.ประยูร ลิมะหุตะเศรณี

เทศนาเช้า อา 9 ..18  

คริสตจักรบ้านพระพร

ยน15:5 เราเป็นเถาองุ่น พวกท่านเป็นแขนง คนที่ติดสนิทอยู่กับเราและเราติดสนิทอยู่กับเขา คนนั้นจะเกิดผลมาก เพราะว่าถ้าแยกจากเราแล้วพวกท่านจะทำสิ่งใดไม่ได้เลย

บรรยากาศการนมัสการวันนี้ผ่านบทเพลงที่เนื้อหานำเสนอพระเยซูเป็นผู้ปลดปล่อยเราจากโซ่ตรวนพันธนาการแห่งความบาปต่างๆ

ความจริงคือโซ่ตรวนที่ผูกมัดเราไม่ใช่มีเพียงเส้นเดียวที่เป็นเส้นขนาดใหญ่  แต่ความเป็นจริงโซ่ตรวนพันธนาการเหล่านั้น เป็นโซ่ตรวนหลายๆเส้นเยอะแยะผูกมัดเราเต็มไปหมด

ซึ่งเราไม่สามารถช่วยปลดปล่อยตนเองจากโซ่ตรวนเหล่านั้นได้ โซ่เหล่านั้นอาจจะเป็นความบาป ความโกรธ ความเกลียด หรือความโลภ

เพลงที่มีเนื้อหาว่าพระเยซูเป็นราชาเหนือสวรรค์ พระองค์เป็นราชาแห่งฟ้าสวรรค์ ดังนั้นเราจึงเป็นชาวสวรรค์ เพราะพระเจ้าอยู่เหนือชีวิตของเรา พระเจ้าปกครองชีวิตของเราเพราะพระองค์เป็นราชา บนสวรรค์มีราชาที่ปกครองชาวสวรรค์ เราต้องขอพระเจ้าสำแดงพระเมตตาของพระองค์เหนือชีวิตเรา คริสเตียน เราน่าจะภูมิใจที่พระเจ้าเป็นผู้ปกครองเหนือชีวิตของเรา เพราะพระองค์ปกครองเราด้วยความรักความเมตตา พระเจ้ามีการปกป้อง และการคุ้มครองชีวิตเรา

การปกครองของพระเจ้าเกี่ยวข้องโดยตรงกับการควบคุมของพระองค์ 

ยกตัวอย่างเช่น  หากมีเด็กเกเรไปทำร้ายเพื่อน คุณครูบอกว่าต้องไปเชิญผู้ปกครองมาคุยหน่อย บางคนพ่อแม่ตายไปแล้วก็จะไม่มีใครคอยควบคุม ถึงแม้ อยากมีคนควบคุมแต่ความจริงเขาก็ไม่มีแล้ว คนที่มีพ่อแม่ควบคุมเป็นส่ิงที่ดีอยู่แล้ว แต่หลายครั้งเราไม่ยอมแสดงว่าเราเป็นคนโง่มาก วันนี้หากเรามีพระเจ้าคอยควบคุมเรา เวลาตอนเราอยู่นอกสายตาของผู้อื่น เราก็จะได้ไม่ต้องใช้ชีวิตผิดพลาด

การถูกควบคุมจากพระเจ้า ทำให้ชีวิตเรามีความมั่นคง ชีวิตเราจะมีอนาคต

ตัวอย่างเหมือนเด็กเล็กๆ หากพวกเขาไม่มีพ่อแม่ ชีวิตพวกเขาไม่มั่นคง พวกเขาไม่มีอนาคต ดังนั้นถ้าเราอยากให้อนาคตเราได้รับสิ่งที่ดี เราต้องให้พระเจ้าควบคุมเรา ชีวิตเราจะมั่นคง อย่ากลัวการอยู่ภายใต้พระเจ้า อย่าโง่ แต่จงยอมให้พระเจ้าควบคุม อย่าดื้อ จงยอมให้พระเจ้าควบคุม 

