.ประยูร ลิมะหุตะเศรณี เทศนา อาทิตย์ที่ 25 ..2018

คริสตจักรแห่งความชื่นชมยินดี (Church of Joy) ช่วงเช้า และคริสตจักรแห่งความรัก (Church of Love) ช่วงบ่าย

19ข้าพเจ้าหวังในพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ในไม่ช้านี้ข้าพเจ้าจะส่งทิโมธีไปหาพวกท่าน เพื่อข้าพเจ้าจะได้รับความชูใจเมื่อรู้ข่าวของท่าน 20เพราะว่าข้าพเจ้าไม่มีใครอื่นที่เหมือนทิโมธีซึ่งเอาใจใส่เรื่องของพวกท่านจริงๆ

21เพราะว่าคนอื่นๆ แสวงหาประโยชน์ของพวกเขาเองทุกคน ไม่ใช่ประโยชน์ของพระเยซูคริสต์ 

22และท่านทั้งหลายรู้ถึงคุณค่าของทิโมธีดีว่าเขาได้รับใช้ร่วมกับข้าพเจ้าในการประกาศข่าวประเสริฐ เหมือนอย่างบุตรกับบิดา 23เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงหวังว่าจะส่งเขาไปโดยเร็ว เมื่อพอจะเห็นได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับข้าพเจ้า 24และข้าพเจ้าแน่ใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าว่าในไม่ช้าข้าพเจ้าก็จะไปหาด้วย

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับมาตรฐาน 2011 สงวนลิขสิทธิ์ 2011 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย

คำนำ

การเทศน์หัวข้อนี้มี 3 แนวทาง คือ

1. เข้าใจว่าคริสตจักรได้เห็นคุณค่าการเป็นพี่เลี้ยงจึงให้มีการจัดอบรม หรือหัวข้อคำเทศนานี้

2. เข้าใจว่าคริสตจักรนี้มีโครงสร้างมีพี่เลี้ยงอยู่แล้ว จึงต้องการนำหัวใจแบบพระคริสต์มาประเมินว่าเราจะพัฒนาตนเองต่อไปอย่างไร

3.เข้าใจว่าคริสตจักรแห่งนี้รับใช้ดีอยู่แล้ว มีหน้าที่พี่เลี้ยงเพื่อกระตุ้นให้เราขึ้นมารับผิดชอบในการดูแลคน โดยให้สวมหัวใจแบบพระคริสต์

การเตรียมสอนสามแนวนั้นมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ผมเตรียมเทศน์แบบแนวทางที่สอง โดยเข้าใจว่าคริสตจักรมีพี่เลี้ยงอยู่แล้ว ผมมาสอนเพื่อให้ประเมินการเป็นพี่เลี้ยงของเรา ว่าเราเป็นพี่เลี้ยงอย่างไร เราต้องพัฒนาเรื่องอะไรบ้าง

เนื้อหาในฟีลิปปีที่เปาโลเขียนไปให้น้องเลี้ยง คือ ทิโมธี วันนี้เราจะมาดูว่าพระองค์มีพระดำริอะไร ให้เราเรียนรู้จากทิโมธี ที่อ.เปาโลยกขึ้นมาเป็นแบบอย่าง เพื่อให้เรารู้คุณสมบัติพี่เลี้ยงที่ดีนั้นมีลักษณะอย่างไร

 

1. การเป็นพี่เลี้ยงที่เป็นพรมาจากหัวใจการปรนนิบัติรับใช้ (22)

ทิโมธียินดีปรนนิบัติรับใช้อ.เปาโล ท่านไปปรนนิบัติพี่น้องที่เมืองฟิลิปปี เหมือนพระเยซูที่ปรนนิบัติรับใช้สาวก

