.ประยูร ลิมะหุตะเศรณี เทศนาเช้า อาทิตย์ที่ 23 มิ.. 2019

คริสตจักรพระคริสต์รวมใจ  ความเชื่อเท่านั้น ปฐก22:1-19

พระบัญชาให้ถวายอิสอัค

1ต่อมาพระเจ้าทรงทดลองอับราฮัม และตรัสกับท่านว่าอับราฮัมท่านทูลว่าข้าพระองค์อยู่ที่นี่” 2พระองค์ตรัสว่าจงพาบุตรของเจ้าคืออิสอัค บุตรคนเดียวของเจ้าผู้ที่เจ้ารัก ไปยังดินแดนโมริยาห์ และถวายเขาที่นั่นเป็นเครื่องบูชา บนภูเขาลูกหนึ่งซึ่งเราจะบอกแก่เจ้า” 3อับราฮัมจึงลุกขึ้นแต่เช้ามืด ผูกอานลาของท่านพาคนใช้หนุ่มไปกับท่านด้วยสองคนกับอิสอัคบุตรของท่าน ท่านตัดฟืนสำหรับเครื่องบูชา แล้วเดินทางไปยังที่ซึ่งพระเจ้าทรงบอกแก่ท่าน 4พอถึงวันที่สามอับราฮัมเงยหน้าขึ้นมองเห็นที่นั้นแต่ไกล 5อับราฮัมจึงพูดกับคนใช้ทั้งสองของท่านว่าอยู่กับลาที่นี่เถิด เรากับลูกจะเดินไปที่โน้นนมัสการพระเจ้า แล้วจะกลับมาหาพวกเจ้า” 6อับราฮัมเอาฟืนสำหรับเครื่องบูชาใส่บ่าอิสอัคบุตรชาย มือถือไฟและมีด แล้วพ่อลูกไปด้วยกัน 7อิสอัคพูดกับอับราฮัมบิดาว่าพ่อและท่านตอบว่าลูกเอ๋ย พ่ออยู่นี่ลูกจึงว่านี่ไฟและฟืน แต่ลูกแกะสำหรับเครื่องบูชาอยู่ที่ไหน?” 8อับราฮัมตอบว่าลูกเอ๋ย พระเจ้าจะทรงจัดหาลูกแกะสำหรับพระองค์เองเป็นเครื่องบูชาทั้งสองก็เดินต่อไปด้วยกัน 9เมื่อเขาทั้งสองมาถึงที่ซึ่งพระเจ้าตรัสบอกเขาไว้ อับราฮัมก็สร้างแท่นบูชาที่นั่น เรียงฟืนเป็นระเบียบ แล้วมัดอิสอัคบุตรชายวางไว้บนแท่นบูชาบนฟืน 10แล้วอับราฮัมก็ยื่นมือจับมีดจะฆ่าบุตรชาย 11แต่ทูตของพระยาห์เวห์เรียกเขาจากฟ้าสวรรค์ว่าอับราฮัม อับราฮัมและท่านตอบว่าข้าพระองค์อยู่ที่นี่” 12ทูตสวรรค์ว่าอย่าแตะต้องเด็กนั้น อย่าทำอะไรเขาเลย เพราะบัดนี้เรารู้แล้วว่าเจ้ายำเกรงพระเจ้า และเจ้าไม่ได้หวงบุตรชายคือบุตรชายคนเดียวของเจ้าไว้จากเรา” 13อับราฮัมเงยหน้าขึ้นมองดู เห็นข้างหลังท่านมีแกะผู้ตัวหนึ่ง เขาของมันติดอยู่ในพุ่มไม้ทึบ อับราฮัมก็ไปจับแกะตัวนั้นมาถวายเป็นเครื่องบูชาแทนบุตรชาย 14อับราฮัมจึงเรียกสถานที่นั้นว่า ยาห์เวห์ยิเรห์ อย่างที่เขาพูดกันทุกวันนี้ว่าทรงจัดไว้ให้บนภูเขาของพระยาห์เวห์”15ทูตของพระยาห์เวห์เรียกอับราฮัมครั้งที่สองมาจากฟ้าสวรรค์ว่า 16“พระยาห์เวห์ตรัสว่า เราเองปฏิญาณว่า เพราะเจ้าทำอย่างนี้และไม่ได้หวงบุตรชายของเจ้า คือบุตรชายคนเดียวของเจ้า 17ดังนั้นเราจะอวยพรเจ้าแน่ เราจะทวีเชื้อสายของเจ้าให้มากขึ้น ดังดวงดาวในท้องฟ้า และดังเม็ดทรายบนฝั่งทะเล เชื้อสายของเจ้าจะได้ประตูเมืองศัตรูทั้งหลายของเจ้าเป็นกรรมสิทธิ์ 18ประชาชาติทั้งหมดในโลกจะได้พรเพราะเชื้อสายของเจ้า เพราะว่าเจ้าเชื่อฟังเรา” 19อับราฮัมจึงกลับไปพบคนใช้ทั้งสองของท่าน แล้วพากันกลับไปยังเบเออร์เชบา อับราฮัมก็อาศัยอยู่ที่เบเออร์เชบา