มารล่อลวงเรา ทำให้เราคิดว่าเราฉลาดกว่าพระเจ้า ถ้าเราคิดอย่างนั้น แสดงว่าเราเป็นคนโง่มากๆ ตั้งแต่อดีตมามารล่อลวงให้มนุษย์กินผลไม้แห่งความดีชั่ว เพื่อมนุษย์จะฉลาดเหมือนพระเจ้า ดังนั้น มนุษย์คนบาป เอะอะอะไร เราคิดเองหมดเลย ไม่ต้องถามพระเจ้า ไม่ต้องการพระเจ้า ขอให้เราระมัดระวัง

พระคัมภีร์ตอนนี้มีหลายประเด็น ดังนั้นเราต้องเข้าใจภาพรวมของพระคัมภีร์ ทั้งเล่ม และเข้าใจพระเจ้าก่อน วันนี้เราจะมาดูข้อสังเกต 4 ประการ ด้วยกัน

1.เราเป็นเถาองุ่น

แสดงว่าคนพูด คือ พระเยซูคริสต์ ดังนั้นพระคัมภีร์จึงไม่ใช่แค่ตัวหนังสือ ที่เป็นตัวอักษร แต่เป็นคำตรัสของพระเจ้า พระองค์เปรียบเทียบพระองค์เป็นเถาองุ่น

พวกท่าน คนฟัง เป็นแขนง

2.ความสัมพันธ์สองทาง

พระเยซูชี้ให้เห็นว่าผู้เชื่อต้องมีความสัมพันธ์สนิทกับพระเยซู เหมือนเถาองุ่นกับแขนง ดังนั้นความสัมพันธ์นี้จึงเป็นความสัมพันธ์สองทางระหว่างพระเจ้า กับผู้เชื่อ

ความสัมพันธ์นี้ไม่ใช่รักเขาข้างเดียว

พระเยซูบอกว่าคนที่ติดสนิทกับเราและเราติดสนิทอยู่กับเขา  แสดงว่าชีวิตของเราต้องสะอาดพอที่จะติดสนิทกับพระเจ้า วันนี้เราต้องสำรวจตัวเองดู หากเรามีชีวิตผิดบาป เต็มไปด้วยความสกปรก การที่เราคิดว่าเราติดสนิทกับพระเยซู ก็เป็นเพียงความเพ้อฝันเท่านั้น  เพราะชีวิตคริสเตียนอยู่กับบาปแล้วคิดว่าติดสนิทกับพระเยซู เราจึงจะมีคำถามเช่นนี้ว่า ทำไมชีวิตของเราไม่เจริญเท่าที่ควร ทำไมชีวิตเราไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ทำไมเราไม่มีสันติสุขในชีวิตเลย

พระเยซูเปรียบเทียบเรื่องเถาองุ่น กับแขนง ที่มีความสนิทสนมจากต้นองุ่นต้นเดียวกัน แขนงจะเจริญถ้าติดกับเถา ชีวิตคริสเตียนของเราจะไม่เหนื่อย เพราะมีการส่งน้ำเลี้ยงมาจากพระเจ้า

เถาองุ่นทำหน้าที่อวยพร ส่วนแขนงทำหน้าที่รับพระพรเท่านั้น แต่แขนงที่ไม่ติดสนิทกับเถา แขนงนั้นก็จะไม่ได้รับพระพร

การที่พระคริสต์อยู่ในเราเป็นเรื่องสำคัญ แต่เราดำเนินชีวิตอยู่ในพระคริสต์หรือไม่เป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญด้วย

3. ความสัมพันธ์ลึกซึ้งเป็นส่วนตัว

คำว่าเราในที่นี้  ไวยากรณ์บอกว่าเป็นคำเอกพจน์  ส่วนคำว่า  พวกท่านเป็นแขนงไวยากรณ์บอกว่าเป็นพหูพจน์  แต่พอคำว่าคนที่ติดสนิทอยู่กับเราและเราติดสนิทอยู่กับเขาไวยากรณ์บอกว่าเป็นเอกพจน์  จากไวยากรณ์นี้แสดงว่าความสัมพันธ์สนิทระหว่างเรากับพระเจ้า

