ลักษณะชีวิตคริสเตียนที่ดำเนินชีวิต “สัมพันธ์สนิทกับคริสตจักรของพระคริสต์” (ชุมชนของพระเจ้า:เรียนรู้จากลักษณะคริสตจักรทั้งเจ็ด วว2:1-3:22)

ก้าวที่ 38 เรียนรู้จาก:คริสตจักรเมืองเอเฟซัส (วว2:1-7)

ก้าวที่ 39 เรียนรู้จาก:คริสตจักรเมืองสเมอร์นา (วว2:8-11)

ก้าวที่ 40 เรียนรู้จาก:คริสตจักรเมืองเปอร์กามัม (วว2:12-17)

ก้าวที่ 41 เรียนรู้จาก:คริสตจักรเมืองธิยาทิรา (วว2:18-29)

ก้าวที่ 42 เรียนรู้จาก:คริสตจักรเมืองซาร์ดิส (วว3:1-6)

ก้าวที่ 43 เรียนรู้จาก:คริสตจักรเมืองฟีลาเดลเฟีย (วว3:7-13)

ก้าวที่ 44 เรียนรู้จาก:คริสตจักรเมืองเลาดีเซีย (วว3:14-22)

ก้าวที่ 45 เรียนรู้จาก:ความสัมพันธ์ของพระเยซูคริสต์กับคริสตจักร

ก้าวที่ 46 เรียนรู้จาก: การรับรู้ของพระเยซูคริสต์ที่มีต่อคริสตจักร

ก้าวที่ 47 เรียนรู้จาก:ทัศนคติของพระเยซูคริสต์ต่อคริสตจักร

ก้าวที่ 48 เรียนรู้จาก:พระสัญญาของพระเยซูคริสต์ที่มีต่อคริสตจักร

ลักษณะชีวิตคริสเตียนที่ดำเนินชีวิต 

สัมพันธ์สนิทกับคริสตจักรของพระคริสต์ 

(ชุมชนของพระเจ้า:เรียนรู้จากลักษณะ

คริสตจักรทั้งเจ็ด วว2:1-3:22)

ก้าวที่ 45 เรียนรู้จาก:ความสัมพันธ์ของพระเยซูคริสต์กับคริสตจักร

ตอนที่ 8 เรียนรู้จาก:ความสัมพันธ์ของพระเยซูคริสต์กับคริสตจักร

1.คริสตจักรที่เมืองเอเฟซัส (วว2:1)

2.คริสตจักรเมืองสเมอร์นา (วว2:8)

3.คริสตจักรเมืองเปอร์กามัม (วว2:12)

4.คริสตจักรเมืองธิยาทิรา (วว2:18)

5.คริสตจักรเมืองซาร์ดิส (วว3:1)

6.คริสตจักรเมืองฟีลาเดลเฟีย (วว3:7)

7.คริสตจักรเมืองเลาดีเซีย (วว3:14)

โดย อ.กิจขจร  ลิ่วเฉลิมวงศ์ (6 มิ.ย. 2020)

เบื้องหลังของการเรียนรู้เรื่องความสัมพันธ์ของพระเยซูคริสต์ กับคริสตจักรทั้ง 7 จากพระธรรม วว2:1-3:22 มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้อ่านรู้ว่าพระเยซูคริสต์ พระองค์ทรงเป็นผู้ใดและพระองค์จะทำอะไร ทำอย่างไร สำหรับคริสตจักรทั้ง 7  เพราะสิ่งที่พระเยซูคริสต์ทรงเป็นย่อมต้องเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับคริสตจักรของพระองค์อย่างแน่นอน และสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับปัญหาหรือสถานการณ์ของคริสตจักรที่กำลังเผชิญอยู่ในเวลานั้นๆ เช่นกัน

โดยอ.ยอห์นได้รับการสำแดงจากพระเยซูคริสต์ ให้เขียนเรื่องนี้ไว้ในหนังสือม้วน และส่งไปให้คริสตจักรทั้งเจ็ด (วว1:11) ตรัสว่าสิ่งที่ท่านเห็นนั้นจงเขียนไว้ในหนังสือม้วน และส่งไปให้คริสตจักรทั้งเจ็ด คือคริสตจักรที่เมือง(1)เอเฟซัส เมือง(2)สเมอร์นา เมือง(3)เปอร์กามัม เมือง(4)ธิยาทิรา เมือง(5)ซาร์ดิส เมือง(6)ฟีลาเดลเฟียและเมือง(7)เลาดีเซีย

เนื้อหาสำหรับตอนที่ 8 นี้เน้นความสัมพันธ์ของพระเยซูคริสต์กับคริสตจักรทั้ง 7 โดยท่านสามารถเรียนรู้เพื่อสำรวจตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างการดำเนินชีวิตของท่านกับพระเยซูคริสต์เป็นไปตามพระทัยพระเจ้าหรือไม่

และชุมชนของพระเจ้า หรือคริสตจักรท้องถิ่นที่ท่านผูกพันตัวได้ดำเนินพันธกิจเป็นไปตามพระประสงค์ของพระเจ้าหรือไม่ เพื่อเราจะเป็นผู้ชนะ ได้รับตามสิ่งที่พระเยซูคริสต์ทรงสัญญาว่าจะให้เราได้รับในวันสุดท้าย

วว2:1,8,12,18; 3:1,7,14 “จงเขียนถึง ทูตสวรรค์ของคริสตจักรที่เมืองเอเฟซัส,สเมอร์นา,เปอร์กามัม,ธิยาทิรา,ซาร์ดิส,ฟีลาเดลเฟีย และเลาดีเซีย

ฑูตสวรรค์ อาจจะหมายถึง ฑูตสวรรค์ที่เป็นวิญญาณจริงๆก็ได้หรือเป็นผู้นำผู้ปกครอง หรือศิษยาภิบาลของคริสตจักรก็ได้ การแปลความให้ใช้บริบทของเนื้อหาเป็นตัวชี้วัดในการตัดสินใจอีกที บางคนก็เชื่อว่าเป็นฑูตสวรรค์จริงๆไม่ใช่หมายถึง ผู้นำหลักของคริสตจักร แต่ไม่มีทัศนไหนบอกว่า