พระคัมภีร์ได้บันทึกเรื่องความเชื่อไว้เยอะมาก เช่น ฮบ11 วีรบุรุษแห่งความเชื่อ ความเชื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเราทั้งในปัจจุบัน อนาคต  ความเชื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทุกด้านของชีวิต พระคัมภีร์บันทึกไว้ถึงเรื่องความเชื่อว่าเริ่มต้นก็ความเชื่อ สุดท้ายก็ความเชื่อ คนชอบธรรมดำรงชีวิตด้วย ความเชื่อ

วันนี้เราจะมาเรียนรู้จากอับราฮัมบิดาแห่งความเชื่อ เหตุการณ์ที่เราอ่านไปเป็นเรื่องการถวายบุตร เป็นเรื่องสืบเนื่องจากพระสัญญาของพระเจ้าที่ได้ให้ไว้กับอับราฮัม คือ การให้บุตรชายแก่เขาแม้ว่าเขาชรามากแล้ว

ปฐก11:30 นางซาราเป็นหมัน แต่พระสัญญาของพระเจ้าให้เขามีบุตร 30ฝ่ายนางซารายนั้นเป็นหมัน ไม่มีบุตร

ปฐก17:1-6 ชื่อเดิมเขาคืออับราม เปลี่ยนเป็นอับราฮัมแปลว่าพ่อของลูกหลายชาติหลายตระกูล ทั้งที่เขาอายุ 99 ปีแล้วเมื่อรับพระสัญญา

1เมื่ออายุอับรามได้ 99 ปี พระยาห์เวห์ทรงปรากฏแก่อับรามและตรัสแก่ท่านว่าเราเป็นพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ จงดำเนินอยู่ต่อหน้าเราและเป็นคนดีพร้อม 2เราจะทำพันธสัญญาของเราระหว่างเรากับเจ้า เราจะทวีเชื้อสายของเจ้าให้มากมายมหาศาล” 3อับรามก็ซบหน้าลงถึงดิน พระเจ้าตรัสแก่ท่านว่า 4นี่คือพันธสัญญาของเรากับเจ้า เจ้าจะเป็นบิดาของประชาชาติมากมาย 5ชื่อของเจ้าจะไม่ใช่อับรามอีกต่อไป เจ้าจะมีชื่อใหม่คืออับราฮัม เพราะเราให้เจ้าเป็นบิดาของประชาชาติมากมาย 6เราจะทำให้เจ้ามีพงศ์พันธุ์มากมายยิ่ง เราจะทำให้เจ้าเป็นชนหลายชาติ และกษัตริย์หลายองค์จะเกิดมาจากเจ้า

ปฐก15:5-6 เชื้อสายของเจ้าจะเป็นดั่งดวงดาว เขาก็เชื่อ ความเชื่อนั้นพระองค์ถือว่าเป็นความชอบธรรมของท่าน

5พระองค์จึงพาอับรามออกมาข้างนอกแล้วตรัสว่ามองดูฟ้าสิ ถ้าเจ้าสามารถนับดาวทั้งหลายได้ ก็นับไปแล้วพระองค์ตรัสกับท่านว่าเชื้อสายของเจ้าจะเป็นเช่นนั้น” 6อับรามก็เชื่อพระยาห์เวห์ ความเชื่อนั้นพระองค์ทรงถือว่าเป็นความชอบธรรมแก่ท่าน