ถ้าเราเป็นคนช่างสังเกตเราจะพบว่า ฟป1:21 “เพราะว่าสำหรับข้าพเจ้า การมีชีวิตอยู่ก็เพื่อพระคริสต์ และการตายก็ได้กำไร.เปาโลบอกว่าท่านมีชีวิตก็เพื่อพระคริสต์ ท่านเพียงคนเดียวมีชีวิตเพื่อพระคริสต์ แต่ในตอนอื่นบอกว่ามีหลายคนอยู่เพื่อตนเอง  ฟป2:21 “เพราะว่าคนอื่นๆ แสวงหาประโยชน์ของพวกเขาเองทุกคน ไม่ใช่ประโยชน์ของพระเยซูคริสต์คนอื่นๆแสวงหาประโยชน์ของตนไม่ใช่ของพระเยซู 

ทั้งสองข้อกล่าวถึงความจริงของชีวิตคริสเตียนอยู่เพื่อพระคริสต์กับอยู่เพื่อตนเอง  สำหรับทิโมธีท่านไม่เหมือนใคร เพราะท่านเอาใจใส่พี่น้องที่เมืองฟิลิปปีเพราะมีหลายคนที่พวกเขาหาประโยชน์ของตนเอง 

วันนี้เราลองมาสังเกตคริสตจักรของพระเจ้าในปัจจุบันนี้ อยู่เพื่อพระเยซูคริสต์น้อยมาก แต่อยู่เพื่อตนเองมากกว่า การเป็นพี่เลี้ยงที่เป็นพรต้องมีชีวิตอยู่เพื่อพระคริสต์ หากเราอยู่เพื่อตนเองเราไม่สามารถเป็นพี่เลี้ยงที่จะอยู่เพื่อใครได้

 

ชีวิตของเราที่พระเยซูไถ่มามีค่ามากเกินกว่าที่เราจะอยู่เพื่อตนเองอย่างเดียว เราต้องอยู่เพื่อผู้อื่นต่างหาก 

ดูจากอ.เปาโลมีชีวิตอยู่เพื่อพระคริสต์ ทิโมธีก็ทำเช่นนั้น

ตัวอย่างอ.ประยูร หากมาเชื่อพระเจ้า แล้วพระเจ้าไม่ยิ่งใหญ่กว่าไสยศาสตร์ท่านถามตัวเองว่าจะมาเชื่อพระเจ้าทำไม มีโทรศัพท์ดังตอนดึกโทรมาหาท่านตอนตีสอง บอกว่าเราเป็นผู้ซึ่งเราเป็นเป็นคนบ้าโทรมา อาจารย์ตั้งใจจะไปช่วยเขาวันรุ่งขึ้น พระเจ้าจะให้ไปช่วยเขาจัดทีมไปช่วยเขา ปลดปล่อยเขาจากการครอบงำชีวิตของเขา ปัจจุบันเป็นผู้รับใช้ภาคตะวันออก

ธุรกิจพี่เลี้ยงเป็นเรื่องเกี่ยวกับคน ไม่ว่าคนนั้นจะบ้า จะไม่ปกติ ตาบอด หูหนวก ผีเข้า พระเยซูปรนนิบัติเขา เรียนรู้การจัดเวลากับเขาอย่างคุ้มค่า ถ้าเป็นปัจจุบันคนจะมองว่าเราเป็นคนบ้าถ้าไปใช้เวลากับคนเหล่านั้น

เป็นพรที่มาจากพระเจ้า เป็นพรที่สมบูรณ์ นำคนไปสู่ความไพบูลย์ของพระเจ้า

 

คริสตจักรของพระเยซูไม่อยู่เพื่อตนเอง แต่อยู่เพื่อคนอื่น

มก10:45 “เพราะว่าบุตรมนุษย์ไม่ได้มาเพื่อรับการปรนนิบัติ แต่มาเพื่อจะปรนนิบัติคนอื่น และให้ชีวิตของท่านเป็นค่าไถ่คนจำนวนมากเน้นคำว่า บุตรมนุษย์มาเพื่อปรนนิบัติและเป็นค่าไถ่คนเป็นจำนวนมาก ดังนั้นพี่เลี้ยงต้องสวมหัวใจปรนนิบัติเหมือนพระเยซู มีความพร้อมที่จะเสียทุกอย่างแม้ชีวิตของตน ไม่ใช่ถามว่าเราจะได้ผลประโยชน์อะไรบ้างจากการเป็นพี่เลี้ยง

