หลังจากที่ท่านได้ศึกษาก้าวที่ 22  ท่านจะพบว่าชีวิตของผู้รับใช้พระเจ้าสำแดงออกว่าพระเจ้าเรียกให้เขามีนิมิต มีพันธกิจ มีหน้าที่อะไรที่เขาต้องรับผิดชอบกับพระเจ้า เพื่อนำคนให้เติบโตและรู้จักกับพระเจ้ามากขึ้น

เมื่อท่านได้ศึกษาก้าวที่ 23 เรื่อง  “ชีวิตที่เป็นพระพรต่อคริสตจักร” บทเรียนนี้เป็นส่วนหนึ่งของหนังสือ

   “วิถีชีวิตผู้รับใช้พระเจ้า” 

เมื่อท่านศึกษาข้อพระคัมภีร์ท่ีเกี่ยวข้องจนจบ ท่านจะเข้าใจว่าลักษณะชีวิตของผู้รับใช้พระเจ้าเป็นเรื่องที่สำคัญมากมากกว่าบทบาทหรือตำแหน่ง เพราะพระเจ้าจะใช้เขาให้รับใช้พระองค์ ด้วยขนาดความเติบโตของชีวิตที่ได้รู้จักพระเจ้า เพื่อจะเป็นพระพรต่อคริสตจักร เป็นพระพรต่อพระกายของพระคริสต์ นั่นคือเป็นพระพรต่อคนของพระเจ้า ขอพระเจ้าอวยพร

1ทธ3:1-13

 1คำกล่าวนี้สัตย์จริง คือว่าถ้าใครปรารถนาหน้าที่ผู้ปกครองดูแลคริสตจักร คนนั้นก็ปรารถนากิจการงานที่ประเสริฐ 

2ผู้ปกครองดูแลนั้นจะต้องเป็นคนที่ไม่มีที่ติ เป็นสามีของหญิงคนเดียว รู้จักประมาณตน มีสติสัมปชัญญะ เป็นคนน่านับถือ มีอัธยาศัยต้อนรับแขก เหมาะที่จะเป็นอาจารย์ 3ไม่ดื่มสุรามึนเมา ไม่ชอบความรุนแรง แต่ผ่อนหนักผ่อนเบา ไม่ชอบการวิวาท ไม่เป็นคนเห็นแก่เงิน 4ปกครองครอบครัวของตนได้ดี อบรมบุตร ธิดา ให้มีความนอบน้อมด้วยความเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่ง 

 5(เพราะถ้าชายคนไหนไม่รู้จักปกครองครอบครัวของตน คนนั้นจะดูแลคริสตจักรของพระเจ้าได้อย่างไร?) 

6เขาจะต้องไม่ใช่คนที่เพิ่งกลับใจใหม่ เกรงว่าเขาจะยโส และถูกลงโทษเช่นเดียวกับมาร 

 7นอกจากนั้นเขาจะต้องมีชื่อเสียงดีในหมู่คนภายนอก เพื่อเขาจะไม่ถูกติเตียนและไม่ติดกับดักของมาร

8พวกมัคนายกก็เหมือนกัน จะต้องเป็นคนน่านับถือ ไม่เป็นคนพูดจากลับกลอก ไม่ดื่มสุรามึนเมา ไม่เป็นคนโลภเห็นแก่ได้ 9และจะต้องเป็นคนที่ยึดมั่นในข้อล้ำลึกของความเชื่อ ด้วยมโนธรรมที่บริสุทธิ์ 

 10งทดสอบพวกเขาเสียก่อน และเมื่อเห็นว่าไม่มีข้อตำหนิแล้ว จึงให้พวกเขาทำหน้าที่มัคนายก

 11ส่วนพวกผู้หญิงก็เหมือนกัน ต้องเป็นคนน่านับถือ ไม่ใส่ร้ายคนอื่น รู้จักประมาณตน ซื่อสัตย์ในทุกๆ เรื่อง 12พวกมัคนายกนั้นจะต้องเป็นสามีของหญิงคนเดียว และสามารถปกครองบุตร ธิดา และครอบครัวของตนได้ดี 

 13เพราะว่าคนที่ทำหน้าที่มัคนายกได้ดีก็มีชื่อเสียงดี และมีความกล้าหาญอย่างยิ่งในความเชื่อที่มีอยู่ในพระเยซูคริสต์

“ก้าวที่ 23 ชีวิตที่เป็นพระพรต่อคริสตจักร”

A : Attitude

เราได้รับความรู้ใหม่ๆ หรือเราได้รับทัศนคติใหม่ๆ จากพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่อ่านเรื่องอะไรบ้าง?

