ฟื้นฟูคริสตจักรไทยสมัครเชียงราย 11-13 ตุลาคม 2017  สอนโดย อ.ประยูร ลิมะหุตะเศรณี

ทูพระคริสต์ดำเนินชีวิตตามมาตรฐานพระเจ้า

สอนครั้งที่ 3 เช้าวันที่ 12 ..2017

2คร5:16 เพราะฉะนั้นตั้งแต่นี้ไป เราจะไม่พิจารณาใครตามมาตรฐานของโลก แม้ว่าเมื่อก่อนเราเคยพิจารณาพระคริสต์ตามมาตรฐานของโลกก็จริง แต่เดี๋ยวนี้เราจะไม่พิจารณาพระองค์เช่นนั้นอีก

ดำเนินชีวิตตามมาตรฐานพระเจ้า

2คร5:16 เพราะฉะนั้นตั้งแต่นี้ไป เราจะไม่พิจารณาใครตามมาตรฐานของโลก แม้ว่าเมื่อก่อนเราเคยพิจารณาพระคริสต์ตามมาตรฐานของโลกก็จริง แต่เดี๋ยวนี้เราจะไม่พิจารณาพระองค์เช่นนั้นอีกไม่ใช่อยู่เพื่อประโยชน์ของตนอีกต่อไป ไม่พิจารณาพระคริสต์แบบโลก 

หลังจากบังเกิดใหม่แล้ว ต้องดำเนินชีวิตในมาตรฐานของพระเจ้า โดยเฉพาะการคิด เมื่อก่อนคิดตามมาตรฐานของโลก พระเยซูเป็นศาสดาของคริสต์ ศักดิ์สิทธิ์ เดือดร้อนก็มาหาพระเยซู บ้างก็มาบนพระเยซู ไม่แตกต่างจากพระอื่นๆ แต่ถ้าเราบังเกิดใหม่ เราจะไม่คิดแบบโลกต่อพระเยซู แต่จะเป็นมาตรฐานของพระเจ้าโดยเฉพาะความคิดของเราตามพระคัมภีร์

พูด คิด ทำ รู้สึก ตามพระคัมภีร์ 

1ยน1:5-10 นี่เป็นข้อความที่เราได้ยินจากพระองค์ และบอกกับพวกท่าน คือว่าพระเจ้าทรงเป็นความสว่าง และความมืดในพระองค์ไม่มีเลย 6ถ้าเราจะว่า เรามีสามัคคีธรรมกับพระองค์ขณะที่ยังเดินอยู่ในความมืด เราก็โกหก และไม่ได้ดำเนินชีวิตตามความจริง 7แต่ถ้าเราเดินอยู่ในความสว่าง เหมือนอย่างที่พระองค์สถิตในความสว่าง เราก็มีสามัคคีธรรมซึ่งกันและกัน และพระโลหิตของพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ ก็ชำระเราให้ปราศจากบาปทั้งสิ้น 8ถ้าเรากล่าวว่าเราไม่มีบาป เราก็หลอกตัวเอง และสัจจะไม่ได้อยู่ในตัวเราเลย 9ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงซื่อสัตย์และเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น 10ถ้าเรากล่าวว่าเราไม่ได้ทำบาป ก็เท่ากับเราทำให้พระองค์เป็นผู้ตรัสมุสา และพระดำรัสของพระองค์ก็ไม่ได้อยู่ในตัวเราเลย

ยอห์นได้รับจากพระเยซูพูดกับเขา พระเจ้าเป็นความสว่างไม่มีความมืดเลย เพื่อไปบอกคนบังเกิดใหม่ให้ดำเนินชีวิตแห่งความสว่าง

ในมาตรฐานของพระเจ้าคือ ไม่มีความมืดปนอยู่เลย

คนชอบบอกว่าพระเจ้ายิ่งใหญ่ ทำให้เขาดำเนินในทางบาปได้ เช่น แช่งคนอื่นที่เราไม่ชอบ ไม่ดำเนินชีวิตที่ดี คต.ชอบอะลุ่มอะล่วย แต่พระเจ้าไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น ทำบาปไม่ได้ ควรดำเนินชีวิตบริสุทธิ์ในหลายๆด้าน เพื่อเป็นฑูตของพระเจ้า ถ้าไม่มีมาตรฐานใครจะมอบงานให้ทำ ถ้าเราผ่านกระบวนการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูถูกสร้าง และดำเนินชีวิตตามมาตรฐาน