ฑูตสวรรค์ในคริสตจักรทั้งเจ็ดเป็นมนุษย์ ที่ทำหน้าที่เป็นผู้นำเท่านั้น

วันนี้เราจึงมาเรียนรู้เรื่อง ลักษณะชีวิตคริสเตียนที่ดำเนินชีวิต

สัมพันธ์สนิทกับคริสตจักรของพระคริสต์ 

(ชุมชนของพระเจ้า:เรียนรู้จากลักษณะคริสตจักรทั้งเจ็ด วว2:1-3:22)

ตอนที่ 8 เรียนรู้จากความสัมพันธ์ของ

พระเยซูคริสต์กับคริสตจักรทั้ง 7

1.คริสตจักรที่เมืองเอเฟซัส (วว2:1)

วว2:1 จงเขียนถึงทูตสวรรค์ของคริสตจักรที่เมืองเอเฟซัสว่าพระองค์ผู้ทรงถือดาวทั้งเจ็ดไว้ในพระหัตถ์ขวา และทรงดำเนินอยู่ท่ามกลางคันประทีปทองคำทั้งเจ็ดนั้นตรัสดังนี้ว่า

เรามาดูรายละเอียดได้เห็นพระเจ้าอย่างไร?

ถือดาวทั้งเจ็ดดวง ให้ความหมายถึง บรรดาฑูตสวรรค์ของคริสตจักรทั้งเจ็ด ซึ่งได้อธิบายเรื่องฑูตสวรรค์ไว้ในคำนำตอนต้นไปแล้ว

ไว้ในพระหัตถ์ขวา แสดงถึง การกำไว้แน่นคริสตจักรไม่มีทางถูกฉกฉวยไปจากพระองค์ได้ เพราะการทรงครอบครองสูงสุดอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์นั่นเอง

ความหมายในตอนน้ีน่าจะหมายถึง พระเยซูคริสต์ทรงใช้สิทธิอํานาจของ พระองค์ผ่านทางผู้รับใช้ของพระองค์ในคริสตจักร (แสดงว่าผู้รับใช้ต้องใช้สิทธิอำนาจของพระเยซูคริสต์ตามพระทัย ไม่ใช่ตามความพึงพอใจของตน)

คันประทีปทองคำทั้งเจ็ด ให้ความหมายถึง พระเยซูคริสต์ทรงดำเนินอยู่ท่ามกลางคริสตจักรทั้งเจ็ด(หรือคริสตจักรต่างๆ) พระองค์ทรงทราบความเป็นไปทุกอย่าง ผลที่เกิดจากการกล่าวแสดงตัวของพระองค์ คือ การให้เห็นว่าพระคริสต์ทรงปรากฎอยู่ที่นั่นท่ามกลางคริสตจักร ทรงเป็นผู้ห่วงไยใกล้ชิด และคอยเอาใจใส่คริสตจักรของพระองค์

ก่อนหน้านั้นพระคัมภีร์ได้อธิบายเองว่าดาวทั้งเจ็ดดวงและคันประทีปคืออะไร

วว1:20 ส่วนความล้ำลึกของดาวทั้งเจ็ดดวงซึ่งเจ้าเห็นในมือขวาของเรา และของคันประทีปทองคำทั้งเจ็ดนั้น ดาวเจ็ดดวงก็คือบรรดาทูตสวรรค์ของคริสตจักรทั้งเจ็ด และคันประทีปเจ็ดคันนั้นก็คือคริสตจักรทั้งเจ็ด

การนำไปประยุกต์ใช้ เราควรตระหนักถึงความห่วงไยของพระเยซูคริสต์ที่มีต่อผู้เชื่อ และคริสตจักร พระองค์ไม่ต้องการให้เกิดปัญหาภายในคริสตจักรไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตกจากความรักดั้งเดิม หรือการสอนผิดไปจากความเชื่อ หรือมีปัญหาการปกครองในคริสตจักร ทำให้ผู้เชื่อไม่รับพระพร และข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ พระมหาบัญชาไม่ถูกประกาศออกไป

คริสตจักรและผู้เชื่อควรให้ความสำคัญของพระเยซูคริสต์ในการดูแลคริสตจักร ในการปกครองคริสตจักร เพื่อให้คริสตจักรดำเนินตามพระทัยพระเจ้าการใช้สิทธิอำนาจปกครองคริสตจักร การอภิบาลสมาชิกต้องใช้ด้วยความถูกต้องตามพระวจนะ   การสอนพระคัมภีร์ต้องถูกต้องตามพระวจนะ

สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ ความรักที่มีต่อพระเจ้า และความรักที่มีต่อผู้อื่น

2.คริสตจักรเมืองสเมอร์นา (วว2:8)

วว2:8จงเขียนถึงทูตสวรรค์ของคริสตจักรที่เมืองสเมอร์นาว่าพระองค์ผู้ทรงเป็นเบื้องต้นและเบื้องปลาย ผู้ซึ่งสิ้นพระชนม์แล้ว และกลับมีชีวิตอีก

เรามาดูรายละเอียดได้เห็นพระเจ้าอย่างไร?

เป็นเบื้องต้นและเบื้องปลาย ให้ความหมายถึง ในพระคัมภีร์เดิมหมายถึง พระนามของพระเจ้า

อสย44:6พระยาห์เวห์ พระมหากษัตริย์ของอิสราเอลและพระผู้ไถ่ของเขา  พระยาห์เวห์จอมทัพ ตรัสดังนี้ว่าเราเป็นเบื้องต้นและเราเป็นเบื้องปลายนอกจากเราแล้วไม่มีพระเจ้า

พระนามของพระเยซูคริสต์มีฐานะเท่าเทียมกับพระเจ้า

ฮบ13:8 พระเยซูคริสต์ทรงเหมือนเดิมทั้งวานนี้ และวันนี้ และตลอดไปเป็นนิตย์

ผู้ซึ่งสิ้นพระชนม์แล้ว และกลับมีชีวิตอีก ให้ความหมายถึง  พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงดำรงอยู่นิรันดร์นั่นเอง

