟังพระองค์ 2พวกฟาริสีและพวกธรรมาจารย์ก็บ่นว่าคนนี้ต้อนรับคนบาปและกินด้วยกันกับเขา”3พระเยซูจึงตรัสอุปมาต่อไปนี้ให้พวกเขาฟังว่า 4“ใครในพวกท่านที่มีแกะร้อยตัวและตัวหนึ่งหลงหายไป จะไม่ทิ้งเก้าสิบเก้าตัวนั้นไว้ที่กลางทุ่งหญ้าแล้วออกไปตามหาตัวที่หายไปนั้นจนกว่าจะพบหรือ? 5และเมื่อพบแล้ว เขาจะยกขึ้นใส่บ่าแบกมาด้วยความชื่นชมยินดี 6เมื่อมาถึงบ้าน เขาก็เชิญมิตรสหายและเพื่อนบ้านให้มาพร้อมกัน แล้วพูดกับพวกเขาว่ามาร่วมยินดีกับข้า เพราะข้าพบแกะของข้าที่หายไปนั้นแล้ว’ 7เราบอกท่าน ทั้งหลายว่า ในทำนองเดียวกัน จะมีความชื่นชมยินดีในสวรรค์เรื่องคนบาปคนเดียวที่กลับใจใหม่ มากกว่าเรื่องคนชอบธรรมเก้าสิบเก้าคนที่ไม่ยอมกลับใจ

อุปมาเรื่องเงินเหรียญหาย

8“หญิงคนใดที่มีเหรียญเงินสิบเหรียญและเหรียญหนึ่งหายไป จะไม่จุดตะเกียงกวาดบ้านค้นหาอย่างละเอียดถี่ถ้วนจนกว่าจะพบหรือ? 9เมื่อพบแล้ว นางจะเชิญมิตรสหายและเพื่อนบ้านมาพร้อมกัน แล้วพูดกับพวกเขาว่า

มาร่วมยินดีกับฉัน เพราะฉันพบเหรียญเงินที่หายไปนั้นแล้ว’ 10ในทำนองเดียวกัน เราบอกท่านทั้งหลายว่า จะมีความชื่นชมยินดีท่ามกลางพวกทูตสวรรค์ของพระเจ้าเรื่องคนบาปคนเดียวที่กลับใจใหม่

มธ16:26 เพราะเขาจะได้ประโยชน์อะไร ถ้าได้สิ่งของหมดทั้งโลกแต่ต้องเสียชีวิตของตน? หรือคนนั้นจะนำอะไรไปแลกชีวิตของตนกลับคืนมา

ข้อพระคัมภีร์ตอนนี้บอกกับเราว่าชีวิตมีค่ามากกว่าวัตถุ เพราะต่อให้เราได้ทรัพย์สินมากมาย ได้รับกิจการเช่น น้ำมัน ทองคำ โดยแลกกับชีวิตคุณคุณเอาไหม ถ้าไม่มีชีวิตคุณก็ไม่มีอะไรเลย ถ้าคุณได้ทุกอย่างมาแล้วคุณต้องเสียชีวิต คุณจะเอาอะไรไปแลกชีวิตคืนมาได้ไหม

คนที่ถูกค่านิยมวัตถุนิยมหลอก เห็นเงินทองมีค่ามากกว่าชีวิต เลยทำให้มีบางคนตายเพราะทะเลาะกันเรื่องรถชน ภรรยาท้าหย่าสามีเพราะทำกระถางต้นไม้ตกแตก ถ้าเราคิดได้เราจะรู้ว่ามันไม่คุ้มกัน

คริสเตียนมากมายก็ถูกมอมเมาด้วยค่านิยมผิดๆเรื่องวัตถุ มาเชื่อพระเจ้าแล้วจะร่ำรวย ได้เงิน ได้ทองเป็นต้น ความจริงเมื่อเรามาเชื่อพระเจ้า แล้วขอให้เราเป็นอย่างที่พระเจ้ากำหนด  อย่าอยากเป็นอย่างที่เราอยากจะเป็น 

