หน้าแรก เฝ้าเดี่ยวแบบตามพระธรรม พระธรรมผู้วินิจฉัย เฝ้าเดี่ยวแบบ A.C.T.S. ผู้วินิจฉัย บทที่ 9:1-21

เฝ้าเดี่ยวแบบ A.C.T.S. ผู้วินิจฉัย บทที่ 9:1-21

1742
0
ภาพจาก https://www.huffingtonpost.com/entry/trump-nominee-bible-constitution_us_59b004cbe4b0354e440e5379

ส่ิงที่เรียนรู้จากพระธรรมวินิจฉัย คือ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ที่อยู่เหนือความสัมพันธ์กับพระเจ้า จะทำให้คนหลงไปจากทางของพระเจ้าในที่สุด เพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์มากกว่าความถูกต้องของพระเจ้า

เมื่อท่านศึกษาเฝ้าเดี่ยวพระธรรมผู้วินิจฉัยแล้ว ท่านจะพบว่าการจะเป็นผู้นำที่ดีนั้นไม่ได้มาจากความอยากเป็น แต่มาจากการทรงเรียก การทรงเลือก และการทรงแต่งตั้งจากพระเจ้า เพื่อสวัสดิภาพคนของพระเจ้า

ประชาชนทั่วๆไปเลือกผู้นำ ผู้ปกครองก็เพราะอยากให้ผู้นำทำประโยชน์ให้กับพวกเขา แต่พระเจ้าแต่งตั้งผู้นำเพื่อสวัสดิภาพแก่คนของพระองค์ โดยผู้นำนั้นทำตามพระประสงค์ของพระองค์ ไม่ใช่ตามความต้องการของพวกประชาชน หรือผู้ตาม

อาบีเมเลคพยายามสถาปนาตัวเองเป็นกษัตริย์

1ส่วนอาบีเมเลคบุตรเยรุบบาอัลก็ไปหาญาติของมารดาที่เมืองเชเคม แล้วพูดกับเขาทั้งหลายและกับวงศาคณาญาติมารดาของตนว่า 2“ขอบอกความนี้ให้เข้าหูชาวเมืองเชเคมเถิดว่า ‘จะให้บุตรเยรุบบาอัลทั้งเจ็ดสิบคนครอบครองท่านทั้งหลายดี หรือจะให้ผู้เดียวปกครองดี’ ขอระลึกไว้ด้วยว่า ตัวข้าพเจ้านี้เป็นเลือดเนื้อเดียวกับท่านทั้งหลาย” 3ฝ่ายญาติของมารดาของเขาก็กล่าวคำเหล่านี้ให้เข้าหูชาวเชเคม

จิตใจของชาวเมืองก็เอนเอียงเข้าข้างอาบีเมเลค ด้วยพวกเขากล่าวกันว่า “เขาเป็นญาติของเรา” 

4เขาทั้งหลายจึงเอาเงิน 70 แผ่นออกจากวิหารพระบาอัลเบรีทมอบให้อาบีเมเลค อาบีเมเลคก็เอาเงินนั้นไปจ้างพวกนักเลงไว้ติดตามตน 5เขาจึงไปที่บ้านบิดาของเขาที่เมืองโอฟราห์

ฆ่าพี่น้องของตน คือบุตรเยรุบบาอัลทั้ง 70 คนที่ศิลาแผ่นเดียว เหลือแต่โยธามบุตรสุดท้องของเยรุบบาอัลเพราะเขาซ่อนตัวเสีย 

6ชาวเมืองเชเคมและชาวเบธมิลโลทั้งสิ้นก็มาประชุมพร้อมกัน ตั้งอาบีเมเลคให้เป็นกษัตริย์ที่ข้างต้นโอ๊กแห่งเสาศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในเมืองเชเคม

อุปมาเรื่องต้นไม้ต่างๆ

7เมื่อโยธามทราบเรื่อง เขาก็ขึ้นไปยืนอยู่บนยอดภูเขาเกริซิม ตะเบ็งเสียงตะโกนบอกเขาทั้งหลายว่า “ชาวเมืองเชเคมเอ๋ย ขอจงฟังข้า เพื่อพระเจ้าจะทรงฟังเสียงของเจ้าทั้งหลาย 8ครั้งหนึ่งต้นไม้ต่างๆ ได้ออกไปเจิมตั้งต้นไม้ต้นหนึ่งไว้เป็นราชา พวกมันไปเชิญต้นมะกอกว่า ‘เชิญท่านปกครองเราเถิด’ 9แต่ต้นมะกอกตอบว่า ‘จะให้ฉันหยุดผลิตน้ำมันซึ่งเขาใช้ถวายเกียรติแด่พระและแก่มนุษย์ เพื่อไปกวัดแกว่งอยู่เหนือต้นไม้ทั้งหลายหรือ?’ 10แล้วต้นไม้เหล่านั้นจึงไปพูดกับต้นมะเดื่อว่า ‘เชิญท่านมาปกครองเราเถิด’ 11แต่ต้นมะเดื่อตอบว่า ‘จะให้ฉันหยุดผลิตรสหวานและผลดีของฉัน และไปกวัดแกว่งอยู่เหนือต้นไม้ทั้งหลายหรือ?’ 12ต้นไม้เหล่านั้นก็ไปพูดกับเถาองุ่นว่า ‘เชิญท่านมาปกครองเราเถิด’ 13แต่เถาองุ่นตอบว่า ‘จะให้ฉันหยุดผลิตเหล้าองุ่นอันเป็นที่ชื่นใจพระและมนุษย์ไปกวัดแกว่งอยู่เหนือต้นไม้ทั้งหลายหรือ?’ 14ต้นไม้ทั้งสิ้นก็ไปพูดกับต้นหนามว่า ‘เชิญท่านมาปกครองเราเถิด’ 

15ต้นหนามจึงตอบต้นไม้ทั้งหลายว่า ‘ถ้าท่านทั้งหลายจะเจิมตั้งฉันให้เป็นราชาของท่านจริงๆ จงมาอาศัยใต้ร่มเงาของฉันเถิด มิฉะนั้นก็ให้ไฟเกิดจากต้นหนามเผาผลาญต้นสนสีดาร์เลบานอนเสีย’

16“เวลานี้เจ้าทั้งหลายตั้งอาบีเมเลคเป็นกษัตริย์ ถ้าทำด้วยความจริงใจและเที่ยงธรรม และถ้าได้ทำดีต่อเยรุบบาอัลและครอบครัวของท่านสมกับความดีที่มือท่านได้ทำไว้ 17(เพราะว่าบิดาของเราได้สู้รบเพื่อเจ้าทั้งหลาย และเสี่ยงชีวิตช่วยเจ้าทั้งหลายให้พ้นจากมือพวกมีเดียน 

18แต่ในวันนี้เจ้าทั้งหลายได้ลุกขึ้นทำร้ายเชื้อสายบิดาของข้า ได้ฆ่าบุตรชายทั้งเจ็ดสิบคนของท่านเสียบนศิลาแผ่นเดียว แล้วตั้งอาบีเมเลคลูกหญิงคนใช้ขึ้นเป็นกษัตริย์ ปกครองชาวเชเคม เพราะว่าเขาเป็นญาติของเจ้าทั้งหลาย) 

19ถ้าเจ้าทั้งหลายได้ทำด้วยความจริงใจและเที่ยงธรรมต่อเยรุบบาอัล และครอบครัวของท่านในวันนี้ ก็จงชื่นชมในอาบีเมเลคเถิด และให้เขามีความชื่นชมยินดีในเจ้าทั้งหลาย 20แต่ถ้าไม่เป็นอย่างนั้น ก็ขอให้ไฟออกมาจากอาบีเมเลค เผาผลาญชาวเมืองเชเคมและเบธมิลโล และให้ไฟออกมาจากชาวเมืองเชเคม และจากเบธมิลโลเผาผลาญอาบีเมเลคเสีย” 21โยธามก็รีบหนีไปยังเบเออร์อาศัยอยู่ที่นั่น เพราะกลัวอาบีเมเลคพี่ชายของตน

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับมาตรฐาน 2011 สงวนลิขสิทธิ์ 2011 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย

A : Attitude

เราได้รับความรู้ใหม่ๆ หรือเราได้รับทัศนคติใหม่ๆ จากพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่อ่านเรื่องอะไรบ้าง?

อย่าอยากเป็นผู้นำที่ปกครองคนอธรรม เพราะปลายทางจะมีแต่ความพินาศต่อให้วางแผน ลงทุน ใช้สายสัมพันธ์จนได้เป็นผู้นำ มีตำแหน่ง มีความสำคัญ แต่ในท้ายที่สุดจะพบกับความพินาศอย่างแน่นอน แล้วจะทำไปทำไม?

ถ้าอาบีเมเลคไม่ดีต่อครอบครัวของกิเดโอนโดยการพยายามฆ่าลูกทั้ง 70 คน ทั้งๆที่คนเหล่านั้นเป็นครอบครัวของตนเองด้วย แล้วเขาจะทำดีต่อใครได้ในเมื่อกับครอบครัวของตนยังทำเลวร้ายได้ขนาดนั้น

อาบีเมเลคไม่มีจริยธรรมที่ดีเลย แต่เขาอยากจะเป็นผู้นำทำไม ที่เขาเป็นผู้นำได้ เพราะเขาเป็นคนอธรรมได้รับการสนับสนุนจากผู้ตามที่ไม่มีจริยธรรม เป็นคนไม่ดี ไม่มีคุณธรรม เป็นคนอธรรมเหมือนกันจึงสนับสนุนผู้นำที่เป็นคนอธรรม

C : Christ in focus

เรามองเห็นพระเยซูเป็นใคร พระองค์ทำอะไรบ้าง ผ่านพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่เราอ่านอย่างไรบ้าง?