วว1:5,8,17และจากพระเยซูคริสต์พยานผู้ซื่อสัตย์ ซึ่งเป็นผู้แรกที่ทรงเป็นขึ้นจากตาย และเป็นผู้ทรงครอบครองเหนือบรรดากษัตริย์ในโลกพระองค์ทรงรักเรา ทรงปลดปล่อยเราจากบาปของเราด้วยพระโลหิตของพระองค์ 8พระเจ้าผู้ทรงเป็นอยู่ ผู้ทรงเคยเป็นอยู่ ผู้ที่จะเสด็จมา และผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด ตรัสว่า เราเป็นอัลฟาและโอเมกา17เมื่อข้าพเจ้าเห็นพระองค์ ข้าพเจ้าก็ล้มลงแทบพระบาทของพระองค์เหมือนอย่างคนตาย และพระองค์วางพระหัตถ์ขวาบนตัวข้าพเจ้า แล้วตรัสว่าอย่ากลัวเลย เราเป็นเบื้องต้นและเป็นเบื้องปลาย

วว21:6 แล้วพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่าสำเร็จแล้ว เราเป็นอัลฟาและโอเมกา เป็นปฐมและอวสาน ใครที่กระหาย เราจะให้เขาดื่มจากบ่อน้ำพุแห่งชีวิตโดยไม่ต้องเสียอะไรเลย

วว22:13 เราคืออัลฟาและโอเมกา เป็นเบื้องต้นและเบื้องปลาย เป็นปฐมและอวสาน

การนำไปประยุกต์ใช้ ส่ิงที่พระเยซูคริสต์ทรงเป็น สิ่งนั้นจะมีความสัมพันธ์ต่อผู้เชื่อและคริสตจักร โดยเฉพาะเมื่อเผชิญเรื่องการทนทุกข์จนถึงความตาย พระเยซูคริสต์ทรงหนุนใจเราเพราะพระองค์ทรงผ่านประสบการณ์นั้นมาแล้ว พระองค์ทรงสิ้น พระชนม์บนไม้กางเขนไถ่บาปเรา และพระองค์เป็นขึ้นจากความตายแล้ว มีชัยชนะเหนือความตาย

ผู้เชื่อก็จะผ่านความทุกข์ยากลำบากไปได้ โดยมีความเชื่อในพระเยซูคริสต์ พระองค์เป็นพระเจ้าทรงดำรงอยู่นิรันดร์ ความตายพ่ายแพ้ต่อพระองค์ ผู้เชื่อจะมีชัยชนะร่วมกันกับพระองค์ในที่สุด ได้รับชีวิตนิรันดร์

คริสตจักรและผู้เชื่อควรให้ความสำคัญกับพระเยซูคริสต์ พึ่งพาพระองค์ เชื่อวางใจในพระองค์ และดำเนินชีวิตผ่านความยากลำบากทุกข์ยาก โดยพึ่งพาพระเยซูคริสต์ รักษาความเชื่อจนวันสุดท้าย ไม่ปฎิเสธความเชื่อ ไม่ประนีประนอมต่อความบาป ไม่ตั้งใจทำบาปผิดต่อพระเจ้า  หรือดำเนินชีวิตผิดไปจากที่พระเจ้าทรงเรียกให้เราเป็นคนชอบธรรมแล้ว

คนเราจะไม่ยอมตายเพื่อคนรู้จัก แต่อาจจะยอมตายเพื่อคนที่ตนเองรักก็เป็นไปได้ คนที่ตายเพราะความเชื่อในพระเยซูคริสต์ก็รักพระองค์เช่นเดียวกัน

3.คริสตจักรเมืองเปอร์กามัม (วว2:12)

วว2:12 ยอห์นถูกบัญชาให้เขียนว่าพระองค์ผู้ทรงถือดาบสองคมที่คมกริบ ตรัสดังนี้ว่า ข้อ 16 จะต่อสู้กับพวกเขาด้วยดาบในปากของเรา

เรามาดูรายละเอียดได้เห็นพระเจ้าอย่างไร?

ดาบ ให้ความหมายถึง  สิทธิอำนาจในการพิพากษาของพระคริสต์  ดาบสองคม ให้ความหมายถึง การวินิจฉัยที่เฉียบคมในการแยกแยะสิ่งที่ถูกและผิด

พระเยซูจึงให้คําบรรยายอันไพเราะและเป็นเอกลักษณ์เกี่ยวกับพระองค์เองอีกครั้งสำหรับผู้เชื่อที่เมืองเปอร์กามัม โดยพระวจนะของพระเจ้าถูกเปรียบว่าเป็นเหมือนกับดาบสองคม

ฮีบรู 4:12 เพราะว่าพระวจนะของพระเจ้านั้นมีชีวิตและทรงพลานุภาพอยู่เสมอ และคมยิ่งกว่าดาบสองคมใดๆ แทงทะลุกระทั่งแยกจิตและวิญญาณ ทั้งข้อกระดูกและไขในกระดูก และสามารถวินิจฉัยความคิดและความมุ่งหมายในใจด้วย

ยอห์นก็บรรยายถึงพระองค์แบบนี้ใน ว่าทรงมีพระแสงสองคมออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์

วิวรณ์ 1:16 พระหัตถ์ขวาของพระองค์ทรงถือดวงดาวเจ็ดดวง และมีดาบสองคมที่คมกริบออกมาจากพระโอษฐ์

แม้เมืองเปอร์กามัมจะเป็นเมืองที่อาศัยของผู้ปกครองหรือสมุเทศาภิบาลของโรมที่มีอำนาจชี้เป็นชี้ตายได้  แต่ข้อความที่เปิดเผยจากยอห์นนั้นเล็งให้เห็นถึงอำนาจอธิปไตยสูงสุดของพระคริสต์ว่า พระองค์ทรงเป็นผู้พิพากษาที่ทรงอำนาจยิ่งใหญ่กว่าผู้ปกครองคนใดทั้งสิ้น

รม.13:3-4 เพราะว่าผู้ครอบครองนั้นไม่น่ากลัวเลยสำหรับคนที่ประพฤติดี แต่ว่าเป็นที่น่ากลัวสำหรับคนที่ประพฤติชั่ว ท่านไม่อยากจะกลัวผู้มีอำนาจหรือ? ถ้าอย่างนั้นก็จงทำแต่ความดี แล้วท่านก็จะได้เป็นที่พอใจของผู้มีอำนาจนั้น 4เพราะว่าผู้ครอบครองนั้น เป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าเพื่อให้ประโยชน์แก่ท่าน แต่ถ้าท่านทำความชั่วก็จงกลัวเถิด เพราะว่าผู้ครอบครองไม่ได้ถือดาบไว้เฉยๆ แต่เป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า และจะเป็นผู้ลงโทษแทนพระเจ้าแก่ทุกคนที่ประพฤติชั่ว