อุปมาสองเรื่องที่เราอ่านไปตอนต้นนั้น คนเลี้ยงแกะ มีแกะหายไปหนึ่งตัว เหลืออีก 99 ตัว แสดงว่าเหลืออีกเยอะ กับคำอุปมาหญิงมี 1เหรียญหายไป เหลืออีก 9 เหรียญ พระคัมภีร์ตอนนี้พระเจ้าสอนคนทั่วๆไป ให้เขาคิดได้ว่าหากเป็นของหายคนทั่วไปเขายังเสียดาย ตัวอย่าง ถ้าเราทำเงินตกในคูน้ำ ซึ่งคูน้ำนั้นสกปรกมาก เราจะเอามือลงไปงมไหม

พระเยซูกำลังเล่าสองเรื่องในความหมายเดียวกัน

ลก15:7เราบอกท่าน ทั้งหลายว่า ในทำนองเดียวกัน จะมีความชื่นชมยินดีในสวรรค์เรื่องคนบาปคนเดียวที่กลับใจใหม่ มากกว่าเรื่องคนชอบธรรม เก้าสิบเก้าคนที่ไม่ยอมกลับใจ

อุปมาเรื่องเงินเหรียญหาย บทสรุป เป็นเรื่องคนกลับใจใหม่

ลก15:10ในทำนองเดียวกัน เราบอกท่านทั้งหลายว่า จะมีความชื่นชมยินดีท่ามกลางพวกทูตสวรรค์ของพระเจ้าเรื่องคนบาปคนเดียวที่กลับใจใหม่

บริบททั้งสองเรื่องเป็นเรื่องเดียวกัน ความหมายเดียวกัน จากทรัพย์สินสองอย่าง คือ แกะ กับเงิน คำว่า หาย สำหรับแกะที่หลงหาย กับเหรียญที่หาย หมายถึง คนบาป ที่ยังไม่รู้จักพระเยซู แม้ว่าเหรียญจะไม่มีชีวิตก็ตาม

พระคัมภีร์เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเราในฐานที่เป็นคริสเตียน ได้รับชีวิตใหม่แล้ว คนบาปเหล่านั้นที่ยังไม่รู้จักพระเจ้า คริสเตียนต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อเหรียญที่หาย กับแกะที่หาย

หลายครั้งคริสเตียนคิดว่าการตามหาแกะหายและการตามหาเหรียญหายไม่ใช่ความรับผิดชอบของเราจึงไม่ได้ลงทุนในการตามหาเลยสำหรับแกะที่หายกับเหรียญที่หาย

หากพระเยซูแสดงออกถึงความรักที่มีต่อคนบาปขนาดไหน เราก็ต้องรักคนบาปขนาดนั้น คนบาปเหล่านี้เช่น พวกคนขี้ขโมย โจร คนก้าวร้าวโมโหร้าย คนทำร้ายร่างกายคน

คริสตจักรของพระเจ้าจำนวนมากมายไม่ได้แสดงความรักต่อคนบาป เหมือนที่พระเยซูต้องการให้รัก คริสตจักรส่วนใหญ่ปิดประตูสำหรับคนบาป

เจ้าของทรัพย์สินในพระคัมภีร์เรื่องนี้ เขาสูญเสียทรัพย์สินนิดเดียวเองเขาอาจจะคิดว่าช่างมันก็ได้ แต่พระเยซูบอกว่าช่างมันไม่ได้ เพราะหากเจ้าของรู้สึกเสียดายทรัพย์สิน ถ้ามีโอกาสเอากลับมาได้เขาก็จะเอากลับมา

คนเลี้ยงแกะละ 99 ตัว ลงทุนทุ่มเทเพื่อที่จะได้แกะ 1ตัวกลับมา เพราะเขารักแกะตัวนี้ เขาจึงตั้งเป้าจะนำแกะกลับมา พระเยซูต้องการให้เรารู้สึกแบบคนเลี้ยงแกะรักแกะ เพื่อให้เรารักคนบาปที่ยังไม่รู้จักพระเยซู

เพราะหากเราไม่ได้รักคนบาปเราจะไม่ตั้งเป้าที่จะตามเขากลับมาหาพระเจ้า  ถามว่าคริสตจักรรวมกันเพื่อให้เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักของพระเยซูใช่ไหม เพื่อจะช่วยคนอื่นได้ ตัวอย่าง คนที่แต่งงานแล้ว รู้สึกไหมว่าเรารักเขาคนเดียว มีใครแอบน้อยใจไหมว่าคนรักไม่รักเราไหม ถ้าไม่รักเราก็จะไม่รักษาคนรัก ไม่ถนอมน้ำใจกัน

