ก้าวที่ 27 พระเจ้าประทานพระพร

(เป็นเนื้อหาต่อเนื่องจากบทเรียน “วิถีคริสตชน 50 ก้าว”)

เขียนโดย อ.กิจขจร ลิ่วเฉลิมวงศ์  วันที่ 5 ก.พ.2020

มธ5:3-12 ลักษณะชีวิตคริสเตียนที่ดำเนินชีวิตตามพระทัยพระคริสต์

ตอนที่พระเจ้าประทานพระพร

1.เมื่อเราโศกเศร้า(เสียใจเพราะทำบาป) (4)

2.เมื่อเราสุภาพอ่อนโยน  (5)

3.เมื่อเราเมตตา (7)

ผู้เป็นสุข (ลก.6:20-23)

3“คนที่ยากจนด้านจิตวิญญาณก็เป็นสุข

เพราะว่าแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขาทั้งหลาย

4“คนที่โศกเศร้า ก็เป็นสุข

เพราะว่าเขาทั้งหลายจะได้รับการหนุนใจ

5“คนที่สุภาพอ่อนโยน ก็เป็นสุข

เพราะว่าเขาทั้งหลายจะได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก

6“คนที่หิวและกระหาย ความชอบธรรมก็เป็นสุข

เพราะว่าพระเจ้าจะทรงให้อิ่ม

7“คนที่มีใจเมตตา ก็เป็นสุข

เพราะว่าเขาทั้งหลายจะได้รับพระเมตตาตอบ

8“คนที่มีใจบริสุทธิ์ ก็เป็นสุข

เพราะว่าเขาทั้งหลายจะได้เห็นพระเจ้า

9“คนที่สร้างสันติก็เป็นสุข

เพราะว่าพระเจ้าจะทรงเรียกเขาทั้งหลายว่าเป็นลูก

10“คนที่ถูกข่มเหงเพราะเหตุความชอบธรรม ก็เป็นสุขเพราะว่าแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขาทั้งหลาย

11“เมื่อพวกเขาจะติเตียนข่มเหง และนินทาว่าร้ายท่านทั้งหลายต่างๆ เป็นความเท็จเพราะเรา ท่านก็เป็นสุข  12จงชื่นชมและยินดี เพราะว่าบำเหน็จของพวกท่านมีบริบูรณ์ในสวรรค์ เพราะพวกเขาข่มเหงบรรดาผู้เผยพระวจนะ ที่อยู่ก่อนท่านเหมือนกัน

เบื้องหลังของพระธรรมตอนนี้ เป็นเรื่องจริยธรรมลักษณะชีวิต เกี่ยวข้องกับอาณาจักรของพระคริสต์ เป็นแนวปฎิบัติของพลเมืองแห่งอาณาจักรพระคริสต์ เรื่อง ความดี ความรัก ความเป็นมิตร เริ่มจากคำเทศนา คำสอนของพระองค์บนภูเขา(อาจเป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ระหว่างเมืองคาเปอร์นาอุมกับทะเลสาบ ทิเบเรียส)

คนยิวในสมัยพันธสัญญาเดิม มีบันทึกคำว่า สวรรค์” HB8064:Shamayim (ใช้421ครั้ง) แปลว่า ท้องฟ้า หรือสวรรค์ คนยิวเข้าใจเรื่องสวรรค์ จากที่บันทึกไว้ในปฐมกาลถึงสดุดีว่า สวรรค์เป็นที่ประทับของพระเจ้า ส่วนคนอิสราเอลที่ตายแล้วจะไปแดนคนตาย ไม่ได้ไปสวรรค์

คำว่า สวรรค์ ภาษากรีก GK3772:ouranos อ่านว่า(oo-ran-os’) (n) แปลว่าท้องฟ้า จักรวาล (ฝ่ายกายภาพ) และสวรรค์(ฝ่ายวิญญาณ)

เมื่อพระเยซูคริสต์มาสอนเรื่องผู้เป็นสุขนั้น จึงเป็นเรื่องที่พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนและไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ที่จะเข้าไปในแผ่นดินสวรรค์ของพระเจ้า

คำเทศนาตอนนี้ เน้นเรื่องลักษณะชีวิตคริสเตียนที่ดำเนินชีวิตตามพระทัยพระคริสต์คำสอนบนภูเขานี้เริ่มต้นหลังจากที่พระเยซูคริสต์ เริ่มต้นประกาศราชกิจของพระองค์ พระองค์ก็ทรงสอนเรื่องลักษณะชีวิตของผู้เป็นสุข คือ ผู้ที่ได้เข้าในแผ่นดินของพระเจ้า หรือได้เข้าในอาณาจักรของพระเจ้า มีลักษณะชีวิตเป็นอย่างไร มีมาตรฐานอย่างไรนั่นเอง

พระเยซูคริสต์เน้นเรื่องลักษณะชีวิต และการดำเนินชีวิตต่อหน้าพระพักตร์พระเจ้า โดยพระองค์จะเป็นคนพิจารณาตัดสินเอง ว่าผู้เชื่อแต่ละคนมีลักษณะชีวิตเป็นอย่างไร ตอบสนองคำสอนอย่างไร พระเจ้าจะเป็นผู้อวยพรให้ตามลักษณะชีวิตของผู้ฟัง และเขาจะได้แผ่นดินสวรรค์จากพระเจ้า

(พบคำว่า ก็เป็นสุขตั้งแต่ข้อ3-11 ยกเว้นข้อ12) Meyer : หมายถึง ผู้ที่ได้รับความรอดของอาณาจักรพระคริสต์ซึ่งใกล้เข้ามา