พระเยซูมาช่วยคนบาปด้วยการเตือนให้กลับใจใหม่บาป กลับมาคืนดีกับพระเจ้า ดำเนินชีวิตในทางของพระเจ้า เพื่อจะรอดพ้นจากความพินาศในการพิพากษา โยธามก็ได้เตือนคนอิสราเอลที่เมืองเชเคมและเบธมิลโลให้กลับใจใหม่จากการสนับสนุนอาบีเมเลค

พระเยซูให้โอกาสสำหรับคนอธรรมในการกลับใจใหม่จากบาปเสมอ ถ้าเขาไม่กลับใจใหม่จากบาป ไม่พึ่งพา ไม่เชื่อวางใจในการยกโทษบาปของพระองค์ ก็เพราะเขาคิดว่าเขาไม่ได้ทำผิดอะไร เขาเป็นคนดี มีความชอบธรรม

พระเจ้าต่างหากที่มาปรักปรำว่าพวกเขาเป็นคนผิด คนบาป แสดงว่าพระเจ้านั่นแหละเป็นคนไม่ดีที่มากล่าวหาว่าพวกเขาเป็นคนอธรรม คนบาป คนไม่ดี

ถ้าเขาคิดแบบนี้พระเยซูก็เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเขาไม่ได้ ทั้งๆที่พระองค์เป็นทางรอดสำหรับพวกคนบาป คนอธรรม

 

T : Transformation

เราต้องการให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราในด้านใดบ้าง

เราเรียนรู้จากโยธามในการเปรียบเทียบต้นองุ่น ต้นมะกอก ต้นมะเดื่อ ผลไม้เหล่านี้เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์มากสำหรับคนอิสราเอลในเวลานั้น เมื่อเปรียบเทียบกับต้นหนามแล้ว คุณค่า คุณประโยชน์แตกต่างกันสูงมาก

สังเกตว่าคนที่รู้จักพระเจ้าอย่างดีเขาจะรู้ว่า พระเจ้าให้เขาเป็นพระพรอะไรกับคนของพระเจ้า และเขาจะไม่อยากไปทำสิ่งที่ไม่ใช่พระประสงค์ของพระเจ้า โดยเฉพาะไปทำบาปตามความปรารถนาของตนเอง

ดังนั้นเราต้องรู้จักทำหน้าที่ของตนที่พระเจ้ามอบหมายให้โดยเป็นประโยชน์แก่ตนเอง และผู้อื่น โดยเฉพาะต่อคนของพระเจ้า เราควรดำเนินชีวิตโดยมีคุณธรรมประจำใจจากการรู้จักพระเจ้า ยำเกรงพระเจ้า ศึกษาจากพระวจนะของพระเจ้า และจากพระลักษณะของพระเจ้า 

 

S : Serve

เราจะดำเนินชีวิตเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น และต่อพระเจ้าได้อย่างไรบ้าง?

รับใช้พระเจ้าโดยลักษณะชีวิตที่มีคุณธรรมจากพระลักษณะของพระเจ้าในชีวิต รักษาคุณลักษณะชีวิตตามพระวจนะของพระเจ้าเพื่อเห็นแก่พระเจ้า และประโยชน์คนของพระเจ้า

รับใช้พระเจ้าโดยยำเกรงพระเจ้ามากกว่า เห็นแก่ความสัมพันธ์ ต้องเกรงใจมนุษย์มากกว่าพระเจ้า

รับใช้โดยไม่แสวงหาอำนาจ หรือต้องการอำนาจ หรือความนิยมชมชอบ หรือความชื่นชมจากผู้คน โดยขาดจริยธรรมศิลธรรม หรือรับใช้โดยหวังผลประโยชน์อธรรม

ขอพระเจ้าอวยพร  ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

สนใจติดต่อเรา

www.facebook.com/FORWARD.CH.TH

Email: actsministry2017@gmail.com

บทความก่อนหน้านี้เฝ้าเดี่ยวแบบ A.C.T.S. ผู้วินิจฉัย บทที่ 8:22-35
บทความถัดไปเฝ้าเดี่ยวแบบ A.C.T.S. ผู้วินิจฉัย บทที่ 9:22-57

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่