หลังจากที่ท่านได้ศึกษาก้าวที่1 ไปแล้ว ท่านคงทราบว่าเราเห็นพระเจ้าได้ก็เมื่อพระเจ้าสำแดงพระองค์ให้เรารู้จัก ผ่านทางความเชื่อ ไม่ใช่เกิดจากความคิดสติปัญญาของเราในการอธิบายหรือตีความ หรือสร้างทฤษฎีเพื่อพยายามอธิบายหรือทำความเข้าใจว่า พระเจ้าเป็นอย่างไรตามความคิด ประสบการณ์ หรือปรัชญาทางศาสนา หรือทางสังคมใดๆ ของเรา

เมื่อท่านเชื่อท่านจะได้เห็นพระเจ้า

สำหรับก้าวที่2 นี้เป็นเรื่องการบังเกิดใหม่ในฝ่ายจิตวิญญาณ ท่านฟังแล้วอาจจะรู้สึกงงๆ แต่ไม่เป็นไร อ่านพระคัมภีร์ไปก่อนตามที่บันทึกเรื่องนี้ไว้ ท่านจะค่อยๆเข้าใจ เรื่องการบังเกิดใหม่ ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องที่เกิดจากความเชื่อพระเจ้าจริงๆ รายละเอียดอยู่ในพระคัมภีร์ ยน3:1-21

1มีชายคนหนึ่งในพวกฟาริสีชื่อ”นิโคเดมัส”เป็นขุนนางของพวกยิว 2คนนี้มาหาพระเยซูตอนกลางคืนทูลพระองค์ว่า “ท่านอาจารย์ เราทราบว่าท่านเป็นครูที่มาจากพระเจ้า เพราะไม่มีใครทำหมายสำคัญที่ท่านทำนั้นได้ นอกจากพระเจ้าสถิตกับเขา” 3พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า ถ้าคนใดไม่ได้เกิดใหม่ คนนั้นไม่สามารถเห็นแผ่นดินของพระเจ้า” 4นิโคเดมัสทูลพระองค์ว่า “คนชราจะเกิดใหม่ได้อย่างไร? จะเข้าไปในท้องของแม่ครั้งที่สองแล้วเกิดใหม่ได้หรือ?” 5พระเยซูตรัสว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า ถ้าใครไม่ได้เกิดจากน้ำและพระวิญญาณ คนนั้นจะเข้าในแผ่นดินของพระเจ้าไม่ได้ 6ที่เกิดจากเนื้อหนังก็เป็นเนื้อหนัง และที่เกิดจากพระวิญญาณก็เป็นวิญญาณ 7อย่าประหลาดใจที่เราบอกท่านว่าพวกท่านต้องเกิดใหม่ 8ลมจะพัดไปที่ไหนก็พัดไปที่นั่น และท่านได้ยินเสียงลมนั้นแต่ไม่รู้ว่าลมมาจากไหนและไปที่ไหน คนที่เกิดจากพระวิญญาณ ก็เป็นอย่างนั้นทุกคน” 9นิโคเดมัสทูลพระองค์ว่า “เหตุการณ์อย่างนี้จะเป็นไปได้อย่างไร?” 10พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “ท่านเป็นถึงอาจารย์ของคนอิสราเอล ท่านไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้เลยหรือ? 11เราบอกความจริงกับท่านว่า เราพูดสิ่งที่เรารู้ และเป็นพยานถึงสิ่งที่เราเห็น แต่พวกท่านไม่ยอมรับคำพยานของเรา 12ถ้าเราบอกพวกท่านถึงสิ่งต่างๆ ทางฝ่ายโลกและพวกท่านไม่เชื่อ แล้วท่านจะเชื่อได้อย่างไรถ้าเราบอกท่านถึงสิ่งต่างๆ ทางฝ่ายสวรรค์ 13ไม่มีใครเคยขึ้นไปสวรรค์นอกจากผู้ที่ลงมาจากสวรรค์ คือบุตรมนุษย์ 14โมเสสยกงูขึ้นในถิ่นทุรกันดารอย่างไร บุตรมนุษย์จะต้องถูกยกขึ้นอย่างนั้น 15เพื่อทุกคนที่วางใจพระองค์จะได้ชีวิตนิรันดร์”

16พระเจ้าทรงรักโลกดังนี้ คือได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์ 