ก็เป็นสุข GK3107: Makarios (adj) อ่านว่า(mak-ar’-ee-os) หมายถึง    ผู้เชื่ออยู่ในฐานะผู้รับการอวยพร การจัดสรรจากความโปรดปรานของพระเจ้า อย่างยาวนาน อย่างมาก ด้วยพระคุณของพระองค์

สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อเรารับไว้ด้วยความเชื่อฟังโดยความเชื่อฟังนั้นเกิดจากความเชื่อของพระเจ้า (Faith4102) ผู้เชื่อเป็นที่อิจฉาของคนไม่เชื่อ เพราะเขาได้รับการอวยพร ได้รับการจัดสรรอย่างมากมาย เพราะเขาเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า

คำสอนมัทธิวตั้งแต่บทที่5-7 เป็นเหมือนเนื้อหาส่วนขยายของ มธ5:3-12

วันนี้เราจึงมาเรียนรู้เรื่องนี้ ผ่านหัวข้อคำเทศนา มธ5:3-12 ลักษณะชีวิตคริสเตียนที่ดำเนินชีวิตตามพระทัยพระคริสต์มีทั้งหมด 3 ตอน

ตอนที่ 2 พระเจ้าประทานพระพร

1.เมื่อเราโศกเศร้า(เสียใจเพราะทำบาป) (4)

4“คนที่โศกเศร้า ก็เป็นสุข เพราะว่าเขาทั้งหลายจะได้รับการหนุนใจ

เรามาดูรายละเอียดของเรื่องเราได้รับการหนุนใจอย่างไร?

คนที่โศกเศร้า GK3996: pentheo(v) (อ่านว่า pen-theh’-o) หมายถึง ความโศกเศร้า การคร่ำครวญ รู้สึกผิด รากศัพท์มาจาก เศร้าเสียใจเรื่องความตาย ภาพเหมือนความสัมพันธ์ที่หวังในบุคคลตายลง(สิ้นสุดลง)

Pentheo กล่าวว่าความเศร้าโศกต่อความตาย อ้างถึงความเสียใจอย่างมากมาย รุนแรง ทำให้คนที่เศร้าโศกนั้นไม่สามารถปิดบังซ่อนเร้นความเศร้าโศกไว้ได้

คำนี้ใช้ 10 ครั้งในพันธสัญญาใหม่เป็นตัวอย่างพระคัมภีร์สนับสนุนการตีความเรื่องความเศร้าโศก มธ5:4

ความสัมพันธ์ระหว่างแขกกับเจ้าบ่าวไม่เศร้าโศก ถ้าเจ้าบ่าวยังอยู่

มธ9:15 พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่าบรรดาแขกรับเชิญจะโศกเศร้า เมื่อเจ้าบ่าวยังอยู่กับพวกเขาหรือ? แต่วันหนึ่งเจ้าบ่าวจะถูกพรากไปจากเขา และเมื่อนั้นพวกเขาจะถืออดอาหาร

และแล้วก็มาถึงวันที่เจ้าบ่าวไม่อยู่ พระเยซูคริสต์สิ้นพระชนม์แล้ว 

มก16:10 มารีย์จึงไปบอกบรรดาคนที่เคยอยู่กับพระองค์มาก่อน ขณะที่พวกเขากำลังร้องไห้เป็นทุกข์ )

เปาโลเศร้าโศก(ไว้อาลัยให้กับความสัมพันธ์ที่จบลง) ที่คนไม่ได้กลับใจใหม่จากบาป

2คร12:21ข้าพเจ้ากลัวว่าเมื่อข้าพเจ้ามาอีก พระเจ้าจะทรงให้ข้าพเจ้าต้องอับอายต่อหน้าพวกท่าน และข้าพเจ้าจะต้องโศกเศร้าที่หลายๆ คนทำผิด และไม่ได้กลับใจจากมลทิน จากการล่วงประเวณี และจากการลามกที่พวกเขาทำอยู่นั้น

ยากอบบรรยายคนบาปจงเป็นทุกข์โศกเศร้า ที่ได้ทำบาป 

ยก4:8-9 พวกท่านจงเข้าใกล้พระเจ้า แล้วพระองค์จะเสด็จเข้ามาใกล้ท่าน พวกคนบาปเอ๋ย จงชำระมือให้สะอาด คนสองใจ จงชำระใจให้บริสุทธิ์ 9จงเป็นทุกข์ โศกเศร้า และร้องไห้ ให้เสียงหัวเราะของพวกท่านกลายเป็นความโศกเศร้า และความชื่นชมยินดีกลายเป็นความเศร้าสลด

ตีความได้ว่า พระเยซูคริสต์ พูดกับคนที่โศกเศร้าต่อพระเจ้า ที่ความสัมพันธ์ของพวกเขากับพระองค์ได้สิ้นสุดลงเพราะบาป พวกเขารู้สึกเสียใจ รู้สึกเศร้าโศก พระเจ้าสัญญาว่าพวกเขาจะได้รับการหนุนใจจากพระเจ้า

มีข้อพระคัมภีร์ในตอนอื่นๆสนับสนุน หลักการตีความ กรณีที่ความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้า กับอาดัมสิ้นสุดลง เพราะความบาป

ปฐก3:22-23 แล้วพระยาห์เวห์พระเจ้าตรัสว่าดูสิ มนุษย์กลายเป็นเหมือนผู้หนึ่งในพวกเราแล้ว โดยที่รู้ความดีและความชั่ว บัดนี้ อย่าปล่อยให้เขายื่นมือไปหยิบผลจากต้นไม้แห่งชีวิตมากินด้วย แล้วมีอายุยืนชั่วนิรันดร์”  23เพราะฉะนั้นพระยาห์เวห์พระเจ้าจึงทรงไล่เขาออกไปจากสวนเอเดน ให้เพาะปลูกบนดินซึ่งใช้สร้างเขาขึ้นมา

