อ.กิจขจร  ลิ่วเฉลิมวงศ์

คำเทศน์สุภาษิต 19:1-29 โง่จนฉลาด

เทศน์ที่ คจ.พันธสัญญาสุวรรณภูมิ   วันที่ 26 June 2016

หนังสือสุภาษิตส่วนใหญ่ถูกเขียนขึ้นโดยโซโลมอน แม้ว่าสองบทสุดท้ายเขียนโดยอากูร์ และกษัตริย์เลมมูเอล หนังสือเล่มนี้สะท้อนให้เห็นสติปัญญาตามแบบของพระเจ้า ทำให้มีความเปี่ยมสุข และความต้องการสติปัญญา หนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็นหกส่วน

1. บทที่ 1-7 คำกล่าวแก่บุตรชายของโซโลมอน

2. บทที่ 8-9 นำเสนอความเปี่ยมสุขของสติปัญญา

3. บทที่ 10-19 นำเสนอความโง่เขลาของความบาป

4. บทที่ 20-29 เป็นรายการคำตักเตือนและคำสั่งสอนเพิ่มเติม

5. บทที่ 30 สุภาษิตของอากูร์

6. บทที่ 31 สุภาษิตของกษัตริย์เลมมูเอล

โครงร่างของคำเทศนาตอนนี้ โง่ จน ฉลาด

A.มุมมองพระคัมภีร์ต่อคนโง่

B.มุมมองพระคัมภีร์ต่อคนจน

C.มุมมองพระคัมภีร์ต่อคนฉลาด

เนื่องจากเนื้อหามีจำนวนมาก จึงนำเสนอด้วยโครงร่างย่อยเดียวกัน คือ เราได้รับความรู้อะไร(Revelation)

เราประยุกต์ใช้ความรู้นี้อย่างไร(Application)

และเราได้รับแรงบันดาลใจเพื่อทำอะไร(Inspiration)

A.มุมมองพระคัมภีร์ต่อคนโง่

1.คนโง่ทำร้ายตนเอง (1,2,3,10,13,26)

ข้อ1() คนยากจนผู้ดำเนินในความซื่อสัตย์ ดีกว่าคนพูดตลบตะแลงซึ่งเป็นคนโง่

ข้อ 2ถ้าคนไม่มีความรู้ก็ไม่ดี และคนที่เร่งเท้าก็มักผิดพลาด

ข้อ 3ความโง่ของคนทำลายทางของเขาเอง และใจของเขาก็เกรี้ยวกราดต่อพระยาห์เวห์

ข้อ 10ที่คนโง่จะกินอยู่อย่างหรูหราก็ไม่เหมาะอยู่แล้ว ที่ทาสจะปกครองเจ้านายก็ยิ่งไม่เหมาะมากกว่านั้นอีก

ข้อ 13บุตรโง่เขลาเป็นความหายนะแก่บิดา และภรรยาขี้ทะเลาะก็เหมือนน้ำฝนย้อยหยดไม่หยุด

ข้อ 26คนที่ทำร้ายบิดาและขับไล่มารดา เป็นบุตรชายผู้นำความอับอายและความเสื่อมเสียมา

revelation :

คนพูดตลบแตลงเป็นคนโง่ 

คนโง่ไม่มีความรู้ แต่ยังเร่งรีบ 

คนโง่ทำร้ายตนเองแต่โทษคนอื่น

คนโง่บอกว่าตนเองฉลาดกว่า ดีกว่าพระเจ้า ไม่ต้องการพระองค์

คนโง่ไม่รู้จักตนเอง ไม่รู้จักฐานะตนเอง  คนโง่ไม่รู้จักบทบาทตนเอง  คนโง่ทำให้คนรอบตัวไม่มีความสุข

Application:

ระมัดระวังคำพูด

หาความรู้ คิดให้มากขึ้นอย่ารีบเร่งเกินไป

มองปัญหาด้วยใจเป็นธรรม

หาปัญหาไม่ใช่หาเรื่อง

จงแสวงหาพระเจ้ามากขึ้น

พยายามใช้ชีวิตให้สมฐานะ

เข้าใจบทบาทตนเอง  และทำให้คนรอบตัวมีความสุข

Inspiration :

เริ่มจากการกลับใจใหม่แสวงหาพระเจ้าผ่านทางพระเยซูคริสต์ เพื่อให้พระเจ้าสอนเรา สร้างชีวิตเรา

เมื่อเราอยู่ใกล้คนมีปัญญาเราก็จะมีปัญญาไปด้วย

ให้ห่างไกลความบาป เพราะทำให้เราเห็นแก่ตัวหลงตัวเอง

2.คนโง่จะได้รับการลงโทษ (5,9,28,29)