17เพราะว่าพระเจ้าทรงให้พระบุตรเข้ามาในโลก ไม่ใช่เพื่อพิพากษาโลก แต่เพื่อช่วยกู้โลกให้รอดโดยพระบุตรนั้น 18คนที่วางใจในพระบุตรจะไม่ถูกพิพากษา ส่วนคนที่ไม่ได้วางใจก็ถูกพิพากษาอยู่แล้ว เพราะเขาไม่ได้วางใจในพระนามพระบุตรองค์เดียวของพระเจ้า 19หลักการพิพากษามีอย่างนี้ คือความสว่างเข้ามาในโลกแล้ว แต่มนุษย์รักความมืดมากกว่าความสว่าง เพราะกิจการของพวกเขาเลวทราม 20เพราะทุกคนที่ประพฤติชั่วก็เกลียดความสว่าง และไม่มาหาความสว่าง เนื่องจากกลัวว่าการกระทำของตนจะปรากฏ 21แต่คนที่ประพฤติตามความจริงก็มาถึงความสว่าง เพื่อให้เห็นว่าการกระทำของเขานั้นทำโดยพึ่งพระเจ้า

“ก้าวที่ 2 ชีวิตที่มีความเชื่อในพระเจ้า ยน3:1-21″

A : Attitude

เราได้รับความรู้ใหม่ๆ หรือเราได้รับทัศนคติใหม่ๆ จากพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่อ่านเรื่องอะไรบ้าง?

ตอบ เมื่อเราอ่านพระธรรมตอนนี้เราจะพบว่าพระเยซูบอกว่า “คนที่ไม่ได้เกิดใหม่ (หมายถึงเกิดใหม่จากฝ่ายวิญญาณไม่ใช่ฝ่ายร่างกาย) คนนั้นไม่สามารถเห็นแผ่นดินของพระเจ้า และคนที่ไม่ได้เกิดจากน้ำและพระวิญญาณคนนั้นเข้าแผ่นดินของพระเจ้าไม่ได้” ต่อมาพระองค์บอกว่าคนวางใจในพระองค์จะไม่พินาศแต่มีชีวิตนิรันดร์ เพื่อให้เห็นว่าการกระทำของเขาทำโดยการพึ่งพาพระเจ้า 

แสดงว่าถ้าเราไม่เชื่อพระเยซูคริสต์เป็นพระเจ้า เราจะพึ่งพาพระองค์ได้อย่างไร เมื่อเราไม่เชื่อพระองค์เราจะเห็นแผ่นดินของพระเจ้า และเข้าอยู่ในแผ่นดินของพระองค์ได้อย่างไร 

การเกิดใหม่ในที่นี้ หมายถึง การที่เรามีชีวิตจิตวิญญาณใหม่(หมายถึง ก่อนหน้านั้นเราไม่รู้จักพระเจ้าแต่บัดนี้เชื่อวางใจพระเจ้า) โดยพระเจ้าเป็นผู้ให้กำเนิดเราฝ่ายจิตวิญญาณ ส่งผลให้วิญญาณของเราเมื่อออกจากร่างกายนี้ไปเราไม่ต้องไปใช้กรรมหรือเกิดใหม่ หรือไปนรก หรือได้รับการลงโทษ แต่พระเยซูบอกในพระธรรมตอนนี้ว่าเราจะได้รับชีวิตนิรันดร์ ไม่ถูกพิพากษา เมื่อเราเกิดใหม่ในฝ่ายจิตวิญญาณโดยพระเจ้าเป็นผู้กระทำ และเรามีความเชื่อเช่นนี้ เราจึงดำเนินชีวิตโดยรักษาความเชื่อเช่นนี้จนกว่าเราจะจากโลกนี้ไป เราจะไม่พินาศแต่มีชีวิตนิรันดร์

C : Christ in focus

เรามองเห็นพระเยซูเป็นใคร พระองค์ทำอะไรบ้าง ผ่านพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่เราอ่านอย่างไรบ้าง?

ตอบ พระเยซูมาเพื่อช่วยเหลือเราไม่ให้รับการพิพากษา แต่ขึ้นอยู่กับเราจะเชื่อวางใจพระองค์หรือไม่ พระองค์ไม่บังคับเรา พระองค์เสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์และประกาศความจริงเรื่องนี้ และทำราชกิจตายไถ่บาป รับการลงโทษแทนเราที่กางเขน ขึ้นอยู่กับเราว่าจะเชื่อวางใจพระองค์หรือไม่ 

ในเวลานั้นนิโคเดมัสแก่มากแล้ว เขาไม่เข้าใจว่าจะเกิดใหม่ได้อย่างไร พระเยซูจึงอธิบายว่าเป็นการเกิดใหม่ในความเชื่อวางใจในพระเจ้า ผ่านทางพระเยซูคริสต์ ซึ่งมนุษย์จะคิดขึ้นเองไม่ได้ แต่เกิดจากการที่พระเจ้ามาบอก พระเจ้าสำแดง และทำให้เราเข้าใจ ส่วนความเชื่อของเราเป็นสิ่งที่ทำให้เห็นว่าเรื่องที่พระเจ้าบอกไว้เป็นจริง