ต้องเป็นความสัมพันธ์สนิทส่วนตัวระหว่างเรากับพระเจ้า

แม้คำว่าพวกท่านจะมีไวยากรณ์เป็นพหูพจน์ หรือมีจำนวนมาก ก็ตาม แต่ก็ต้องสัมพันธ์สนิทกับพระเจ้าเป็นการส่วนตัวแต่ละคน

การเป็นสมาชิกในคริสตจักร ไม่ได้บอกว่าเราแต่ละคนมีความสัมพันธ์สนิทส่วนตัวกับพระเจ้า แต่การเป็นสมาชิกของคริสตจักรทำให้ผู้เชื่อมีโอกาส ในการเรียนรู้ที่จะมีความสัมพันธ์สนิทส่วนตัวกับพระเจ้าได้

การที่เรามีชีวิตส่วนตัวที่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระเจ้า เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน้าของเราในการรับใช้ หรือบทบาทของเราในการรับใช้ หรือบรรยากาศในคริสตจักรเป็นอย่างไร

หากเราไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระเจ้าเราขาดทุนอย่างมากในการดำเนินชีวิตคริสเตียน

คนที่ติดสนิทกับเราหมายถึง ความสัมพันธ์ที่เป็นคุณภาพ  มีคุณภาพ มีความสนิทอย่างลึกซึ้ง สมัยปัจจุบันนี้เวลาที่เราซื้อเฟอร์นิเจอร์อะไรมา เมื่อซื้อมาแล้วเราก็ต้องมานั่งประกอบๆๆๆๆ  ทำให้หลายครั้งคิดว่าคริสเตียนก็เหมือน เฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ พอถึงวันอาทิตย์ก็มาประกอบเป็นส่วนของเฟอร์นิเจอร์ คือ มานมัสการพระเจ้าที่คริสตจักร  แต่ชีวิตระหว่างสัปดาห์เมื่อบายๆๆๆ ออกจาก คริสตจักรไปแล้ว เราก็ถอดพระเยซูออกจากชีวิตของเราไปเลย

คริสเตียนเราไม่ได้ดำเนินชีวิตแบบประกอบกับพระเจ้า  แต่เราดำเนินชีวิตติดสนิทกับแขนง

คือ พระเจ้า  เรื่องการดำเนินชีวิตที่ติดสนิทกับพระเจ้าเป็นเรื่องจิตสำนึกของผู้เชื่อแต่ละคนเอง เถาองุ่นจะส่งจิตสำนึกแบบพระเจ้าไปยังแขนง โดยส่งไปแบบอัตโนมัติ ถ้าเราติดสนิทกับพระเจ้าความคิดของพระเจ้าจะอยู่ในเราแบบอัตโนมัติ เป็นชีวิตของเราที่มีความคิดของพระเจ้า มีพระคำของพระเจ้า

4.จะเกิดผลมาก

การเกิดผลมากเป็นน้ำพระทัยพระเจ้า สามารถตีความได้ หรือประยุกต์ได้หลายอย่าง เช่น เราประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิต ในหน้าที่การงาน ในการเรียน  เราจะมีชัยชนะในการแข่งขัน ในการต่อสู้กับสิ่งต่างๆที่เราเผชิญอยู่ไม่ว่าจะเป็นการทดลองให้ทำบาป เราก็จะมีชัยชนะ