วว2:16 จะต่อสู้กับพวกเขาด้วยดาบในปากของเรา  น่าจะหมายถึง พระเจ้าจะใช้พระวจนะในการจัดการพวกสอนผิด ด้วยสิทธิอำนาจของพระองค์

การนำไปประยุกต์ใช้ พระเยซูคริสต์มีสิทธิอำนาจเหนือคริสตจักร พระองค์พิพากษาคริสตจักรได้ พระองค์ใช้พระวจนะของพระองค์ในการพิพากษา

ดังนั้นผู้เชื่ออย่ากลัวผู้ที่มีสิทธิอำนาจ ที่ใช้สิทธิอำนาจผิดๆต่อคริสตจักร

ไม่ว่าผู้มีอำนาจนั้นจะเป็นผู้ปกครองบ้านเมือง หรือเป็นผู้นำในคริสตจักร หรือเป็นพวกสอนผิด แต่ให้รู้จักความจริงของพระเจ้าผ่านพระวจนะของ พระเจ้าที่เป็นสิทธิอำนาจของพระเจ้า แล้วยึดมั่นใจพระเจ้า  ไม่ปฎิเสธความเชื่อในพระเยซูคริสต์

คริสตจักรและผู้เชื่อควรให้ความสำคัญของคำสอนของพระเจ้า  อย่าเบื่อหน่ายในการศึกษาพระวจนะ หรือเฝ้าเดี่ยว หรืออ่านพระคัมภีร์  เราจะไม่สามารถแยกแยะคำสอนเท็จได้หากเราไม่รู้ความจริงของพระวจนะ

ให้ระมัดระวังคำสอนเท็จ คำสอนผิด ด้วยการศึกษาพระคัมภีร์ ด้วยการตรวจสอบความถูกต้องของคำสอนด้วยพระวจนะ หรือด้วยการสอบถามจากผู้ที่ศึกษาพระคัมภีร์ สอนถูกต้องและดำเนินชีวิตตามพระวจนะที่พวกเขาสั่งสอน

4.คริสตจักรเมืองธิยาทิรา (วว2:18,23)

18“จงเขียนถึงทูตสวรรค์ของคริสตจักรที่เมืองธิยาทิราว่าพระองค์ผู้เป็นพระบุตรของพระเจ้า ผู้ทรงมีพระเนตรเหมือนอย่างเปลวไฟ และทรงมีพระบาทเหมือนทองสัมฤทธิ์ ได้ตรัสดังนี้ว่า

23เราจะประหารลูกๆ ของนางให้ตาย แล้วคริสตจักรทั้งหมดจะได้รู้ว่าเราเป็นผู้ตรวจสอบความคิดและจิตใจ และเราจะให้กับเจ้าทั้งหลายแต่ละคนตามความประพฤติของพวกเจ้า

เรามาดูรายละเอียดได้เห็นพระเจ้าอย่างไร?

พระองค์ผู้ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้าแสดงว่าพระองค์มีพระลักษณะแบบเดียวกับพระเจ้าเป็นการเน้นอย่างชัดเจนในคริสตจักรธิยาทิรา จากที่เคยกล่าวมาแล้วว่าบุตรมนุษย์ในวว1:13-15

ผู้ทรงมีพระเนตรเหมือนอย่างเปลวไฟแสดงถึงความสัพพัญญูของพระคริสต์ ทรงมีพระเนตรที่มองทะลุปุโปร่งเห็นชัดเจนถึงความจอมปลอมของผู้เผยวจนะหญิง ส่วนไฟ เล็งถึง การชำระให้บริสุทธิ์

พระบาทเหมือนทองสัมฤทธิ์เป็นการบ่งชี้ว่าพระองค์ทรงพลังอำนาจและทรงฉับไวอย่างยิ่ง ตามล่าทุกสิ่งที่ชั่วร้าย เหยียบมันไว้อยู่ใต้ฝ่าเท้า

ผู้ทรงมีพระเนตรเหมือนอย่างเปลวไฟ และพระบาทเหมือนทองสัมฤทธิ์ ทั้งสองอย่างแสดงถึง พระพิโรธและการพิพากษาอันชอบธรรมของพระคริสต์  โดยมีข้อ23 เป็นบริบทสนับสนุนเราเป็นผู้ตรวจสอบความคิด และจิตใจ”“เราจะให้เจ้าทั้งหลายแต่ละคนตามความประพฤติของเจ้า

พระเจ้ารู้ความคิดและจิตใจภายใน นี่คือการเห็นเข้าไปถึงท่าทีข้างใน (พระเนตร) พระองค์พิพากษาและตอบแทนคนเหล่านั้นตามแรงจูงใจของเขา ทั้งเรื่องความรอดและบำเหน็จ ก็มาจากแรงจูงใจที่รัก และเชื่อพระเจ้า  จากข้อ19 เรารู้จักความประพฤติของเจ้า รู้เรื่องความรัก ความเชื่อ การปรนนิบัติ และความทรหดอดทนของเจ้า และรู้ว่าความประพฤติในตอนปลายนั้นดีกว่าตอนต้น 

ดังนั้นการประพฤติภายนอกหลอกพระเจ้าไม่ได้  มีพระคัมภีร์สนับสนุนเรื่องนี้

2คร11:15 เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกเลยที่ผู้ปรนนิบัติของซาตาน จะปลอมตัวเป็นผู้ปรนนิบัติของความชอบธรรม บั้นปลายของพวกเขาจะเป็นไปตามการ กระทำของเขา

วว20:12 ข้าพเจ้ายังเห็นบรรดาคนตาย ทั้งคนใหญ่โตและคนเล็กน้อยยืนอยู่หน้าพระที่นั่งนั้น แล้วหนังสือต่างๆ ก็ถูกเปิดออก และหนังสืออีกเล่มหนึ่งก็ถูกเปิดออกด้วย คือหนังสือแห่งชีวิต คนตายก็ถูกพิพากษาตามการกระทำของเขาทั้งหลายที่เขียนไว้ในหนังสือเหล่านั้น

