ความตั้งใจของผมในการเขียนบทเรียนนี้ เพื่อให้ท่านเข้าใจการดำเนินชีวิตคริสเตียนในฐานะที่พระเจ้าสร้างเรามา และพระองค์สร้างทรัพยากรต่างๆ เพื่อให้เราได้ใช้บริโภค ใช้ครอบครอง เพื่อให้เกิดประโยชน์

ดังนั้นความเข้าใจเรื่องการเป็นผู้อารักขาที่ดี จึงเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบที่ผู้เชื่อแต่ละคนควรจะเข้าใจ และเราจะละเลยไม่ทำความเข้าใจไม่ได้ เพราะเราต้องดำเนินชีวิตเป็นผู้อารักขาที่ดีของพระเจ้า

ปฐก1:26-31

26แล้วพระเจ้าตรัสว่า “ให้เราสร้างมนุษย์ตามฉายาของเรา ตามอย่างของเรา ให้ครอบครองฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในท้องฟ้าและฝูงสัตว์ใช้งาน ให้ปกครองแผ่นดินโลกทั้งหมด และสัตว์เลื้อยคลานทุกชนิดบนแผ่นดินทั้งหมด” 27พระเจ้าจึงทรงสร้างมนุษย์ขึ้นตามพระฉายาของพระองค์ ตามพระฉายาของพระเจ้านั้น พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้น และทรงสร้างให้เป็นชายและหญิง28พระเจ้าทรงอวยพรพวกเขา ตรัสกับพวกเขาว่า

“จงมีลูกดกทวีมากขึ้นจนเต็มแผ่นดิน จงมีอำนาจเหนือแผ่นดิน จงครอบครองฝูงปลาในทะเล และฝูงนกในท้องฟ้า กับสัตว์ที่เคลื่อนไหวบนแผ่นดินทั้งหมด”

29พระเจ้าตรัสว่า “ดูนี่ เราให้ธัญพืชที่มีเมล็ดทุกชนิด ซึ่งมีอยู่ทั่วพื้นแผ่นดิน และต้นไม้ผลทุกชนิดที่มีเมล็ดในผลของมันแก่เจ้า เป็นอาหารของเจ้า 30ฝ่ายสัตว์ทั้งหมดบนแผ่นดิน นกทั้งปวงบนท้องฟ้าและสัตว์เลื้อยคลานทั้งหมดบนแผ่นดิน คือ สิ่งมีชีวิตที่มีลมหายใจนั้น เราให้พืชเขียวสดทั้งปวงเป็นอาหาร” ก็เป็นดังนั้น 31พระเจ้าทอดพระเนตรสิ่งทั้งปวงที่พระองค์ทรงสร้างไว้ ดูสิ ทรงเห็นว่าดียิ่งนัก มีเวลาเย็นและเวลาเช้า เป็นวันที่หก

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับมาตรฐาน 2011 สงวนลิขสิทธิ์ 2011 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย

“ก้าวที่ 15 ชีวิตที่เป็นผู้อารักขาที่ดี”

A : Attitude

เราได้รับความรู้ใหม่ๆ หรือเราได้รับทัศนคติใหม่ๆ จากพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่อ่านเรื่องอะไรบ้าง?

พระเจ้าสร้างมนุษย์มาตามฉายาอย่างพระเจ้า มนุษย์ถูกสร้าง  ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามกรรม หรือตามทางธรรมชาติแต่ถูกสร้างจากพระเจ้า

ไม่เพียงแค่มนุษย์ที่ถูกสร้าง โลก สัตว์ พืช และธรรมชาติก็ถูกสร้างโดยพระเจ้าเช่นกัน เพื่อให้มนุษย์สามารถใช้ประโยชน์จากส่ิงที่พระเจ้าทรงสร้างได้ พระเจ้าให้มนุษย์ครอบครอง ให้ปกครอง ให้มีสิทธิอำนาจแทนเจ้าของ ให้ใช้ประโยชน์จากส่ิงที่พระเจ้าทรงสร้าง พระเจ้าให้มีระบบอาหารเพื่อเลี้ยงดูเรา เป็นระบบที่ดีมากเป็นประโยชน์กับมนุษย์

ความเป็นผู้อารักขาที่ดี คือ การที่เราไม่ได้เป็นเจ้าของ แต่เจ้าของอนุญาตให้เราครอบครอง ให้เราปกครอง ให้เรามีสิทธิอำนาจจากเจ้าของในการทำการแทนเจ้าของได้ ให้เราใช้ประโยชน์ได้ เราก็ต้องใช้สิ่งที่เจ้าของสร้างมาโดยรู้จักกับพระผู้สร้าง ใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อพระผู้สร้าง และสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้าง

คริสเตียนจึงต้องเรียนรู้ว่าเราอยู่ในโลกนี้เพราะ เจ้าของผู้ทรงสร้างโลกนี้ได้อนุญาตให้เราทำการแทนพระองค์ เราจึงเป็นเพียงแค่ผู้อารักขาที่ดีของพระเจ้าผู้ทรงสร้างเท่านั้น

C : Christ in focus

เรามองเห็นพระเยซูเป็นใคร พระองค์ทำอะไรบ้าง ผ่านพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่เราอ่านอย่างไรบ้าง?