ตัวอย่าง การที่เราไปทำงาน เราจะได้อะไรจากบริษัทที่จ้างเรา  ส่วนบริษัทที่จ้างเราก็จะถามว่าจะได้อะไรเป็นผลตอบแทนจากเรา ต่างฝ่ายต่างมีผลตอบแทนต่างตอบแทน

วันนี้หากมีคนเดือดร้อนมาหาเราเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ เราจะคิดอย่างไร เราอยากจะช่วยเขาหรือไม่ คนตาบอดมองหาพระเยซู แต่พวกสาวกบอกให้หุบปาก พระเยซูให้ความสนใจคนตาบอด โดยถามคนตาบอดว่าจะให้พระองค์ ทำอะไรเพื่อเขา  คริสเตียนเราต้องช่วยคนจนกระทั่งเขาเติบโตเป็นพี่เลี้ยงให้คนอื่นต่อไปได้ แล้วเราจึงจากไปสร้างคนใหม่ได้

 

2. มีใจห่วงไยคนอื่น (20)

ทิโมธีเอาใจใส่เรื่องของพี่น้องที่อยู่ไกล โรมกับมาซิโดเนียห่างไกลกันพอสมควร เมื่อท่านได้ยินข่าว ท่านได้รู้เรื่อง ท่านมีความห่วงไย

ถ้าห่วงไยกัน แม้ว่าไกลแค่ไหนก็ให้ความสนใจ ถามไถ่ห่วงไย วันนี้เราห่วงไยน้องเลี้ยงของเราจริงๆหรือไม่  ทิโมธีห่วงไยฝ่ายร่างกาย ข้อ 20 มีความเป็นอยู่อย่างไรในเมืองมาซิโดเนีย ข้อ22 รับใช้ในการประกาศข่าวประเสริฐ ร่วมกับเปาโลให้คนได้รับความรอด

พี่เลี้ยงเราต้องสนใจน้องเลี้ยงเราเขามีงานทำไหม เขาเดือดร้อนไหม เขาถูกข่มเหงรังแกไหม

มธ4:4 พระเยซูรู้ว่ามนุษย์ยังชีพได้ต้องมีสองปัจจัยนี้ คือฝ่ายกายภาพและฝ่ายวิญญาณ พี่เลี้ยงจะสนใจน้องเลี้ยงไม่ใช่แค่สอนฝ่ายวิญญาณอย่างเดียวต้อง สนใจความต้องการฝ่ายกายภาพด้วย

 

3.มีน้ำใจ (ข้อ20 v1971)

พี่เลี้ยงต้องสวมหัวใจเหมือนพระเยซูคริสต์ คือ เห็นแก่คนก่อน อื่นแสดงว่าเป็นคนมีน้ำใจ  หัวใจของพระเยซูควรอยู่ในพระกายของพระองค์ แต่สองพันปีผ่านมาแล้วคริสตจักรของพระองค์ยังไร้น้ำใจ หลายครั้งต้องถามว่าพระเยซูคริสต์อยู่ที่ไหนในคริสตจักร  น้ำใจเป็นน้ำดีไม่ใช่น้ำเน่า พี่เลี้ยงควรมีเวลาให้น้องเลี้ยงไม่ใช่ให้เวลาตามหน้าที่ หรือเป็นไปตามตารางนัดหมาย แต่ควรให้เขาได้รับการช่วยเหลือ หรือได้แบ่งเบาภาระปัญหาได้

ลักษณะของคนมีน้ำใจ

3.1ให้ความสำคัญกับคนมากกว่าวัตถุ

ทิโมธียินดีสละทุกอย่างเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของคนอื่น ของพี่น้องในเมืองฟีลิปปี 

 

