.ประยูร ลิมะหุตะเศรณี เทศนาเช้า

อาทิตย์ที่ 10 .. 2019  คริสตจักรบ้านพลังรัก

มธ12:33-37 ระวังและจัดการกับปากให้ดีได้อย่างไร

33จงทำให้ต้นไม้ดีและได้ผลดี หรือทำให้ต้นไม้เลวและได้ผลเลว เพราะว่าพวกเรารู้จักต้นด้วยผลของมัน 34โอ พวกชาติงูร้าย ท่านทั้งหลายเป็นคนชั่วแล้วจะพูดความดีได้อย่างไร? ด้วยว่าปากนั้นพูดสิ่งที่มาจากใจ 35คนดีก็เอาของดีมาจากคลังแห่งความดีในตัวของเขา คนชั่วก็เอาของชั่วมาจากคลังแห่งความชั่วในตัวของเขา 36ส่วนเราบอกพวกท่านว่า คำที่ไม่เป็นสาระทุกคำซึ่งมนุษย์พูดนั้น มนุษย์จะต้องรับผิดชอบถ้อยคำเหล่านั้นในวันพิพากษา 37เพราะว่าพวกท่านจะพ้นผิดหรือถูกตัดสินลงโทษ ก็เพราะคำพูดของท่าน

ขอพระเจ้าช่วยให้เราเห็นคุณค่าคน มนุษย์ไม่ว่าจะเป็นชนชาติเพื่อนบ้านเราที่มาทำงานในประเทศไทย หรือแม้แต่คนหัวร้อนเวลาขับรถเฉี่ยวชนกันก็จะทำร้ายกันทั้งๆที่ไม่เคยโกรธแค้นกันมาก่อน ขอให้เราเห็นคุณค่าคนเหล่านี้ให้ได้

มารมาเพื่อที่จะลักฆ่าและทำลายชีวิตมนุษย์  มารไม่สนใจที่จะทำลายสิ่งของ มนุษย์อาจมีการระบายอารมณ์ในการทำลายสิ่งของเมื่อโกรธบ้าง

แต่มารลงมือทำร้ายมนุษย์ด้วยตนเองไม่ได้ มารเข้ามาปั่นหัวให้คนหัวร้อนไปทำร้ายคนอื่น เนื้อเพลงที่เรานมัสการบอกว่าหากเราและพระคริสต์มีชีวิตดั่งเกลียวที่ทน รักเราคงจะล้นในใจเสมอคริสเตียนผูกพันด้วยเชือกสามเกลียวไม่ใช่เชือกเส้นเดียว ความรักของพระเจ้าจะล้นออกมาให้คนอื่นด้วย หากเป็นเชือกเส้นเดียวพันเป็นเกลียวมันจะเป็นปมเป็นปัญหา

ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานการณ์อะไร หรืออารมณ์อย่างไร ขอให้ความรักของพระเจ้าไหลล้นจากชีวิตของเราไปให้ผู้อื่น คริสเตียนเป็นชีวิตแห่งความรักเพราะเราผูกพันกับพระเยซูคริสต์

วันนี้จะเทศน์เรื่องการใช้ปาก ขอบคุณที่พระเจ้าสร้างเราให้มีปากเดียวถ้าเราสังเกตบนศรีษะ เรามีอวัยวะส่วนใหญ่เป็นสองอย่าง เช่น สองตา สองคิ้ว สองหู จมูก(สองรู)

วันนี้เราจะมาเรียนรู้แนวทางที่พระเจ้า สอนในการใช้ปากจากการทรงสร้างของพระเจ้าไปในทางสร้างสรร คุณค่าของปากนั้นดีกว่าทองคำมากมาย คนอื่นไม่อยากอยู่ใกล้เราหรืออยากอยู่ใกล้ๆเราก็เพราะปากของเรานั่นเอง วลีสั้นๆก็ไล่คนได้โธ่เอ้ยให้ระวังปาก