พระเจ้าไม่มีความมืดเลย  มีเหตุผลดังนี้

1.เราได้ออกมาจากความมืดแล้ว ไม่ได้พาความมืดติดตัวออกมา

1ปต2:9 แต่พวกท่านเป็นพงศ์พันธุ์ที่ทรงเลือกสรร เป็นพวกปุโรหิตหลวง เป็นชนชาติบริสุทธิ์ เป็นประชากรอันเป็นกรรมสิทธิ์ของพระเจ้า เพื่อให้พวกท่านประกาศพระเกียรติคุณ  แปลได้อีกว่า ประกาศกิจการอันอัศจรรย์ของพระองค์ ผู้ได้ทรงเรียกพวกท่านให้ออกมาจากความมืด เข้าไปสู่ความสว่างอันมหัศจรรย์ของพระองค์ 

ไม่มีการปนเปื้อนอีกต่อไป พระเจ้าเรียกเรา แต่เราต้องตอบสนอง ด้วยการออกมาความสว่างของพระเจ้าอัศจรรย์ ตัวอย่างเช่น ความโกรธ ถ้าเราชอบ เราจะสร้างมันขึ้นมาอีก เราไม่ชอบความโกรธของคนอื่นแน่นอน ความโกรธทำให้สูญเสียความเป็นคน สามีภรรยาบางครั้งทะเลาะกัน ทำให้ความมืด ความโกรธครอบงำ พระเยซูไม่โกรธเมื่อทรงทนทุกข์

2.เราเป็นลูกของความสว่าง

1ธส5:5 ท่านทุกคนเป็นลูกของความสว่าง และเป็นลูกของเวลากลางวัน เราไม่ได้เป็นของกลางคืนหรือของความมืด  ก่อนหน้านั้นเราคุ้นเคยกับความมืดความบาปความตาย 

อฟ1:2-3 อฟ 5:8-9 เพราะเมื่อก่อนท่านทั้งหลายเป็นความมืด แต่บัดนี้ท่านเป็นความสว่างในองค์พระผู้เป็นเจ้า จงดำเนินชีวิตอย่างคนของความสว่าง 9(เพราะว่าผลของความสว่างคือทุกอย่างที่เป็นความดี ความชอบธรรม และความจริง) ท่านเป็นความสว่างในองค์พระผู้เป็นเจ้า ดังนั้นจงดำเนินชีวิตอย่างลูกของความสว่าง  ผลของความสว่าง คือ ทุกอย่างที่เป็นความดี ชอบธรรมและความจริง

ตัวอย่างเช่น เรื่องการโกหก พูดความจริงครึ่งเดียว มารมาหลอกเอวาก็จากความจริงครึ่งเดียว คนโกหกเพราะอยากรักษาหน้าทั้งที่หนอนก็จะกินหน้าในที่สุด พระเยซูพยายามให้ความยุติธรรมคนมากที่สุดโดยไม่ใส่ใจว่าคนเขาจะให้ยุติธรรมกับพระองค์หรือไม่ การบังเกิดใหม่เป็นเหตุที่ทำให้เราทำเรื่องที่ยากๆได้

ตัวอย่าง .ประยูร โดนไล่จากโรงเรียนพระคัมภีร์สามที่ สี่ครั้ง ว่าไม่สามารถจะรับใช้พระเจ้าได้เกิดผล แต่อาจารย์ตั้งใจดำเนินชีวิตแล้วพระเจ้าใช้ได้

3.วิถีชีวิตแห่งความสว่างพระเจ้าเป็นผู้กำหนด

1ยน1:5 เปรียบเทียบกับ ยน1:4-5 ความสว่างมีอิทธิพลต่อสังคมที่มืด ไม่เคยแพ้ ไม่เคยยอมต่อผลประโยชน์ ต่อจำนวนเงิน ชีวิตคจ.ต้องเอาชนะความบาปตลอดเวลา ไม่ดู ไม่ฟัง ไม่สนใจต่อบาป เช่น คต.ทำบาปได้บ้างเพราะเรายังอยู่ในเนื้อหนัง จริงๆแล้วเราอยู่ในพระวิญญาณ มีอิทธิพลต่อความมืด เอาชนะความบาปของตนเอง ต้องไม่ข้องแวะกับความมืดเลย