ใช้ทรัพย์สินในการสร้างคน ไม่ใช่หาทรัพย์สินจากการสร้างคน

ต้วอย่าง คนต่างด้าวถูกเอาเปรียบกดค่าแรงงาน การเอาเปรียบคนคือ สร้างประโยชน์แห่งตน จากคนที่เราเอาเปรียบ  แม้ว่าในสังคมจะบอกว่าใครๆก็ทำกัน แต่คริสเตียนไม่ควรเอาเปรียบใคร ไม่ควรทำอย่างนั้น คริสเตียนควรอวยพรคนอื่นๆ เหมือนพระเยซูคริสต์ เพื่อพระองค์จะอวยพรให้เราไปอวยพรคนอื่นได้อีก  วันนี้สังคมโลกแล้งน้ำใจ ทำให้มีปัญหามากมายเกิดขึ้น

3.2 จะให้ความสำเร็จของคนอื่นมากกว่าผลประโยชน์ที่ตนมี

หมายความว่า ตนเองจะเป็นอย่างไรไม่เป็นไรขอให้พี่น้องฟิลิปปีสำเร็จ ข้อ(19) เมื่อรู้ว่าพี่น้องดีขึ้นข้าพเจ้าก็ดีใจ ทิโมธีก็จะมารายงาน หากไม่สำเร็จทิโมธีก็จะช่วยต่อไปให้สำเร็จ

พี่เลี้ยงหรือผู้นำ อย่าใช้สมาชิกสร้างเกียรติให้ตนเอง เช่น มีสมาชิกจำนวนมากหรือยัง ถ้ามีมากก็รู้สึกว่าภูมิใจ หากมีน้อยก็ให้สมาชิกท่านอื่นๆออกไปประกาศให้นำคนมา จะได้ดูมีเกียรติ

เราควรมีท่าทีความสำเร็จของคนอื่นคือ ความสุขของเรา เหมือนที่พระเยซู เปิดทางความสำเร็จให้มนุษย์ชาติแล้ว

 

มนุษย์ผู้กางแขนอยู่บนกางเขนบอกว่าสำเร็จแล้ว

เพื่อเปิดทางให้พวกเราจะรับความรอด

3.3 จะให้ความช่วยเหลือคนอื่นก่อนที่จะมุ่งไปสู่ผลประโยชน์ของตนจะได้

เห็นคนเดือดร้อน ทิโมธีก็ไปช่วยเหลือเขา (21) คนที่เดินทางตามรอยพระเยซู จะไม่เห็นแก่ประโยชน์ของตนก่อน 2คร5:15 “และพระองค์สิ้นพระชนม์เพื่อทุกคน เพื่อบรรดาคนที่มีชีวิตอยู่จะไม่อยู่เพื่อตัวเองอีกต่อไป แต่จะอยู่เพื่อพระองค์ที่สิ้นพระชนม์ และทรงเป็นขึ้นมาเพราะเห็นแก่เขาทั้งหลายพระคริสต์สิ้นพระชนม์เพื่อเราจะไม่อยู่เพื่อตนเองอีกต่อไป แต่เห็นแก่พระองค์

รม15:2 “เราทุกคนจงทำให้เพื่อนบ้านพอใจ เพื่อประโยชน์ในการเสริมสร้างความเชื่อของเขา”  ทำให้เพื่อนบ้านพอใจ

ฟป2:4 “อย่าให้ต่างคนต่างเห็นแก่ประโยชน์ของตนเอง แต่จงเห็นแก่ประโยชน์ของคนอื่นๆ ด้วย

สภษ11:25 “คนใจกว้างย่อมเจริญรุ่งเรืองคนที่ให้น้ำคนอื่นย่อมได้น้ำตอบแทนคนใจกว้างย่อมเจริญรุ่งเรือง เขาเกิดความรุ่งเรืองจากพระเจ้า

เป็นพี่เลี้ยงใจแคบไม่ได้

 

แม้คริสเตียนเดินในทางแคบ แต่ใจต้องกว้าง

เพราะทางของพระเจ้าจะไม่สบายบ้าง แต่เราต้องใจกว้างกับคนอื่นๆ

 

4.มีความรับผิดชอบ (22)