การนำไปประยุกต์ใช้  รักษาแรงจูงใจที่รักและเชื่อพระเจ้า แสดงออกเป็นการดำเนินชีวิต เป็นพฤติกรรม เป็นการรับใช้ อย่าแสดงออกภายนอกโดยท่าทีภายในไม่ถูกต้อง เราหลอกพระเจ้าไม่ได้  เพราะจะมีการพิพากษา

5.คริสตจักรเมืองซาร์ดิส (วว3:1)

วว3:1จงเขียนถึงทูตสวรรค์ของคริสตจักรที่เมืองซาร์ดิสว่าพระองค์ผู้ทรงมีพระวิญญาณทั้งเจ็ดของพระเจ้า และทรงมีดาวเจ็ดดวงนั้น

เรามาดูรายละเอียดได้เห็นพระเจ้าอย่างไร?

พระวิญญาณทั้งเจ็ด ให้ความหมายถึง พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าที่ตรัสกับคริสตจักรทั้งเจ็ด ซึ่งจะลงท้ายในจดหมายฝากไปยังคริสตจักรทั้งเจ็ดเสมอ วว2:7,11,17,29; 3:6,13,22 “ใครมีหูก็ให้ฟังข้อความที่พระวิญญาณได้ตรัสกับคริสตจักรทั้งหลาย

วว1:4 ยอห์น ขอเรียนคริสตจักรทั้งเจ็ดที่อยู่ในแคว้นเอเชียขอให้ท่านทั้งหลายได้รับพระคุณและสันติสุขจากพระองค์ผู้ทรงเป็นอยู่ ผู้ทรงเคยเป็นอยู่ และผู้ที่จะเสด็จมาและจากพระวิญญาณทั้งเจ็ดที่เฝ้าอยู่หน้าพระที่นั่งของพระองค์

วว5:6 และระหว่างพระที่นั่งกับสิ่งมีชีวิตทั้งสี่นั้น และท่ามกลางพวกผู้อาวุโส ข้าพเจ้าเห็นพระเมษโปดกทรงยืนอยู่ เหมือนดังถูกปลงพระชนม์แล้ว พระองค์ทรงมีเขาเจ็ดเขาและมีดวงตาเจ็ดดวง ซึ่งเป็นพระวิญญาณทั้งเจ็ดของพระเจ้า ที่พระเจ้าทรงส่งออกไปทั่วแผ่นดินโลกแล้ว

มีดาวเจ็ดดวง ให้ความหมายถึงผู้นำหลัก ศิษยาภิบาล ของทั้งเจ็ดคริสตจักร ก็อยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ หรือฑูตสวรรค์ที่พระเยซูคริสต์ใช้สื่อสารดูและคริสตจักรของพระองค์

วว1:16,20 พระหัตถ์ขวาของพระองค์ทรงถือดวงดาวเจ็ดดวง และมีดาบสองคมที่คมกริบออกมาจากพระโอษฐ์ และพระพักตร์ของพระองค์เหมือนอย่างดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงแรงกล้า 20ส่วนความล้ำลึกของดาวทั้งเจ็ดดวงซึ่งเจ้าเห็นในมือขวาของเรา และของคันประทีปทองคำทั้งเจ็ดนั้น ดาวเจ็ดดวงก็คือบรรดาทูตสวรรค์ของคริสตจักรทั้งเจ็ด และคันประทีปเจ็ดคันนั้นก็คือคริสตจักรทั้งเจ็ด

(การสำแดงเรื่องดาวเจ็ดดวง เหมือนกันกับการสำแดงกับคริสตจักรเมืองเอเฟซัส) วว2:1จงเขียนถึงทูตสวรรค์ของคริสตจักรที่เมืองเอเฟซัสว่าพระองค์ผู้ทรงถือดาวทั้งเจ็ดไว้ในพระหัตถ์ขวา และทรงดำเนินอยู่ท่ามกลางคันประทีปทองคำทั้งเจ็ดนั้นตรัสดังนี้ว่า

การนำไปประยุกต์ใช้ ส่ิงที่พระเยซูคริสต์ทรงเป็น สิ่งนั้นจะมีความสัมพันธ์ต่อผู้เชื่อและคริสตจักร พระองค์ทรงสื่อสารคริสตจักรให้กลับมามีชีวิตฝ่ายวิญญาณกับพระองค์ พระองค์ยังทรงปกครอง ทรงดูแลคริสตจักรของพระองค์ผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่พระเจ้าทรงประทานให้กับผู้เชื่อ และดูแลคริสตจักรของพระองค์ ผ่านผู้นำหลัก ศิษยาภิบาล ผู้ปกครองของคริสตจักรอีกด้วย

คริสตจักรและผู้เชื่อควรให้ความสำคัญกับเรื่องชีวิตฝ่ายวิญญาณ ในการสร้างชีวิตส่วนตัวกับพระเจ้า ให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ไม่ใช่แผนงานที่ประชุมโดยกรรมการบริหารคริสตจักรแต่เพียงอย่างเดียว ให้ความสำคัญกับการรู้จักพระเยซูคริสต์มากขึ้น ไม่ใช่กับกิจกรรมหรือโปรแกรมของคริสตจักรที่จัดขึ้นโดยปราศจากความคาดหวังในการเกิดผลฝ่ายวิญญาณ

6.คริสตจักรเมืองฟีลาเดลเฟีย (วว3:7)

วว3:7จงเขียนถึงทูตสวรรค์ของคริสตจักรที่เมืองฟีลาเดลเฟียว่าพระองค์ผู้บริสุทธิ์ ผู้ทรงสัตย์จริง ผู้ทรงมีลูกกุญแจของดาวิด ผู้ทรงเปิดแล้วจะไม่มีใครปิดได้ ผู้ทรงปิดแล้วจะไม่มีใครเปิดได้นั้น’ ตรัสดังนี้ว่า

เรามาดูรายละเอียดได้เห็นพระเจ้าอย่างไร?

