ส่ิงที่เรียนรู้จากพระธรรม1 เปโตร คือ คริสเตียนยินดีทนทุกข์เพื่อถวายเกียรติแด่พระคริสต์ ดีกว่ามีความสุขสบายแต่ทำให้พระเจ้าเสื่อมพระเกียรติ

เมื่อท่านศึกษาเฝ้าเดี่ยวพระธรรม1 เปโตรแล้ว ตั้งใจดำเนินชีวิตที่ถวายเกียรติแด่พระคริสต์

7อวสานของสิ่งทั้งปวงมาใกล้แล้ว เพราะฉะนั้น พวกท่านจงมีสติสัมปชัญญะ และจงรู้จักสงบใจเพื่อการอธิษฐาน 8เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ จงรักกันและกันให้มาก เพราะความรักให้อภัยบาปมากมายได้ 9พวกท่านจงต้อนรับเลี้ยงดูกันและกันโดยไม่บ่น 10ตามที่แต่ละคนได้รับของประทาน ก็ให้ใช้ของประทานนั้นปรนนิบัติกันและกัน ดังเช่นผู้รับมอบฉันทะที่ดีเกี่ยวกับพระคุณนานาประการของพระเจ้า 11ถ้าใครจะพูด ก็ให้พูดดังเช่นพูดพระวจนะของพระเจ้า ถ้าใครจะปรนนิบัติ ก็จงปรนนิบัติดังเช่นทำด้วยกำลังซึ่งพระเจ้าประทาน

เพื่อพระเจ้าจะได้รับพระเกียรติในทุกสิ่ง ทางพระเยซูคริสต์ ขอพระสิริและอานุภาพจงมีแด่พระองค์ตลอดไปเป็นนิตย์ อาเมน

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับมาตรฐาน 2011 สงวนลิขสิทธิ์ 2011 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย

A : Attitude

เราได้รับความรู้ใหม่ๆ หรือเราได้รับทัศนคติใหม่ๆ จากพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่อ่านเรื่องอะไรบ้าง?

เมื่อพระเจ้าทรงสร้างโลกในปฐมกาล มนุษย์เป็นพระฉายาของพระเจ้า ไม่มีส่ิงทรงสร้างอื่นๆที่ถูกสร้างด้วยพระฉายาของพระเจ้า มีแต่มนุษย์เท่าน้ัน

ปฐก1:27 พระเจ้าจึงทรงสร้างมนุษย์ขึ้นตามพระฉายาของพระองค์ ตามพระฉายาของพระเจ้านั้น พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้น และทรงสร้างให้เป็นชายและหญิง

พระฉายาของพระเจ้า ทำให้มนุษย์ แตกต่างจากสิ่งทรงสร้าง แตกต่างจากสัตว์  มนุษย์มีความคิด มีเหตุผล มีจิตใจ มีมโนธรรม มีศิลธรรม สัตว์มีสัญชาติญาณแต่ไม่มีจริยธรรม มนุษย์กับสัตว์มีจิตวิญญาณแตกต่างกัน  มีสติปัญญาแตกต่างกัน มนุษย์มีความรัก สติสัมปะชัญญะ มีความบริสุทธิ์ของพระเจ้า ส่วนสัตว์ไม่มี  หมายถึงมนุษย์ที่ยังไม่ทำบาป )

พระฉายาคือ พระลักษณะ หรือพระสิริของพระเจ้า พระเจ้าสร้างเราให้มีพระสิริของพระเจ้า มนุษย์จะสำแดงพระสิริของพระเจ้า

คือ พระฉายาของพระเจ้า เพื่อพระเกียรติของพระเจ้าจะได้ปรากฎผ่านชีวิตของเราที่เป็นมนุษย์ เมื่อคนอื่นเห็นเรา เขาเห็นพระสิริของพระเจ้า เห็นดินก้อนนี้มีชีวิต เมื่อเราดำเนินชีวิตกับพระเจ้า เราจะสำแดงพระสิริของพระเจ้า

สดด19:1ท้องฟ้าประกาศพระสิริของพระเจ้า และพื้นฟ้าสำแดงผลงานแห่งพระหัตถ์ของพระองค์

ส่ิงทรงสร้างไม่มีพระฉายาของพระเจ้า แม้พระองค์สร้างพื้นฟ้าด้วยพระหัตถ์ พื้นฟ้าก็ยังสำแดงพระสิริของพระเจ้า ยิ่งกว่านั้นการได้เห็นมนุษย์ ที่สร้างจากพระสิริของพระเจ้า จะเห็นพระสิริของพระเจ้า

เมื่อเราถวายเกียรติพระเจ้า หมายความว่า เราให้พระเจ้า เป็นศูนย์กลางไม่ใช่ตัวเองเป็นศูนย์กลางอีกต่อไป

มนุษย์เสื่อมจากพระสิริของพระเจ้าเมื่อทำบาป เพราะพระเจ้าสร้างมนุษย์จากพระสิริ จากพระฉายาของพระเจ้า เมื่อทำบาปพระสิริไม่อยู่แล้ว พอบอกเรื่องพระเจ้า  มนุษย์ก็จะไม่เอา มนุษย์จะไม่ถวายเกียรติพระเจ้า มนุษย์ สู้ท้องฟ้ายังไม่ได้ที่ประกาศพระสิริของพระเจ้า

รม3:23 เพราะว่าทุกคนทำบาป และเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า

