ส่ิงที่เรียนรู้จากพระธรรม2 เปโตร คือ เรียนรู้ความผิดพลาดของผู้สอนเท็จ และผู้เผยวจนะเท็จ เพื่อจะไม่ได้ทำผิดพลาดแบบพวกเขา

เมื่อท่านศึกษาเฝ้าเดี่ยวพระธรรม2 เปโตรแล้ว ระวังการสอนของตนเองอย่าทำผิดเหมือนพวกเขา เพราะจะโดนพระเจ้าพิพากษา

10โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนเหล่านั้นที่ปล่อยตัวไปตามกิเลสตัณหา และหมิ่นประมาทสิทธิอำนาจขององค์พระผู้เป็นเจ้าคนเหล่านี้โอหังบังอาจ ไม่กลัวที่จะลบหลู่เทวทูตผู้มีศักดิ์ศรี 11แต่ส่วนพวกทูตสวรรค์แม้ว่ามีกำลังและฤทธานุภาพมากกว่า ก็ไม่ได้กล่าวโทษด้วยการประณามพวกนั้นเฉพาะพระพักตร์องค์พระผู้เป็นเจ้า 12แต่ว่าผู้สอนเท็จเหล่านี้เป็นเหมือนสัตว์ที่ไร้ความคิด ที่ทำตามสัญชาตญาณ เกิดมาเพื่อถูกจับและถูกฆ่า พวกเขาประณามสิ่งที่พวกเขาไม่เข้าใจเลย พวกเขาจะถูกทำลายอย่างสัตว์เหล่านั้น 13พวกเขาจะได้รับทุกข์เป็นโทษแห่งการอธรรม เขาทั้งหลายถือการเสเพลเฮฮาในเวลากลางวันเป็นความเพลิดเพลิน พวกเขาเป็นจุดด่างพร้อยและรอยมลทิน และประพฤติการเสเพลเฮฮา เมื่อกำลังกินเลี้ยงกับท่านทั้งหลาย 

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับมาตรฐาน 2011 สงวนลิขสิทธิ์ 2011 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย

A : Attitude

เราได้รับความรู้ใหม่ๆ หรือเราได้รับทัศนคติใหม่ๆ จากพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่อ่านเรื่องอะไรบ้าง?

ผู้สอนเท็จ และผู้เผยวจนะเท็จ จะถูกพระเจ้าพิพากษาลงโทษเพราะท่าทีของพวกเขา แตะต้องสิทธิอำนาจของพระเจ้า ด้วยการแสดงออกเป็นการกล่าวโทษพระเจ้า ประนามพระเจ้า ท่าทีโอหังบังอาจ พูดจาลบหลู่ดูหมิ่นพระเจ้า

อ.เปโตรเปรียบพวกเขาเหมือนสัตว์ที่ไม่มีความคิด(เพราะถ้าคิดเป็นคงไม่กล้าแตะต้องสิทธิอำนาจของพระเจ้าแบบนี้)

ปลายทางของพวกเขาคือ ถูกจับ ถูกฆ่า ถูกทำลาย และถูกพิพากษา

C : Christ in focus

เรามองเห็นพระเยซูเป็นใคร พระองค์ทำอะไรบ้าง ผ่านพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่เราอ่านอย่างไรบ้าง?

พระเยซูคริสต์สอนเรื่องการอย่าหมิ่นประมาทพระเจ้า อย่างไม่สมควร อย่าดูหมิ่นพระเจ้าไม่ว่าจะเป็นทางความคิด ทางคำพูด หรือทางการกระทำที่แสดงออก เพราะจะได้รับการลงโทษ พระเยซูคริสต์จะพิจารณาพิพากษาทุกคนด้วยคำพูดของเขาเอง

ลก19:21-27 เพราะข้าพเจ้ากลัวท่าน เนื่องจากท่านเป็นคนเข้มงวด ท่านเก็บผลที่ท่านไม่ได้ลงแรง และเกี่ยวสิ่งที่ท่านไม่ได้หว่าน’ 22ท่านจึงตอบเขาว่า ‘ไอ้ขี้ข้าชั่วช้า เราจะพิพากษาเจ้าด้วยคำพูดของเจ้าเอง เจ้าก็รู้ไม่ใช่หรือว่าเราเป็นคนเข้มงวด เก็บผลที่เราไม่ได้ลงแรงและเกี่ยวสิ่งที่เราไม่ได้หว่าน? 23แล้วทำไมเจ้าถึงไม่ฝากเงินของเราไว้ในธนาคาร? เมื่อเรามาจะได้รับเงินของเราพร้อมกับดอกเบี้ยด้วย’ 24แล้วท่านสั่งคนที่ยืนอยู่ที่นั่นว่า ‘จงเอาเงินหนึ่งมินาจากเขาไปให้กับคนที่มีสิบมินา’ 25แล้วพวกเขาพูดว่า ‘ท่านเจ้าข้า เขามีสิบมินาแล้ว’ 26‘เราบอกพวกเจ้าว่า ทุกคนที่มีอยู่แล้วจะได้รับเพิ่มอีก แต่คนที่ไม่มี แม้แต่สิ่งที่เขามีอยู่นั้นก็จะต้องเอาไปจากเขา 27ส่วนพวกศัตรูของเราที่ไม่ต้องการให้เราปกครองพวกเขานั้น จงพาเขามาที่นี่ แล้วฆ่าเสียต่อหน้าเรา’ 

T : Transformation

เราต้องการให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราในด้านใดบ้าง

ระมัดระวังท่าที ความคิด การพูดและการแสดงออก ที่ลบหลู่ดูหมิ่นพระเจ้า หรือยโสโอหัง บังอาจต่อสู้สิทธิอำนาจของพระเจ้า หรือลบหลู่ดูหมิ่นต่อพระวจนะของพระเจ้าโดยไม่เข้าใจ เพราะปลายทางคือ การถูกพิพากษา

S : Serve

เราจะดำเนินชีวิตเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น และต่อพระเจ้าได้อย่างไรบ้าง?

สอนพระวจนะของพระเจ้าด้วยความยำเกรงพระเจ้า สอนให้ถูกต้องตามพระวจนะ

ระมัดระวังคำสอนที่โอ้อวดตนเอง โอหังต่อพระเจ้า  ลบหลู่ดูหมิ่น ไม่มีความยำเกรงพระเจ้า ไม่ยำเกรงสิทธิอำนาจของพระเจ้า หรือต่อสู้ขัดขวางผู้รับใช้ของพระเจ้าที่สอนและดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง ตามที่พระเจ้าแต่งตั้งให้ทำการของพระเจ้า ระวังจะถูกพิพากษาจากพระเจ้า

ขอพระเจ้าอวยพร ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

สนใจติดต่อเรา

www.facebook.com/FORWARD.CH.TH

Email: actsministry2017@gmail.com

บทความก่อนหน้านี้เฝ้าเดี่ยวแบบ A.C.T.S. พระธรรม 2 เปโตร บทที่2:4-10ก
บทความถัดไปเฝ้าเดี่ยวแบบ A.C.T.S. พระธรรม 2 เปโตร บทที่2:13ข-16

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่