ลูกคนที่อับราฮัมถวายนี้เป็นลูกแห่งพระสัญญาของพระเจ้า เขาเชื่อพระสัญญาพระเจ้า เชารอคอย เขามีความหวังเต็มเปี่ยมในลูกคนนี้ ตอนที่ยังไม่มีลูก เป็นการเชื่อที่ยากว่าจะได้ลูก เพราะดูตามเหตุลทางกายภาพแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลย  อับรามเปลี่ยนชื่อเป็นอับราฮัม การเปลี่ยนชื่อของเขา เป็นการแสดงออกว่าไม่กลัวว่าชาวบ้านจะกล่าวหาว่าเขาบ้าคลั่งอยากมีลูก ทั้งๆที่เป็นไปไม่ได้ แต่เพราะอับราฮัมเชื่อว่าพระสัญญาพระเจ้า จะเกิดขึ้นเป็นจริง พอมีลูกจริงๆ แล้วพระสัญญาของพระเจ้าเป็นจริง เขารับไว้ด้วยความเชื่อ พระเจ้าจึงนับว่าเขาเป็นคนชอบธรรม  วันนี้เราจะมาศึกษาปัจจัยที่เกี่ยวข้อง กับความเชื่อเท่านั้น 4 ประการ

1.ความเชื่อต้องตั้งอยู่พระคำของพระเจ้า

พระเจ้า ตรัสกับอับราฮัม ปฐก22:1ต่อมาพระเจ้าทรงทดลองอับราฮัม และตรัสกับท่านว่าอับราฮัมท่านทูลว่าข้าพระองค์อยู่ที่นี่

พระเจ้าตรัสกับท่าน พระเจ้าทดลองความเชื่อ ตอนแรกเขาแก่แล้ว เขาก็เชื่อว่าพระเจ้าให้สัญญาจะประทานบุตร แต่ตอนนี้พระเจ้าตรัสให้ถวายบุตรเป็นเครื่องบูชา ตอนถวายบุตรนี่เป็นการดับความหวังของอับราฮัมที่จะเป็นบิดาของประชาชาติเพราะต้องเอาลูกชายไปเผาบูชา ลูกจะต้องตาย

ตอนลูกยังไม่เกิดอับราฮัมก็แก่มากแล้ว เมียก็เป็นหมัน แต่ยังมีความหวังที่พระเจ้าจะให้ลูก แต่พอบอกให้เอาลูกไปฆ่า ส่ิงนี้ที่พระเจ้าบอกมันทำให้หมดหวัง หากลูกเขาตายแล้วเขาจะเป็นบิดาแห่งความเชื่อได้อย่างไร

ความเชื่อแท้จริงนั้น ต้องเกิดขึ้นได้ตามพระคำของพระเจ้า  ไม่ว่าสิ่งที่พระคำบอกจะทำให้เรามีหวัง หรือทำให้เราหมดหวัง แต่ขอให้เป็นพระคำของพระเจ้าเท่านั้น  เราจะเชื่อจริงๆหรือไม่ 

อับราฮัมไว้วางใจพระเจ้า มีความเชื่อเต็มร้อยไม่ลดลงไปเลย

บางครั้งคริสเตียนเราเรียนด้านดีด้านเดียว คือ รับพระพรของพระเจ้า  ที่มีความเชื่อเพราะความเชื่อนั้นจะเป็นประโยชน์กับเรา แต่พอพระเจ้าให้ไปทำสิ่งที่ดูเหมือนขัดใจเรา เช่น ถวายสิบลด บางคนก็ไม่กล้าเชื่อ ไม่กล้า ถวาย ไม่กล้าทำเลย เวลาที่คนถวายสิบลดเรามีกี่อารมณ์ ช่วงเวลาที่เรามีรายได้มากก็ดูไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่พอเราไม่มีเงิน เราจะรู้สึกว่าเริ่มยากในการถวาย

ตัวอย่าง ตอนผมเรียนหนังสือถวายสิบลด 10 บาทไม่ยาก พอเรียนจบเงินเดือน 2,000 บาท ต้องถวายสิบลด 200 บาท สมัยนั้นทอง 1 บาท ราคา400 บาท การถวายเริ่มยากเลย แต่เราต้องเรียนรู้ ที่มันยากเพราะเราใช้เหตุผล ใช้สมอง ใช้ความจำเป็นส่วนตัวมาเกี่ยวข้องกับพระคำ