พระเยซูคริสต์เป็นพระบุตรของพระเจ้า เสด็จเข้ามาในโลกนี้ พระองค์มาทำตามพระทัยพระบิดา ครอบครองในสิ่งที่พระบิดาทรงสร้าง ทรงทำอัศจรรย์เพื่อช่วยเหลือผู้คน พระองค์เป็นเหมือนผู้อารักขาที่ดีของพระเจ้าพระบิดา

พระเยซูจะย้ำเสมอว่าพระองค์มาทำกิจของพระบิดา พระองค์ทรงใช้พระเยซูมา ผู้เชื่อก็เป็นของพระบิดาพระเยซูกล่าวไว้ใน ยน17: 8-10 เพราะว่าพระดำรัสที่พระองค์ตรัสแก่ข้าพระองค์นั้น ข้าพระองค์ให้พวกเขาแล้วและเขารับไว้

และรู้แน่ว่าข้าพระองค์มาจากพระองค์ และเชื่อแล้วว่าพระองค์ทรงใช้ข้าพระองค์มา 

9ข้าพระองค์อธิษฐานเพื่อพวกเขา ข้าพระองค์ไม่ได้อธิษฐานเพื่อโลก แต่เพื่อคนเหล่านั้นที่พระองค์ประทานแก่ข้าพระองค์ เพราะว่าเขาเป็นของพระองค์ 

10ทุกคนที่เป็นของข้าพระองค์ก็เป็นของพระองค์ และทุกคนที่เป็นของพระองค์ก็เป็นของข้าพระองค์

และข้าพระองค์ได้รับเกียรติในตัวพวกเขา

หรือคำสอนของพระเยซูก็สะท้อนเรื่องการเป็นผู้อารักขาที่ดี มธ25:14-30 บ่าวแต่ละคนได้รับตะลันต์ไม่เท่ากันแต่ทุกคนต้องทำให้เกิดประโยชน์สำหรับเจ้านายของตนไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม

T : Transformation

เราต้องการให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราในด้านใดบ้าง?

เราควรมอบถวายชีวิตของเรา ให้พระเจ้าผู้ทรงสร้างเรามา โดยตระหนักว่าเราเป็นเพียงผู้อารักขาที่ดีเท่านั้น เราไม่ใช่เจ้าของที่แท้จริง พระเจ้าต่างหากเป็นเจ้าของทุกส่ิงที่พระเจ้าทรงสร้าง

เราควรใช้สิ่งที่เจ้าของให้เราใช้ หรือให้เรามีอำนาจทำการแทนเจ้าของ เพื่อให้ประโยชน์เกิดขึ้นกับพระเจ้า งานของพระเจ้า คนของพระเจ้า ไม่ใช่แค่ประโยชน์ของตัวเราฝ่ายเดียว

เราต้องประเมิน ตรวจสอบ ความเป็นผู้อารักขาที่ดีในชีวิตของเราว่า เราได้มอบถวายชีวิต มอบถวายเวลา ของประทาน ความสามารถ ทรัพย์สิน เงินทอง เพื่อพระเจ้าจริงๆหรือไม่ ทำให้เกิดผลหรือไม่

S : Serve

เราจะดำเนินชีวิตเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น และต่อพระเจ้าได้อย่างไรบ้าง?

แสวงหาพระเจ้าเพื่อรับใช้พระเจ้าตามสิ่งที่พระเจ้ามอบหมายให้เรารับผิดชอบ ตั้งใจทำงานที่พระองค์มอบหมายให้เกิดผล ถวายเกียรติพระเจ้า เป็นผู้อารักขาที่ดีในงานที่ทำ ในทรัพย์สินที่มี ในคนที่พระเจ้าให้ดูแล

ส่วนที่เหลือให้วางใจพระเจ้าประทานการเลี้ยงดูให้กับเราได้ พระองค์ประทานการจัดสรรให้กับเราเพื่อจะรับใช้พระองค์ได้

ให้วางใจพระเจ้าเมื่อรับใช้พระเจ้า วางใจในการเลี้ยงดูของพระเจ้า พระเจ้าจะดูแลผู้อารักขาที่ดีของพระองค์

สามารถอ่านเนื้อหาเรื่อง อารักขา เพิ่มเติมได้จากLink คำเทศน์เรื่อง อารักขา 

สนใจติดต่อเรา www.facebook.com/FORWARD.CH.TH Email: actsministry2017@gmail.com

 

บทความก่อนหน้านี้ก้าวที่ 14 ชีวิตที่เต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ (กจ19:1-10)
บทความถัดไปก้าวที่ 16 ชีวิตที่มีสวัสดิภาพ (มก4:35-41)

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่