ทิโมธีมีความรับผิดชอบต่องานที่เปาโลมอบให้เหมือนบุตรกับบิดา

4.1 รับผิดชอบอย่างดีที่สุด รับผิดชอบสูงที่สุด

4.2 จะดำเนินชีวิตทุกด้านเสมอต้นเสมอปลาย พระคัมภีร์ใช้คำว่าคงเส้นคงวา

4.3 อุทิศจิตใจรับผิดชอบจนเสร็จ จะดำเนินชีวิตด้วยความซื่อสัตย์

มธ25:20-23 “คนที่ได้รับห้าตะลันต์ก็เอาเงินกำไรอีกห้าตะลันต์มาชี้แจงว่านายเจ้าข้า ท่านมอบเงินห้าตะลันต์ไว้กับข้าพเจ้า นี่แน่ะ ข้าพเจ้าได้กำไรมาอีกห้าตะลันต์’ 21นายจึงตอบว่าดีแล้ว เจ้าเป็นบ่าวที่ดีและซื่อสัตย์ เจ้าซื่อสัตย์ในของเล็กน้อย เราจะตั้งเจ้าให้ดูแลของจำนวนมาก เจ้าจงร่วมยินดีกับนายของเจ้าเถิด’ 22คนที่ได้รับสองตะลันต์มาชี้แจงด้วยว่านายเจ้าข้า ท่านมอบเงินสองตะลันต์ไว้กับข้าพเจ้า นี่แน่ะ ข้าพเจ้าได้กำไรมาอีกสองตะลันต์’ 23นายจึงตอบว่าดีแล้ว เจ้าเป็นบ่าวที่ดีและซื่อสัตย์ เจ้าซื่อสัตย์ในของเล็กน้อย เราจะตั้งเจ้าให้ดูแลของจำนวนมาก เจ้าจงร่วมยินดีกับนายของเจ้าเถิด’”

คนรับใช้มีความรับผิดชอบต่อเจ้านาย เจ้านายให้มาทำอะไร เขาก็มาเสนอผลความรับผิดชอบให้กับเจ้านาย พระคัมภีร์บอกว่าเขาเป็นคนซื่อสัตย์

 

ความซื่อสัตย์กับความรับผิดชอบไปด้วยกันเสมอ

หากไม่มีความซื่อสัตย์ก็จะไม่มีความรับผิดชอบ หากไม่มีความรับผิดชอบก็ไม่มีความสัตย์ซื่อเช่นกัน

 

พระเจ้าไม่เชื่อคนไม่มีความรับผิดชอบ

พี่เลี้ยงอย่าทิ้งน้องเลี้ยง ต้องรับผิดชอบเขา เพราะพระเยซูตายเพื่อเขา

ความซื่อสัตย์ทำให้เรามีปัญญาจากพระเจ้า อย่าลดละหรือเลิกในการช่วยน้องเลี้ยง เพราะในวันที่เขาประสบความสำเร็จเขาจะมาขอบคุณพี่เลี้ยง วันนั้นคุณจะมีความสุขมาก

สภษ10:9 “คนที่ดำเนินในความซื่อสัตย์ก็ดำเนินอย่างมั่นคงแต่ผู้ที่ทำทางของตนให้คดก็จะถูกเปิดโปง

สภษ20:7 “คนชอบธรรมดำเนินในความซื่อสัตย์ของตนลูกหลานของเขาที่เกิดตามมาก็เป็นสุขคนชอบธรรมเดินในความซื่อสัตย์  พระเจ้าจะอวยพรลูกหลาน

ตัวอย่างอ.ประยูร ไม่มีเวลาอยู่กับลูก แต่ซื่อสัตย์ในการรับใช้พระเจ้าเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต พระสัญญาของพระเจ้าเป็นจริงๆ ลูกๆเดินในทางของพระเจ้าอย่างเข้มแข็ง

ให้เราร่วมใจอธิษฐาน

สนใจติดต่อเรา หรือเชิญให้เทศนา ให้สอนหรือให้อบรม

www.facebook.com/FORWARD.CH.TH

Email: actsministry2017@gmail.com

บทความก่อนหน้านี้ยน17:26 “ขอให้รู้จักและรักมากขึ้น”
บทความถัดไป“เราเป็นทูตของพระคริสต์” บทที่1 ลักษณะคนของพระเจ้า หรือทูตของพระเจ้า

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่