พระคำของพระเจ้าเป็นส่ิงที่พัฒนาความเชื่อของเรา วัดใจเรากับพระคำของพระเจ้า  อับราฮัมไว้วางใจพระเจ้าตามที่พระองค์ทรงตรัส ถ้าพระเจ้า ตรัส คำตรัสของพระองค์วางใจได้ เราเพียงแต่ไปทำตาม พระเจ้าดีเพียงพอที่จะให้ส่ิงที่พระเจ้าไว้ พระสัญญาเป็นความจริง แม้ว่าบางครั้งดูเหมือนขัดกับเหตุผลและความรู้สึกของเรา พระเจ้ายิ่งใหญ่ พระเจ้ามีความสามารถเพียงพอ ที่จะทำให้สิ่งที่พระเจ้าตรัสเกิดขึ้นเป็นจริง เราควรจะตอบสนองพระเจ้าตามที่พระเจ้าตรัสไม่ว่าเราจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย

2.ความเชื่อทำให้เกิดความหวังใจ

ซึ่งเกิดจากพระคำของพระเจ้า

ฮบ11:11 ความเชื่อคือความมั่นใจในสิ่งที่หวังไว้ เป็นความแน่ใจในสิ่งที่มองไม่เห็น

ความหวังใจเป็นเรื่องอนาคต ความเชื่อในพระเจ้าเป็นความหวังใจในอนาคตว่าส่ิงที่หวังไว้จะเกิดขึ้น ตามที่ได้ฟังพระคำพระเจ้า ทำให้มีความเชื่อ

รม10:17 ความเชื่อเกิดขึ้นได้จากการได้ยิน ความหวังใจที่เกิดขึ้นเกิดจากพระคำของพจ ไม่ใช่จากนักเทศน์

ฉะนั้นความเชื่อเกิดขึ้นได้ก็เพราะการได้ยิน และการได้ยินเกิดขึ้นได้ก็เพราะการประกาศพระคริสต์

ฮบ11:1 ความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งที่มองไม่เห็น เป็นแก่นแท้ของความหวัง  คนที่มีความเชื่อไม่หมดหวัง แม้ดูเหมือนพระเจ้าให้เราทำในสิ่งที่ทำให้เราหมดหวัง

ตัวอย่างหากพระเจ้าให้เงินมาไปใช้หนี้เราขอบคุณพระเจ้า แต่ระหว่างนั้นพระเจ้า บอกให้นำเงินที่ต้องไปใช้หนี้ให้ไปบริจาคที่โรงพยาบาล ถ้าเราต้องไปบริจาคเราหมดหวังในการใช้หนี้ แต่อับราฮัมไม่หมดหวัง เพราะถ้าหมดหวังแสดงว่าไม่มีความเชื่อ

หลายคนที่หมดหวังก็ต้องทำใจ กี่คนมาหาพระเจ้า แบบทำใจ เพราะ หมดหวังกับพระเจ้าเลยต้องทำใจ แต่อับราฮัมกระตือรือร้น เตรียมไปถวายอิสอัคตามที่พระเจ้าบอกแต่เช้า

กท3:2,5 2ข้าพเจ้าใคร่รู้ข้อเดียวจากท่านว่า ท่านได้รับพระวิญญาณโดยการประพฤติตามธรรมบัญญัติ หรือได้รับโดยความเชื่อตามที่ได้ฟัง?5พระองค์ผู้ประทานพระวิญญาณแก่ท่านทั้งหลาย และทรงสำแดงฤทธานุภาพท่ามกลางพวกท่าน ทรงทำเช่นนั้นโดยการประพฤติตามธรรมบัญญัติ หรือโดยความเชื่อของพวกท่านตามที่ได้ฟัง?