ข้อความที่ไปถึงคริสตจักรเมืองฟีลาเดลเฟียเปิดเผยพระคริสต์ว่า

พระองค์ ผู้บริสุทธิ์  ผู้ทรงสัตย์จริงคำนี้เล็งถึง พระนามของพระเยซูคริสต์ในฐานะเป็นลูกแกะบริสุทธิ์เพื่อมอบถวายแด่พระเจ้า ในการชำระความผิดบาปของคนบาป ทำให้คนบาปได้รับการชำระชีวิตให้บริสุทธิ์ เพราะพระเยซูคริสต์ คือองค์บริสุทธิ์ คำนี้พบในวิวรณ์ตอนอื่น หมายถึง ลูกแกะของพระเจ้า

วว6:10,1 เขาทั้งหลายร้องเสียงดังว่าข้าแต่องค์เจ้านาย ผู้บริสุทธิ์และสัตย์จริง อีกนานเท่าใดพระองค์จึงจะทรงพิพากษา และแก้แค้นต่อคนทั้งหลายที่อยู่บนแผ่นดินโลกซึ่งหลั่งเลือดของเรา” 1และข้าพเจ้าเห็นพระเมษโปดกทรงแกะตราดวงหนึ่งในเจ็ดดวงนั้น และข้าพเจ้าได้ยินสิ่งมีชีวิตตนหนึ่งในสี่ตนนั้นร้องเสียงดังเหมือนอย่างเสียงฟ้าร้องว่ามาเถอะ

ยอห์นเห็นฑูตสวรรค์ออกนามพระเจ้า บริสุทธิ์ๆๆ ตอนนมัสการในสวรรค์

วว4:8 สิ่งมีชีวิตทั้งสี่นั้น แต่ละตนมีปีกหกปีก และมีตาอยู่รอบๆ และข้างในเต็มไปหมด และพวกเขาร้องตลอดวันตลอดคืนไม่ได้หยุดเลยว่า

บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ องค์พระผู้เป็นเจ้าคือพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด ผู้ทรงเคยเป็นอยู่ ผู้ทรงเป็นอยู่ และผู้ที่จะเสด็จมา

เหมือนอิสยาห์เห็นเสราฟิม ร้องออกนามพระเจ้า บริสุทธิ์ๆๆ เช่นกัน

อสย6:3ต่างก็ร้องต่อกันและกันว่า บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ พระยาห์เวห์จอมทัพแผ่นดินโลกทั้งสิ้นเต็มด้วยพระสิริของพระองค์

นอกจากองค์บริสุทธิ์ที่เล็งถึงพระเมษโปดกแล้ว คำว่าสัตย์จริงยังเล็งถึงพระเมสิยาห์ ผู้ทรงเป็นกษัตริย์ผู้ได้รับการเจิม

วว19:11,16 แล้วข้าพเจ้าเห็นสวรรค์เปิดออก และ นี่แน่ะ มีม้าสีขาวตัวหนึ่ง พระองค์ผู้ทรงม้านั้นมีพระนามว่าซื่อสัตย์และสัตย์จริงพระองค์ทรงพิพากษาและทรงต่อสู้ด้วยความชอบธรรม16พระองค์ทรงมีพระนามจารึกที่ฉลองพระองค์ และที่ต้นพระอูรุของพระองค์ว่ากษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งหลายและเจ้านายเหนือเจ้านายทั้งหลาย

ทรงมีลูกกุญแจของดาวิด ให้ความหมายถึง สิทธิอำนาจแห่งการให้ผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์เข้าแผ่นดินของพระเจ้า หรือเข้าในอาณาจักรของพระเมสิยาห์ ในฐานะผู้ทรงเป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรสวรรค์นั้น

คำนี้ใช้ในวิวรณ์หลายตอน ให้ความหมาย มีอำนาจในการเปิดประตู ให้เข้าในแผ่นดินของพระเจ้า เพราะถ้าใช้กุญแจไข ก็เป็นการเปิดประตูทางเข้าอาณาจักรของพระเจ้า ออกให้กับวิญญาณเข้าในแผ่นดินของพระเจ้า ถ้าไม่ไขกุญแจก็เข้าอาณาจักรของพระเจ้าไม่ได้นั่นเอง

วว1:18 เป็นผู้ที่ดำรงชีวิตอยู่ เราได้ตายแล้ว แต่นี่แน่ะ เรายังดำรงชีวิตอยู่ตลอดไปเป็นนิตย์ และเราถือลูกกุญแจทั้งหลายแห่งความตายและแห่งแดนคนตาย

วว9:1เมื่อทูตสวรรค์องค์ที่ห้าเป่าแตรขึ้น ข้าพเจ้าเห็นดาวดวงหนึ่งที่ได้ตกจากฟ้าลงมาที่แผ่นดินโลกแล้ว พระเจ้าประทานลูกกุญแจสำหรับช่องของบาดาลลึกให้แก่ดาวดวงนั้น

วว20:1แล้วข้าพเจ้าเห็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งลงมาจากสวรรค์ ท่านถือลูกกุญแจของบาดาลลึก และถือโซ่เส้นใหญ่ในมือของท่าน 

พระเยซูคริสต์ใช้ในความหมาย ให้สิทธิอำนาจของพระคริสต์ (พระเมสิยาห์) กับพวกสาวก หลังแห่งความตายมีชัยต่อคริสตจักรไม่ได้

มธ16:19เราจะมอบลูกกุญแจต่างๆ แห่งแผ่นดินสวรรค์ให้ไว้แก่ท่าน สิ่งใดที่ท่านกล่าวห้ามในโลก สิ่งนั้นก็จะถูกกล่าวห้ามในสวรรค์ และสิ่งใดที่ท่านกล่าวอนุญาตในโลก สิ่งนั้นก็จะได้รับอนุญาตในสวรรค์

และคำว่า กุญแจของดาวิด เคยใช้ในพระคัมภีร์เดิม พระเจ้าให้อิสยาห์เผยวจนะว่าจะตั้งเอลียาคิมคนใหม่ ดูแลแทนเชบนา ผู้ดูแลราชสำนักของดาวิด

อสย22:21-22 เราจะเอาเสื้อยศของเจ้ามาสวมให้เขา และจะเอาสายคาดเอวของเจ้าคาดเขาไว้ แล้วจะมอบอำนาจของเจ้าไว้ในมือของเขา เขาจะเป็นเหมือนบิดาของชาวกรุงเยรูซาเล็ม และของเชื้อวงศ์ยูดาห์22 และเราจะวางลูกกุญแจแห่งวังของดาวิดไว้บนบ่าของเขา เมื่อเขาเปิดแล้วก็จะไม่มีใครปิดได้ และเมื่อเขาปิดแล้วก็จะไม่มีใครเปิดได้

