หน้าแรก คำเทศน์ พันธสัญญาใหม่ อฟ4:11-16  การเจริญเติบโตของคริสตจักร

อฟ4:11-16  การเจริญเติบโตของคริสตจักร

2578
0

อ.ประยูร ลิมะหุตะเศรณี เทศนาที่คริสตจักรมักกะสัน

อาทิตย์ที่ 12 พ.ค.2019

อฟ4:11-16  การเจริญเติบโตของ

คริสตจักร

11และพระองค์เองประทานให้บางคนเป็นอัครทูต บางคนเป็นผู้เผยพระ วจนะ บางคนเป็นผู้ประกาศข่าวประเสริฐ บางคนเป็นศิษยาภิบาลและอาจารย์ 12เพื่อเตรียมธรรมิกชนสำหรับการปรนนิบัติและการเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์ 13จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อและในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า บรรลุถึงความเป็นผู้ใหญ่ คือโตเต็มถึงขนาดความบริบูรณ์ของพระคริสต์ 14เพื่อเราจะไม่เป็นเด็กอีกต่อไป ถูกซัดไปซัดมาและพัดไปพัดมาด้วยลมคำสั่งสอนทุกอย่าง ด้วยเล่ห์กลของมนุษย์ ตามอุบายที่ฉลาดในการล่อลวง 15แต่ให้เรายึดถือความจริงด้วยความรัก เพื่อจะเจริญ ขึ้นในทุกด้านสู่พระองค์ผู้เป็นศีรษะคือพระคริสต์ 16เนื่องจากพระองค์นี้เอง ร่างกายทั้งหมดจึงได้รับการเชื่อมและประสานเข้าด้วยกันโดยทุกๆ ข้อต่อที่ประทานมานั้น และเมื่อแต่ละส่วนทำงานตามหน้าที่แล้ว ก็ทำให้ร่างกายเจริญและเสริมสร้างตนเองขึ้นด้วยความรัก

ในสังคมเราทุกวันนี้มีค่านิยมชีวิตที่ดี มาจากการมีความรู้ดี มีอาชีพดี ทำให้มีอนาคตดี นี่คือ ความคิดตามกรอบแบบค่านิยมของโลก แต่ในพระคัมภีร์ อนาคตแท้จริงของเราที่เป็นผู้เชื่อในพระเจ้า แท้จริงอยู่ด้านฝ่ายจิตวิญญาณ 

ลก16:19-31ในพระคัมภีร์ได้บันทึกเรื่องเศรษฐีรวยตอนมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันเขามีชีวิตสุขสบายเพราะอดีตที่ผ่านมาเขาได้ทำงานมาพอสมควร แต่คนขอทานมีความยากลำบากเรื่องเศรษฐกิจในปัจจุบัน แต่ขอทานเขามีอนาคตที่ดีรอเขาอยู่ พระคัมภีร์บอกว่าเมื่อเศรษฐีตายแล้วเขาพบว่าอนาคตของคนทั้งสองอยู่คนละละดับมีความแตกต่างกัน เพราะเศรษฐีเขาไม่ได้คิดถึงเรื่องฝ่ายวิญญาณนี้เมื่อตอนมีชีวิตอยู่จึงไม่ได้อยู่ในอ้อมอกอับราฮัมซึ่งดีกว่าการอยู่ในแดนคนตาย ทุกข์ระทมอยู่ในเปลวไฟ (24)

ขอให้เราตระหนักความสำคัญเรื่องฝ่ายวิญญาณ อย่าให้การบริโภคในชีวิต ปัจจุบันนี้ ทำให้เราละทิ้งเวลาในการใช้ชีวิตกับพระเจ้า ใช้เวลากับพระคำ ใช้เวลากับพระเจ้า ขอให้เราได้รับการหล่อเลี้ยงชีวิตในฝ่ายวิญญาณ ของเรา

การเติบโตฝ่ายจิตวิญญาณไม่มีการอัศจรรย์ทำให้เกิดได้ในพริบตา แต่เกิดจากการใช้เวลาอย่างมีคุณภาพกับพระเจ้า เป็นประจำสม่ำเสมอ

พระคัมภีร์ตอนนี้สามารถนำมาเทศน์ได้หลายหัวข้อ แต่วันนี้อยากเน้นเรื่อง คริสตจักร คริสตจักรเป็นเครื่องมือของพระเจ้า ในการทำการพระเจ้า คริสตจักร เป็นโครงการของพระเจ้า ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันนั้นในอดีตจนถึงวันนี้ในปัจจุบัน

