หลังจากที่ท่านได้ศึกษาก้าวที่ 19 ท่านจะพบว่าความเติบโตในความเชื่อเกี่ยวข้องกับการมีผลต่อผู้คนอื่นๆ และยินดีช่วยเหลือผู้อื่น รับใช้ผู้อื่น ซึ่งถ้าชีวิตคริสเตียนไม่มีความรักจนถึงที่สุดแบบพระเยซู ท่านจะรับใช้ผู้อื่นไม่ได้ และการรับใช้ผู้อื่นได้ แบกรับภาระผู้อื่นได้ แสดงว่าท่านเป็นคนที่เติบโตในความเชื่อ

 “ท่านสามารถนำบทเรียนวิถีธรรมิกชน และวิถีคริสเตียนที่ท่านศึกษาจบแล้ว

แบ่งปันกับผู้อื่นได้”

หวังว่าท่านจะได้มีความเชื่อที่หนักแน่นมากขึ้น เมื่อเห็นผู้คนมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงเพราะได้รับการยกโทษบาปจากพระเจ้า และท่านสามารถเป็นผู้มีส่วนร่วมกับพระเจ้า และเป็นพระพรกับผู้อื่นได้

เมื่อท่านได้ศึกษาก้าวที่ 20 เรื่อง  “ชีวิตแห่งการปรนนิบัติรับใช้” บทเรียนนี้เป็นส่วนหนึ่งของหนังสือ

   “วิถีชีวิตผู้รับใช้พระเจ้า” 

เมื่อท่านอ่านจนจบหวังว่าท่านจะเป็นพระพรกับผู้อื่นได้ ทำดีต่อผู้อื่นได้ และขอให้ท่านรับการเปลี่ยนแปลงชีวิตเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า ขอพระเจ้าอวยพร

ยน13:1-20

1ก่อนถึงงานเทศกาลปัสกา พระเยซูทรงทราบว่าถึงเวลาแล้วที่พระองค์จะทรงจากโลกนี้ไปหาพระบิดา พระองค์ทรงรักบรรดาคนของพระองค์ที่อยู่ในโลกนี้

พระองค์ทรงรักเขาทั้งหลายจนถึงที่สุด 

2ขณะเมื่อรับประทานอาหารเย็นอยู่นั้น (มารได้ดลใจยูดาสบุตรของซีโมนอิสคาริโอทให้ทรยศพระองค์แล้ว) 3พระเยซูทรงทราบว่าพระบิดาประทานทุกสิ่งไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์ และทรงทราบว่าพระองค์มาจากพระเจ้าและจะไปหาพระเจ้า 4พระองค์ทรงลุกจากการเสวยอาหาร ทรงถอดฉลองพระองค์ออกวางไว้ และทรงเอาผ้าเช็ดตัวคาดเอวของพระองค์ 

5แล้วทรงเทน้ำลงในอ่างและทรงเอาน้ำล้างเท้าของพวกสาวก

และทรงเช็ดด้วยผ้าที่ทรงคาดเอวไว้นั้น 6เมื่อพระองค์ทรงมาถึงซีโมนเปโตร เขาทูลพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะทรงล้างเท้าของข้าพระองค์หรือ?” 7พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “สิ่งที่เราทำในขณะนี้ท่านยังไม่รู้เรื่อง แต่ภายหลังท่านจะเข้าใจ” 8เปโตรทูลพระองค์ว่า “พระองค์จะทรงล้างเท้าของข้าพระองค์ไม่ได้เด็ดขาด” พระเยซูตรัสตอบเขาว่า

“ถ้าเราไม่ล้างท่านแล้ว ท่านจะมีส่วนในเราไม่ได้” 

9ซีโมนเปโตรทูลพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่เพียงแต่เท้าของข้าพระองค์เท่านั้น แต่ขอโปรดล้างทั้งมือและศีรษะด้วย” 10พระเยซูตรัสกับเขาว่า “คนที่อาบน้ำแล้วไม่จำเป็นต้องชำระกายอีก ล้างแต่เท้าเท่านั้น เพราะสะอาดหมดทั้งตัวแล้ว พวกท่านก็สะอาดแล้วแต่ไม่ใช่ทุกคน” 11เพราะพระองค์ทรงทราบว่าใครจะทรยศพระองค์ เพราะเหตุนี้พระองค์จึงตรัสว่า “ไม่ใช่ทุกคนในพวกท่านสะอาด”

12เมื่อพระองค์ทรงล้างเท้าของพวกเขาแล้ว พระองค์ก็ทรงฉลองพระองค์แล้วประทับลงตรัสกับเขาว่า “พวกท่านเข้าใจสิ่งที่เราทำกับท่านหรือไม่? 13พวกท่านเรียกเราว่าพระอาจารย์และองค์พระผู้เป็นเจ้า ท่านเรียกถูกแล้ว เพราะเราเป็นอย่างนั้น 

