.ประยูร ลิมะหุตะเศรณี

เทศนาเช้า  อา 2 ..18  

คริสตจักรใจสมานเพชรเกษม ซอย 11

คส3:21 คุณพ่อฉลาด(smart)

บิดาทั้งหลายก็อย่ายั่วบุตรของตนให้ขัดเคืองใจเพื่อว่าพวกเขาจะไม่ท้อใจ

พ่อ เป็นแม่แบบจากองค์พระผู้เป็นเจ้า แต่พระคัมภีร์ไม่ได้บอกว่าพระเจ้าเป็นเพศอะไร แต่พระคัมภีร์ได้สื่อว่าพระเจ้าเป็นเพศชาย ดังนั้นผู้ชายทุกคนที่เชื่อในพระเจ้าก็ควรดำเนินชีวิตตามแบบพระเจ้า

วันนี้จากพระธรรมตอนนี้มีส่ิงที่ปรากฎน่าสนใจ 3 ประการ

1.บิดาทั้งหลาย (เจาะจงไปที่พ่อ)

2.อย่ายั่วบุตรของตนให้ขัดเคืองใจ

3.เพื่อพวกเขาจะไม่ท้อใจ

1.เงื่อนไขการเป็นคุณพ่อฉลาดของพระเจ้า

พระคัมภีร์สำแดงกับเราว่า ต้นกำเนิดของผู้ชายคือ พระเจ้า

อฟ3:14,15 เพราะเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงคุกเข่าต่อพระบิดา 15(คำว่า บิดา ของทุกตระกูลในสวรรค์ก็ดี บนแผ่นดินโลกก็ดี มาจากคำว่าพระบิดานี้)

เพราะเหตุนี้จึงคุกเข่าต่อพระบิดา คำว่า บิดา ของทุกตระกูล มาจากพระบิดานี้ หมายความว่า พระเจ้าเป็นต้นกำเนิดของพ่อ เมื่อพระเจ้าเป็นผู้ให้กำเนิด

คำว่าพ่อจึงหมายถึงการที่พระเจ้าเป็นพ่อของมนุษย์ทุกคน เนื่องจากมนุษย์ทุกคนมาจากการทรงสร้าง พระเจ้าจึงเป็นบิดาของสิ่งทรงสร้าง

แต่ในความเป็นจริงพระเจ้าไม่ได้เป็นพ่อของมนุษย์ทุกคนแม้พระองค์จะเป็นผู้ทรงสร้างมนุษย์

ยน8:40-44 แต่เดี๋ยวนี้พวกท่านหาโอกาสฆ่าเราซึ่งเป็นผู้บอกท่านถึงสัจจะที่เราได้ยินมาจากพระเจ้า อับราฮัมไม่ได้ทำอย่างนี้ 41พวกท่านทำสิ่งที่พ่อของท่านทำเขาทูลพระองค์ว่าเราไม่ได้เกิดจากการล่วงประเวณี เรามีพระบิดาองค์เดียวคือพระเจ้า” 42พระเยซูตรัสกับเขาว่าถ้าพระเจ้าเป็นพระบิดาของพวกท่านแล้ว ท่านก็จะรักเรา เพราะเรามาจากพระเจ้าและอยู่นี่แล้ว เราไม่ได้มาตามใจชอบของเราเอง แต่พระองค์ทรงใช้เรามา 43ทำไมพวกท่านถึงไม่เข้าใจถ้อยคำที่เราพูด? นี่เป็นเพราะท่านทนฟังคำสอนของเราไม่ได้ 44พวกท่านมาจากพ่อของท่านคือมาร และท่านอยากจะทำตามความปรารถนาของพ่อ มันเป็นฆาตกรตั้งแต่เริ่มแรกและไม่ได้ตั้งอยู่ในสัจจะ เพราะมันไม่มีสัจจะ เมื่อมันพูดเท็จมันก็พูดตามสันดานของมันเอง เพราะมันเป็นผู้มุสา และเป็นพ่อของการมุสา

พระเยซูพูดกับคนกลุ่มหนึ่ง บอกว่าพ่อของพวกเขาคือมาร เนื่องจากพวกเขาเข้าใจว่าพวกเขาเป็นลูกของพระเจ้าแต่พระเยซูบอกว่าพวกเขาไม่ใช่ลูกของพระเจ้า  เพราะถ้าเขาเป็นลูกของพระเจ้า พวกเขาจะรักพระเยซู ไม่ใช่เกลียดพระเยซู