เราสามารถใช้ปากเพิ่มเสน่ห์ เพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตของตนเองได้ ชีวิตเรามีค่าสูงมากกว่าการเพิ่มความรู้ ผมอยากหนุนใจให้ผู้เชื่อซื้อพระคัมภีร์ด้วยเงินของตนเองเพื่อเราจะรักษาอย่างดี ตั้งใจในการศึกษาพระคัมภีร์  เห็นคุณค่า เห็นประโยชน์ของพระคัมภีร์ ที่เพิ่มคุณค่าให้ชีวิตของเรา

พระเยซูคริสต์สอนให้เราเห็นความสำคัญของปาก หรือของการพูด โดยพระองค์ ได้ยกตัวอย่างของผลไม้จงทำให้ต้นไม้ดีและได้ผลดีแปลว่า อยากได้ผลดีต้องทำให้ต้นเลวกลายเป็นต้นดีเสียก่อน

แต่หากเรามีต้นไม้พันธ์เลว เราจะไม่สามารถทำให้ต้นไม้พันธ์เลวเป็นต้นดีได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นเราไม่ต้องเอามาปลูก เพราะถ้าเราปลูกแล้วในที่สุดเราก็ต้องโค่น จงทำให้ต้นไม้ดีเสียก่อน

พระเยซูคริสต์พูดเป็นการเปรียบเทียบความสัมพันธ์ระหว่างต้นกับผล ต้นเลว ผลเลว ต้นดี ผลดี เปรียบเทียบต้นและผล กับคนและคำพูด คนดี พูดดี คนเลว พูดเลว คนเลวพูดดีไม่ได้ ดนดีพูดเลวก็ไม่ได้

บางครั้งเวลาที่เราจะพูดเพราะ พูดดีๆ พูดไพเราะกับคนใกล้ชิดหรือญาติสนิท หรือเพื่อนสนิท ฟังดูแล้วจะไม่เป็นกันเอง ฟังดูแล้วห่างเหิน เป็นคนแปลกประหลาด มีพี่ชายคนหนึ่งที่พูดคำหยาบตลอดเวลา แต่พอกลับใจใหม่มาเชื่อพระเจ้า พี่ชายคนนี้เปลี่ยนคำพูดจากหยาบคาย กลายเป็นคนพูดจาดีส่งผลทำให้น้องๆมาเชื่อพระเจ้าได้ เพราะเห็นการเปลี่ยนแปลงชีวิต

ข้อ34 “โอ พวกชาติงูร้าย ท่านทั้งหลายเป็นคนชั่วแล้วจะพูดความดีได้อย่างไร? ด้วยว่าปากนั้นพูดสิ่งที่มาจากใจ” 

คนชั่วพูดความดีได้อย่างไร แปลว่า คนชั่วชั่วที่ใจ ตอนยังไม่อ้าปากพูดเราจะไม่มีทางรู้ได้เลย แต่พออ้าปากพูดชั่ว เรารู้เลยว่าคนชั่วไม่น่าคบ บางคนดูหน้าตาไม่ดี ดูแล้วไม่น่าไว้ใจแต่พอพูดดีออกมา จะทำให้ดึงดูดคนเข้ามาฟังได้

ชีวิตเกี่ยวข้องกับปาก ชีวิตจะดีหรือจะรับผลร้าย อยู่ที่ว่าเราพูดอะไร ความรักไม่พูดทำร้ายจิตใจคนอื่น การพูดทำร้ายจิตใจคนอื่น ต่อให้พูดดีแต่มีเจตนาทำร้ายคนอื่นก็เป็นการพูดชั่วเหมือนกัน เราต้องจัดการกับปากของเรา รวมถึงหลายๆอย่างด้วย ไม่ว่าจะสมอง ความคิด นิสัย และพฤติกรรม

 

วันนี้อยากให้เรามาศึกษาเรื่องเหตุผลที่เราต้องระวังปาก 3 ประการ

ประการ 1 เราเป็นคนใหม่ในพระคริสต์แล้ว

ถ้าเราไม่กลับใจใหม่จากบาป เราจะไม่สามารถจัดการกับปากของตนเองได้ เพราะเราเป็นคนบาป คนบาปก็พูดดีไม่ได้  ต้องพูดบาป