หัวข้อคำเทศนาคือ การเจริญเติบโตของคริสตจักร

เราทุกคนต่างเป็นอวัยวะในพระกายของพระคริสต์ การเจริญขึ้นเพื่อก้าวสู่ความไพบูลย์ของพระคริสต์ จึงต้องเจริญขึ้นด้วยกัน เพื่อนำความไพบูลย์ของพระองค์ให้ปรากฎในหมู่พวกเราคือความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเราจะบรรลุเป้าหมายโดยการที่ต่างคนต่างคอยเสริมสร้างซึ่งกันและกันตามของประทานที่พระเจ้าทรงประทานให้

ข้อ11 และพระองค์เองประทานให้บางคนเป็นอัครทูต บางคนเป็นผู้เผยพระ วจนะ บางคนเป็นผู้ประกาศข่าวประเสริฐ บางคนเป็นศิษยาภิบาลและอาจารย์ 

ซึ่งเรื่องนี้เริ่มต้นในเราแล้วโดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ เป็นพระประสงค์ของพระเจ้า ในการสร้างคริสตจักรขึ้นมา ให้เจริญเติบโต เราต้องมีส่วนรับผิดชอบ คริสตจักร คริสตจักรไม่ได้หมายถึงอาคาร ส่ิงก่อสร้าง แต่หมายถึงผู้เชื่อ ต้องเจริญเติบโตไปด้วยกัน เราเป็นพระกายของพระคริสต์ 

ข้อ12 เพื่อเตรียมธรรมิกชนสำหรับการปรนนิบัติและการเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์

ให้เราใช้ของประทานในการเสริมสร้างพระกาย ให้เจริญขึ้น การเติบโตควรเป็นการเติบโตพร้อมๆกัน ไม่ใช่อวัยวะใดอวัยวะหนึ่งเติบโต แขนขวาโตเอาๆ มันต้องเป็นโรคต่างหากไม่ใช่การเติบโต

หากเราไม่คำนึงถึงสัจธรรมจริงๆ เราจะคิดถึงแต่ตัวเอง ไม่ได้คิดถึงคนอื่น  ในพระกายเราต้องเสริมสร้างกันและกันให้เติบโตพร้อมๆกัน อาจารย์ ศิษยาภิบาล อัครฑูต ต้องเสริมสร้างคนอื่นให้เติบโต ไม่ใช่เสริมสร้างตนเอง อัครฑูตไม่ได้มีหน้าที่เสริมสร้างตนเอง แต่ออกไปเสริมสร้างคนอื่น ผู้เผยพระวจนะเพื่อเสริมสร้างคนอื่น  เราไม่ได้ประกาศข่าวประเสิรฐเพื่อให้ตนเองจะกลับใจใหม่แต่ให้คนที่ได้ฟังข่าวประเสริฐกลับใจใหม่

ไม่มีของประทานในข้อ 11 ที่มีไว้ใช้เพื่อประโยชน์ของตนเอง ของประทานในพระกายพระคริสต์ มีไว้เพื่อเสริมสร้างคนอื่นทั้งสิ้น

เราได้เรียนรู้ของประทานแล้ว เราลองสำรวจดูว่าเราได้ใช้ของประทานเพื่อคนอื่นบ้างหรือเปล่า เราเป็นพระกายของพระคริสต์หรือเปล่า ขอให้เราเข้าใจสัจธรรมของพระเจ้า เราต้องอยากให้พระกายเจริญขึ้น จนกว่าจะบรรลุความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โตจนเต็มขนาดความไพบูลย์ของพระคริสต์

ข้อ 13จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อและในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า บรรลุถึงความเป็นผู้ใหญ่ คือโตเต็มถึงขนาดความบริบูรณ์ของพระคริสต์

คริสตจักรไม่เติบโตเพราะบางคนไม่เติบโต แต่โตเฉพาะบางคนไม่โตพร้อมเพรียงกัน

ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเป็นเป้าหมาย เราแต่ละคนคุยเรื่องเดียว กันได้ เราไม่รู้สึกว่าใครด้อยกว่าใคร ใครดีกว่าใคร ถ้าคิดอย่างนั้นเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันไม่ได้

คำว่าสมาชิกไม่ได้หมายความว่าเขารู้เรื่องพระเจ้าน้อยกว่าผู้นำ เพราะของประทานที่พระเจ้าให้สมาชิกและผู้นำมีคุณค่าเท่ากัน