เปรียบเทียบเหมือนพระเจ้าทรงข่าวสารผ่านดาวเทียมส่งคลื่นมา เราเป็นจานรับแต่เราไม่มีความเชื่อ เราก็ไม่ได้ปรับแต่งคลื่นให้ตรงกับพระองค์ แต่เมื่อเราเชื่อ เราจะได้รับข่าวสารแห่งจิตวิญญาณ เราได้รับสิทธิต่างๆที่ พระสัญญามากมายแก่เรา ตามที่พระเจ้าสัญญาให้ผ่านทางพระคริสต์ธรรมคัมภีร์

ส่ิงเหล่านี้เกิดขึ้นเป็นจริงในชีวิตของเรา ในชีวิตของผู้เชื่อก่อนหน้าที่เราจะเชื่อโดยในที่สุดเราจะมีความมั่นใจเรื่องของพระเจ้าตั้งแต่วันที่เราเชื่อตอนมีชีวิตในโลกนี้

ยิ่งกว่านั้นเมื่อเป็นเรื่องที่พระเจ้าสัญญาไว้ให้กับเรา ที่เป็นเรื่องหลังความตายเราจะไม่มีความสงสัยเลย เพราะความเชื่อในพระเจ้าทำให้เราเห็นพระสัญญามากมายของพระเจ้าเป็นจริงในชีวิตของเรา ตั้งแต่ที่เราเริ่มเชื่อ

“เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรจะไม่พินาศแต่มีชีวิตนิรันดร์ “

T : Transformation

เราต้องการให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราในด้านใดบ้าง?      

ตอบ เราต้องแสวงหาพระเจ้าด้วยความจริงใจ ความเชื่อเป็นเรื่องที่บังคับกันไม่ได้ เค้นออกมาไม่ได้ แต่จะเกิดขึ้นเมื่อเราต้องการคืนดีกับพระเจ้า ดังนั้นเราต้องเชื่อในพระเยซูคริสต์ เราถึงจะเชื่อในเรื่องราวของพระองค์ได้

ส่วนการเกิดใหม่ไม่ได้เกิดจากการกระทำหรือความพยายามของเรา แต่พระเจ้าเป็นผู้ให้กำเนิดเราฝ่ายวิญญาณผ่านทางความเชื่อ เพื่อเราจะได้เห็นและเข้าในแผ่นดินของพระเจ้าโดยพระเจ้าเป็นคนกระทำให้เราผ่านทางพระเยซูคริสต์ 

ผลที่เกิดขึ้นเมื่อเราเชื่อในพระเยซูคริสต์ เราจะเป็นลูกของพระเจ้า เป็นลูกของความสว่าง มีลักษณะชีวิตที่เป็นคนดีเหมือนพระลักษณะของพระเจ้า ไม่ใช่ลูกของความบาป ที่ต้องรับการลงโทษอีกต่อไป

 

“ท่านไม่ต้องรับการพิพากษาลงโทษจากพระเจ้า

ด้วยความเชื่อ”

S : Serve

เราจะดำเนินชีวิตเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น และต่อพระเจ้าได้อย่างไรบ้าง?

ตอบ  รับใช้พระเจ้าด้วยชีวิต โดยชีวิตเราได้รับการเปลี่ยนแปลงจากพระเจ้า เราสามารถเป็นพยานอย่างง่ายๆ หรือสามารถเล่าเรื่องที่เราได้พบพระเยซู ได้เชื่อพระเยซู พระองค์ทำให้เรามีการเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทางที่ดี เราเป็นลูกพระเจ้า เราเป็นลูกความสว่างได้อย่างไร มีผลดีอะไรเกิดขึ้นบ้างในชีวิตของเราเมื่อได้เชื่อในพระเยซูคริสต์

ขอให้เราตั้งใจรักษาชีวิตที่เป็นลูกพระเจ้า เป็นลูกของความสว่าง จนกว่าจะเข้าในแผ่นดินของพระเจ้าตามที่พระองค์สัญญา และเราดำเนินชีวิต เรารับใช้ด้วยความเชื่อในพระเยซูคริสต์

ขอพระเจ้าอวยพรท่าน ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

 

สนใจติดต่อเรา

actsministry2017@gmail.com

 

บทความก่อนหน้านี้ก้าวที่ 1 ชีวิตที่มีความเชื่อในพระเจ้า ยน20:24-31
บทความถัดไปก้าวที่ 3 ชีวิตที่กลับใจใหม่จากบาป (ลก7:36-50)

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่