ข้อ5พยานเท็จจะถูกลงโทษ และคนพูดปดจะหนีไม่พ้น

ข้อ9พยานเท็จจะถูกลงโทษ และคนพูดปดจะพินาศ

ข้อ28พยานชั่วช้าย่อมเยาะเย้ยความยุติธรรม และปากของคนอธรรมก็กลืนกินความชั่วร้าย

ข้อ29การพิพากษามีพร้อมสำหรับคนที่ชอบเยาะเย้ย และการโบยก็สำหรับหลังของคนโง่

revelation : ทำผิดทางคำพูดก็โดนลงโทษ

apply :เป็นพยานเท็จ โกหกสร้างความเสียหาย พูดแต่เรื่องไม่ดี จะมีการลงโทษอย่างแน่นอน

inspiration : เปลี่ยนคำพูดไม่ดี เป็นคำอธิษฐาน เป็นการท่องจำพระคัมภีร์ และหัดอวยพรผู้อื่น

3.คนโง่ต้องได้รับการช่วยเหลือ (18,19,25,27)

18จงตีสอนบุตรชายของเจ้าเมื่อยังมีความหวัง อย่าจงใจให้เขาพินาศไป

19คนที่โมโหฉุนเฉียวจะต้องได้รับโทษ เพราะถ้าเจ้าช่วยเขาแล้ว ก็ต้องช่วยเขาอีก

25จงตีคนที่ชอบเยาะเย้ย แล้วคนรู้น้อยจะกลายเป็นคนสุขุม จงตักเตือนคนที่มีความเข้าใจและเขาจะได้ความรู้

27ลูกเอ๋ย ถ้าเจ้าเลิกฟังคำสั่งสอน เจ้าก็จะหลงไปจากคำแห่งความรู้

revelation : พระเจ้าทรงมีความเมตตา ไม่อยากให้เราโดนลงโทษถึงตาย พยายามช่วยเหลือ

คนที่ยอมรับการเตือนจะฉลาดขึ้น ถ้าเขาไม่ฟังเขาก็จะหลงไปจากความรู้ 

apply :เราต้องไม่ประมาทพระคุณพระเจ้าด้วยการทำบาปมากขึ้น แต่ต้องกลับใจใหม่มากขึ้นต่างหาก การรู้จักวิธีของพระเจ้าในการเตือนเรา จะทำให้เราไม่รับผลร้าย จากบาปของเราเอง

inspiration :ให้เรามีความเมตตาแบบพระเจ้าที่จะอดทนต่อคนโง่ ช่วยเหลือเขาแบบที่พระเจ้าอยากช่วยเขา ด้วยการสอน การเตือน การให้เขาเลือกทางที่ฉลาด

B.มุมมองพระคัมภีร์ต่อคนจน

1.พระเจ้าให้กำลังใจคนจน (1,2)

ข้อ1คนยากจนผู้ดำเนินในความซื่อสัตย์ ดีกว่าคนพูดตลบตะแลงซึ่งเป็นคนโง่

ข้อ2()คนยากจนยังดีกว่าคนพูดมุสา

revelation :

ข้อ1 คนจนมีมากแต่ครองทรัพย์สินน้อย คนรวยมีน้อยแต่ครองทรัพย์สินมาก 

ข้อ2 พระเจ้าไม่ได้พูดถึงคนรวยเพราะเขาสบายอยู่แล้ว หรือเขาเป็นคนจนในสายพระเนตรพระเจ้าอยู่ดี

apply :

ข้อ1 พระเจ้าสนใจคนจำนวนมากที่ยากจน พระเยซูยังยอมมาเกิดเป็นคนยากจน เหล่าสาวกก็เช่นกัน

ข้อ2 อย่ามองคน หรือให้ความสำคัญที่ฐานะ เพราะจะทำให้เราทำผิดกับพระเจ้าได้

inspiration :

ข้อ1 ฐานะมีการเปลี่ยนแปลงได้จากจนเป็นรวย จากรวยเป็นจน สำคัญคือต้องรับความรอดจากพระเยซู มีชีวิตเป็นที่รักของพระเจ้า

ข้อ2 สำคัญต้องเป็นคนฉลาด และเป็นคนชอบธรรม

2.ข้อเสียของการเป็นคนจน (4,7)

ข้อ4ทรัพย์สมบัติทำให้มีเพื่อนมากมาย แต่คนยากจนก็ถูกเพื่อนตีจาก

ข้อ7พี่น้องทั้งหมดของคนยากจนก็ยังเกลียดเขา แล้วเพื่อนจะยิ่งหนีห่างจากเขาสักเท่าไร แม้เขาตามไปวิงวอน แต่พวกเขาก็หายหน้ากันไปหมด

revelation :ได้รับการปฎิเสธ เพราะเป็นภาระ

apply : ยอมรับ และพัฒนาตนเอง

inspiration : พระเยซูคริสต์ไม่รังเกียจเราที่เป็นคนจน

3.สาเหตุที่ทำให้คนจนไม่มีวันรวย (15,24)