พระเยซูคริสต์บอกว่าจงทำให้ต้นไม้ดีเมื่อเรากลับใจใหม่จากบาปเรากลายเป็นต้นไม้ดี ปากก็จะพูดถึงสิ่งดี ผลที่เกิดขึ้นมันต้องดี เมื่อเรารับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ

รม12:1ดังนั้น พี่น้องทั้งหลาย โดยเห็นแก่ความเมตตากรุณาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงวิงวอนท่านทั้งหลายให้ถวายตัวของท่านแด่พระองค์ เพื่อเป็นเครื่องบูชาอันบริสุทธิ์ที่มีชีวิต และเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า ซึ่งเป็นการนมัสการโดยวิญญาณจิตของท่าน 

เมื่อข้างในเราถูกชำระจากบาป จึงเป็นจิตใจที่ดีแล้ว แต่หากปากเรายังไม่ดีเราต้องรับผิดชอบปาก รับผิดชอบคำพูด หน้าที่ของพระเจ้าทำให้ต้นไม้เลวกลายเป็นต้นไม้ดี แต่ส่วนของเราเราต้องรับผิดชอบปรับปรุงชีวิต ปรับปรุงความคิด คำพูด การกระทำ การดำเนินชีวิต ต้องทำให้เกิดผลดี เพราะเราเป็นคนใหม่ในพระคริสต์

คำพูดของเราจะเป็นข้อพิสูจน์ในการเปลี่ยนแปลงว่าเราเป็นต้นที่ดีแล้วหรือไม่ เราเป็นคนใหม่ในพระคริสต์แล้วหรือยัง

ประการที่ 2 เราต้องรับผิดชอบสิ่งที่เราพูด(ข้อ36)

ส่วนเราบอกพวกท่านว่า คำที่ไม่เป็นสาระทุกคำซึ่งมนุษย์พูดนั้น มนุษย์จะต้องรับผิดชอบถ้อยคำเหล่านั้นในวันพิพากษา

ถ้อยคำเหล่านั้น อาจจะได้แก่  คำด่าว่า คำสบถ คำอุทาน คำลามก ถ้าเราจะอุทานขอให้เป็นคำอวยพร เช่น ฮาเลลูยา  อาเมน

2คร5:10 เพราะว่าเราทุกคนจำเป็นต้องปรากฏตัวต่อหน้าบัลลังก์ของพระคริสต์ เพื่อแต่ละคนจะได้รับสิ่งที่สมกับการกระทำในกายนี้ ไม่ว่าจะดีหรือชั่ว

ประการที่ 3 เราจะเป็นผู้ทำลายส่ิงดีที่พระเจ้า ให้กับเราทั้งตนเองและคนอื่นเพราะปากของเรา

การพูดเรื่องไม่มีประโยชน์ พูดหลอกลวง จำเป็นต้องสงบปากสงบคำ สอนสิ่งที่โลภมักได้ พระคัมภีร์ตอนนี้พูดถึงคนของพระเจ้า ที่ไม่จัดการกับปาก พูดเลยเถิด สิ่งที่พูดจะทำลายทั้งครอบครัว

ทต1:10-11เพราะว่ามีคนจำนวนมากที่ดื้อด้าน พูดแต่เรื่องไม่มีประโยชน์และหลอกลวง โดยเฉพาะพวกที่เข้าสุหนัต 11จำเป็นต้องให้เขาสงบปากสงบคำ เนื่องจากพวกเขาคว่ำทั้งครัวเรือน โดยสอนสิ่งที่ไม่ควรจะสอนเพราะโลภมักได้

ลิ้นอวัยวะเล็กแต่คุยอวดเรื่องใหญ่โต เปรียบเหมือนไฟเพียงนิดเดียวแต่ทำให้ป่าใหญ่ลุกได้ ลิ้นเป็นไฟ ลิ้นทำให้ร่างกายเป็นมลทิน ล้ินชั่วร้าย.