ความรักที่สมบูรณ์แบบ คือ ความรักของพระเจ้า คริสเตียนต้องมีประสบการณ์กับความรักของพระเจ้า และประสบการณ์เหล่านั้นต้องส่งไปถึงคนบาป ส่งไปถึงแกะที่หลงหาย เป้าหมาย คือ เพื่อให้ได้แกะที่หลงหายกลับมาหาพระเจ้า เพราะพระเจ้ารักเรา หากพระเจ้ามองชีวิตของเราเป็นแค่ทรัพย์สิน พอเห็นว่าเราเป็นแค่คนๆเดียวเองมีคนอีกหลายล้านที่รับความรอดไปแล้วพระองค์คงไม่สนใจเรา แต่ความเป็นจริงพระเจ้าต้องการให้ทุกคนรับ

ความรอด  หากเราเห็นว่าคนหลงหายเหล่านั้นนิดเดียวเอง คนเดียวเอง เมื่อเราเห็นว่าไม่สำคัญ เราอาจจะไม่ไปตามคนหลงหายก็ได้

คริสเตียนมีโอกาสได้นมัสการพระเจ้าในคริสตจักรที่มีความสะดวก สบาย แล้วคริสตจักรก็ปล่อยให้คนบาปตายฝ่ายวิญญาณไปโดยไม่สนใจจะออกตามหา ถามว่าคริสตจักร หรือตัวเราจะมีความสุขในการนมัสการไหม

คนไม่เชื่อพระเจ้า พวกเขาไม่มีความหวังในเรื่องการหลุดพ้นจากชีวิตหลังความตายได้เลย แล้วใครจะไปพาเขากลับมาด้วยความรักของพระเจ้า

มธ28:18-20 พระเยซูจึงเสด็จเข้ามาใกล้แล้วตรัสกับพวกเขาว่าสิทธิอำนาจทั้งหมดในสวรรค์ก็ดี ในแผ่นดินโลกก็ดีทรงมอบไว้แก่เราแล้ว  19เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงออกไปและนำชนทุกชาติมาเป็นสาวกของเรา จงบัพติศมาพวกเขาในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ 20และสอนพวกเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดที่เราสั่งพวกท่านไว้ และนี่แน่ะ เราจะอยู่กับท่านทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค

การนำคนทุกชาติมาเป็นสาวกของพระเยซู  ถือว่าเป็นคำสั่งถึงสาวก หรือผู้เชื่อทุกคน เริ่มจากการอธิษฐาน แล้วมีเป้าหมายหาแกะจนเจอพากลับบ้าน แต่บางคนไม่ได้ทำ ไม่ได้ทุ่มเท ไม่มีเป้าหมาย เพราะเขาไม่เข้าใจว่าพระเจ้ารักคนที่หลงหายเหล่านั้น พระเจ้าไม่เลิกจนกว่าจะเจอพวกเขา

พระเยซูกำลังเตือนคริสเตียนเราให้รู้ว่า เมื่อมีคนบาปกลับใจ สวรรค์จะฉลอง เพราะคนบาปมีชีวิตใหม่ ผู้เชื่อมีส่วนทำให้คนบาปกลับใจใหม่ได้ ผู้เชื่อสามารถนำคนหลงหายทีละคนให้กลับมาพระเจ้า ทีละคน

พระเจ้าให้คุณค่ากับคนบาปสูงกว่าที่เราเข้าใจ เราเห็นว่าคนบาปควรตาย แต่พระเจ้า บอกว่าคนบาปสมควรรอด ควรกลับใจใหม่

การลงทุนลงแรงอย่างมีเป้าหมายในการนำแกะกลับมา นับว่าเป็นการตอบสนองต่อพระมหาบัญชาของพระเยซูอย่างแท้จริง ผู้เลี้ยงแกะต้องไปหา แกะ ไปคุยกับเขา พระคัมภีร์บอกว่า

ลก15:5-6 พบแล้วแบกใส่บ่ามาด้วยความชื่นชมยินดี ไปชวนคนอื่นมาร่วมยินดีด้วย ลก15:9 หญิงที่หาเหรียญเจอ ก็ชวนคนมายินดีที่เจอเหรียญ แล้ว