รับโดยความเชื่อหรือรับไว้ด้วยตามการประพฤติ ตามที่ได้ฟัง คือ ได้ฟัง พระคำของพระเจ้า  พระดำรัสของพระเจ้า เวลาที่อับราฮัมฟังตอนพระเจ้าบอกว่าได้ลูกเขารับไว้ด้วยความเชื่อ แต่พอบอกว่าให้ถวายลูก ฟังดูแล้วทำยาก  เชื่อยาก แต่ท่านทำตาม เพราะท่านมีความเชื่อ และไม่หมดหวังในพระเจ้า

ปฐก22:1-3 ท่านเชื่อฟังทันที ไม่รีรอ ไม่หมดหวัง ทำตามทันที หลังจากฟังแล้วทำตามทันที แม้ว่าพระคำที่ฟังจะขัดแย้งกับเหตุผล กับเนื้อหาในตอนแรกที่พระเจ้าบอก  อับราฮัมไม่โง่เพราะเขาเชื่อฟัง ไม่มีอะไรที่ยากสำหรับพระเจ้า ถ้าเราเชื่อและทำตาม

ต่อมาพระเจ้าทรงทดลองอับราฮัม และตรัสกับท่านว่าอับราฮัมท่านทูลว่าข้าพระองค์อยู่ที่นี่” 2พระองค์ตรัสว่าจงพาบุตรของเจ้าคืออิสอัค บุตรคนเดียวของเจ้าผู้ที่เจ้ารัก ไปยังดินแดนโมริยาห์ และถวายเขาที่นั่นเป็นเครื่องบูชา บนภูเขาลูกหนึ่งซึ่งเราจะบอกแก่เจ้า” 3อับราฮัมจึงลุกขึ้นแต่เช้ามืด ผูกอานลาของท่านพาคนใช้หนุ่มไปกับท่านด้วยสองคนกับอิสอัคบุตรของท่าน ท่านตัดฟืนสำหรับเครื่องบูชา แล้วเดินทางไปยังที่ซึ่งพระเจ้าทรงบอกแก่ท่าน

ความเชื่อเกี่ยวข้องกับสิ่งที่อยู่ข้างใน เป็นส่ิงที่ตามองไม่เห็น เป็นความหวังใจจากส่ิงที่มองไม่เห็น มาจากพระคำพระเจ้า ขอให้เราได้ใช้เวลาอย่างจริงๆจังอยู่กับพระคำของพระเจ้า  ศึกษาพระคำของพระเจ้า

3. ความเชื่อแสดงออกเป็นการประพฤติ

และการกระทำ (2)

2พระองค์ตรัสว่าจงพาบุตรของเจ้าคืออิสอัค บุตรคนเดียวของเจ้าผู้ที่เจ้ารัก ไปยังดินแดนโมริยาห์ และถวายเขาที่นั่นเป็นเครื่องบูชา บนภูเขาลูกหนึ่งซึ่งเราจะบอกแก่เจ้า

อับราฮัมเอาอิสอัคไปถวายทั้งๆที่เขาไม่มีลูกคนอื่นๆเลย อิสอัคยังไม่ได้แต่งงานเลย การถวายอิสอัคเป็นเรื่องที่ยาก แต่อับราฮัมทำตาม ใช้เวลาสามวันเตรียมการ ตอนเดินทางเอาลูกไปถวายบูชา เขาอาจจะสงสัยก็ได้ อาจจะเลิกเชื่อก็ได้ หรือเลิกทำตามที่พระเจ้าสั่งก็ได้ แต่สามวันนั้นอับราฮัมไม่ลังเลเปลี่ยนใจ หรือเลิกเชื่อเลย

หลายครั้งหลายคนเลิกเชื่อพระเจ้า  เพราะตอนมาเชื่อใหม่ๆก็ดีพระเจ้า อวยพรตลอด มีประสบการณ์กับพระเจ้าอย่างดี แต่พระองค์เชื่อไปนานๆเกิดปัญหามากๆ ก็เลิกเชื่อ เพราะไม่ได้พระพร ความเชื่อแท้ต้องเรียนรู้จากความดีของพระเจ้า  ความจริงของพระเจ้า เรียนรู้ว่าความบาปของเราพระเจ้า เป็นผู้เดียวที่ทำได้ ถ้าเราประกาศอย่างถูกต้อง คนจะไม่เลิกเชื่อพระเจ้าง่ายๆ

ยก2:21-2221อับราฮัมบรรพบุรุษของเรา ถวายอิสอัคบุตรของท่านบนแท่นบูชา จึงถูกชำระให้ชอบธรรมเพราะการประพฤติไม่ใช่หรือ22ท่านก็เห็นแล้วว่า ความเชื่อนั้นทำงานควบคู่กับการประพฤติของเขา และความเชื่อก็สมบูรณ์โดยการประพฤตินั้น