มีคนโศกเศร้าเสียใจแต่ไม่เป็นประโยชน์อะไรกับตัวเอง เช่น ยูดาส

มธ27:3-5 เมื่อยูดาสคนที่ทรยศพระองค์เห็นว่าพระองค์ทรงถูกลงโทษก็เสียใจ จึงนำเงินสามสิบเหรียญนั้นมาคืนให้กับพวกหัวหน้าปุโรหิตและพวกผู้ใหญ่ 4กล่าวว่าข้าพเจ้าทำบาปที่ทรยศคนบริสุทธิ์ถึงตายพวกเขาจึงกล่าวว่ามันเกี่ยวอะไรกับเรา? มันเป็นเรื่องของเจ้าเอง” 5ยูดาสจึงทิ้งเงินนั้นไว้ในพระวิหารและจากไป แล้วออกไปผูกคอตาย 

แต่มีคนโศกเศร้าเสียใจ และกลับใจใหม่พวกเขาได้รับการหนุนใจ พวกเขาได้รับพระพร นั่นคือ คนบาปที่กลับใจใหม่ (ไม่ต้องการถกเถียงว่าคนบาปนั้นคือ คนเชื่อพระเจ้า หรือไม่เชื่อ แต่เป็นคนบาปที่พระเจ้าต้องการให้กลับใจ)

อุปมาเรื่องแกะหาย ลก15:7เราบอกท่านทั้งหลายว่า ในทำนองเดียวกัน จะมีความชื่นชมยินดีในสวรรค์เรื่องคนบาปคนเดียวที่กลับใจใหม่ มากกว่าเรื่องคนชอบธรรมเก้าสิบเก้าคนที่ไม่ยอมกลับใจ

อุปมาเรื่องเหรียญหาย ลก15:10ในทำนองเดียวกัน เราบอกท่านทั้งหลายว่า จะมีความชื่นชมยินดีท่ามกลางพวกทูตสวรรค์ของพระเจ้าเรื่องคนบาปคนเดียวที่กลับใจใหม่

อุปมาเรื่องบุตรน้อยหลงหาย เขาเริ่มสำนึก

ลก15:17-19 เมื่อเขาสำนึกตัวได้ จึงพูดว่าลูกจ้างของพ่อไม่ว่าจะมีมากสักแค่ไหนก็ยังมีอาหารเหลือเฟือ แต่ข้ากลับต้องมาอดตายที่นี่ 18ข้าน่าจะลุกขึ้นไปหาพ่อ และพูดกับท่านว่าพ่อ ลูกผิดต่อสวรรค์และผิดต่อท่านด้วย 19ไม่สมควรจะได้ชื่อว่าเป็นลูกของพ่ออีกต่อไป ขอโปรดให้ลูกอยู่ในฐานะของลูกจ้างคนหนึ่งของท่านเถิด

เขาแสดงออกเป็นการปฎิบัติ

ลก15:20-21แล้วเขาก็ลุกขึ้นไปหาบิดา แต่เมื่อเขายังอยู่แต่ไกล บิดาก็เห็นเขาและมีใจสงสาร จึงวิ่งออกไปกอดคอและจูบแก้มของเขา 21บุตรคนนั้นจึงกล่าวกับบิดาว่าพ่อ ลูกผิดต่อสวรรค์และผิดต่อท่านด้วย ไม่สมควรจะได้ชื่อว่าเป็นลูกของพ่ออีกต่อไป’ 

การตอบสนองของบิดาที่ลูกทำผิดต่อเขา

ลก15:22-24,32 แต่บิดาสั่งพวกบ่าวของตนว่าจงรีบไปเอาเสื้อที่ดีที่สุดออกมาสวมให้เขา เอาแหวนมาสวมที่นิ้วมือ และเอารองเท้ามาสวมให้ด้วย  23และจงไปเอาลูกวัวตัวที่อ้วนพีมาฆ่าเลี้ยงกันเพื่อความรื่นเริง 24เพราะว่าลูกของเราคนนี้ตายแล้วแต่กลับเป็นขึ้นอีก หายไปแล้วแต่ได้พบกันอีกพวกเขาต่างก็มีความรื่นเริง32 แต่นี่เป็นเรื่องสมควรที่เราจะชื่นชมยินดีและรื่นเริง เพราะน้องคนนี้ของลูกตายไปแล้วแต่กลับเป็นขึ้นอีก หายไปแล้วแต่ยังได้พบกันอีก

ความสัมพันธ์ต่อกันที่ตายลง หรือที่สิ้นสุดลง ความสัมพันธ์นั้นสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ คนบาปสามารถรับพระพรจากพระเจ้าได้ เมื่อเขาเศร้าโศกเสียใจต่อความบาป ที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพระเจ้าได้สิ้นสุดลง แต่พระเจ้าเข้ามาใกล้ มาปลอบใจ มาหนุนใจ เหมือนบิดาที่ยกโทษให้บุตร

4“คนที่โศกเศร้า ก็เป็นสุข

เพราะว่าเขาทั้งหลายจะได้รับการหนุนใจ

การหนุนใจ GK3870:parakaleó อ่านว่า (par-ak-al-eh’-o) ( v:ไวยากรณ์รูปของอนาคต) มาจากคำว่า para หมายถึง ใกล้ชิดเข้ามาจากด้านข้าง กับคำว่า kaleo หมายถึง เรียกให้มาใกล้ชิดส่วนตัว รวมกันหมายความว่า เรียกเป็นการส่วนตัวอย่างใกล้ชิด อ้างถึง ผู้เชื่อได้มอบถวายหลักฐานยื่น และยืนอยู่ในที่พิจารณาศาลของพระเจ้า