สรุปความหมาย  พระองค์เป็นใครและมีสิทธิอำนาจอะไร(เกี่ยวข้องกับคริสตจักรอย่างไรนั่นเอง)

พระองค์ผู้บริสุทธิ์ ผู้ทรงสัตย์จริง ผู้ทรงมีลูกกุญแจของดาวิดคือ พระนามของพระเยซูคริสต์ในฐานะเป็นลูกแกะ(พระเมษโปดก) บริสุทธิ์เพื่อมอบถวายแด่พระเจ้า ในการชำระความผิดบาปของคนบาป ทำให้คนบาปได้รับการชำระชีวิตให้บริสุทธิ์ และพระเมสิยาห์ ในฐานะทรงเป็นกษัตริย์ผู้ได้รับการเจิม แห่งอาณาจักรของพระเจ้า ผู้ทรงมีสิทธิอำนาจในการอนุญาตให้วิญญาณของผู้ที่ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์แล้วเข้าในแผ่นดินของพระองค์

การนำไปประยุกต์ใช้ เรื่องการเปิดเผยของพระเยซูคริสต์ว่าพระองค์เป็นใครสำหรับคริสตจักร จะมีความสัมพันธ์กับสถานการณ์ หรือสัมพันธ์กับคริสตจักรในช่วงเวลาขณะนั้น

จากพระธรรมตอนนี้เรารู้ว่า พระเยซูคริสต์เป็นผู้ตายไถ่บาป(ตามที่พระเจ้ากำหนด ตามวิธีการที่พระเจ้ากำหนด ไม่ใช่มนุษย์เราคิดพิธีกรรมนี้ขึ้นเอง) และพระเยซูคริสต์ทรงเป็นกษัตริย์แห่งแผ่นดินสวรรค์

เราทั้งหลายต้องรับความจริงที่ยอห์นบันทึกไว้ด้วยความเชื่อ และดำเนินชีวิตบริสุทธิ์เหมือนพระเจ้าผู้ทรงบริสุทธิ์ ดำเนินชีวิตให้สมกับการเป็นพลเมืองแห่งแผ่นดินของพระเจ้า เพราะพระเยซูคริสต์เป็นผู้เดียวที่เปิดประตูแห่งแผ่นดินสวรรค์นั้นได้

คริสตจักรและผู้เชื่อควรให้ความสำคัญกับราชกิจของพระเยซูคริสต์ ในเรื่องการประกาศข่าวประเสริฐ เรื่องการไถ่บาปของพระเยซูคริสต์ ประกาศความจริงนี้ออกไป โดยการดำเนินชีวิตบริสุทธิ์ รักษาความเชื่อในพระเยซูคริสต์

7.คริสตจักรเมืองเลาดีเซีย (วว3:14)

วว3:14จงเขียนถึงทูตสวรรค์ของคริสตจักรที่เมืองเลาดีเซียว่าพระองค์ผู้เป็นพระอาเมน ทรงเป็นพยานที่ซื่อสัตย์(4103)และสัตย์จริง(228) และทรงเป็นต้นกำเนิดของสิ่งสารพัดที่พระเจ้าทรงสร้างนั้น ตรัสดังนี้ว่า

เรามาดูรายละเอียดได้เห็นพระเจ้าอย่างไร?

พระอาเมน ทรงเป็นพยานที่ซื่อสัตย์(4103vpistos) ให้ความหมายถึง พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพยานด้วยพระองค์เอง เป็นผู้ซึ่งไว้วางใจได้ เชื่อถือได้ ในส่ิงที่พระองค์ ทรงกระทำ สิ่งที่พระองค์สอนสั่งบัญชา ส่ิงที่เป็นราชกิจของพระองค์ ทรงมีความน่าเชื่อถือ มีน้ำหนัก เป็นพยานเรื่องจริงไม่ใช่การเป็นพยานเท็จ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของพวกเขา(ผู้เชื่อ)  เน้นย้ำความเป็นพระเจ้าที่สมบูรณ์ ความสัตย์ซื่อของพระองค์

สัตย์จริง หรือ ความจริง เป็นสิ่งที่บำรุงเลี้ยงจิตวิญญาณจนถึงชีวิตนิรันดร์ เน้นย้ำความจริง ตอนนี้ ด้วยคำว่า อาเมน กับ สัตย์จริง (GK228. aléthinos (adj)อ่านว่า(al-ay-thee-nos’) แปลว่า ความจริง, จริงแท้)

ตอนนี้เป็นการย้ำ คำว่าซื่อสัตย์ซึ่งได้เคยกล่าวไว้ตอนต้นของวิวรณ์

วว1:5 และจากพระเยซูคริสต์พยานผู้ซื่อสัตย์(4103 pistos) ซึ่งเป็นผู้แรกที่ทรงเป็นขึ้นจากตาย และเป็นผู้ทรงครอบครองเหนือบรรดากษัตริย์ในโลกพระองค์ทรงรักเรา ทรงปลดปล่อยเราจากบาปของเราด้วยพระโลหิตของพระองค์

และในตอนท้ายของวิวรณ์ใช้คำว่า ซื่อสัตย์และสัตย์จริง เหมือนวว3:14 ยืนยันว่าพระเยซูคริสต์ จะเสด็จกลับมาพิพากษา

วว19:11แล้วข้าพเจ้าเห็นสวรรค์เปิดออก และ นี่แน่ะ มีม้าสีขาวตัวหนึ่ง พระองค์ผู้ทรงม้านั้นมีพระนามว่า ซื่อสัตย์(4103)และสัตย์จริง(228) พระองค์ทรงพิพากษาและทรงต่อสู้ด้วยความชอบธรรม

เป็นต้นกำเนิด ให้ความหมายถึง ทุกส่ิงถูกสร้างขึ้นโดยพระองค์ ไม่ใช่พระเยซูคริสต์ถูกสร้างขึ้นเป็นสิ่งแรกแล้วส่ิงอื่นๆจึงถูกสร้างตามมา พระเยซูคริสต์เป็นพระเจ้าทรงพระชนม์อยู่โดยพระองค์เอง ไม่ได้ถูกสร้าง