ความเชื่อนั้นทำงานควบคู่กับการประพฤติ ที่คริสเตียนศึกษาพระคัมภีร์ และทำตาม ไม่ใช่ใช้การได้รับพระพรเป็นการตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ทำ ตามพระคัมภีร์ เช่น เวลามาอธิษฐานคนไม่ค่อยอยากมา ทั้งๆที่เป็นสิทธิ์ที่เราจะได้เข้าเฝ้าพระเจ้า คริสตจักรที่ประกาศหย่อนยาน อธิษฐานหย่อนยาน แสดงว่าความเชื่อไม่มี คนชอบไปร่วมกิจกรรมคริสเตียนสนุกๆ แต่การไปร่วมกิจกรรมเหล่านั้นไม่ได้บอกว่าพวกเขามีความเชื่อ หรือเจริญขึ้น หรือไม่

ความเชื่อเท่านั้น ทำให้ชีวิตฝ่ายวิญญาณเราขับเคลื่อนไปได้ ไม่ใช่พระพรที่เราจะได้รับจากพระเจ้าเป็นตัวขับเคลื่อนชีวิตของเรา เพราะพระเจ้าเราจึงมีความเชื่อ เราจึงทำตาม เราฟังพระคำพระเจ้า เราเชื่อ เราจึงทำตาม

อับราฮัมมาแต่เช้ามืดหนีเมีย เพราะหากซารารู้เข้า คงไม่ยอมให้ถวายลูกชาย 

ยก2:14,17,26 ความเชื่อที่ไม่ประพฤติจะมีประโยชน์อะไร เหมือน กายที่ตายแล้ว 

14พี่น้องของข้าพเจ้า แม้ใครจะกล่าวว่าตนมีความเชื่อ แต่ไม่ได้ประพฤติตามจะมีประโยชน์อะไร? ความเชื่อนั้นจะช่วยให้เขารอดได้หรือ?17 ทำนองเดียวกัน ลำพังความเชื่อ ถ้าไม่มีการปฏิบัติ ก็เป็นสิ่งที่ตายแล้ว26 กายที่ปราศจากจิตวิญญาณนั้นตายแล้วอย่างไร ความเชื่อที่ปราศจากการประพฤติก็ตายแล้วอย่างนั้น

4.ความเชื่อเกี่ยวข้องกับภาษา

ที่พูดแสดงความเชื่อ (5-8)

5อับราฮัมจึงพูดกับคนใช้ทั้งสองของท่านว่าอยู่กับลาที่นี่เถิด เรากับลูกจะเดินไปที่โน้นนมัสการพระเจ้า แล้วจะกลับมาหาพวกเจ้า” 6อับราฮัมเอาฟืนสำหรับเครื่องบูชาใส่บ่าอิสอัคบุตรชาย มือถือไฟและมีด แล้วพ่อลูกไปด้วยกัน 7อิสอัคพูดกับอับราฮัมบิดาว่าพ่อและท่านตอบว่าลูกเอ๋ย พ่ออยู่นี่ลูกจึงว่านี่ไฟและฟืน แต่ลูกแกะสำหรับเครื่องบูชาอยู่ที่ไหน?” 8อับราฮัมตอบว่าลูกเอ๋ย พระเจ้าจะทรงจัดหาลูกแกะสำหรับพระองค์เองเป็นเครื่องบูชาทั้งสองก็เดินต่อไปด้วยกัน อับราฮัมพูดกับคนใช้ แล้วเราจะกลับมาหาพวกเจ้า เอาลูกไปถวายแล้วจะกลับมาทั้งสองคนได้อย่างไร ฟังเหมือนโกหก

ข้อ(6) แกะอยู่ไหน คนใช้ไม่กล้าถามแต่ลูกถาม มีไฟ ฟืน แล้วแกะอยู่ไหน (8) อับราฮัมพูดด้วยความเชื่อ พระเจ้าจะทรงจัดหาลูกแกะสำหรับพระองค์เอง หมายความว่า หากพระเจ้าให้ถวายอิสอัค แล้วพระองค์จะเปลี่ยนใจในภายหลัง พระเจ้าจะต้องเป็นผู้เตรียมแกะเอง ไม่ใช่ผมเตรียม อับราฮัมมีความเชื่อแบบนี้จริงๆ ดังนั้นเขาพูดโดยไม่ได้โกหกคนรับใช้ และลูก เขาเชื่อว่าพระเจ้า จะเตรียมแกะให้ถวายแทนลูกตัวเอง