หลายครั้งคริสเตียน เวลาที่ได้เจอคนใหม่ คนแปลกหน้ามานมัสการที่คริสตจักรร่วมกับเรา แต่เราไม่ค่อยยินดีกับคนแปลกหน้าเหล่านั้น เพราะเราไม่ได้ลงทุนลงแรงกับคนคนนั้น เพราะถ้าเราลงทุนกับคนนั้น อธิษฐานเผื่อเขาอย่างมาก ใช้เวลาไปเยี่ยม ไปหนุนใจ ทุ่มเทกับเขาจนเขากลับใจใหม่มาเชื่อพระเจ้า คุณจะยินดีมากเพราะลงทุนกับเขา

ในทางตรงกันข้ามคุณจะรู้สึกดีใจได้ยังไงกับคนบาปกลับใจใหม่ เพราะคุณไม่ได้ลงทุนลงแรงอะไรกับเขาเลย พระเยซูมีความยินดีเพราะพระองค์ลงทุนสละชีวิตของพระองค์เพื่อคนบาป ดังนั้นสวรรค์จึงยินดีเพราะพระเยซูลงทุนสูงมากเพื่อให้มนุษย์ทั้งโลกได้รับความรอด

คนหนึ่งคนมีค่ามากกว่าทรัพย์สมบัติทั้งโลกรวมกัน เราต้องมีส่วนนำคนหลงหายไปจากพระเจ้า นำพวกเขาให้เขากลับใจใหม่มาเชื่อพระเจ้า 

หลายคนมองตัวเองต่ำไป เราจะไปนำใครมาเชื่อได้ เราการศึกษาน้อย เราเป็นคนสูงอายุ เราเป็นคนจน แต่เราต้องตระหนักว่าพระเยซู ไม่ได้สั่งให้เราทำในส่ิงที่เราทำไม่ได้  พระองค์สั่งในส่ิงที่เราสามารถทำได้ เรามั่นใจได้ว่าเราจะประสบความสำเร็จในการรับใช้

สาวกพวกแรกรอรับฤทธิ์เดชพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพื่อออกไปประกาศและประสบความสำเร็จในการรับใช้ ทั้งๆที่พวกสาวกไม่ค่อยมีความรู้ บางคนก็เป็นคนขี้โกงเพราะเป็นคนเก็บภาษี แต่พอมาเป็นสาวกของพระเยซู พวกเขาได้เดินตามเส้นทางพระเจ้ากำหนดพวกเขาประสบความสำเร็จ

ชีวิตของเราก็จะประสบความสำเร็จทั้งในเรื่องชีวิตส่วนตัว และประสบความสำเร็จในการรับใช้เช่นกัน พระเจ้าบอกให้เราทำเราจะประสบความสำเร็จ ยน15:6 เราแต่งตั้งท่านให้ไปเกิดผล พระเยซูเลือกเรา พระองค์แต่งตั้งเรา ให้ไปประสบความสำเร็จในการนำคนมาเป็นสาวกของพระองค์ เราจะมีความตื่นเต้นเมื่อนำคนบาปกลับใจใหม่

ข้อแนะนำภาคปฎิบัติที่เราควรทำในการนำคนหลงหายกลับใจใหม่

1.รักและห่วงไยคนบาป (ลก15:1-2)

ในเวลานั้นบรรดาคนเก็บภาษีและพวกคนบาปเข้ามาใกล้เพื่อจะฟังพระองค์ 2พวกฟาริสีและพวกธรรมาจารย์ก็บ่นว่าคนนี้ต้อนรับคนบาปและกินด้วยกันกับเขา

คนบาปเข้ามาใกล้เพื่อจะฟังพระองค์ แต่พวกฟาริสีธรรมาจารย์กล่าวหาพระเยซูกินด้วยกันกับพวกคนบาป พระเยซูไม่เคยอลุ่มอะล่วยกับความบาป หลายครั้งเทศนารุนแรงด้วย ใช้คำว่า วิบัติ(ความฉิบหาย) ตัวอย่าง มธ23:13,14,15 แต่ทำไมคนอยากฟังพระเยซู ทั้งๆที่พระองค์ เทศน์แรง ไม่ได้เทศน์เอาใจใคร พระเยซูเทศนามุ่งไปสู่การนำคนบาปให้กลับใจใหม่ คนบาปฟังคำเทศน์ของพระเยซู เพราะเขารู้ว่าพระเยซูรักเขา ห่วงไยเขา เพราะพระเยซูใช้เวลากินด้วยกันกับคนบาป อยู่ด้วยกันกับพวกเขา พระองค์ รักและห่วงไยพวกเขา รักด้วยปากกับรักด้วยใจมันต่างกัน ขอให้เรารักคนบาปให้เหมือนที่พระเยซูทำ รักให้เหมือนพระเยซูรัก

