โดย อ.กิจขจร ลิ่วเฉลิมวงศ์ วันที่ 1 มี.ค.2025

ภาพรวมบทที่ 3

แนะนำภาพรวมและความคาดหวังต่อบทเรียนนี้ (5นาที)

1.เพื่อหนุนใจให้แสดงความรักที่มีต่อพระเจ้า เป็นความรักที่มีต่อเพื่อนบ้าน (เพื่อนมนุษย์ เพื่อนคริสเตียน สมาชิกในครอบครัว )

2.เพื่อผู้เข้าร่วมกลุ่มจะได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพี่น้องคริสเตียนในภาคปฎิบัติ

1.สำรวจข้อพระคัมภีร์ที่เกี่ยวข้อง ลก10:25-37 (10 นาที)

ชาวสะมาเรียใจดี

25มีผู้เชี่ยวชาญบัญญัติคนหนึ่งยืนขึ้นทดสอบพระองค์ ทูลถามว่า “ท่านอาจารย์ ข้าพเจ้าจะต้องทำอะไรเพื่อจะได้รับชีวิตนิรันดร์?” 26พระองค์ตรัสตอบว่า “ในธรรมบัญญัติเขียนว่าอย่างไร? ท่านอ่านแล้วเข้าใจอย่างไร?” 27เขาทูลตอบว่า พวกท่านจงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของท่านด้วยสุดใจของท่าน ด้วยสุดจิตของท่าน ด้วยสุดกำลังของท่าน และด้วยสุดความคิดของท่าน และจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง 28พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “ท่านตอบถูกแล้ว จงไปทำอย่างนั้นแล้วจะได้ชีวิต”

29แต่คนนั้นต้องการจะรักษาหน้า จึงทูลพระเยซูว่า ใครเป็นเพื่อนบ้านของข้าพเจ้า?” 30พระเยซูตรัสตอบว่า “มีชายคนหนึ่งลงจากกรุงเยรูซาเล็มไปยังเมืองเยรีโค และเขาถูกพวกโจรปล้น พวกโจรแย่งชิงเสื้อผ้าของเขา ทุบตีเขา แล้วทิ้งเขาไว้ในสภาพที่เกือบจะตายแล้ว 31เผอิญมีปุโรหิตคนหนึ่งเดินมาตามทางนั้น เมื่อเห็นคนนั้นแล้วก็เดินเลยไปเสียอีกฟากหนึ่ง 32คนเลวีก็เหมือนกัน เมื่อมาถึงที่นั่นและเห็นแล้วก็เลยไปเสียอีกฟากหนึ่ง 33แต่เมื่อชาวสะมาเรียคนหนึ่งเดินทางผ่านมาใกล้คนนั้น เห็นแล้วก็มีใจสงสาร 34จึงเข้าไปหาเขา เอาเหล้าองุ่นกับน้ำมันเทใส่บาดแผลและเอาผ้ามาพันให้ แล้วให้เขาขึ้นขี่สัตว์ของตนเองพามาถึงโรงแรม และดูแลรักษาพยาบาลเขา 35วันรุ่งขึ้นก่อนจะไป เขาเอาเงินสองเดนาริอันให้กับเจ้าของโรงแรม บอกว่า ‘ช่วยรักษาเขาด้วย สำหรับเงินที่ต้องเสียเกินกว่านี้จะใช้ให้เมื่อกลับมา’ 36ท่านเห็นว่าในสามคนนั้นคนไหนถือได้ว่าเป็นเพื่อนบ้านของคนที่ถูกปล้น?” 37เขาทูลตอบว่า คือคนนั้นแหละที่แสดงความเมตตาต่อเขาพระเยซูจึงตรัสกับเขาว่าท่านจงไปทำเหมือนอย่างนั้น

2.สรุปหลักการ (5นาที)

ภาพรวมของพระธรรมตอนนี้ ผู้เชี่ยวชาญบัญญัติทดสอบพระเยซูคริสต์ เรื่องชีวิตนิรันดร์ (GK166 ไม่มีจุดจบ ไม่มีหยุด อมตะ นิรันดร์) พระองค์ถามเขากลับ พระองค์พบว่าเขามีความรู้เรื่องชีวิตนิรันดร์อย่างถูกต้อง พระองค์จึงทรงหนุนใจให้เขาไปทำตามที่เขามีความรู้ 

1.ผู้เชื่อต้องรู้ความจริงนี้ (27) “พวกท่านจงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของท่านด้วยสุดใจของท่าน ด้วยสุดจิตของท่าน ด้วยสุดกำลังของท่าน และด้วยสุดความคิดของท่าน และจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” (ฉธบ6:5) และจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง (ลนต19:18)” แนวคิดนี้มาจากพระบัญญัติ 10 ประการ ฉธบ5:6-21 สี่ข้อแรกสำหรับพระเจ้า ห้ามมีพระเจ้าอื่น ห้ามทำรูปเคารพ ห้ามใช้พระนามอย่างไม่สมควร จงรักษาวันสะบาโต หกข้อหลังสำหรับมนุษย์ คือ ให้เกียรติบิดามารดา ห้ามฆ่าคน ห้ามล่วงประเวณี ห้ามลักขโมย ห้ามเป็นพยานเท็จ ห้ามโลภ