ฮบ11:17-19โดยความเชื่อ เมื่ออับราฮัมถูกลองใจ จึงได้ถวายอิสอัคเป็นเครื่องบูชา และท่านผู้ได้รับพระสัญญา ก็พร้อมแล้วที่จะถวายบุตรชายคนเดียวของท่าน 18คือบุตรคนที่มีพระดำรัสว่า เขาจะเรียกเชื้อสายของท่านทางสายอิสอัค”  19ท่านเชื่อว่าพระเจ้าทรงสามารถทำให้คนตายเป็นขึ้นมาได้ ฉะนั้นโดยอุปมาแล้ว ท่านได้รับบุตรคืนมา

ความเชื่อของอับราฮัมสมบูรณ์แบบทั้งสองด้าน พระสัญญาของพระเจ้า เกี่ยวข้องกับอิสอัคไม่เปลี่ยนแปลงคือ ให้ถวายอิสอัค แต่หากพระเจ้าเปลี่ยนใจพระเจ้าต้องเตรียมแกะให้อัมราฮัมแทน แต่หากพระเจ้ายืนยัน พระองค์ ไม่เปลี่ยนใจผมถวายอิสอัค ผมเชื่อว่าหากเขาตายแล้วพระเจ้า จะทำให้เขาฟื้นขึ้นมา เพราะพระเจ้าสัญญาจะให้เป็นบิดาของประชาชาติผ่านทางอิสอัคไม่ใช่ผ่านทางลูกคนอื่น

ปฐก22:11-13 ในที่สุดพระเจ้าให้แกะแทนในการถวายบูชา ส่วนอิสอัคสุดยอดในความเชื่อไม่ดิ้นตอนถูกพ่อมัดถวายแด่พระเจ้า  ความเชื่อของพ่อมีอิทธิพลต่อลูก อิสอัคเรียนรู้จากพระเจ้า พ่อไม่โกหก พระเจ้าร่วมมือ นี่เป็นภาษาแห่งความเชื่อ ของอับราฮัม ซึ่งฟังตอนแรกเหมือนท่านโกหก

ปฐก22:19 อับราฮัมกับไปพบกับคนใช้ตามที่เขาบอกตอนต้น เขาไม่ได้โกหก คนใช้

ความเชื่อเป็นเรื่องที่ยากสำหรับอับราฮัม แต่เพราะพระเจ้าเรื่องใดๆก็จะไม่ยากสำหรับพระเจ้า

ปฐก22:15-18 ถ้าเราดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ พระสัญญาของพระเจ้า ผ่านอับราฮัมก็มาถึงเราด้วย อวยพรลูกของเราด้วย ให้เขาเป็นหัว ไม่ใช่เป็นหาง ให้ลูกหลานเป็นพระพรกับคนอีกมากมาย

วันนี้เราไม่ต้องกลัวไม่เกิดผล เมื่อเรามีความเชื่อ และดำเนินชีวิตแบบเดียวกับอับราฮัม

2ธส1:3พี่น้องทั้งหลาย เราต้องขอบพระคุณพระเจ้าเพราะท่านอยู่เสมอ ซึ่งเป็นเรื่องสมควรยิ่งเพราะความเชื่อของท่านจำเริญขึ้น และความรักของท่านทุกคนที่มีต่อกันทวีขึ้นด้วย 

ความเชื่อของท่านจำเริญขึ้น เมื่อดำเนินชีวิตกับพระเจ้า ตามปัจจัยสี่ประการแห่งความเชื่อนี้

ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

สนใจติดต่อเรา หรือเชิญให้เทศนา ให้สอนหรือให้อบรม

www.facebook.com/FORWARD.CH.TH

Email: actsministry2017@gmail.com

 

บทความก่อนหน้านี้เฝ้าเดี่ยวแบบ A.C.T.S. พระธรรมดาเนียล บทที่12:1-13
บทความถัดไปความสมดุลของชีวิตกับการรับใช้พระเจ้า

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่