14เพราะฉะนั้นถ้าเราผู้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระอาจารย์ยังล้างเท้าของพวกท่าน ท่านก็ควรจะล้างเท้าของกันและกันด้วย 15เพราะว่าเราวางแบบอย่างแก่พวกท่านแล้ว เพื่อให้ท่านทำเหมือนอย่างที่เราทำกับท่านด้วย 

16เราบอกความจริงกับพวกท่านว่า บ่าวจะเป็นใหญ่กว่านายไม่ได้ และทูตจะเป็นใหญ่กว่าคนที่ใช้เขาไปก็ไม่ได้ 17เมื่อพวกท่านรู้อย่างนี้แล้วและประพฤติตาม ท่านก็เป็นสุข 18เราไม่ได้พูดถึงพวกท่านทุกคน เรารู้จักคนที่เราเลือกไว้แล้ว

แต่จะต้องเป็นจริงตามข้อพระคัมภีร์ที่ว่า

คนที่รับประทานอาหารของเรายกส้นเท้าใส่เรา” 

19เราบอกพวกท่านตอนนี้ก่อนที่เรื่องนี้จะเกิดขึ้น เพื่อว่าเมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นแล้วท่านจะได้เชื่อว่าเราเป็นผู้นั้น 20เราบอกความจริงกับพวกท่านว่า ใครรับคนที่เราใช้ไป คนนั้นก็รับเราด้วย และใครรับเรา คนนั้นก็รับพระองค์ผู้ทรงใช้เรามา

“ก้าวที่ 20  ชีวิตแห่งการปรนนิบัติรับใช้”

A : Attitude

เราได้รับความรู้ใหม่ๆ หรือเราได้รับทัศนคติใหม่ๆ จากพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่อ่านเรื่องอะไรบ้าง?

ความรักที่พระเยซูมีต่อคนบาปจนถึงที่สุด ทำให้พระเยซูรับใช้คนบาปได้ ตอนนี้แม้เป็นยูดาสเป็นคนที่คิดปองร้ายวางแผนทรยศมอบพระองค์ให้ศัตรูจับไปประหาร

แต่พระเยซูรักยูดาส ต้องการจะเปลี่ยนใจเขา พระองค์ล้างเท้าเขาทั้งที่รู้ว่าเขาจะยกส้นเท้าใส่ (ไม่ใช่ชิงลงมือจัดการยูดาสก่อน) แม้พระองค์ให้อาหารเขารับประทาน เปรียบเหมือนการที่พระองค์ทำดีกับเขาแต่เขาก็ไม่เปลี่ยนใจที่จะทำร้ายพระองค์ แม้พระองค์รู้ว่ายูดาสจะยกเท้าใส่พระองค์

พระองค์ก็ยังล้างเท้าของเขาอีกเพื่อให้เขากลับใจใหม่

เพื่อจิตใจเขาจะเปลี่ยนแปลง จะได้ยับยั้งเท้าของเขาในการทรยศพระองค์ และถ่อมใจยอมให้พระเยซูเป็นผู้ชำระเขาให้สะอาด เพื่อให้เขามีส่วนร่วมในพระองค์ แต่ทุกอย่างที่พระเยซูทำไม่สามารถเปลี่ยนใจยูดาสได้เลย 

C : Christ in focus

เรามองเห็นพระเยซูเป็นใคร พระองค์ทำอะไรบ้าง ผ่านพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่เราอ่านอย่างไรบ้าง?

พระเยซูทำและสอนหลายส่ิงมากในตอนนี้ เช่น รักพวกเขาถึงที่สุด,ล้างเท้าสาวก เพื่อให้สาวกมีส่วนในราชกิจพระองค์ที่มาเพื่อชำระบาป ทำให้เราเป็นคนชอบธรรม, วางแบบอย่างให้สาวกรับใช้ซึ่งกันและกันเหมือนที่พระองค์ทำ ถ่อมใจรับใช้ผู้คน ซึ่งถ้าใครเป็นสาวกของพระองค์ก็จะทำเหมือนพระองค์ เพื่อเป็นสุข

รักคน จึงถ่อมใจต่อผู้คนเพื่อรับใช้ผู้คน เหมือนพระเยซูคริสต์

และหากใครทำตามพระเยซูตามแบบอย่างที่พระองค์วางไว้แล้ว แต่มีคนอื่นไม่ยอมรับการดำเนินชีวิตของเราที่ตามแบบอย่างพระเยซู ก็เท่ากับว่าคนนั้นได้ปฎิเสธพระเยซูด้วย