ความสำเร็จที่เกิดผลมากทุกครั้ง มาจากการมีชีวิตที่ติดสนิทกับพระเจ้า

หากเรามีความฝันหลายอย่างมากมาย แต่ความฝันเหล่านั้นมีพระเจ้า ชีวิตของเราติดสนิทกับพระเจ้า ชีวิตของเราจะเกิดผลมาก เราไม่รู้หรอกว่าอนาคตของเราจะสำเร็จหรือไม่ แต่ถ้าเราติดสนิทกับพระเจ้า เรามีความมั่นใจได้ว่าจะเกิดผลมาก

ยน15:16 ท่านไม่ได้เลือกเรา แต่เราเลือกพวกท่านและแต่งตั้งท่านให้ไปเกิดผลและเพื่อให้ผลของท่านคงอยู่ เพื่อว่าเมื่อพวกท่านทูลขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระองค์จะประทานสิ่งนั้นแก่ท่าน 

นี่คือความตั้งใจของพระเยซูที่จะอวยพรเรา เพื่อให้ศักยภาพที่พระเจ้าใส่ไว้อยู่ในชีวิตของเรา ศักยภาพเหล่าน้ันจะเกิดการปลดปล่อยให้เกิดผลอย่างมาก เป็นผลซึ่งมาจากการติดสนิทกับพระเยซู

คนที่ชีวิตติดสนิทกับพระเจ้า การเกิดผลมาก เป็นส่ิงไม่เกินความฝันที่มี  ชีวิตเรามีอนาคต ชีวิตเรามีโอกาส

จะรับสิ่งที่ดีกว่านี้อีกมาก คำถามคือว่า เราจะทำยังไงให้เราได้อนาคตที่ดี  พระเยซูบอกให้เราติดสนิทกับพระองค์ ปัญหาของเราคือ เราเชื่ออย่างที่พระเจ้าบอกไหม ถ้าเราเชื่อเช่นนั้นที่ผ่านมาทำไมเราไม่ทำตามที่พระเจ้าบอกเรา

ตัวอย่าง .ประยูร ตอนเป็นเด็กเห็นเครื่องบินบนท้องฟ้า อาจารย์อยากรู้ว่าพระเจ้ามีจริงไหม ถ้ามีจริงขอให้ได้ลูบเครื่องบินก็พอ พอวันเด็กก็ได้ลูบเครื่องบิน เห็นเพื่อนพูดอังกฤษ ท่านก็ขอพูดอังกฤษได้สองสามประโยคก็พอ พอเพื่อนไปเรียนต่างประเทศ ท่านขอให้ได้ไปแค่เวียงจันทร์ก็พอ แต่ถึงวันนี้พระเจ้าให้อาจารย์ได้รับสิ่งที่ดี ส่ิงที่ขอกับพระเจ้า ไปไกลเกินกว่าความฝันตอนเด็กที่มี พระเจ้าให้ท่านเป็นล่ามแปลฝรั่งเทศนาได้ ขนาดตอนท่านเป็นเด็กอาจารย์ถามว่า sailor คือ อะไร ท่านตอบว่าเป็นขนมปังเลย เพราะมีขนมปังยี่ห้อนี้ในสมัยของท่าน แต่แม้ท่านรู้ศัพท์ภาษาอังกฤษน้อยมาก พระเจ้าก็ได้ให้ท่านไปเรียนที่แคนนาดา 2 ปี ได้นั่งเครื่องบินหลายยี่ห้อ 

วันนี้ขอหนุนใจทุกท่านเมื่อได้มาเชื่อพระคริสต์ ขอให้ดำเนินชีวิตติดสนิทกับพระคริสต์ และให้มีชีวิตพระองค์มาติดสนิทด้วยได้ ชีวิตเราจึงจะเกิดผลมาก การเกิดผลนั้นจะเกินความฝันทีเราคาดหวังไว้

4.1 เป็นการเกิดผลด้านปรนนิบัติรับใช้

ยน12:26 ถ้าใครจะปรนนิบัติเรา คนนั้นต้องตามเรามา และเราอยู่ที่ไหน ผู้ปรนนิบัติของเราจะอยู่ที่นั่นด้วย ถ้าใครปรนนิบัติเรา พระบิดาจะประทานเกียรติแก่ผู้นั้น