การทำหน้าที่ดูแลคริสตจักรก็เพื่อเป็นพระพรต่อคริสตจักร คือ การดูแลผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์ คริสตจักรก็เหมือนพระกายของพระเยซูพระองค์เป็นศรีษะของคริสตจักร คริสตจักรเป็นชุมชนของผู้ที่เชื่อในพระเยซูคริสต์

พระคัมภีร์ตอนนี้ไม่ได้บอกว่าให้แสวงหาตำแหน่งผู้ปกครอง หรือมัคนายก แต่บอกว่าคนที่จะเป็นพระพรต่อคริสตจักรได้นั้น ขอให้มีชีวิตที่ดีเพื่อจะรับใช้ผู้อื่น เป็นพระพรต่อคริสตจักรของพระเยซูได้

 ดังนั้นคนที่เติบโตในความเชื่อจึงต้องเป็นคนที่เอาใจใส่กับชีวิตของตนเองให้ดีเพื่อจะรับใช้พระเจ้าด้วยชีวิตที่ดีได้

ผู้ปกครองกับมัคนายก มีลักษณะที่เหมือนกันคือ ต้องมีลักษณะชีวิตที่ดีโดยเฉพาะกับผู้เชื่อภายในคริสตจักร และผู้คนภายนอกคริสตจักรด้วย สิ่งที่สำคัญเป็นพิเศษคือ คนใกล้ตัว คนในครอบครัว ต้องให้การยอมรับเชื่อฟัง อยู่ภายใต้การปกครองด้วย

ลักษณะที่ผู้ปกครองกับมัคนายกมีความแตกต่างกัน คือ ผู้ปกครองเหมาะที่จะเป็นอาจารย์แสดงว่าต้องมีหน้าที่ในการสอนพระคัมภีร์ด้วย

ส่วนมัคนายกเน้นที่การทำหน้าที่ให้ดี ก็มีชื่อเสียงดี แสดงว่างานต้องเกี่ยวข้องกับผู้คน เพราะชื่อเสียงดีมาจากการที่คนยอมรับ

การมีความกล้าหาญในความเชื่อที่มีอยู่ในพระเยซู แสดงว่างานที่ต้องทำนั้นเกี่ยวข้องกับการสร้างงาน สร้างการบริการ ที่เกี่ยวข้องกับคนเป็นจำนวนมาก หากทำได้ดีแสดงว่าต้องมีกล้าหาญ และมีความเชื่อ เพราะต้องทำเพื่อคริสตจักรที่เป็นพระกายของพระคริสต์ไม่ใช่ทำเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง

C : Christ in focus

เรามองเห็นพระเยซูเป็นใคร พระองค์ทำอะไรบ้าง ผ่านพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่เราอ่านอย่างไรบ้าง?

เวลาที่พระเยซูไปทำราชกิจในการประกาศข่าวประเสริฐ สั่งสอน ทำหมายสำคัญการอัศจรรย์ รักษาโรค เราพบว่าจะมีคนมากมายติดตามพระองค์ทำให้ต้องมีการจัดการเรื่องอาหารบ้าง เรื่องการบริหารคนที่จะเข้ามารับการรักษาโรคบ้าง มีการบริหารจัดการสถานที่เพื่อฟังคำสอน มีการบริหารจัดการเวลาที่ต้องรับพิธีปัสการก็ต้องมีการเตรียมสถานที่ เตรียมอาหารเป็นต้น

 จากลักษณะงานที่มาจากความต้องการของผู้คนที่แสวงหาพระเยซู พวกเขามีความต้องการฝ่ายวิญญาณ และมีความต้องการฝ่ายร่างกายด้วย  จึงจำเป็นต้องมีคนที่จะเป็นพระพรทำหน้าที่ช่วยเหลือ ดูแล บริการ