ยก3:5-6 ลิ้นก็เช่นเดียวกัน เป็นอวัยวะเล็กๆ แต่คุยอวดในเรื่องใหญ่โต คิดดูซิ ไฟเพียงนิดเดียวแต่สามารถทำให้ป่าใหญ่ลุกไหม้ได้ 6และลิ้นนั้นเป็นไฟ ลิ้นเป็นโลกชั่วร้ายที่ตั้งอยู่ท่ามกลางอวัยวะต่างๆ ของเรา มันทำให้ทั้งกายเป็นมลทิน และเผาผลาญวงจรของชีวิต และตัวมันเองก็ถูกเผาผลาญโดยไฟนรก 

เรื่องลิ้น เป็นเหมือนเรื่องขี้ผง เป็นเหมือนเรื่องเล็กๆ แต่ถ้าผงเข้าตาก็ทำลายทั้งชีวิตเราได้ ใครที่พูดกับพ่อแม่ พูดกับภรรยาไม่เพราะ ต้องเปลี่ยนแปลงการพูดใหม่ ผมพูดกับลูกมีคำว่าครับทุกคำ เพราะอยากให้ลูกพูดครับกับผมด้วย แม้ตอนพูดโทรศัพท์ ก็อยากให้ลูกพูดครับกับพ่อด้วย เวลามีหลานๆก็พูดครับ พูดค่ะกับปู่ด้วย

ปากมีอิทธิพลกับคนรอบข้าง ยิ่งเราสนิทสนมกับใคร เราย่ิงต้องพูดให้สุภาพมาก ไม่ใช่สนิทมากพูดหยาบคาย

4.สิ่งที่เราพูดจะเป็นการกำหนดบั้นปลายของเราจะได้ผลดีหรือผลร้าย(ข้อ37)

ขอให้เราตั้งใจแน่วแน่จะจัดการกับปาก ให้มีแต่คำพูดที่ดี

พระคัมภีร์เปรียบเทียบการเอาบังเหียนใส่ปากม้าก็บังคับม้าได้ทั้งตัว เรือลำใหญ่ก็ถูกบังคับด้วยหางเสือชิ้นเล็กๆ ลิ้นก็เหมือนกันถ้าควบคุมลิ้นได้ก็ได้รับชีวิต ควบคุมลิ้นไม่ได้ทำให้ถึงตายได้

ยก3:3-5 ถ้าเราเอาบังเหียนใส่ปากม้าเพื่อให้พวกมันเชื่อฟัง เราก็สามารถบังคับมันได้ทั้งตัว 4หรือดูเรือซิ แม้ว่ามันจะใหญ่และถูกพัดให้แล่นไปด้วยลมแรง เรือเหล่านั้นก็ยังถูกบังคับด้วยหางเสือเล็กๆ ไปในทิศทางที่นายท้ายต้องการจะให้ไป 5ลิ้นก็เช่นเดียวกัน เป็นอวัยวะเล็กๆ แต่คุยอวดในเรื่องใหญ่โต

การจัดการกับลิ้น เป็นเรื่องที่ยากที่สุดในชีวิต คนถนัดเขียนหนังสือมือขวา หากต้องการฝึกให้เขียนหนังสือมือซ้ายคงทำได้ไม่ยาก แต่สำหรับลิ้นเราไม่มีทางฝึกเหมือนการฝึกเขียนหนังสือ หรือทั้งชีวิตของเราก็ฝึกลิ้นไม่ได้ ตัวอย่างคนทำความสะอาดในโรงเรียนพระคัมภีร์ อยากเรียนพระคัมภีร์ แล้วมาขอเล่นบอล จากเล่นไม่เป็นสามารถเล่นเก่งในห้าเดือนได้เมื่อฝึกฝนอย่างหนัก แต่สำหรับลิ้นเราจัดการฝึกแบบนั้นไม่ได้

คนเราพอควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ก็หลุดคำไม่ดีออกจากปาก เพราะควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เราจะมาดูแนวทางการจัดการกับปาก ให้พูดสิ่งที่ดีได้

ประการที่ 1 พูดอย่างฉลาด (สภษ12:18)

คำพูดพล่อยๆ เหมือนดาบแทง

แต่ลิ้นของคนมีปัญญานำการรักษามาให้

คิดก่อนพูด ไม่ใช่พูดก่อนคิด พูดโดยไม่ทำให้คนเจ็บปวด ขอให้คิดก่อนพูด พูดโดยไม่ยั้งคิด คือ คำหยาบ คำแช่งสาบจะไม่ออกจากปากเรา ปากพูดสิ่งที่ออกมาจากใจ ใจเราต้องไม่มีความชั่วร้าย ใจเราต้องไม่คิดชั่วร้ายเลย เราจึงจะไม่พูดสิ่งชั่วร้ายออกมา ถ้าเราคิดเราจะพูดในที่สุด