พระธรรมตอนนี้บอกว่าใครปรนนิบัติพระเจ้าๆจะอวยพรเขาให้สำเร็จ เพราะเกียรติเป็นส่ิงที่พระเจ้าให้ เพราะทำสำเร็จ

4.2 เป็นผลการดำเนินชีวิต

อฟ4:17-24 เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าขอกล่าวเช่นนี้และยืนยันในองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า อย่าดำเนินชีวิตแบบเดียวกับที่พวกต่างชาติดำเนินกันอีกต่อไป คือมีใจจดจ่ออยู่กับสิ่งไร้สาระ 18ความคิดของเขาทั้งหลายถูกทำให้มืดมนไป และเขาขาดจากชีวิตที่มาจากพระเจ้าเนื่องจากความไม่รู้ที่อยู่ในตัว และความแข็งกระด้างในจิตใจ 19พวกเขาไม่มีความรู้สึกละอายและปล่อยตัวในการลามกเพื่อทำการโสโครกทุกแบบโดยปราศจากการเหนี่ยวรั้งตน 20แต่ท่านทั้งหลายไม่ได้เรียนรู้ถึงพระคริสต์แบบนั้น 21พวกท่านเคยฟังเรื่องของพระองค์แล้วอย่างแน่นอน และเคยได้รับการสอนเรื่องพระองค์ตามสัจธรรมที่อยู่ในพระเยซูแล้ว 22คือได้รับการสอนให้ทิ้งตัวเก่าของพวกท่านที่คู่กับการประพฤติแบบเดิม ซึ่งถูกตัณหาล่อลวงทำให้พินาศไป 23และให้วิญญาณและจิตใจของพวกท่านได้รับการเปลี่ยนใหม่ 24และรับการสอนให้สวมสภาพใหม่ซึ่งได้รับการสร้างขึ้นตามแบบของพระเจ้าในความชอบธรรมและความบริสุทธิ์อย่างแท้จริง

ชีวิตที่ติดสนิท จะไม่สนใจสิ่งไร้สาระ แต่จะทิ้งตัวเก่า ตามตัณหาล่อลวง แต่ได้รับการเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ สวมสภาพใหม่ ทิ้งความคิด เหตุผลเก่าๆ การลามก ถ้าเราอยากจะเป็นคนแน่จริงขอให้มีชีวิตติดสนิทกับพระเยซู และให้พระคริสต์ติดสนิทกับเรา

ตัวอย่าง เมื่อก่อนเชื่อพระเจ้าอาจารย์คิดว่ามีคนเก่งกว่าท่านมีเพียงสองคน คือ คนหนึ่งตายไปแล้ว กับคนหนึ่งยังไม่เกิด การคิดแบบนี้บัดซบสิ้นดี เพราะเราจะไม่ยอมรับใครดีกว่าเราเลย ทำให้ชีวิตเราจะไม่รุ่งเรือง

4.3 เป็นผลที่มีคุณภาพ

1คร3:10-15โดยพระคุณของพระเจ้าที่ประทานแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้วางรากลงแล้วเหมือนนายช่างผู้ชำนาญ และอีกคนหนึ่งก็มาก่อขึ้น แต่ละคนต้องระวังให้ดีว่าเขาจะก่อขึ้นอย่างไร 11เพราะว่าใครจะมาวางรากอื่นอีกไม่ได้แล้ว นอกจากที่วางไว้แล้วคือพระเยซูคริสต์ 12บนรากนั้นถ้าใครจะก่อขึ้นด้วยทองคำ เงิน เพชร พลอย ไม้ หญ้าแห้งหรือฟาง 13การงานของแต่ละคนก็จะปรากฏให้เห็น เพราะวันพิพากษานั้นจะสำแดงให้เห็น คือจะถูกเผยให้เห็นด้วยไฟ และไฟนั้นจะพิสูจน์ว่าการงานของแต่ละคนเป็นอย่างไร 14ถ้าการงานของใครที่ก่อขึ้นทนอยู่ได้ คนนั้นก็จะได้บำเหน็จ 15ถ้าการงานของใครถูกเผาไหม้ไป คนนั้นก็จะได้รับความสูญเสีย ส่วนตัวเขาเองจะรอด แต่เหมือนดังรอดจากไฟ