ในมธ5:4 หมายถึง การปลอบใจ ปลอบโยน เพื่อสนับสนุนและเสริมสร้างความเข้มแข็งโดยการปลอบใจ เพื่อปลอบประโลมใจ ไม่ใช่ด้วยคำพูดแต่เป็นประสบการณ์ที่มีความสุขมาก โดยความสุขนั้นทำให้ได้รับกำลังใจ รับความสดชื่น

คำว่า ปลอบโยนใช้ใน ลก16:25 ลาซารัสอยู่ในอ้อมอกอับราฮัมเลย แต่เศรษฐีเข้ามาใกล้อับราฮัมไม่ได้ เราเห็นภาพเปรียบเทียบจากตัวอย่างนี้

ลก16:25 แต่อับราฮัมตอบว่าลูกเอ๋ย เจ้าจงระลึกว่าเมื่อเจ้ายังมีชีวิตอยู่ เจ้าได้สิ่งที่ดีสำหรับตัว และลาซารัสได้แต่สิ่งเลว เวลานี้เขาได้รับการปลอบโยนแล้ว แต่เจ้าได้รับแต่ความทุกข์ระทม

ส่ิงที่อ.เปาโลมีประสบการณ์รับการหนุนใจ เหมือนใน มธ5:4

2คร7:13เพราะเหตุนี้เราจึงได้รับการหนุนใจ นอกจากได้รับการหนุนใจแล้ว เรายังมีความยินดีมากยิ่งขึ้นเนื่องจากความยินดีของทิตัส เพราะพวกท่านทุกคนทำให้จิตใจของเขาสงบ

(สาเหตุที่ได้รับการหนุนใจมาจากพี่น้องโครินธ์กลับใจใหม่จากบาป)

2คร7:6-10แต่พระเจ้าผู้ทรงหนุนใจคนที่ท้อใจ ได้ทรงหนุนใจเราด้วยการมาของทิตัส 7และไม่เฉพาะเพียงการมาของเขาเท่านั้น แต่ยังด้วยการหนุนน้ำใจที่เขาได้รับจากพวกท่าน เขาบอกเราถึงความอาลัยและความโศกเศร้าของท่าน ทั้งความกระตือรือร้นของท่านทั้งหลายที่มีต่อข้าพเจ้า ทำให้ข้าพเจ้ายิ่งมีความยินดีมากขึ้น 8เพราะถึงแม้ว่าข้าพเจ้าทำให้ท่านเสียใจเพราะจดหมายฉบับนั้น ข้าพเจ้าก็ไม่เสียใจ (แม้ก่อนหน้านี้ข้าพเจ้าจะเสียใจ เพราะข้าพเจ้าเห็นว่าจดหมายฉบับนั้นทำให้พวกท่านเสียใจแม้เพียงชั่วขณะ

9แต่บัดนี้ข้าพเจ้ามีความยินดี ไม่ใช่เพราะพวกท่านเสียใจ แต่เพราะความเสียใจนั้นทำให้ท่านกลับใจ เพราะว่าท่านทั้งหลายได้รับความเสียใจตาม พระประสงค์ของพระเจ้า ท่านจึงไม่ได้รับผลร้ายจากเราเลย 10เพราะว่าความเสียใจตาม พระประสงค์ของพระเจ้า ทำให้เกิดการกลับใจ ซึ่งจะนำไปสู่ความรอดและจะไม่ทำให้เสียใจ แต่ความเสียใจอย่างโลกนั้นย่อมนำสู่ความตาย

คนมองโลกในแง่ลบ ไม่มีอะไรปลอบโยนความเศร้าโศกได้ ชีวิตจึงไม่มีค่า

คนมองโลกในแง่บวก การปลอบโยนรักษาความเศร้าโศกได้

ความเป็นจริง คือ โลกนี้มีความโศกเศร้า การปลอบโยนช่วยให้ชีวิตดำเนินไปต่อได้ พระเยซูคริสต์ให้การปลอบโยน ให้ความมั่นใจ การปลอบโยนของพระเจ้าเป็นการรักษาความเศร้าโศกได้ เมื่อเราเสียใจต่อบาป กลับใจใหม่

Ellicott กล่าวว่า มีคราบน้ำตาแห่งความโศกเศร้า ชำระล้างการไว้ทุกข์ให้กับบาป เป็นเหมือนคราบที่มันทิ้งไว้กับจิตวิญญาณ

คำปลอบโยนของพระเจ้าในอนาคตจะเกิดขึ้นทำให้เรามีความหวังในปัจจุบัน

วว21:4พระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุกๆ หยดจากตาของเขาทั้งหลาย และความตายจะไม่มีอีกต่อไป ความโศกเศร้า การร้องไห้ และการเจ็บปวดจะไม่มีอีกต่อไป เพราะยุคเดิมนั้นผ่านไปแล้ว

2.เมื่อเราสุภาพอ่อนโยน  (5)

5“คนที่สุภาพอ่อนโยน ก็เป็นสุข

เพราะว่าเขาทั้งหลายจะได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก

สุภาพอ่อนโยน GK 4239:praus (adj) อ่านว่า (prah-ooce’)

ความอ่อนโยนในพระคัมภีร์ไม่ใช่จุดด้อย แต่หมายถึง การใช้ความเข้มแข็งของพระเจ้า ภายใต้การควบคุมของพระเจ้า แสดงให้เห็นถึงพลัง สิทธิอำนาจ โดยปราศจากความเกรี้ยวกราด แต่เป็นลักษณะชีวิตที่พระเจ้าประทานพระพรให้รับแผ่นดินโลก เมื่อเราเป็นคนอ่อนโยนแต่มีพระเจ้าภายใน

คนที่สุภาพอ่อนโยน คือ คนที่อดทนรับความบาดเจ็บ รับความเจ็บปวด โดยไม่ได้อ่อนข้อให้กับความอธรรม และไม่ได้อาฆาต ไม่ได้พยาบาท หรือโกรธแค้นอย่างกระทันหันรุนแรง