พระคัมภีร์ สอนว่าโกรธก็โกรธแต่ไม่ทำบาปแสดงว่าเรารับรู้ว่าโกรธแต่ไม่ต้องทำผิด ไม่ต้องทำบาปก็ได้

จิตใจของเราจะให้การเยียวยาผู้ฟังมากในเวลาที่เราพูดดี เช่น มีความสุภาพเวลาพูด พูดด้วยความถ่อมใจ คำพูดดีละลายความโกรธของคู่กรณีได้ เราเลือกที่จะทำเลือกที่จะพูดอย่างดี อย่าหลุดคำพูดไม่ดี หากเราผิดเราพูดขอโทษมาจากความจริงใจ เราเป็นต้นไม้ดี ไม่ใช่ดราม่า ไม่ใช่การแสดงว่าเราพูดดี คำพูดที่ดีที่มาจากความจริงใจจะช่วยสร้างความประทับใจให้คู่กรณี สิ่งที่ดีมันจะอยู่ในชีวิตของเขาเมื่อเราพูดกับเขาดีๆ

อย่าให้อารมณ์เป็นตัวกำหนดการพูด เพราะมันจะสะใจมากถ้าเราได้พูดทำให้คนเสียใจ แต่ถ้าเราคิดก่อนพูด เราใช้ปัญญาในการพูด ไม่ใช่ตอบแทนให้สะใจ ให้สาแก่ใจ ให้เขาเจ็บใจสมกับที่เขาทำให้เราปวดใจ เราไม่สวนกลับ หรือทำให้เขารู้สึกอึ้งด้วยคำพูดที่สะใจ

การพูดด้วยความคิด คนฟังจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่คุณพูด

สภษ16:23ใจของคนมีปัญญาทำให้วาจาของเขาสุขุม และเพิ่มอำนาจการสั่งสอนแก่ปากของเขา

เราไม่อยากฟังคนไร้สาระ การด่าไม่เคยสร้างใคร คนไทยบอกว่าติเพื่อก่อผมไม่เห็นด้วย แต่เห็นด้วยว่าติแล้วก่อกำแพงทำให้คนโดนติไม่ฟังคำต่อจากการติอีกต่อไป หากยังติอีกต่อไปก็ทำให้คนฟังไม่ได้ยินแล้ว ติมากๆ ก่อทำให้เกิดเรื่อง วัยรุ่นชอบพูดว่าพูดอยู่ได้พูดมากไปแล้ว

คนส่วนมากเสียคนเพราะถูกติ มากกว่าคนที่ไม่ถูกติ เช่น ลูกผมสอบได้ที่ 21 จาก 22 คน ผมขอปัญญาให้พูดกับลูกตอนเรียนอนุบาล ผมบอกเขาว่าตอนร้องเพลงชาติอยู่อันดับ 22 แต่สอบได้อันดับ 21 เขาดีขึ้นไปฉลองพิซซ่าเลยเพราะเขาชอบ  ตอนโตจบป.ตรีด้วยเกียรตินิยม

จะก่อร่างสร้างใครให้ดูสาเหตุ แก้ไข ให้กำลังใจ เริ่มจากใจของเราต้องอยากช่วยคนก่อน ขอให้เราอนุญาตคนให้ทำผิดพลาดได้ ไม่ต้องกลัวการทำผิด การกลัวทำผิดพลาดสร้างผลเสียต่อคนนั้นมากกว่า หากคนที่ทำผิดพลาดนั้นไม่กลัวถูกลงโทษเมื่อผิดพลาด เขาจะได้พัฒนาตนเองจากความผิดพลาดได้ ถ้าเราบอกว่าคุณทำไม่ดี เราทำเองดีกว่า มันก็เหมือนดาบทิ่มแทงในใจของคนที่ผิดพลาด ขออย่าให้เราทำอย่างนั้น