แต่ผู้นำกับสมาชิกทำหน้าที่แตกต่างกันเท่านั้น แต่มีคุณค่าฝ่ายวิญญาณเท่ากัน

ผมไปเทศน์ตามคริสตจักรมากมาย คริสตจักรส่วนใหญ่เอาระบบบริหารเข้ามาปนกับการเจริญเติบโต บริหารเพื่อการเจริญเติบโต แต่จริงๆการบริหารกับการเติบโตของคริสตจักรเป็นคนละเรื่องกัน คณะผู้นำอย่าคิดว่าสมาชิกไม่อยู่ในระดับฝ่ายวิญญาณเดียวกันกับตน หรือฝ่ายวิญญาณต่ำกว่าตน เพราะจะไม่สร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในพระคริสต์

ข้อ 14 เพื่อเราจะไม่เป็นเด็กอีกต่อไป ถูกซัดไปซัดมาและพัดไปพัดมาด้วยลมคำสั่งสอนทุกอย่าง ด้วยเล่ห์กลของมนุษย์ ตามอุบายที่ฉลาดในการล่อลวง

เพื่อจะไม่เป็นเด็กอีกต่อไป ตามเล่ห์กลแบบมนุษย์ แต่ให้เจริญขึ้นทุกด้านทุกคน ขอให้คริสตจักรคิดถึง มีใครบ้างที่คริสตจักรจะพัฒนาฝ่ายวิญญาณเขา และผู้เชื่อเปิดใจให้ใครมาเสริมสร้างชีวิตฝ่ายวิญญาณเราบ้าง อย่าอ้างบอกว่าไม่มีเวลา เพราะส่ิงที่เราทำวันนี้จะมีผลต่ออนาคตฝ่ายวิญญาณของเราทั้งหมดในอนาคต

เรื่องฝ่ายวิญญาณสัมพันธ์กับพระเจ้า ขอให้พระคำเข้ามาสำแดงพระดำริของพระเจ้าแก่เรา เราต้องก้าวออกจากความเห็นแก่ตัว เพราะความเห็นแก่ตัวทำให้เรามีตัวเองเป็นศูนย์กลาง เราทำทุกอย่างเพื่อตนเอง ไม่ใช่เพื่อคนอื่น

ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของคริสตจักร

ปัจจัยที่หนึ่งความรักของพระเจ้าครอบครองชีวิตเราอยู่

2คร5:14-15 เพราะว่าความรักของพระคริสต์ควบคุมเราอยู่ เรามั่นใจเช่นนี้ว่ามีผู้หนึ่งสิ้นพระชนม์เพื่อทุกคน ดังนั้นทุกคนจึงตายแล้ว 15และพระองค์สิ้นพระชนม์เพื่อทุกคน เพื่อบรรดาคนที่มีชีวิตอยู่จะไม่อยู่เพื่อตัวเองอีกต่อไป แต่จะอยู่เพื่อพระองค์ที่สิ้นพระชนม์ และทรงเป็นขึ้นมาเพราะเห็นแก่เขาทั้งหลาย

ไม่อยู่เพื่อตนเองอีกต่อไปแต่อยู่เพื่อพระองค์ ที่ส้ินพระชนม์เพื่อเรา หากเราจะเสริมสร้างคริสตจักร เราต้องอยู่ในความรักของพระคริสต์  ให้พระองค์ควบคุมเราอยู่ เราบอกว่าเรารักพระเจ้า แต่เราไม่ให้ความรักพระเจ้ามาควบคุมชีวิตเรา สิ่งนี้ทำให้พระเจ้าควบคุมเราไม่ได้ พระเจ้าไม่บังคับเราเพราะเราไม่ยอม

ตัวอย่าง เรารู้ว่าชีวิตใหม่ในพระเจ้าดี แต่เราใช้ชีวิตกับพระเจ้าตลอด24ชั่วโมงหรือเปล่า เราไม่ทำบาปตลอดทั้งวันบ้างไหม ช่วยโกหกให้ชื่นใจหน่อย เราทำไม่ได้เพราะเราไม่ยอมให้พระเจ้าควบคุมชีวิตตลอดเวลาจริงๆ

กฎหมายควบคุมเราบางอย่างทำให้เราไม่กล้าทำผิดเพราะกลัวการลงโทษ แต่ถ้าเราอยู่ภายใต้ความรักของพระเยซูคริสต์เราจะไม่ทำบาป พระเจ้าสอนให้เรารักศัตรู ศัตรูหิวให้เขากิน ศัตรูกระหายน้ำให้เขากิน การกระทำต่อศัตรูเช่นนี้เหมือนความรักของพระเจ้า ที่เป็นลักษณะของพระเจ้าในชีวิตเรา ถ้าเรายอมให้พระเจ้าเข้ามาควบคุม เราจะมีลักษณะของพระเจ้าในชีวิต ทำให้ชีวิตของเราเสริมสร้างคนอื่นได้ ขอเพียงให้เรามีความรักของพระคริสต์ในชีวิต