ถ้าชีวิตไม่ติดสนิทกับพระเจ้า ชีวิตจะไม่มีคุณภาพ เมื่อถึงวันหนึ่งพระเจ้าจะมาพิสูจน์ แต่หากชีวิตเราสามารถท้าพิสูจน์ได้ เพราะชีวิตเหมือนทองคำ ยิ่งเราเจอไฟก็ยิ่งสุก เปล่งปลั่ง ชีวิตติดสนิทไม่กลัวไฟ

คนจริงไม่กลัวถูกด่า ถ้าดีจริง เช่น มีคนมาด่าเราว่าไอ้ควายเราไม่โกรธเพราะเราไม่ใช่ควาย แต่ถ้าเราโกรธแสดงว่า ความเป็นควายของเราที่ปลอมตัวเป็นคน ถูกเปิดเผยแล้ว เพราะหากส่ิงที่คนว่าเราเป็นความจริงว่าเราปลอมตัวมาเป็นคน เราก็จะโกรธ เพราะเราถูกจับได้  แต่ถ้าเราไม่ใช่ควาย ต่อให้ยกคำด่ามาทั้งสวนสัตว์ เราก็ไม่กลัว

4.4 เกิดผลด้านปริมาณ

ยน15:5  บอกว่า เกิดผลมาก ไม่ใช่เกิดผลน้อย

มธ13:23ส่วนเมล็ดซึ่งหว่านตกในดินดีนั้น ได้แก่บุคคลที่ได้ยินพระวจนะนั้นและเข้าใจ คนนั้นก็เกิดผลร้อยเท่าบ้าง หกสิบเท่าบ้าง สามสิบเท่าบ้าง

เมล็ดที่ตกในดินดี หมายถึงคนที่เข้าใจพระวจนะ ชีวิตเขาจะเกิดผลร้อยเท่าบ้าง อย่างตำ่ 30 เท่า ถึง100 เท่า

โง่แค่ไหนก็เกิดผลอย่างตำ่ได้ การเกิดผลนั้นเกินกว่าที่เราฝันไว้ คิดไว้ หรือคาดหวังไว้

ขออย่าให้ชีวิตของเราไปติดกับหนัง กีฬา เกาหลี แต่ขอให้ติดอยู่กับพระคริสต์ อย่าไปติดยา ติดเหล้า ติดรูปโป๊ ขอให้ทิ้งเลย ติดกับพระคริสต์ดีกว่า

เป้าหมายของการติดสนิทกับพระเจ้า คือ การทำให้ชีวิตเราได้ถวายเกียรติพระเจ้า

ยน15:5,8 พระบิดาของเราทรงได้รับพระเกียรติเพราะเหตุนี้ คือเมื่อพวกท่านเกิดผลมากและเป็นสาวกของเรา

การเกิดผลถวายเกียรติ เพราะเป็นสาวกของพระองค์ คนอื่นไม่มีสิทธิ์ถวายเกียรติเพราะไม่ใช่สาวก

สัจธรรมของพระเจ้า จะไม่มีความหมายถ้าเราไม่ตอบสนอง เพราะพระเจ้าบอกกับเรา เพื่อจะอวยพรเรา