ประการที่ 2  พูดด้วยความอ่อนโยน สุภาพ (สภษ15:4)

ลิ้นที่ปลอบโยนเป็นต้นไม้แห่งชีวิต

แต่ลิ้นตลบตะแลงทำให้จิตใจแตกสลาย

ความสุภาพถูกทำลายเพราะความโกรธ คนอารมณ์ไม่ดีก็ทำให้พูดไม่ดี ขอให้ไม่มีสวนสัตว์อยู่ในปากของเรา

ครั้งหนึ่งเคยแนะนำภรรยาที่ด่าสามี เป็นสัตว์ ผมขอให้ภรรยาเปลี่ยนคำด่าเป็นมังสวิรัตแทนได้ไหม หรือเปลี่ยนเป็นผลไม้แทนได้ไหม เลยกลายเป็นเรื่องขำ ดีที่สุดคือ ไม่ต้องไปด่ากัน

คส3:8 จงละทิ้งสิ่งเหล่านี้ ทั้งเซตมาด้วยกันหมด ครอบครัวเดียวกันเลย เพื่อเราจะไม่หลุดปาก

แต่บัดนี้ท่านทั้งหลายจงละทิ้งสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด คือความโกรธ ความฉุนเฉียว การคิดร้าย การใส่ร้าย และคำพูดหยาบโลนที่ออกจากปากของท่าน” 

สภษ15:1 ไม่พูดยั่วโทสะใคร พูดอ่อนหวาน หมายความ ว่าหวานเยอะ พูดนุ่มนวล

คำตอบนุ่มนวลช่วยละลายความโกรธเกรี้ยวให้หายไปแต่คำกักขฬะเร้าโทสะ

ประการที่ 3 พูดอย่างสร้างสรร (สภษ16:24)

บนพื้นฐานพูดความจริงใจ พูดให้กำลังใจ

ถ้อยคำแช่มชื่นเป็นเหมือนรวงผึ้งเป็นความหวาน

แก่วิญญาณจิตและเป็นพลานามัยแก่ร่างกาย

ขอจบด้วยพระวจนะ ที่ให้เรารู่ว่าทุกสิ่งถูกสร้างด้วยพระวาทะ และพระวาทะนั้น คือ พระเยซูคริสต์ พระเจ้าสร้างทุกสิ่งด้วยพระเยซูคริสต์ พระเจ้าสร้างด้วยปาก ด้วยคำพูด ทุกสิ่งที่ถูกสร้างล้วนแต่ดีทั้งนั้น

ยน1:1-3ในปฐมกาลพระวาทะทรงดำรงอยู่ และพระวาทะทรงอยู่กับพระเจ้า และพระวาทะทรงเป็นพระเจ้า 2ในปฐมกาลพระองค์ทรงอยู่กับพระเจ้า 3พระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่งขึ้นมาโดยพระวาทะ ในบรรดาสิ่งที่เป็นอยู่นั้น ไม่มีสักสิ่งเดียวที่เป็นอยู่นอกเหนือพระวาทะ

เมื่อพระเยซูคริสต์อยู่ในจิตใจเรา เราจะมีความคิด คำพูด ที่ดีออกมา พระเจ้าอยู่ในใจ พระเยซูคริสต์อยู่ในใจ คำพูดที่ออกมาจะดี สร้างสรร คริสเตียนต้องจัดการกับปากของเรา เราปล่อยปะละเลยปากของเราไม่ได้

ขอให้คนได้ยินพระวจนะแล้วได้รับการเสริมสร้าง เมื่อได้ฟังพระวจนะไม่มีการตำหนิ ขอให้ปากมีแต่สร้างสรร ไม่ทำลายจิตใจของใคร เพราะเราอยู่ในพระคริสต์ พระคริสต์อยู่ในเรา พระองค์เป็นต้นไม้ที่ดี เราจะออกผลดี

ให้เราร่วมใจอธิษฐาน

บทความก่อนหน้านี้1พศด11:22-23 ชีวิตที่พระเจ้าสร้าง
บทความถัดไปวนฉ6:1-27 ผู้นำที่พระเจ้าต้องการ

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่