คนที่ได้รับการชำระจากบาปเป็นคนชอบธรรมแล้วแต่เวลาเดินอาจมีฝุ่นหรือบาปมาเปื้อนเกาะบ้าง ก็เหมือนกับคนได้รับความรอดแล้ว แต่การดำเนินชีวิตกลับทำบาป อยู่ในความผิดบาป ไม่มั่นใจในความรอดที่ตนเองเคยเชื่อ

การชำระให้สะอาดโดยกลับมาแสวงหาพระเจ้าขอการยกโทษ โดยยอมรับว่าเราทำบาปและพระองค์เป็นผู้เดียวที่ชำระเราได้ โดยความเชื่อเช่นนี้พระเจ้าพอพระทัย เหมือนเปโตร และดำเนินชีวิตใหม่ให้สมกับการชำระล้างของพระเยซูคริสต์ รักษาความสะอาด รักษาความบริสุทธิ์ในการดำเนินชีวิต

แต่ถ้าใครไม่กลับมาหาพระองค์ ไม่ให้พระเยซูมีส่วนในการช่วยเหลือเขาในการดำเนินชีวิต พระองค์ก็ไม่สามารถมีส่วนช่วยเหลือเขาได้ แม้ว่าเขาอาจจะเชื่อว่าเขารู้จักพระเยซูแล้ว รับเชื่อแล้ว เคยรับความรอดมาแล้วในอดีต แต่เขาอาจจะไม่รอดก็ได้เพราะเขาไม่ต้องการพระองค์เหมือนยูดาสนั่นเอง

T : Transformation

เราต้องการให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราในด้านใดบ้าง?  

 เราจะสามารถล้างเท้าผู้อื่น รับใช้ผู้อื่น ช่วยเหลือผู้อื่น และรับใช้ได้อย่างพระเยซู ถ้าเรามีความรักเหมือนพระองค์ เราจะช่วยคนอื่นจนถึงที่สุดให้เขากลับใจใหม่จากบาป และการกระทำผิด เราจะไม่จัดการคนที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเราก่อน หรือทำร้ายศัตรูก่อน แต่เราจะทำดีเพื่อเปลี่ยนใจของเขาให้กลับมาในทางของพระเจ้า

อีกสิ่งหนึ่งคือ เราต้องถ่อมใจกลับใจใหม่จากบาป ได้ง่ายๆ ไม่ใจแข็งเหมือนยูดาส เมื่อรับความรักของพระเจ้า เมื่อได้รับการยกโทษจากพระเจ้า และเมื่อพระองค์ทำดีต่อเรา เราจะดำเนินชีวิตทรยศต่อพระองค์ได้อย่างไร

การล้างเท้าดูเหมือนเป็นงานที่ต่ำเหมือนคนรับใช้ แต่พระเยซูถ่อมใจทำเพื่อชำระผู้อื่นให้สะอาด หากเราต้องการช่วยเหลือคนให้พระเยซูเข้าไปชำระบาปในชีวิตของเขา บางครั้งเราอาจต้องทำแบบพระองค์ คือ ถ่อมใจลง รับใช้ผู้อื่น ยอมทำงานต่ำ เพื่อให้ชีวิตคนอื่นดีขึ้น โดยพระเยซูคริสต์ทำกิจผ่านชีวิตของเรา

S : Serve

เราจะดำเนินชีวิตเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น และต่อพระเจ้าได้อย่างไรบ้าง?

เราต้องขอพระเจ้าประทานหัวใจที่มีความรักของพระเจ้า รักคนอื่นจนถึงที่สุด ทำดีแม้แต่คนที่ร้ายกับเราได้ เพื่อทำตามพระเยซูที่วางแบบอย่างให้เราดำเนินตาม เพื่อเป็นสุข

การรับใช้ผู้คนคือ ทำให้ผู้คนได้รับการชำระให้บริสุทธิ์จากพระเจ้า

ให้เขาเป็นคนชอบธรรมโดยผ่านชีวิตของเราที่ยอมให้พระเจ้าใช้ แม้ว่าการดำเนินชีวิตในโลกนี้อาจมีฝุ่นแห่งบาปเกาะทำให้เปื้อนบ้าง การให้พระเจ้าชำระล้าง โดยการสารภาพบาปกับพระองค์ดำเนินในทางชอบธรรม ก็เป็นหนทางที่ทำให้เราสัมพันธ์สนิทกับพระเจ้า รักษาความเชื่อได้ มั่นใจในความรอดที่พระเจ้าประทานให้เรา ด้วยพระคุณของพระองค์

ขอพระเจ้าอวยพรท่าน ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

สนใจติดต่อเรา

www.facebook.com/FORWARD.CH.TH

Email: actsministry2017@gmail.com

 

 

บทความก่อนหน้านี้ก้าวที่ 19 ชีวิตที่สร้างสาวกของพระเจ้า (1ธส2:7-16)
บทความถัดไปก้าวที่ 21 ชีวิตที่มีชัยชนะเหนือการข่มเหง (ยน16:1-4)

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่