เรามาดูพระคัมภีร์บอกว่าใครบ้างเป็นลูกของพระเจ้า มธ6:9 เพราะฉะนั้นพวกท่านจงอธิษฐานเช่นนี้ว่าข้าแต่พระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้สถิตในสวรรค์ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เคารพสักการะ

พระเยซูสอนสาวกให้อธิษฐานกับพระบิดาในสวรรค์ ดังนั้นสะท้อนให้เห็นว่า

คนเป็นลูกของพระเจ้าจึงจะมีสิทธิ์อธิฐานต่อพระองค์

หัวข้อคุณพ่อฉลาดที่ทางคริสตจักรได้กำหนดไว้ในวันนี้ เราจึงดูจากหลักการพระคัมภีร์ได้ ว่าใครบ้างเป็นคุณพ่อที่ฉลาด

1.1 คุณพ่อฉลาดถูกก่อกำเนิดโดยพระเจ้า

ยน1:12-13 แต่ทุกคนที่ยอมรับพระองค์ คือคนที่เชื่อในพระนามของพระองค์นั้น พระองค์ก็จะประทานสิทธิให้เป็นลูกของพระเจ้า 13 ซึ่งในฐานะนั้นพวกเขาไม่ได้เกิดจากเลือดเนื้อหรือกาม หรือความประสงค์ของมนุษย์ แต่เกิดจากพระเจ้า

แต่ทุกคนที่ยอมรับพระเจ้า พระองค์ประทานสิทธิให้เป็นลูกของพระเจ้า

เกิดจากพระเจ้า พระเจ้าเป็นบิดาของคนที่ยอมรับพระเยซู เชื่อในพระเยซูเท่านั้น และถูกก่อกำเนิดโดยพระเจ้า หมายถึง การมีชีวิตใหม่ บังเกิดใหม่ไม่ทำบาป ไม่ดำเนินชีวิตเหมือนคนบาปหรือเหมือนชีวิตเดิมแม้แต่สิ่งเดียว คนที่จะได้พระเจ้าเป็นบิดา พวกเขาต้องบังเกิดใหม่โดยพระเจ้า 

หากมีบางคนบอกว่าพวกเขาไม่ยอมเชื่อพระเยซู แต่พวกเขาก็ไม่ได้ลบหลู่พระเยซู พวกเขาก็ยังไม่ได้เป็นลูกของพระเจ้าเช่นกัน

1.2 คุณพ่อฉลาดได้รับการทรงนำพระวิญญาณ

รม8:14-16 เพราะว่าพระวิญญาณของพระเจ้าทรงนำใคร คนนั้นก็เป็นบุตรของพระเจ้า 15เพราะว่าพระวิญญาณที่พระเจ้าประทานมานั้นจะไม่ทรงให้ท่านเป็นทาสซึ่งทำให้ตกในความกลัวอีก แต่พระวิญญาณจะทรงให้ท่านมีฐานะเป็นบุตรของพระเจ้า โดยพระวิญญาณนั้นเราจึงร้องเรียกพระเจ้าว่าอับบา (พ่อ)” 16พระวิญญาณนั้นเป็นพยานร่วมกับจิตวิญญาณของเราว่า เราเป็นลูกของพระเจ้า

พระวิญญาณทรงนำใคร คนนั้นก็เป็นบุตรของพระเจ้า คริสเตียนควรดำเนินชีวิตภายใต้การทรงนำของพระเจ้า เพื่อให้ได้พระเจ้าเป็นพ่อ หรือบิดาของเรา

ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระวิญญาณบริสุทธิ์นั้น เราไม่ใช่คนแปลกหน้าต่อกันและกัน เราต้องรู้จักสังเกตการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพราะว่า