ปัจจัยที่สอง เราต้องรับผลกระทบการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ในชีวิตของเราอย่างชัดเจน

2คร5:14 เพราะว่าความรักของพระคริสต์ควบคุมเราอยู่ เรามั่นใจเช่นนี้ว่ามีผู้หนึ่งสิ้นพระชนม์เพื่อทุกคน ดังนั้นทุกคนจึงตายแล้ว

ผลกระทบนั้นคือ ตาย แต่วันนี้เราไม่ตายต่อบาป คริสเตียนเริ่มต้นด้วยการตายต่อบาปก่อน ผลแห่งการสิ้นพระชนม์ของพระคริสต์ทำให้เราตายต่อบาป เราไม่อิจฉา ไม่ริษยา ไม่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ตัดแข้งตัดขา

อฟ4:15 แต่ให้เรายึดถือความจริงด้วยความรัก เพื่อจะเจริญขึ้นในทุกด้านสู่พระองค์ผู้เป็นศีรษะคือพระคริสต์ 

ความรักที่ควบคุมทุกๆส่วนของร่างกาย เป็นชิ้นส่วนของชีวิตใหม่ เราจะเสริมสร้างกันและกันอย่างแน่นอน แต่ถ้าเราไม่ได้ตายเราไม่มีชีวิตใหม่

2คร5:15และพระองค์สิ้นพระชนม์เพื่อทุกคน เพื่อบรรดาคนที่มีชีวิตอยู่จะไม่อยู่เพื่อตัวเองอีกต่อไป แต่จะอยู่เพื่อพระองค์ที่สิ้นพระชนม์ และทรงเป็นขึ้นมาเพราะเห็นแก่เขาทั้งหลาย

พระองค์สิ้นพระชนม์เพื่อทุกคน ทุกคนจึงตายแล้ว คนที่มีชีวิตอยู่จะไม่อยู่เพื่อตนเองอีกต่อไป แต่อยู่เพื่อพระองค์ที่ส้ินพระชนม์

ปัจจัยที่สาม มีชีวิตที่รับผลกระทบจากการเป็นขึ้นมาจากความตายของพระคริสต์

เราจะเป็นข้ึนมาเหมือนพระเยซูจาก อฟ4:16 เนื่องจากพระองค์นี้เอง ร่างกายทั้งหมดจึงได้รับการเชื่อมและประสานเข้าด้วยกันโดยทุกๆ ข้อต่อที่ประทานมานั้น และเมื่อแต่ละส่วนทำงานตามหน้าที่แล้ว ก็ทำให้ร่างกายเจริญและเสริมสร้างตนเองขึ้นด้วยความรัก

และ 2คร5:15และพระองค์สิ้นพระชนม์เพื่อทุกคน เพื่อบรรดาคนที่มีชีวิตอยู่จะไม่อยู่เพื่อตัวเองอีกต่อไป แต่จะอยู่เพื่อพระองค์ที่สิ้นพระชนม์ และทรงเป็นขึ้นมาเพราะเห็นแก่เขาทั้งหลาย

เพื่อเห็นแก่พระกาย อวัยวะทุกอย่างจึงเชื่อมทุกๆข้อต่อ ให้ทำงานเหมือนพระองค์มีชีวิตเป็นขึ้นมา

เราต้องคำนึงถึงคริสตจักร คริสตจักรต้องเจริญเติบโต  คริสตจักรมีเพียงพิธีนมัสการแต่คริสตจักรไม่โตไม่ได้ เป็นการเสียเวลา เรามีส่ิงที่พระเจ้ามอบให้เรา คือ ของประทาน เราต้องรับผิดชอบ จากการเป็นขึ้นมาของพระคริสต์ ทำให้เราเกิดใหม่ในดินก้อนเดิม

ปัจจัยที่สี่ ดำเนินชีวิตกับพระวิญญาณบริสุทธิ์

1คร12:13 เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นยิวหรือกรีก ทาสหรือเสรีชน เราได้รับบัพติศมาในพระวิญญาณองค์เดียวเข้าเป็นกายเดียวกัน และพระวิญญาณองค์เดียวกันเป็นเหมือนน้ำที่ประทานให้เราทุกคนได้ดื่ม