2.ผู้เชื่อต้องดำเนินชีวิตตามความจริงนี้ ลก10:37 เขาทูลตอบว่า “คือคนนั้นแหละที่แสดงความเมตตา (GK1656 แสดงออกถึงความสงสาร ควมเห็นอกเห็นใจ ความเมตตา จ่ายราคา ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ รากศัพท์ มาจากพันธสัญญาแห่งความรัก ความเมตตาจึงเป็นการแสดงออกถึงการจงรักภักดีต่อพันธสัญญาของพระเจ้า )ต่อเขา” พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า “ท่านจงไปทำเหมือนอย่างนั้น”

3.คำถามเพื่อการอภิปราย (10 นาที)

1.ขอให้ท่านสำรวจชีวิตที่ผ่านมา ท่านได้แสดงความเมตตาต่อเพื่อนบ้าน (เพื่อนมนุษย์ เพื่อนคริสเตียน สมาชิกในครอบครัว ) เป็นอย่างไรบ้าง 

2.มีเหตุการณ์อะไรบ้างในชีวิตของท่านที่ไม่สอดคล้องกับพระวจนะในตอนนี้ที่อยากจะแก้ไขปรับปรุงหรือถ้าย้อนกลับไปได้จะไม่ทำผิดพลาดแบบนั้นอีก

3.ท่านคิดว่าเรามีข้ออ้างที่จะไม่แสดงความเมตตาต่อคนไม่น่ารักหรือศัตรูหรือคนที่เราไม่ชอบข้ออ้างเหล่านั้นมีประเด็นอะไรบ้าง

4.การนำไปใช้ในภาคปฎบัติ (10 นาที)

1.ขอให้ท่านเสนอความคิด ที่ทำเป็นกิจกรรมเพื่อแสดงความเมตตาเป็นภาคปฎิบัติ ต่อเพื่อนบ้าน (เพื่อนมนุษย์ เพื่อนคริสเตียน สมาชิกในครอบครัว) ได้อย่างไรบ้าง

2.ขอให้ท่านเสนอเป็นกิจกรรมเพื่อแสดงความเมตตาเป็นภาคปฎิบัติต่อพี่น้องในคริสตจักรและโดยเฉพาะกับผู้รับใช้พระเจ้าได้อย่างไรบ้าง

รูปแบบและระยะเวลาการอภิปรายในกลุ่มวาระเปรมปรีดิ์ 

1) ใช้บทเรียนเพื่อการอภิปราย  1 ครั้ง ใช้เวลา 40 นาที  สมาชิกทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการอภิปรายตามบทเรียน

2) ให้ส่งบทเรียนล่วงหน้า 1 สัปดาห์ให้ผู้เข้าร่วมเพื่อไปศึกษามาก่อนการอภิปรายหรือก่อนมานำกลุ่มก็ได้

3) อาจจะมีผู้นำการอภิปรายเป็นประจำก็ได้หรือสมาชิกในกลุ่มมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาเป็นผู้นำการอภิปรายก็ได้ไม่ได้เน้นสอนความรู้ บทเรียนครอบคลุม 4 ด้าน เพื่อให้สมาชิกร่วมอภิปรายจะได้รับความสมดุลในแต่ละด้านของพระคัมภีร์เพื่อนำไปประยุกต์ใช้

4) บทเรียน RENEW  หมายถึง บทเรียนที่นำสมาชิกกลุ่มให้ทำสิ่งเดิมให้ดีขึ้น หรือทำสิ่งเดิมให้ใหม่ขึ้น

5) บทเรียน REFRESH หมายถึง บทเรียนที่มีการเสริมสร้าง การเพิ่มความสดใหม่ ให้กับสมาชิกกลุ่ม

6) บทเรียน REWARD หมายถึง บทเรียนที่ทำให้ตระหนักถึงผลดีที่จะได้รับ ผลดีที่จะเกิดขึ้น เมื่อนำสิ่งที่เรียนรู้ในกลุ่มปัญญาจารย์ไปปฎิบัติ

7) บทเรียน RELEASE หมายถึง บทเรียนที่ครอบคลุมเรื่องการไปเกิดผลในการรับใช้ เมื่อได้รับการปลดปล่อยความสามารถ ปลดปล่อยศักยภาพ ปลดปล่อยภาระใจ 

ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

สนใจติดต่อเรา หรือเชิญให้เทศนา ให้สอนหรือให้อบรม

www.facebook.com/FORWARD.CH.TH

Email: actsministry2017@gmail.com

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่