พระองค์จะไม่นำใครออกนอกกรอบของหลักการในพระคัมภีร์ 

พระคัมภีร์กับพระวิญญาณบริสุทธิ์ ไปด้วยกันเสมอ ในทิศทางเดียวกันเสมอ

1.3 คุณพ่อฉลาดรักพระเยซู

ยน8:42-47พระเยซูตรัสกับเขาว่าถ้าพระเจ้าเป็นพระบิดาของพวกท่านแล้ว ท่านก็จะรักเรา เพราะเรามาจากพระเจ้าและอยู่นี่แล้ว เราไม่ได้มาตามใจชอบของเราเอง แต่พระองค์ทรงใช้เรามา 43ทำไมพวกท่านถึงไม่เข้าใจถ้อยคำที่เราพูด? นี่เป็นเพราะท่านทนฟังคำสอนของเราไม่ได้ 44พวกท่านมาจากพ่อของท่านคือมาร และท่านอยากจะทำตามความปรารถนาของพ่อ มันเป็นฆาตกรตั้งแต่เริ่มแรกและไม่ได้ตั้งอยู่ในสัจจะ เพราะมันไม่มีสัจจะ เมื่อมันพูดเท็จมันก็พูดตามสันดานของมันเอง เพราะมันเป็นผู้มุสา และเป็นพ่อของการมุสา 45แต่พวกท่านไม่เชื่อเราเพราะเราพูดความจริง 46มีใครในพวกท่านที่อาจชี้ให้เห็นว่าเรามีบาป? ถ้าเราพูดความจริง ทำไมท่านถึงไม่เชื่อเรา47คนที่มาจากพระเจ้าก็ย่อมฟังพระดำรัสของพระเจ้า พวกท่านไม่ได้มาจากพระเจ้า เพราะเหตุนี้พวกท่านจึงไม่ฟัง

การรักพระเยซูไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ เพราะเราไม่สามารถจินตนาการได้ว่าพระเยซูพระองค์เป็นอย่างไรตามความคิดของเรา แต่เราต้องจินตนาการพระองค์ตามพระคัมภีร์ต่างหาก

เราจะหลงรักใครที่ไม่มีรูป ไม่มีภาพ ได้อย่างไร

แต่ถ้าเรามีความรักจริงต่อพระเยซู เราต้องเห็นพระเยซูตามการสำแดงของพระวิญญาณบริสุทธิ์ผ่านพระคัมภีร์ 

ถามว่าวันนี้คุณรักอะไรของพระเยซู มีใครรักหน้าของพระองค์บ้าง บางคนรักทรงผมของพระองค์  ถามจริงๆเรารักอะไรของพระเยซู

ถ้าเรามีความรักต่อพระเยซู เราต้องฟังคำสอนของพระองค์

ถ้ารักพระเยซู คุณจะเข้าใจพระคัมภีร์  แต่ถ้าคุณเกลียดพระเยซูคุณก็จะชังคำสอนของพระองค์ คุณจะเกลียดคำสอนของพระเยซู  คนเหล่านั้นที่เกลียดพระเยซู พวกเขาจะมาอ้างว่าพระเจ้าเป็นบิดาของเขาไม่ได้ เนื่องจากพวกเขาไม่มีคุณสมบัติตามที่กล่าวมา

มธ5:9“คนที่สร้างสันติก็เป็นสุขเพราะว่าพระเจ้าจะทรงเรียกเขาทั้งหลายว่าเป็นลูก

ภาคปฎิบัติคือ เราจะไม่สร้างความวุ่นวายให้ชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นทางความคิด ทางคำพูด หรือแม้แต่ทางการกระทำ การสร้างสันติทำให้เกิดความสงบทางจิตใจ แบบนี้ถึงจึงจะนับเป็นลูกของพระเจ้า ไม่ใช่สร้างความแตกแยก

มธ5:43-44 “ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้ว่าจงรักเพื่อนบ้านของท่าน และเกลียดชังศัตรูของท่าน’ 44แต่เราบอกพวกท่านว่า จงรักศัตรูของท่าน และจงอธิษฐานเพื่อบรรดาคนที่ข่มเหงพวกท่าน

พระคัมภีร์บอกให้เรารักศัตรู เพื่อพวกท่านจะเป็นบุตรของพระบิดาในสวรรค์

วันนี้ต้องถามใจของเราดูว่าใครเป็นคนที่ทำให้เราเจ็บแสบมากที่สุด นั่นแหละคือคนที่คุณต้องรักเขาให้มาก อธิษฐานเผื่อเขาด้วย