คำว่า สุภาพอ่อนโยน ใช้แค่ 4ครั้ง ในพันธสัญญาใหม่  พระเยซูคริสต์บอกว่าพระองค์สุภาพอ่อนโยน และเป็นไปตามคำพยากรณ์ ว่าจะเป็นกษัตริย์ที่มา

มธ11:29 จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเราสุภาพอ่อนโยนและใจอ่อนน้อม และจิตใจของพวกท่านจะได้หยุดพัก

มธ21:5 จงบอกชาวศิโยนว่านี่แน่ะ กษัตริย์ของท่านกำลังเสด็จมา ด้วยความสุภาพอ่อนโยน พระองค์ทรงลาทรงลูกลา

.เปโตรบอกว่าความสุภาพอ่อนโยนเป็นลักษณชีวิตที่พระเจ้าเห็นคุณค่า

1ปต3:4แต่จงประดับด้วยบุคลิกที่ซ่อนอยู่ในใจ ด้วยเครื่องประดับซึ่งไม่รู้เสื่อมสลาย คือด้วยจิตใจที่สุภาพอ่อนโยนและจิตใจที่สงบ ซึ่งเป็นสิ่งล้ำค่ายิ่งนักในสายพระเนตรพระเจ้า

ถ้าเราประยุกต์ใช้ เราจะรู้ว่า คนที่เป็นคนของพระเจ้า คนที่เป็นผู้นำของพระเจ้า หากเรามีใจอ่อนโยนต่อพระเจ้า ไม่ต่อสู้กับพระเจ้า ไม่ต่อต้านพระเจ้า  และอ่อนโยนต่อผู้อื่น เราควรดำเนินชีวิตและทำการของพระเจ้าด้วยความอ่อนโยน นี่เป็นลักษณะชีวิตของผู้รับใช้และคนครองพระเจ้า 

พระเยซูคริสต์มีบทบาท ตำแหน่ง และความรับผิดชอบ ในฐานะกษัตริย์ กษัตริย์จึงครอบครองแผ่นดิน โดยกษัตริย์และแผ่นดิน ทั้งสองสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับประชากรของแผ่นดินนั้นด้วย

สำหรับอาณาจักรในฝ่ายวิญญาณพระเยซูคริสต์เป็นกษัตริย์ในอาณาจักรพระคริสต์ เกี่ยวข้องกับพลเมืองของอาณาจักรด้วย  คนที่มีจิตใจอ่อนโยนได้รับพระพรของพระเจ้า ให้ปกครองแผ่นดินของพระเจ้า  ให้ปกครองคนของพระเจ้าได้ นั่นคือ พระพรของพระเจ้าสำหรับคนที่สุภาพอ่อนโยนก็เป็นสุข

คริสเตียน คริสตจักร ผู้รับใช้ของพระเจ้า ควรตระหนักเรื่องนี้และทำให้ชุมชนของพระเจ้า งานรับใช้ของพระเจ้า ชีวิตของผู้เชื่อดำเนินชีวิตด้วยความสุภาพอ่อนโยน เพื่อให้คนได้รับพระพรของพระเจ้าเช่นกัน

5“คนที่สุภาพอ่อนโยน ก็เป็นสุข

เพราะว่าเขาทั้งหลายจะได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก

แผ่นดินโลก GK1093 :gé(n) อ่านว่า (ghay) โลกที่เป็นฝ่ายกายภาพเป็นโลกชั่วคราว หรือร่างกายของเราที่เป็นส่ิงชั่วคราว เปรียบเทียบ พื้นที่บริเวณที่เราใช้ชีวิตในสถานที่และเวลาที่พระเจ้าใช้เพื่อเตรียมเราสู่ชีวิตนิรันดร์ ผ่านความเชื่อ  ในมธ5:5 หมายถึง แผ่นดินโลกที่มนุษย์ และสัตว์อาศัยเป็นที่พำนัก

2คร5:1เพราะเรารู้ว่าถ้าเรือนกายบนโลกที่เราอาศัยอยู่นี้ถูกทำลายไป เราก็ยังมีที่อาศัยซึ่งมาจากพระเจ้า ที่ไม่ได้สร้างด้วยมือมนุษย์ และอยู่อย่างถาวร นิรันดร์ในสวรรค์

เป็นมรดก GK2816. kléronomeó (v) อ่านว่า (klay-ron-om-eh’-o) การจัดสรรมรดกที่เฉพาะเจาะจงจำนวนมาก เป็นความสัมพันธ์ระหว่างผู้เชื่อกับพระเจ้า ที่เขาอ้างมรดกในโลกที่พระเจ้าจัดสรรให้ คนอิสราเอลในเวลานั้น คิดเรื่องแผ่นดินที่เป็นมรดก คือ ดินแดนแห่งพันธสัญญาที่พระเจ้าประทานให้

แต่พวกเขาต้องไปต่อสู้ขับไล่คนคานาอันเพื่อให้ได้มา

หลังจากได้มาแล้วบรรพบุรุษของพวกเขาถูกขับไล่ออกไปจากดินแดนพันธสัญญา ไปเป็นเชลยในบาบิโลน ในเวลาที่พระเยซูคริสต์สอนพวกเขาเรื่องผู้เป็นสุขนั้น แม้ว่าพวกเขาได้อยู่ในดินแดนพันธสัญญาอีกครั้ง แต่พวกเขาก็ยังเป็นเมืองขึ้น อยู่ภายใต้อิทธิพลการปกครองของโรมัน พวกเขาคาดหวังว่าพระเมสิยาห์ พระคริสต์ผู้เป็นกษัตริย์จะมาช่วยขับไล่ศัตรูให้ออกไป