เพื่อให้การประกาศข่าวประเสริฐ การสั่งสอนพระวจนะ การอบรมคนในทางธรรมจะได้ดำเนินเจริญเติบโตต่อไป จากการอ่านพระคัมภีร์หลายๆตอน เราจึงพบว่ามีสาวกบางคนทำหน้าที่บริหารจัดการ เช่น บริหารเงินก็มีคนถือถุงเงิน  หาสถานที่เพื่อสั่งสอน หาอาหารเพื่อเลี้ยงดูผู้คน บริหารเพื่อรับพิธีปัสกา

T : Transformation

เราต้องการให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราในด้านใดบ้าง?

เราต้องเอาใจใส่ชีวิตของตนเองให้ดี เพราะการรับใช้พระเจ้าเกี่ยวข้องกับชีวิตผู้คนมากมาย โดยเฉพาะคนใกล้ตัวของเรายิ่งต้องเอาใจใส่อย่างมาก เราอาจจะหลอกคนอื่นได้แต่หลอกคนใกล้ตัวไม่ได้แน่นอน

เมื่อเรามีความเชื่อเพิ่มมากขึ้น เราเติบโตมากขึ้น เราย่อมต้องมีความปรารถนาที่จะเป็นพระพรต่อคริสตจักร ต่อคนของพระเจ้า ต่อครอบครัวที่มีความเชื่อ

 ชีวิตที่มีความเชื่อของเราพิสูจน์และรับรองโดยคนใกล้ตัว คนในครอบครัว สมาชิกในคริสตจักร และคนภายนอกที่เราต้องเกี่ยวข้องด้วย

การมีคุณลักษณะชีวิตที่ดีนั้นมาจากความเชื่อที่เติบโตในพระเยซู

S : Serve

เราจะดำเนินชีวิตเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น และต่อพระเจ้าได้อย่างไรบ้าง?

เราสามารถทำหน้าที่รับใช้เพื่อเป็นพระพรกับคริสตจักรได้ แม้ไม่มีตำแหน่งผู้ปกครอง หรือมัคนายก เพราะเมื่อเราทำไปเรื่อยๆชื่อเสียงที่ดี ความกล้าหาญที่มี การเป็นที่ยอมรับ ก็อาจทำให้เราได้ตำแหน่ง บทบาทนี้ในที่สุด

แต่อย่ารับใช้เพื่อตำแหน่ง แต่รับใช้เพื่อคริสตจักรของพระเจ้าจะจำเริญขึ้น

สำหรับคริสตจักรที่ไม่มีตำแหน่งทั้งสองนี้เลย หรือมีตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ขอเพียงให้สามารถมีผู้รับใช้ที่ตอบสนองความต้องการของผู้เชื่อในพระคริสต์ได้มากที่สุดทั้งฝ่ายร่างกายและฝ่ายวิญญาณ

คริสตจักรไม่ต้องเสียเวลา ไม่จำเป็นต้องมาทะเลาะกันว่าคริสตจักรใดปกครองได้ถูกต้องตามพระคัมภีร์มากกว่ากัน

เพราะพระเจ้าจะเป็นผู้ตัดสินเอง อีกทั้งพระกายของพระเยซูจะรับรู้ว่า ความต้องการของพวกเขาทั้งฝ่ายภายภาพและฝ่ายวิญญาณได้รับการตอบสนองจากคนของพระเจ้าหรือผู้รับใช้ของพระเจ้าหรือไม่

ขอพระเจ้าช่วยท่านเพื่อให้ท่านเป็นพระพรต่อคริสตจักรของพระองค์

ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

สนใจติดต่อเรา

www.facebook.com/FORWARD.CH.TH

Email: actsministry2017@gmail.com

บทความก่อนหน้านี้ก้าวที่ 22 ชีวิตที่เป็นนิมิต (กจ26:12-18)
บทความถัดไปก้าวที่ 24 ชีวิตที่ส่งต่อความเชื่อ (1ทธ3:14-16)

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่