ลก15:11-32 อันนี้ยาวขอให้ไปอ่านเองที่บ้าน

  เป็นเรื่องของบุตรน้อยหลงหาย แปลความว่า เราที่มีพระเจ้าเป็นพ่อ พระเจ้าปรารถนาให้พ่อที่มีความเชื่อทุกคนที่เป็นคนของพระเจ้า ให้สะท้อนพระลักษณะของพระเจ้าผ่านความเป็นพ่อที่มีพระเจ้าในชีวิต สำแดงต่อลูก ผ่านชีวิตของคุณพ่อ พระธรรมตอนนี้บอกว่าลูกที่บรรลุนิติภาวะมาขอมรดก พ่อของเขาได้สะท้อนพระลักษณะของพระเจ้า ผ่านเรื่องราวที่บันทึกสำหรับให้เราเรียนรู้ ผ่านเรื่องของลูกคนโต และลูกคนเล็ก

พระเจ้าฉลาดพ่อก็ต้องฉลาด

มธ5:48 เพราะฉะนั้นพวกท่านจงเป็นคนดีพร้อม เหมือนอย่างที่พระบิดาของท่าน ผู้สถิตในสวรรค์ทรงดีพร้อม

จงเป็นคนดีพร้อมเหมือนพระบิดา ดีพร้อมหมายถึง ดีรอบครอบ แปลว่า ดีแบบไม่พลาด มีสติปัญญา ไม่ใช่พยายามทำดี หรือเป็นคนดีตามแบบพระบัญญัติ แต่พ่อต้องเป็นแบบให้ลูกและคนรอบข้าง

พ่อต้องสะท้อนสติปัญญาของพระเจ้าออกมา เพื่อให้ลูกเห็นพระเจ้าในชีวิตของพ่อ นี่จึงเป็นความรับผิดชอบสำคัญของพ่อ

2.คุณพ่อฉลาดอย่ายั่วบุตรของตนให้ขัดเคืองใจ

เปาโลเขียนพระธรรมเอเฟซัส และโคโลสี ในบริบทที่ใกล้เคียงกัน จาก อฟ6:4 อย่ายั่วบุตรของตนให้เกิดโทสะ คำไทยใช้คำว่ายั่วเป็นคำเดียวกัน แต่คำในภาษากรีกกับใช้คำว่ายั่วเป็นคนละคำกัน แสดงว่าพระคัมภีร์มีเจตนา ที่จะให้มีพระดำริแตกต่างกัน

อฟ6:4 พาโรกิเซเธ parorgizete (παροργίζετε)   แปลว่า อย่ายั่วลูกให้เกิดโทสะ โกรธ โมโห แบบเจาะจงเลยใช้ครั้งเดียว 

ส่วนในโคโลสี3:21 ใช้คำว่า เอเระเซโธ (ἐρεθίζετε) erethizete แปลว่า กระตุ้น เป็นคำกว้างๆ ไม่ใช่เฉพาะเจาะจง คำนี้เมื่อใช้ใน 2คร9:2 เพราะว่าข้าพเจ้ารู้ว่าท่านทั้งหลายพร้อมอยู่แล้ว ข้าพเจ้าจึงพูดอวดเรื่องพวกท่านกับพวกมาซิโดเนียว่า พวกอาคายาจัดเตรียมไว้พร้อมตั้งแต่ปีกลายแล้ว และความกระตือรือร้นของพวกท่านก็เร้าใจพวกเขาเป็นอย่างมาก 

ใช้คำว่า เร้าใจ ไม่ใช่แปลว่า ยั่ว แสดงว่าใช้ในการให้ความหมายที่ดีก็ได้ ไม่ใช่ความหมายแง่ลบเพียงอย่างเดียว

เราเป็นพ่อที่ดีเราจะไม่ยั่วลูกให้โกรธ คุณก็ต้องใช้สติปัญญาอย่างสูง ขั้นเทพ

เพราะพ่อที่ดีไม่ใช่ตามใจลูกทุกอย่าง แต่ตักเตือนลูก ห้ามลูก สอนลูกอย่างไรให้ลูกอย่าทำอะไร  หรือจะพูดอย่างไรที่ไม่ทำให้ลูกเกิดความขัดเคืองใจจนท้อใจ

ดังนั้นไม่ว่าพ่อจะหวังดีต่อลูกอย่างไร จะสั่งสอน หรือตักเตือน หรือ

ทำอย่างไรที่จะทำให้ลูกไม่ขัดเคืองใจ นี่จึงเป็นคุณพ่อที่ฉลาด

เพราะความเป็นเด็กทำให้เด็กไม่มีเหตุผล หรือมีเหตุผลผิดๆ หรือไปเลียนแบบผิดๆจากคนอื่นมา แต่เราในฐานะพ่อจะตักเตือน สั่งสอน หรือจะขัดใจลูกอย่างไรไม่ให้ลูกขัดเคืองใจ