แต่ในมธ5:5 พระเยซูคริสต์นำเสนอ คนที่อ่อนโยน(เข้มแข็ง ไม่ก้าวร้าว ไม่อ่อนข้อให้กับความอธรรม)ก็เป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้รับดินแดนพันธสัญญาจากพระเจ้า พระเยซูคริสต์เป็นแบบอย่างเช่นนั้น พระเยซูคริสต์สัญญาว่าจะให้ไม่เพียงแค่แผ่นดินโลก แต่ได้ปกครองในอนาคตด้วยร่วมกับพระองค์ ในวันที่พระเยซูคริสต์มาพิพากษา

มธ25:34ขณะนั้น พระมหากษัตริย์จะตรัสกับพวกผู้ที่อยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์ว่าท่านทั้งหลายที่ได้รับพรจากพระบิดาของเรา จงมารับเอาราชอาณาจักรซึ่งเตรียมไว้สำหรับท่านทั้งหลายตั้งแต่แรกสร้างโลก

ในทางตรงกันข้ามมีคนที่ไม่ได้รับทั้งความรอด และไม่มีมรดกในแผ่นดินของพระเจ้าด้วย เพราะคนอ่อนโยน เข้มแข็งมาจากพลังของพระเจ้า ไม่อ่อนข้อให้กับความอธรรม

1คร6:9-11 ท่านทั้งหลายรู้แล้วไม่ใช่หรือว่าคนไม่ชอบธรรมจะไม่มีส่วนในแผ่นดินของพระเจ้า? อย่าหลงผิดเลย พวกที่ล่วงประเวณี พวกไหว้รูปเคารพ พวกผิดผัวผิดเมีย พวกโสเภณีชาย พวกรักร่วมเพศ 10พวกขโมย พวกที่โลภ พวกขี้เมา พวกชอบกล่าวร้าย พวกฉ้อโกง จะไม่มีส่วนในแผ่นดินของพระเจ้า 11มีบางคนในพวกท่านเคยเป็นอย่างนี้ แต่ท่านทั้งหลายได้รับการล้างชำระแล้ว ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์แล้ว และได้รับการชำระให้ชอบธรรมแล้วโดยพระนามของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าและโดยพระวิญญาณแห่งพระเจ้าของเรา

คนที่บอกว่าตนเองเป็นผู้เชื่อ เป็นคนของพระเจ้า แล้วแต่ไม่มีความอ่อนโยนจากพระเจ้า คือ ความเข้มแข็งที่ไม่อ่อนข้อกับการอธรรม ก็อาจจะพลาดหลงไปจากพระพรที่พระเจ้าสัญญาว่าจะประทานให้ก็ได้

กท5:18-21แต่ถ้าท่านทั้งหลายได้รับการทรงนำโดยพระวิญญาณ ท่านก็ไม่อยู่ใต้ธรรมบัญญัติ 19การงานของเนื้อหนังนั้นเห็นได้ชัด คือการล่วงประเวณี การโสโครก การเสเพล 20การนับถือรูปเคารพ การถือวิทยาคม การเป็นศัตรูกัน การวิวาทกัน การริษยากัน การฉุนเฉียวกัน การใฝ่สูง การทุ่มเถียงกัน การแตกก๊กกัน 21การอิจฉากัน การเมาเหล้า การเล่นเป็นพาลเกเร และการอื่นๆ ในทำนองนี้ซึ่งข้าพเจ้าเคยเตือนพวกท่านมาก่อนว่า คนที่ประพฤติเช่นนั้นจะไม่มีส่วนในแผ่นดินของพระเจ้า 

Jean Paul Ritcher กล่าวว่า ฝรั่งเศสครองแผ่นดิน อังกฤษครองมหาสมุทร เยอรมันครองอากาศ แต่พระเยซูคริสต์สัญญาว่าจะให้คนอ่อนสุภาพครอบครองแผ่นดินโลก

กับภรรยาและลูกสาว

3.เมื่อเราเมตตา (7)

7“คนที่มีใจเมตตา ก็เป็นสุข

เพราะว่าเขาทั้งหลายจะได้รับพระเมตตาตอ

คนที่มีใจเมตตา GK:1655. eleémón (adj) อ่านว่า (el-eh-ay’-mone) หมายถึง เต็มไปด้วยความสงสาร ความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ ปฎิบัติตนหรือดำเนินชีวิตสอดคล้องกับการสำแดงพันธสัญญาของพระเจ้า

ให้ดูเพิ่มจาก GK1656:eleos อ่านว่า (el’-eh-os) มาจากภาษาฮีบรู HB2617 หมายถึง พันธสัญญาแห่งความรัก ความภักดี ใช้กับคำว่าเมตตา ตามนิยามไว้โดยความภักดีต่อพันธสัญญาของพระเจ้า

คำว่ามีใจเมตตานี้ใช้แค่2ครั้ง อีกครั้งใน

ฮบ2:17เพราะเหตุนี้พระองค์จึงต้องเป็นเหมือนกับพี่น้องทุกอย่าง เพื่อจะได้เป็นมหาปุโรหิต ผู้เปี่ยมด้วยความเมตตาและความซื่อสัตย์ ในการ กระทำกิจต่อพระเจ้าเพื่อลบล้างบาปของประชาชน

ส่วนที่ พระเจ้าเมตตาตอบ” GK1653:eleeó (v) อ่านว่า (el-eh-eh’-o) เป็นการแสดงความเมตตาตามที่พระเจ้ากำหนดไว้ ซึ่งสอดคล้องกับความจริงแห่งพันธสัญญาของพระองค์ เป็นการแสดงออกถึงพันธสัญญาแห่งความซื่อสัตย์ ความเมตตาของพระเจ้า

