ความตั้งใจของผมในการเขียนบทเรียนนี้ เพื่อให้ท่านทราบว่าการดำเนินชีวิตของท่านกับพระเจ้า มีคนมากมายสนใจ จับจ้อง และดูผลดีที่จะเกิดกับชีวิตของท่าน พวกเขาจะคอยสังเกต และคิดว่าท่านเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทางที่ดีหรือไม่ หลังจากท่านได้รับเชื่อ วางใจในพระเยซู ชีวิตของท่านจะมีผลต่อคนรอบข้างของท่านมากเกินกว่าที่ท่านจะคิดได้ ให้เรามาศึกษาด้วยกัน

ทต2:11-15

11เพราะว่าพระคุณของพระเจ้าปรากฏแล้ว เพื่อช่วยทุกคนให้รอด 

12และเพื่อสอนเราให้ละทิ้งความอธรรมและโลกียตัณหา และให้ดำเนินชีวิตในยุคนี้อย่างมีสติสัมปชัญญะ อย่างชอบธรรมและให้ดำเนินตามทางพระเจ้า 

13ในขณะที่เรากำลังรอคอยความหวังอันน่ายินดี และการมาปรากฏของพระสิริของพระเจ้ายิ่งใหญ่คือพระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดของเรา 

14พระองค์ประทานพระองค์เองแก่เรา เพื่อไถ่เราให้พ้นจากการอธรรมทุกอย่าง และเพื่อชำระเราให้บริสุทธิ์ จะได้เป็นประชากรของพระองค์โดยเฉพาะซึ่งมีใจกระตือรือร้นที่จะทำการดี

15จงใช้ข้อความข้างบนนี้พูด เตือนสติและตักเตือนพวกเขาด้วยอำนาจอย่างเต็มที่

อย่าให้ใครสบประมาทท่านได้

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับมาตรฐาน 2011 สงวนลิขสิทธิ์ 2011 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย

“ก้าวที่ 17  ชีวิตที่เป็นแบบอย่าง”

A : Attitude

เราได้รับความรู้ใหม่ๆ หรือเราได้รับทัศนคติใหม่ๆ จากพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่อ่านเรื่องอะไรบ้าง?

เราสังเกตได้ว่า อ.เปาโลเขียนบอกว่าเพราะพระคุณของพระเจ้าช่วยให้เรารอดแล้ว ดังนั้นเราไม่ควรอยู่ในชีวิตแห่งความบาปอีกต่อไป ให้ทิ้งความอธรรม โลกียตัณหา ให้ดำเนินชีวิตอย่างมีสติสัมปชัญญะ อย่างชอบธรรมให้ดำเนินตามทางพระเจ้า

ก่อนหน้าที่เราจะเชื่อพระเจ้านั้น หลายคนคงมีนิสัยบาป มีชีวิตที่ไม่ดี และพยายามควบคุมแก้ไขไม่ทำผิด ไม่ทำบาป แต่เราก็ทำไม่ได้ แต่เมื่อเชื่อพระเยซูเราได้รับความรอดจากการพิพากษาลงโทษเพราะบาปที่เราได้ทำไป พระเจ้าอยากให้เรารักษาการดำเนินชีวิตใหม่ไม่ทำบาปอีกต่อไป

พระเจ้าประทานพระคุณ เพื่อเราจะรอด เมื่อเราได้รับแล้ว เราต้องรักษาความรอดโดยการดำเนินชีวิตไปกับการยอมรับคำสอนของพระองค์

C : Christ in focus

เรามองเห็นพระเยซูเป็นใคร พระองค์ทำอะไรบ้าง ผ่านพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่เราอ่านอย่างไรบ้าง?

พระเยซูเป็นไถ่เราจากการอธรรมทั้งสิ้น ชำระเราให้บริสุทธิ์ เพื่อจะเป็นประชากรของพระองค์

พระเยซูจะเสด็จกลับมาอีกครั้งนี่เป็นความจริงที่พระคัมภีร์บอกไว้ ดังนั้นวันหนึ่งเราจะได้พบกับพระองค์อีกครั้ง เราจะพบพระองค์ในสภาพอย่างไร  พระองค์คาดหวังให้เราดำเนินชีวิตเป็นคนของพระเจ้า โดยตระหนักว่าเราได้รับการไถ่จากการอธรรมทั้งสิ้น โดยประทานพระองค์เองเพื่อเรา และเราจึงไม่ได้ดำเนินชีวิตเพื่อตนเอง หรือเพื่อตอบสนองตามตัณหาบาปของเรา

แต่เราดำเนินชีวิตเพื่อพระองค์ต่างหาก โดยมีความกระตือรือร้นที่จะทำการดี ไม่ใช่ทำการชั่ว

T : Transformation

เราต้องการให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราในด้านใดบ้าง?      

เราที่เชื่อในพระเยซูแล้ว ควรดำเนินชีวิตไม่ให้ใครหมิ่นประมาทได้ ชีวิตเราจึงต้องเป็นแบบอย่าง ให้คนได้เห็นพระเยซูในชีวิตของเราได้  พระคัมภีร์บอกว่าเราจะทำอย่างนั้นได้ก็ต่อเมื่อ เรารับพระคุณของพระเจ้า เราเชื่อในพระเยซูเป็นพระเจ้าที่มาไถ่เราจากการอธรรมทั้งสิ้น วันหนึ่งพระองค์จะเสด็จกลับมา หรือเราต้องกลับไปพบกับพระองค์อีกครั้งหนึ่ง

เมื่อเราเชื่อแบบนี้เราก็ควรสอน เตือนสติ ตักเตือน ให้ดำเนินชีวิตชอบธรรมตามทางของพระเจ้า ไม่ดำเนินในความบาปอีกต่อไป

ระมัดระวังการดำเนินชีวิตให้ดี ให้เป็นแบบอย่าง อย่าให้ใครหมิ่นประมาทพระเจ้าในชีวิตของเราได้

S : Serve

เราจะดำเนินชีวิตเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น และต่อพระเจ้าได้อย่างไรบ้าง?

รับใช้พระเจ้าตามทางความชอบธรรมของพระเจ้า กระตือรือร้นที่จะทำการดีเพื่อพระเจ้า ช่วยเหลือผู้อื่น

สอนคนอื่นด้วยชีวิต ตักเตือนผู้อื่นด้วยชีวิต ทำให้คนได้รับพระคุณของพระเจ้าในการรับการยกโทษ รับการไถ่จากการอธรรมทั้งสิ้น และรักษาการดำเนินชีวิตใหม่ให้พ้นจากการชั่วร้าย สมเป็นคนของพระเจ้า อย่าให้ใครหมิ่นประมาทได้ แต่เป็นแบบอย่างชีวิตที่ดี

หากมีบางอย่างที่ชีวิตเราไม่ได้ดีเสมอไป มีผิดพลาดในการดำเนินชีวิต ให้เรากลับใจใหม่ และขอพระคุณของพระเจ้าช่วยเหลือเรา ให้เป็นคนของพระองค์ และเตรียมชีวิตที่พร้อมจะพบกลับพระองค์อีกครั้งหนึ่ง

ขอพระเจ้าอยู่กับท่าน ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

สนใจติดต่อเรา

www.facebook.com/FORWARD.CH.TH

Email: actsministry2017@gmail.com

บทความก่อนหน้านี้ก้าวที่ 16 ชีวิตที่มีสวัสดิภาพ (มก4:35-41)
บทความถัดไปก้าวที่ 18 ชีวิตที่เป็นสาวก (1ธส 4:1-12)

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่