พระเจ้าเริ่มต้นให้เรามีชีวิตใหม่ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ผ่านการบัพติศมาโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์องค์เดียวกัน และเข้ามาในพระกายเดียวกัน เราจะรู้สึกอย่างนั้นถ้าเราเกิดใหม่โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราจะรู้สึกเป็นห่วง เราอยากเสริมสร้าง เราอยากให้คริสตจักรเติบโต เป็นความรู้สึกอยากทำ ไม่ใช่เป็นเพียงความรู้

ถ้าเราไม่ทำให้พระกายโตเราก็ตายด้วย อะไรทำให้เราเป็นอย่างนั้น พระวิญญาณบริสุทธิ์ทำให้เราเป็นขึ้น ให้เรามีชีวิต ให้เราไม่ตายฝ่ายวิญญาณ

เราเป็นอวัยวะในพระกายโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ นี่เป็นปัจจัยสำคัญ

ชีวิตเราดำเนินกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ในเวลานี้ ทำให้เราคิดถึงกันและกัน เราจะไม่อิจฉากัน ไม่กีดกันกัน บางคริสตจักร ไม่ชอบผู้ปกครองทำไมไม่ไปบอกเขาว่าทำไมคุณไม่เหมาะกับการเป็นผู้ปกครองจากสาเหตุอะไร เพื่อจะทำให้เขาปรับปรุงตนเอง และทำได้ดีขึ้น ไม่ใช่ให้เขาเลิกรับใช้

วิญญาณอิจฉาสร้างมาตรฐานในการกีดกัน บอกว่าคนอื่นไม่เหมาะในการรับใช้อย่างไร เราต้องระวังเรื่องการอิจฉา ตรงกันข้ามกับวิญญาณความรักจะสร้างโอกาสให้ทุกๆคน ได้รับใช้ ได้เกิดผล ได้เป็นพระพร

คริสตจักรไม่แก่งแย่ง ชิงดี ปัดแข้งปัดขา มีแต่ส่งเสริม เกื้อกูล ห่วงไย รักกัน นี่คือ ชีวิตใหม่ในพระกาย บรรยากแบบนี้สำคัญเพราะทำให้คริสตจักรของพระเยซูเจริญเติบโตด้วยความรัก เราทนไม่ได้ที่เห็นคนไม่โต เราอยากช่วยเขา เราหยุดเพื่อที่จะรอเขา ช่วยเขาให้เติบโต

วันที่พระเยซูกลับมาพระองค์คงไม่บอกว่าประยูรเจ๋งมาที่ทิ้งคนที่ตามไม่ทัน ไม่เป็นอย่างนั้นแน่นอน

อฟ4:16 เนื่องจากพระองค์อวัยวะทั้งหมดในร่างกายจึงได้รับการเชื่อมประสาน เพื่อแต่ละส่วนทำงานตามหน้าที่แล้ว ทำให้ร่างกายเจริญเสริมสร้างด้วยความรัก

บรรยากาศการเจริญเติบโตของคริสตจักร จะฟ้องเราว่าได้ทำหน้าที่ใน  อวัยวะของพระกายอย่างดีหรือไม่ พระเจ้าสร้างคริสตจักร ให้มีชีวิต ให้เติบโต การเติบโตไม่ใช่เป็นเรื่องการอัศจรรย์ อย่าเข้าใจเรื่องพระวิญญาณบริสุทธิ์ผิด พระองค์นำผู้เชื่อเข้ามา ทำให้กลับใจ ให้ของประทาน สร้างชีวิตให้เติบโตจากการเสริมสร้างกันและกัน ไม่ใช่ทำอัศจรรย์ เสกให้โต

ระมัดระวังอย่าให้เล่ห์กลหรือคำสอนผิดๆ เช่น ให้มารับฤทธิ์เดช ให้มารับฤทธิ์การวางมือ แล้วพูดภาษาแปลกๆ ให้มานอนล้มลง แล้วคุณจะเติบโตขึ้นฝ่ายวิญญาณ หรือจะนำคนมาเชื่อพระเจ้าได้เยอะมากๆ เพราะมีฤทธิ์เดช ฟังดูแล้ว การประชุมแบบนี้อาจจะมีเนื้อหา แต่ความจริงแล้วไม่มีสาระในการเติบโต

การให้อวัยวะในพระกายได้เสริมสร้างกันและกันจะทำให้คริสตจักรเจริญเติบโต

ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

สนใจติดต่อเรา หรือเชิญให้เทศนา ให้สอนหรือให้อบรม

www.facebook.com/FORWARD.CH.TH

Email: actsministry2017@gmail.com

บทความก่อนหน้านี้ยน6:1-15 พระคริสต์เป็นคำตอบอัศจรรย์
บทความถัดไปสุภาษิต 19:1-29 โง่ จน ฉลาด

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่