อฟ5:9 ผลของความสว่างคือ ทุกอย่างที่เป็นความดี ชอบธรรมและความจริง

ตัวอย่าง คนโกหกยืมเงินแล้วไม่ยอมคืน จริงๆคืออยากได้ของคนอื่น

1ยน1:6-8 ถ้าเราจะว่า เรามีสามัคคีธรรมกับพระองค์ขณะที่ยังเดินอยู่ในความมืด เราก็โกหก และไม่ได้ดำเนินชีวิตตามความจริง 7แต่ถ้าเราเดินอยู่ในความสว่าง เหมือนอย่างที่พระองค์สถิตในความสว่าง เราก็มีสามัคคีธรรมซึ่งกันและกัน และพระโลหิตของพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ ก็ชำระเราให้ปราศจากบาปทั้งสิ้น 8ถ้าเรากล่าวว่าเราไม่มีบาป เราก็หลอกตัวเอง และสัจจะไม่ได้อยู่ในตัวเราเลย

การดำเนินชีวิตที่ดี เพื่อไม่ให้พระเจ้าเป็นคนโกหก หรือไม่เราก็เป็นคนโกหกตัวเอง คนทำชั่วโกหกเพราะได้ประโยชน์ที่เขาพอใจ แต่พระเจ้าใช้เป็นฑูตไม่ได้ มีสามัคคีธรรมกับพระเจ้าอย่างแท้จริง ไม่ใช้เหยียบเรือสองแคม

4.ถ้าเราไม่ดำเนินชีวิตตามความสว่าง เราจะปกปิดความบาปของตัวเราเอง

ซ่อนความจริงไว้ ภาพลักษณ์ภายนอกดูดีในสายตาผู้อื่น  1ยน1:6-8 ภายนอกมีสามัคคีธรรมกับพระเจ้า กับพี่น้อง แสดงตนเองว่าเป็นคนไม่มีความบาป เป็นคนบริสุทธิ์ ถ้าเขาหลอกลวงตัวเองเป็นแบบนี้ ในที่สุดจะทำให้เขาไม่รู้ว่าเรื่องที่เขาโกหกเป็นจริงหรือไม่ เขาจะสับสนเองในที่สุด

2ซมอ11:1-27 ดาวิดเป็นคนดีของพระเจ้า แต่เป็นชู้กับภรรยาคนอื่น นางตั้งครรภ์(ความบาปเกิดขึ้นให้รีบสารภาพ ไม่ต้องไปทำบาปต่อ) ดาวิดแก้ไขปัญหาโดยให้อุรีอาห์ไปนอนกับภรรยา เป็นการปกปิดความบาป แต่เขานอนหน้าประตูวัง ดาวิดมอมเหล้าเขาแต่เขาไม่กลับไปบ้าน ดาวิดเลยวางแผนฆ่าอุรีอาห์โดยให้ตายในสงคราม ดาวิดจึงไปรับบัทเชบา 

2ซมอ12:พระเจ้าใช้นาธันไปเตือนโดยยกตัวอย่างคนจนกับคนมั่งมี คนมั่งมีไปแย่งจากคนจน ดาวิดบอกว่าคนมั่งมีต้องตาย ดาวิดเขาไม่รู้ตัวว่าเป็นเขาที่ต้องตาย มาตรฐานของพระเจ้ายังมีอีกหลายอย่าง

จงเป็นคนบริสุทธิ์เพราะเราบริสุทธิ์

จงรักกันเหมือนที่พระเยซูรักคริสตจักร

สนใจติดต่อเรา
www.facebook.com/FORWARD.CH.TH
Email: actsministry2017@gmail.com

บทความก่อนหน้านี้“เราเป็นทูตของพระคริสต์” บทที่ 2 การเป็นทูตของพระคริสต์
บทความถัดไป“เราเป็นทูตของพระคริสต์” บทที่ 4 ดำเนินชีวิตตามพระวจนะพระเจ้า

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่