ข้อ15ความเกียจคร้านทำให้หลับสนิท และคนขี้เกียจจะต้องหิว

ข้อ24คนเกียจคร้านฝังมือของตนในชาม และไม่ยอมแม้แต่จะนำอาหารมาสู่ปากของตน

revelation :คนจนเพราะไม่ยอมทำอะไร ไม่ใช่จนเพราะมีเงินน้อย หรือไม่มีกำลังซื้อ

apply : เป็นคนจนต้องมีความพยายามมากกว่าคนอื่น แก้ปัญหาโดยไม่ใช่เงินเป็นตัวแก้

inspiration : อย่าเกียจคร้าน

C.มุมมองพระคัมภีร์ต่อคนฉลาด

1.คนฉลาดเข้าใจเรื่องพระเจ้าเป็นแหล่งแห่งพระพร (16,17,21,22,23)

ข้อ16คนที่รักษาพระบัญญัติย่อมรักษาชีวิตของตน คนที่ดูหมิ่นทางแห่งพระบัญญัติก็จะตาย

ข้อ17คนที่เมตตาคนยากจนก็ให้พระยาห์เวห์ทรงยืม และพระองค์จะทรงตอบแทนการกระทำของเขา

ข้อ21ในใจมนุษย์มีแผนงานมากมาย แต่พระประสงค์ของพระยาห์เวห์จะดำรงอยู่ได้

ข้อ22สิ่งที่น่าปรารถนาในตัวมนุษย์คือความจงรักภักดี และคนยากจนยังดีกว่าคนพูดมุสา

ข้อ23ความยำเกรงพระยาห์เวห์นำไปสู่ชีวิต และผู้ยำเกรงพระองค์จะอยู่อย่างผาสุก จะไม่มีสิ่งร้ายใดๆ มาแผ้วพาน

revelation :รับพระพรจากพระเจ้าไม่ใช่แหล่งอื่น ให้พระเจ้าเป็นพระพรของเรา

apply :ดำเนินชีวิต ทำให้ตนเองได้รับพระพรเพิ่มขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ

inspiration : รับพระพรเพื่อเป็นพระพรต่อคนอื่นๆที่เรารัก เราห่วงไย

2.คนฉลาดเข้าใจเรื่องปัญญาเป็นพระพร (20,8,11)

ข้อ20จงฟังคำแนะนำและรับคำสั่งสอน เพื่อเจ้าจะได้ปัญญาในภายหลัง

ข้อ8คนที่ได้ปัญญาก็รักตนเอง คนที่รักษาความเข้าใจไว้จะเจริญรุ่งเรือง

ข้อ11ความฉลาดของมนุษย์ทำให้เขาโกรธช้า และการให้อภัยความผิดก็เป็นศักดิ์ศรีแก่เขา

revelation :คนมีปัญญาไม่ใช่คนเรียนหนังสือเก่งอย่างเดียว แต่หมายถึงคนที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ทำได้ แยกแยะดีชั่ว ถูกผิดได้

apply :รับฟังคำแนะนำ รับคำสั่งสอน รักความเข้าใจ คนฉลาดโกรธช้า และรู้จักอภัย

inspiration :การมีพระวจนะทำให้เรามีปัญญาแบบพระเจ้า การอยู่ร่วมกับคนอื่นทำให้เราเรียนรู้จากคนอื่น และมีความสุขในการอยู่ร่วมกับคนได้

3. คนฉลาดเข้าใจเรื่องสิทธิอำนาจเป็นพระพร (6,12,14)

ข้อ6คนมากมายประจบเจ้านาย และทุกคนก็เป็นมิตรกับผู้ให้ของกำนัล

ข้อ12พระพิโรธของพระราชาเหมือนเสียงคำรามของสิงห์หนุ่ม แต่ความโปรดปรานของพระองค์เหมือนน้ำค้างบนหญ้า

ข้อ14บ้านกับทรัพย์สมบัติเป็นมรดกมาจากบิดา แต่ภรรยาที่ฉลาดมาจากพระยาห์เวห์

revelation :คนเราต้องอยู่ภายใต้อะไรบางอย่างที่มีอิทธิพลเหนือเรา

apply :เรายอมอยู่ใต้พระเจ้า เราไม่ต้องไปกลัวอิทธิพลอื่นใดอีก

inspiration :ทำให้การงานดี ได้ทรัพย์สิน มีครอบครัว

ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

สนใจติดต่อเรา หรือเชิญให้เทศนา ให้สอนหรือให้อบรม

www.facebook.com/FORWARD.CH.TH

Email: actsministry2017@gmail.com

บทความก่อนหน้านี้อฟ4:11-16  การเจริญเติบโตของคริสตจักร
บทความถัดไปสภษ30:24-28 คุณค่าของปัญญา ตอน : ปัญญาสร้างสุขในชีวิต

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่