ความหมายของผู้เป็นสุขตอนนี้ คือ คนที่มีความเชื่อในพันธสัญญาของพระเจ้า เขาแสดงความเมตตาเพราะตระหนักว่าเขาเป็นคนของพระเจ้า พระเยซูคริสต์ สัญญาว่าเขาจะมีประสบการณ์ได้รับความเมตตาจากพระเจ้าเช่นกัน

ตัวอย่าง ที่พระเยซูคริสต์สอนเปโตรควรยกโทษ(เมตตาเท่าไหร่) เป็นหลักการเหมือน มธ5:7 เมตตาจะได้รับเมตตาตอบ

มธ18:27-33 เจ้าองค์นั้นทรงสงสาร(รากศัพท์ มาจากใจ ปอด ตับ ไต) จึงทรงปล่อยตัวเขาและทรงยกหนี้ 28แต่เมื่อทาสคนนั้นออกไปก็พบคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนทาสด้วยกัน ที่เป็นหนี้เขาอยู่หนึ่งร้อยเดนาริอันเขาก็จับคนนั้นบีบคอบอกว่าแกต้องใช้หนี้ให้ข้า’ 29เพื่อนทาสคนนั้นจึงกราบลงอ้อนวอนว่าขอผัดไว้ก่อนแล้วข้าจะใช้ให้’ 30แต่เขาไม่ยอม จึงนำทาสลูกหนี้นั้นไปขังคุกไว้จนกว่าจะสามารถใช้หนี้ได้ 31พวกเพื่อนทาสเมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนั้น ก็เป็นทุกข์อย่างยิ่ง และนำเหตุการณ์ทั้งหมดไปกราบทูลเจ้าองค์นั้นท่านจึงเรียกทาสนั้นมาตรัสว่าไอ้ข้าชั่วร้าย เรายกหนี้ให้เอ็งทั้งหมด ก็เพราะเอ็งอ้อนวอนเรา 33เอ็งควรจะเมตตา(GK1653)เพื่อนทาสด้วยกัน เหมือนเราเมตตา(GK1653)เอ็งไม่ใช่หรือ?’

ความเมตตาสงสารไม่ใช่การสมน้ำหน้า ความเมตตาสงสารไม่ใช่คนอ่อนแอ ยิ่งผู้เชื่อมีความเมตตามากเท่าใด เขาย่ิงมีความมั่นใจว่าจะได้รับความเมตตาจากพระเจ้าเช่นกัน 

ตามพระสัญญาในข้อนี้ แต่ก็มีข้อยกเว้นเช่นกัน  ตัวอย่างคนอิสราเอลเป็นคนแห่งพันธสัญญาแต่พวกเขาไม่ได้รับความเมตตา เมื่อพวกเขาไม่เชื่อในพระเยซูคริสต์

รม9:15-18เพราะพระองค์ตรัสกับโมเสสว่าเราประสงค์จะกรุณาใคร เราก็จะกรุณาคนนั้นและเราจะเมตตาใคร เราก็จะเมตตาคนนั้น 

16เพราะฉะนั้น ทุกสิ่งจึงไม่ขึ้นกับความตั้งใจหรือความมานะของมนุษย์ แต่ขึ้นอยู่กับพระเมตตาของพระเจ้า 17เพราะมีข้อพระคัมภีร์ที่กล่าวแก่ฟาโรห์ว่า เพราะเหตุนี้เองเราจึงได้ตั้งเจ้าขึ้น เพื่อเราจะสำแดงฤทธานุภาพของเราให้ปรากฏทางตัวเจ้า และเพื่อให้นามของเราประกาศไปทั่วโลก 18เพราะฉะนั้นพระองค์จะทรงพระเมตตาใคร ก็จะทรงพระเมตตาคนนั้น และพระองค์จะทรงให้ใครมีใจแข็งกระด้าง ก็จะทรงให้คนนั้นมีใจแข็งกระด้าง

และพระเจ้าก็ให้ความรอดไปถึงคนต่างชาตินอกเหนือจากอิสราเอลก็เพราะพระเมตตาของพระเจ้าเช่นกัน

รม11:30-32 เมื่อก่อนพวกท่านที่เป็นคนต่างชาติไม่ได้เชื่อฟังพระเจ้า แต่เดี๋ยวนี้ได้รับพระเมตตา เพราะความไม่เชื่อฟังของพวกอิสราเอล 31ในทำนองเดียวกันเขาเหล่านั้นก็ไม่ได้เชื่อฟัง เพื่อว่าเขาจะได้รับพระเมตตาโดยพระคุณที่ได้ประทานแก่ท่าน 32เพราะว่าพระเจ้าทรงกำหนดให้มนุษย์ทุกคนอยู่ในฐานะที่ไม่เชื่อฟัง เพื่อพระองค์จะได้ทรงพระเมตตาแก่เขาทุกคน

ให้เราตระหนักว่าลักษณะชีวิตเป็นเรื่องสำคัญ สวรรค์มีมาตรฐานสำหรับคนที่จะไปอยู่กับพระเจ้า ในแผ่นดินของพระเจ้านิรันดร การแสดงความเมตตาเพราะเป็นคนของพระเจ้า เป็นส่ิงที่ควรดำเนินตาม

มก5:18-20 ขณะที่พระองค์กำลังเสด็จลงเรือ คนที่เคยถูกผีสิงอ้อนวอนขอติดตามพระองค์ไปด้วย 19แต่พระองค์ไม่ทรงอนุญาต พระองค์ตรัสกับเขาว่าจงไปหาพวกพ้องของท่านที่บ้าน แล้วบอกพวกเขาถึงสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำแก่ท่านว่ามากเพียงไร และเล่าถึงพระเมตตาที่พระองค์ทรงสำแดงแก่ท่าน” 20คนนั้นจึงทูลลา แล้วเริ่มประกาศในแคว้นทศบุรี ถึงเหตุการณ์ที่พระเยซูทรงทำเพื่อเขา และคนทั้งหลายก็ประหลาดใจ