พระเจ้าเป็นพ่อที่ดีรอบครอบ พระองค์ขัดใจเราเมื่อเราตั้งใจทำบาป แต่พระองค์ไม่ต้องการให้เราท้อใจในการดำเนินชีวิตกับพระเจ้า 

บิดาจึงต้องระมัดระวัง ที่จะไม่ทำให้ลูกของเราขัดเคืองใจ หรือท้อใจเด็ดขาด การขัดใจทำได้ แต่ต้องไม่ทำให้เด็กเคืองใจ เพื่อไม่ส่งผลกระทบให้เขาท้อแท้ใจ คุณพ่อต้องฉลาด ต้องเรียนรู้จากพระเจ้า นี่จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากเรามาดูว่าการไม่ยั่วบุตรต้องทำอย่างไร

ตัวอย่าง .ประยูรเห็นลูกติดเกมส์ ทำยังไงที่จะขัดใจโดยไม่ให้ลูกเคืองใจ

2.1คุณพ่อฉลาดต้องมีชีวิตติดสนิทกับพระเยซูอย่างแท้จริง

ยน15:4 จงติดสนิทอยู่กับเราและเราติดสนิทอยู่กับพวกท่าน แขนงจะออกผลเองไม่ได้นอกจากจะติดสนิทอยู่กับเถา พวกท่านก็เช่นเดียวกันจะเกิดผลไม่ได้นอกจากจะติดสนิทอยู่กับเรา

คุณพ่อต้องรู้จักซึมซับความเป็นพระเจ้าของพระองค์เข้ามาในชีวิตของคุณพ่อ เพื่อให้ได้ปัญญาจากพระเจ้า

2.2 คุณพ่อฉลาดมีชีวิตยำเกรงพระเจ้า

ความยำเกรงพระเจ้าเป็นจุดเริ่มต้นของปัญญา ปัญญามาจากความสัมพันธ์กับพระเจ้า ที่ไม่ใช่เกรงกลัวพระเจ้าแบบพระเจ้าเป็นส่ิงศักดิ์สิทธิ์

สภษ1:7 ความยำเกรงพระยาห์เวห์เป็นจุดเริ่มต้นของความรู้ คนโง่ย่อมดูหมิ่นปัญญาและการสั่งสอน

สภษ 9:10 ความยำเกรงพระยาห์เวห์เป็นที่เริ่มต้นของปัญญา และการรู้จักองค์บริสุทธิ์เป็นความรอบรู้

การที่จะทำให้เกิดปัญญาและความรอบรู้ ทั้งสองอย่างนี้ต้องไปด้วยกัน ภาษาไทยใช้คำที่บอกว่ามีเชาวน์ มีปัญญา ความรู้ คือ ข้อมูล

แต่ปัญญา ก็คือ การเอาทักษะการใช้ความรู้ไปปฎิบัติได้ มีเชาวน์ คือ การมีทักษะการใช้ความรู้

คำไทยโบราณบอกว่ามีความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด หรือ ความรู้มากแต่ทำไม่เป็น ไม่มีทักษะทำในส่ิงที่ตนเองมีความรู้ได้ แต่พระเจ้าได้ให้ความรู้ ปัญญา ทักษะ แก่เราเพื่อเราจะทำได้

ตัวอย่างกษัตริย์โซโลมอน เจอการทดสอบสติปัญญาเรื่องให้ตัดสินว่าบุตรที่ไม่ตายเป็นของหญิงคนไหน พระองค์มีปัญญา มีความรู้ มีทักษะ พระองค์รู้ว่าต้องทำอย่างไร พระองค์รู้ว่าแม่คนไหนก็ต้องรักลูก หากสั่งทำร้ายลูกแม้ตัวจริงคงไม่ยอม ดังนั้นพระองค์จึงสั่งให้ฆ่าเด็กที่ยังมีชีวิตอยู่เพื่อแบ่งให้แม่ทั้งสองคน แม่ที่แท้ยินดีให้ลูกรอด จึงขอไม่ให้ฆ่าเด็ก โซโลมอนจึงตัดสินได้ว่าใครเป็นแม่ที่แท้จริง