2.ลงทุนจริงๆจัง กับพวกเขา (คนบาปที่หลงหาย)

ไม่ใช่รักแบบฉาบฉวย หรือช่วยแบบฉาบฉวยชั่วครั้งชั่วคราว เช่น เราจัดงานประกาศนำรับเชื่อ ไม่ใช่ประกาศครั้งเดียวแล้วจบ แต่ต้องเป็นความต่อเนื่องในการนำแกะหลงกลับมาหาพระเจ้า

เจ้าของแกะลงทุนไปหาแกะที่หายและพากลับมา คนรู้ว่าเรารักเขาไม่ใช่เกิดจากการการฟังเทศน์ของเราบนเวที แต่เป็นการไปหาที่บ้าน ไปเยี่ยมเขาไปช่วยเขา ไปบอกรักเขา ไปทำความเข้าใจกัน

ธรรมชาติบาปทำให้คนทำบาป เราต้องช่วยเขาให้เข้าใจความจริงนี้เพื่อไม่ต้องดำเนินชีวิตอยู่ในบาปต่อไป

3. ทำการติดตามอย่างต่อเนื่องเสมอต้นเสมอปลาย

ออกไปตามหาตัวแกะที่หายไปจนกว่าจะพบ ข้อ8 หาเหรียญก็หาจนกว่าจะพบ ถามว่าใครเป็นคนไปทำ คือ พวกเราที่เชื่อนั่นแหละ หลายครั้งคริสเตียน สบายเกินเหตุ ขอให้ยอมลำบากเพื่อไปช่วยพวกคนหลงหายด้วย

คริสตจักรพลาดไปจากน้ำพระทัยพระเจ้า เพราะไม่ไปทำแบบที่พระเจ้า สอน  อาจารย์หรือนักเทศน์บางคนไปตีความเรื่องเหรียญว่าไม่ใช่คนบาป ทั้งๆที่พระคัมภีร์บอกชัดเจน เราจะไม่เสียเวลาถกเถียงเรื่องความรู้นี้

พระเจ้ารอการกลับใจใหม่ของคนบาป คนหลงหายไปจากพระเจ้า ขอให้รู้เถิดว่ามีคนเป็นจำนวนมารอที่จะเชื่อพระเจ้า มีเยอะมาก เมื่อถึงวันที่พวกเขากลับใจใหม่ วันนั้นเราจะฉลอง ขอให้ไปทำการติดตามจริงๆเถอะ

ลก9:62  พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่าไม่มีใครที่เอามือจับคันไถแล้วหันหลังกลับ จะสมควรกับแผ่นดินของพระเจ้า

2ทธ4:5 แต่ท่านจงหนักแน่นมั่นคงทุกเรื่อง จงอดทนต่อความทุกข์ยาก จงทำหน้าที่ของผู้ประกาศข่าวประเสริฐ และจงทำพันธกิจของท่านให้ครบบริบูรณ์

ลก15:7เราบอกท่าน ทั้งหลายว่า ในทำนองเดียวกัน จะมีความชื่นชมยินดีในสวรรค์เรื่องคนบาปคนเดียวที่กลับใจใหม่ มากกว่าเรื่องคนชอบ

ธรรมเก้าสิบเก้าคนที่ไม่ยอมกลับใจ

สวรรค์ฉลองให้กับคนบาปกลับใจใหม่ มากกว่าคนไม่กลับใจ

ให้เราร่วมใจอธิษฐาน

สนใจติดต่อเรา หรือเชิญให้เทศนา ให้สอนหรือให้อบรม

www.facebook.com/FORWARD.CH.TH

Email: actsministry2017@gmail.com

 

บทความก่อนหน้านี้พระเจ้าทรงเป็นผู้เลี้ยงที่แท้จริง อสค34:25-31 (ตอนที่ 3)
บทความถัดไป“เพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน” ยน17:20-23

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่