ลก10:25-37 เรื่องชาวสะมาเรียนใจดี พระเยซูคริสต์บอกให้ผู้เชี่ยวชาญธรรมบัญญัติที่รู้ความจริงเรื่องทำอย่างไรจะได้รับชีวิตนิรันดร์ ให้เขาไปทำแบบที่เขามีความรู้ เมื่อเขาบ่ายเบี่ยงไม่อยากทำ เขาเลยถามว่าใครคือ เพื่อนบ้านของเขา

คำถามคือ ผู้เชื่อควรปฎิบัติอย่างไร? ถึงจะเรียกว่าเมตตา

ลก10:37 เขาทูลตอบว่าคือคนนั้นแหละที่แสดงความเมตตา (GK1656 แสดงออกถึงความสงสาร ควมเห็นอกเห็นใจ ความเมตตา จ่ายราคา ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ รากศัพท์ มาจากพันธสัญญาแห่งความรัก ความเมตตาจึงเป็นการแสดงออกถึงการจงรักภักดีต่อพันธสัญญาของพระเจ้า )

ต่อเขาพระเยซูจึงตรัสกับเขาว่าท่านจงไปทำเหมือนอย่างนั้น

ยก2:8 ถ้าพวกท่านปฏิบัติตามธรรมบัญญัติของพระเจ้าอย่างแท้จริงตามพระคัมภีร์ที่ว่า จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง พวกท่านก็ทำดี

ยก2:8 ถ้าพวกท่านปฏิบัติตาม(GK5055) หมายถึง การปฎิบัติให้สำเร็จ สมบูรณ์ ตามที่ถูกสั่ง

ธรรมบัญญัติ(GK3511) หมายถึง ธรรมบัญญัติของโมเสส

ของพระเจ้าอย่างแท้จริงตาม

พระคัมภีร์(GK1124) หมายถึง หนังสือทุกเล่ม หรือเนื้อหาของพระคัมภีร์ภาษาฮีบรูศักดิ์สิทธิ์

ที่ว่า จงรักเพื่อนบ้าน(Gk4139) หมายถึง ใกล้ ใกล้เคียง เพื่อนบ้าน

เหมือนรักตนเอง 

พวกท่านก็ทำดี(GK2573) หมายถึง ทำอย่างเที่ยงธรรม ซื่อสัตย์ สุจริต

ยก2:13 เพราะว่าการพิพากษาย่อมไม่เมตตาต่อคนที่ไม่แสดงความเมตตา ความเมตตาย่อมมีชัยเหนือการพิพากษา

ยก2:13 เพราะว่าการพิพากษา(GK2920 : krisis(n) การพิพากษาตัดสินในแง่กฎหมายของพระเจ้า หรือของพระเยซูคริสต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความยุติธรรม และความไม่เป็นธรรม ความถูกและความผิด )

ย่อมไม่เมตตา(GK 448: anileos(adj) ใช้ครั้งเดียวในยก2:13 ในแง่การปราศจากความเมตตาในการจงรักภักดีต่อพันธสัญญาของพระเจ้าผ่านทางพระเยซูคริสต์ รากศัพท์มาจากคำว่าa=without+Gk2436 hileso=propitious=เป็นมงคล เป็นประโยชน์ เป็นลางดี , appeased=สำราญใจ ปิติยินดี )

ต่อคนที่ไม่แสดงความเมตตา(GK4160 : poieo(v) แสดงตนเองเป็นคนดีมีเมตตา ในความหมาย การกระทำ เป็นการการทำวิธีการบางอย่างในการแสดงออกเป็นการกระทำตามความรู้สึก และตามความคิดจิตใจ ในที่นี้คือ กระทำความเมตตา แสดงออกจากความรู้สึก ความคิดจิตใจ คือ เมตตา )

ความเมตตา(GK 1656:eleos(n) มาจากภาษาฮีบรู2617 หมายถึง พันธสัญญาแห่งความจงรักภักดี พันธสัญญาแห่งความรัก ใช้ในพระคัมภีร์เดิมถึง 170 ครั้ง ใช้คำนี้ในที่นี้ หมายถึง  เมตตาต่อมนุษย์ด้วยกันโดยมีความจงรักภักดีต่อพันธสัญญาของพระเจ้า )

ย่อมมีชัย(GK2620 :katakauchaomai(v) (เต็มไปด้วยความยินดี ความมั่นใจ ไม่มีความกลัวการพิพากษา) เหนือการพิพากษา

หากเรามีความเมตตา เราเป็นสุข เพราะพระเจ้าจะเมตตาเราตอบ

ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

สนใจติดต่อเรา หรือเชิญให้เทศนา ให้สอนหรือให้อบรม

www.facebook.com/FORWARD.CH.TH

Email: actsministry2017@gmail.com

ข้อมูลอ้างอิง

1https://biblehub.com/commentaries/alford/matthew/5.htm

2https://biblehub.com/commentaries/meyer/matthew/5.htm

3https://biblehub.com/greek/3107.htm

4https://biblehub.com/greek/3996.htm

5https://biblehub.com/greek/3870.htm

6https://biblehub.com/commentaries/ellicott/matthew/5.htm

7https://biblehub.com/greek/4239.htm

8https://biblehub.com/greek/1093.htm

9https://biblehub.com/greek/2816.htm

10https://biblehub.com/greek/1655.htm

บทความก่อนหน้านี้มธ5:3-12 ผู้เป็นสุข ตอนที่ 1
บทความถัดไปมธ5:3-12 ผู้เป็นสุข ตอนที่ 3

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่