แต่พระเจ้าสร้างเราใหม่ตามพระฉายาของพระเจ้า เพื่อให้เรารู้จักพระเจ้า

คส3:10และสวมวิสัยมนุษย์ใหม่ที่กำลังได้รับการสร้างขึ้นใหม่ตามพระฉายาของพระองค์ผู้ทรงสร้างเพื่อให้รู้จักพระเจ้า 

เราถวายพระเกียรติพระเจ้า ด้วยการถูกสร้างชีวิตใหม่ คนไม่เชื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้าไม่ได้ พวกเขาไม่มีสิทธิ์  คริสเตียนควรถวายเกียรติพระเจ้า ควรมีพระเจ้าเป็นศูนย์กลางในการดำเนินชีวิต มีพระเยซูเป็นศูนย์กลางทำอะไรตามพระทัยพระเจ้า   ดำเนินชีวิตถวายเกียรติพระเจ้า (อ.ประยูร ลิมะหุตะเศรณี)

C : Christ in focus

เรามองเห็นพระเยซูเป็นใคร พระองค์ทำอะไรบ้าง ผ่านพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่เราอ่านอย่างไรบ้าง?

พระเยซูถวายเกียรติพระเจ้าพระบิดาเมื่อดำเนินชีวิตอยู่ในโลกนี้ ด้วยการเชื่อฟัง กระทำตามพระทัยพระเจ้า จนกระทั่งถึงความมรณา เพื่อเป็นค่าไถ่บาปแก่คนจำนวนมาก พระองค์สละชีวิตของพระองค์เอง

ยน 17:1-7 เมื่อพระเยซูตรัสอย่างนั้นแล้ว พระองค์ก็แหงนพระพักตร์ขึ้นดูฟ้าและตรัสว่า “ข้าแต่พระบิดา ถึงเวลาแล้ว ขอโปรดให้พระบุตรของพระองค์ได้รับเกียรติ เพื่อพระบุตรจะได้ถวายพระเกียรติแด่พระองค์ 2ดังที่พระองค์โปรดให้พระบุตรมีสิทธิอำนาจเหนือมนุษย์ทั้งสิ้น เพื่อให้พระบุตรประทานชีวิตนิรันดร์แก่คนที่พระองค์ทรงมอบแก่พระบุตรนั้น 3และนี่แหละคือชีวิตนิรันดร์ คือการที่พวกเขารู้จักพระองค์ ผู้ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียว และรู้จักพระเยซูคริสต์ที่พระองค์ทรงใช้มา 4ข้าพระองค์ถวายพระเกียรติแด่พระองค์ในโลก เพราะข้าพระองค์ทำกิจที่พระองค์ทรงให้ข้าพระองค์ทำนั้นสำเร็จแล้ว 

5บัดนี้ข้าแต่พระบิดา ขอโปรดให้ข้าพระองค์ได้รับเกียรติต่อพระพักตร์ของพระองค์ คือเกียรติที่ข้าพระองค์มีร่วมกับพระองค์ก่อนที่โลกนี้มีมา6“ข้าพระองค์สำแดงพระนามของพระองค์ แก่บรรดาคนที่พระองค์ประทานแก่ข้าพระองค์จากโลก คนเหล่านั้นเป็นของพระองค์แล้ว และพระองค์ประทานพวกเขาแก่ข้าพระองค์ และเขาได้ปฏิบัติตามพระดำรัสของพระองค์แล้ว 7บัดนี้พวกเขารู้ว่าทุกสิ่งที่พระองค์ประทานแก่ข้าพระองค์นั้นมาจากพระองค์

T : Transformation

เราต้องการให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราในด้านใดบ้าง?

ชีวิตคริสเตียนเป็นชีวิตที่ได้รับพระคุณของพระเจ้า ในการไถ่เราจากความบาปที่นำไปสู่ความตายนิรันดร์ ดังนั้นเราจึงดำเนินชีวิตโดยการถวายเกียรติแด่พระคริสต์พระผู้ช่วยของเรา(11)

โดยเฉพาะในเวลายุคสุดท้ายนี้ ดำเนินชีวิตอย่างมีสติสัมปชัญญะ และจงรู้จักสงบใจเพื่อการอธิษฐาน (8)เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ จงรักกันและกันให้มาก

S : Serve

เราจะดำเนินชีวิตเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น และต่อพระเจ้าได้อย่างไรบ้าง?

การรับใช้ทำด้วยความรัก ด้วยสำนึกถึงพระคุณของพระเจ้าที่ไถ่เราจากความบาป

รับใช้ด้วยของประทานที่พระเจ้าประทานให้ เพื่อประโยชน์ของผู้อื่น ไม่ใช่เป็นการสร้างความสำเร็จในการรับใช้ของเรา เป็นโปรไฟล์ความสำเร็จของเรา

รับใช้ด้วยการถวายเกียรติแด่พระเจ้า

รับใช้ด้วยการประกาศความจริงของพระเจ้าตามพระวจนะพระเจ้า

 

ขอพระเจ้าอวยพร ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

สนใจติดต่อเรา

www.facebook.com/FORWARD.CH.TH

Email: actsministry2017@gmail.com

บทความก่อนหน้านี้เฝ้าเดี่ยวแบบ A.C.T.S. พระธรรม 1 เปโตร บทที่4:1-6
บทความถัดไปเฝ้าเดี่ยวแบบ A.C.T.S. พระธรรม 1 เปโตร บทที่4:12-19

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่