การขัดใจลูก แต่ไม่ทำให้ลูกเคืองใจ นี่คือ สติปัญญาจากพระเจ้า

2.3 คุณพ่อฉลาดต้องมีชีวิตบริสุทธิ์

1ปต1:16-17 เพราะมีคำเขียนไว้แล้วว่า พวกท่านจงเป็นคนบริสุทธิ์ เพราะเราเองบริสุทธิ์”  17และถ้าพวกท่านร้องเรียกพระองค์ว่าพระบิดา ผู้ทรงพิพากษาอย่างไม่มีอคติตามการกระทำของแต่ละคน พวกท่านก็จงดำเนินชีวิตด้วยความยำเกรงในเวลาที่พวกท่านอยู่ในโลกนี้

ดำเนินชีวิตตามพระเจ้า คือ การเลียนแบบพ่อ พ่อฉลาดไม่เอาชีวิตไปปนเปื้อนบาป เพราะทำอย่างนั้นเป็นเรื่องโง่ เราอยู่ในโลกนี้ดำเนินชีวิตสะท้อนพระเจ้าพระบิดา หากเราต้องขัดเคืองใจลูกแต่อย่าทำบาป

2.4 คุณพ่อฉลาดมีความเมตตา

เพราะลูกของเรามักจะผิดพลาด ลก6:36 พวกท่านจงมีใจเมตตากรุณาเหมือนอย่างพระบิดาของท่านมีพระทัยเมตตากรุณา

มีใจเมตตาเหมือนพระบิดาของท่าน พ่อต้องขัดใจลูกบนพื้นฐานความเมตตา อย่าโกรธลูก อย่าใช้อารมณ์กับลูก

2.5 คุณพ่อฉลาดเต็มไปด้วยความยินดีพระคริสต์

ยน15:10-11 ถ้าพวกท่านประพฤติตามบัญญัติของเรา ท่านก็จะติดสนิทอยู่กับความรักของเรา เหมือนอย่างที่เราประพฤติตามบัญญัติของพระบิดาและติดสนิทอยู่กับความรักของพระองค์ 11เราบอกสิ่งเหล่านี้กับพวกท่านแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่ในท่าน และให้ความยินดีของท่านเต็มเปี่ยม

ในอีกแง่หนึ่งก็หมายถึงการมีอารมณ์ดี เป็นพ่อที่อารมณ์ดีตลอดเวลา ไม่ใช่โกรธลูกตลอด

3.คุณพ่อฉลาดไม่ทำให้ลูกท้อใจ 

คำว่าท้อใจหมายความว่า ไม่ทำให้ลูกของเราถูกกระทบกระเทือนจิตใจจากคุณพ่อ เพราะจะทำให้ลูกได้รับความกระทบเทือนหลายอย่าง เช่น 

กระทบกระเทือนต่อความรักของเขาที่มีต่อพระเจ้า

กระทบกระเทือนต่อความเชื่อในพระเจ้า เพราะลูกท้อใจจากการกระทำของพ่อ

กระทบกระเทือนต่อความหวังในพระเจ้า เพราะคุณพ่อทำให้ลูกหมดหวัง เขาจะไม่เชื่อพระเจ้าของพ่อ

กระทบกระเทือนต่อการสูญเสียความมั่นใจในพระเจ้า สูญเสียความกล้าหาญในพระเจ้า ไม่อยากติดตามพระเจ้าอีกแล้วแล้ว

กระทบกระเทือนต่อชีวิตลูกทำให้เขาไม่มีความสุขในพระเจ้า เพราะพ่ออยู่บ้านทำให้ลูกเป็นทุกข์ ท้ังที่ความจริงไม่ควรเป็นอย่างนั้น ลูกน่าจะมีความสุขเมื่อพ่ออยู่ด้วย

อะไรก็ตามที่เคยทำมาแล้วทำให้ลูกได้รับผลกระทบเหล่านี้ คุณพ่อฉลาดต้องกลับใจใหม่

ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

สนใจติดต่อเรา หรือเชิญให้เทศนา ให้สอนหรือให้อบรม

www.facebook.com/FORWARD.CH.TH

Email: actsministry2017@gmail.com

บทความก่อนหน้านี้อบรมครูรวีพันธุ์แท้ มก10:13-16 นำเด็กให้มาถึงพระเยซู
บทความถัดไปรับใช้เกิดผลด้วยความรักของพระเจ้า

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่