2ธส1:11-12 เพราะเหตุนี้ เราจึงอธิษฐานเพื่อพวกท่านเสมอ ขอพระเจ้าของเราทรงให้ท่านเป็นผู้ที่สมควรแก่การทรงเรียกนั้น และขอพระองค์ทรงให้ความตั้งใจดีทุกประการ และกิจการแห่งความเชื่อทุกอย่างสำเร็จด้วยฤทธิ์เดชของพระองค์ 12เพื่อพระนามของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราจะได้รับพระเกียรติเพราะท่านทั้งหลาย และท่านจะได้รับเกียรติเพราะพระองค์ ตามพระคุณแห่งพระเจ้าของเรา และแห่งพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า

กิจการแห่งความเชื่อทุกอย่างสำเร็จ เพื่อพระเจ้าจะได้รับเกียรติ แล้วท่านจะได้รับเกียรติ ไม่ว่าท่านจะทำอะไรงานจะสำเร็จเกินกว่าที่เราคาดด้วยฤทธิ์เดชของพระเจ้า เมื่อเราติดสนิทกับพระเจ้า และพระเจ้าติดสนิทกับเรา

แนวทางภาคปฎิบัติในการติดสนิทกับพระเจ้า 

1.ดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณ 

กท5:16 แต่ข้าพเจ้าขอบอกว่าจงดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณ แล้วท่านจะไม่สนองความต้องการของเนื้อหนัง

2.ยึดมั่นในพระคริสต์ พระองค์เป็นศรีษะ 

คศ2:19 และไม่ได้ยึดมั่นในพระคริสต์ ผู้ทรงเป็นศีรษะ ซึ่งเป็นเหตุให้ทั่วทั้งร่างกายได้รับการบำรุงเลี้ยง และประสานเข้าด้วยกันโดยข้อและเอ็นต่างๆ จึงได้เจริญขึ้นตามที่พระเจ้าทรงให้เจริญขึ้นนั้น

3.กำจัดสิ่งที่เป็นอุปสรรคกับความสัมพันธ์กับพระคริสต์ 

คส3:5-9 เพราะฉะนั้นจงประหารโลกียวิสัยในตัวท่าน คือการล่วงประเวณี การโสโครก ราคะตัณหา ความปรารถนาชั่ว และความโลภ (ซึ่งเป็นการบูชารูปเคารพ6สิ่งเหล่านี้ เป็นเหตุให้พระพิโรธของพระเจ้ามาถึง [คนเหล่านั้นที่ไม่เชื่อฟัง7เมื่อก่อนพวกท่านก็เคยดำเนินชีวิตแบบนี้ คือมีชีวิตอยู่กับสิ่งเหล่านี้ 8แต่บัดนี้ท่านทั้งหลายจงละทิ้งสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด คือความโกรธ ความฉุนเฉียว การคิดร้าย การใส่ร้าย และคำพูดหยาบโลนที่ออกจากปากของท่าน 9อย่าพูดโกหกต่อกันและกัน เพราะว่าท่านได้ปลดวิสัยมนุษย์เก่ากับพฤติกรรมของมนุษย์นั้นแล้ว

4.ให้พระคริสต์เป็นเป้าหมายการดำเนินชีวิตอย่างแท้จริง

2คร5:15 และพระองค์สิ้นพระชนม์เพื่อทุกคน เพื่อบรรดาคนที่มีชีวิตอยู่จะไม่อยู่เพื่อตัวเองอีกต่อไป แต่จะอยู่เพื่อพระองค์ที่สิ้นพระชนม์ และทรงเป็นขึ้นมาเพราะเห็นแก่เขาทั้งหลาย

ถ้าเราทำตามนี้มีแต่สำเร็จ ชัยชนะ ไม่แพ้ ไม่ล้มเหลว

ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

สนใจติดต่อเรา หรือเชิญให้เทศนา ให้สอนหรือให้อบรม

www.facebook.com/FORWARD.CH.TH

Email: actsministry2017@gmail.com

บทความก่อนหน้านี้ก้าวที่ 18 ชีวิตที่เป็นสาวก (1ธส 4:1-12)
บทความถัดไปมารีย์หญิงที่พระเจ้าโปรดปราน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่