คส1:15-16 พระคริสต์ทรงเป็นพระฉายาของพระเจ้าผู้ไม่ทรงปรากฏแก่ตา ทรงเป็นบุตรหัวปีเหนือทุกสิ่งที่ทรงสร้าง 16เพราะว่าโดยพระองค์ทุกสิ่งได้รับการทรงสร้างขึ้น ทั้งสิ่งที่อยู่บนท้องฟ้าและบนแผ่นดินโลก ทั้งสิ่งที่มองเห็นและสิ่งที่มองไม่เห็น ไม่ว่าจะเป็นบัลลังก์แห่งพวกภูตผี หรือพวกภูตผีที่ปกครอง หรือพวกภูตผีที่ครอบครอง หรือพวกภูตผีที่มีอำนาจ ทุกสิ่งถูกสร้างขึ้นโดยพระองค์และเพื่อพระองค์

พูดกับคริสตจักรเมืองสเมอร์นา พระองค์ทรงเป็นเบื้องต้นและเบื้องปลาย

วว2:8“จงเขียนถึงทูตสวรรค์ของคริสตจักรที่เมืองสเมอร์นาว่าพระองค์ผู้ทรงเป็นเบื้องต้นและเบื้องปลาย ผู้ซึ่งสิ้นพระชนม์แล้ว และกลับมีชีวิตอีก ตรัสดังนี้ว่า

2คร1:20เพราะว่าพระสัญญาต่างๆ ของพระเจ้าล้วนแต่เป็นจริงโดยพระเยซู เพราะเหตุนี้เราจึงพูดว่าอาเมนโดยพระองค์ ซึ่งเป็นการถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า

การนำไปประยุกต์ใช้ ส่ิงที่พระเยซูคริสต์ทรงเป็น สิ่งนั้นจะมีความสัมพันธ์ต่อผู้เชื่อและคริสตจักร เรื่องราวของพระเจ้าเป็นความจริง พระองค์มาเป็นพยานความจริงด้วยตนเอง อย่ากลัวที่จะถูกตำหนิ ถูกตักเตือนให้กลับใจใหม่ ดีกว่าโดนพระเจ้าจะทรงพิพากษาในวันสุดท้าย

คริสตจักรและผู้เชื่อควรให้ความสำคัญกับการดำเนินชีวิตตามความจริงของพระวจนะพระเจ้า ให้ความสำคัญกับการรู้จักพระเยซูคริสต์มากขึ้น แสวงหาพระเจ้ามากขึ้น สร้างความสนิทสนมกับพระองค์มากขึ้น

กล่าวโดยสรุป 

1.คริสตจักรที่เมืองเอเฟซัส (วว2:1)

ถือดาวทั้งเจ็ดไว้ในพระหัตถ์ขวาใช้สิทธิอำนาจผ่านผู้นำคริสตจักร

ทรงดำเนินอยู่ท่ามกลางคันประทีปทองคำทั้งเจ็ดรู้ความเป็นไปทุกอย่าง

2.คริสตจักรเมืองสเมอร์นา (วว2:8)

พระองค์ผู้ทรงเป็นเบื้องต้นและเบื้องปลาย – พระนามของพระเจ้านิรันดร์

สิ้นพระชนม์แล้ว และกลับมีชีวิตอีกพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระเจ้านิรันดร์

3.คริสตจักรเมืองเปอร์กามัม (วว2:12)

พระองค์ผู้ทรงถือดาบสองคมที่คมกริบการพิพากษาเฉียบคมด้วยพระวจนะ

4.คริสตจักรเมืองธิยาทิรา (วว2:18)

ผู้ทรงมีพระเนตรเหมือนอย่างเปลวไฟความสัพพัญญูของพระเจ้า

พระบาทเหมือนทองสัมฤทธิ์ทรงฤทธิ์อำนาจทุกสิ่งอยู่ภายใต้พระองค์

5.คริสตจักรเมืองซาร์ดิส (วว3:1)

พระองค์ผู้ทรงมีพระวิญญาณทั้งเจ็ดของพระเจ้าพระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัส

ทรงมีดาวเจ็ดดวงใช้สิทธิอำนาจดูแลคริสตจักรผ่านผู้น

6.คริสตจักรเมืองฟีลาเดลเฟีย (วว3:7)

พระองค์ผู้บริสุทธิ์ลูกแกะมอบถวายไถ่บาปของพระเจ้า

ผู้ทรงสัตย์จริงพระเมสิยาห์ ผู้ทรงเป็นกษัตริย์ผู้ได้รับการเจิม

ลูกกุญแจของดาวิดสิทธิอำนาจของพระเยซูให้ผู้เชื่อเข้าแผ่นดินสวรรค์

7.คริสตจักรเมืองเลาดีเซีย (วว3:14)

พระองค์ผู้เป็นพระอาเมน – เป็นพระเจ้าจริง

ทรงเป็นพยานที่ซื่อสัตย์และสัตย์จริงเชื่อถือได้ เป็นจริง

และทรงเป็นต้นกำเนิดของสิ่งสารพัดรวมทั้งชีวิตของเราทุกคน

ขอพระเจ้าอวยพรท่าน ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

สนใจติดต่อเรา

www.facebook.com/FORWARD.CH.TH

Email: actsministry2017@gmail.com

อ้างอิง:
1https://biblehub.com/greek/32.htm
2Kenneth L. Barker และคณะ. พระคริสต์ธรรมคัมภีร์อมตธรรมร่วมสมัย ฉบับค้นคว้า. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: องค์การอมตธรรม, 2011, หน้า 2559.
3เจ. เกลน มอริส. แปลโดย ดารณี ประดับชนานุรัตน์. คู่มือศึกษาพระคัมภีร์ใหม่ วิวรณ์. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: โรงเรียนคริสตศาสนศาสตร์แบ๊บติสต์, 2019, หน้า 42-50.
4เจ. เกลน มอริส. แปลโดย ดารณี ประดับชนานุรัตน์. คู่มือศึกษาพระคัมภีร์ใหม่ วิวรณ์. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: โรงเรียนคริสตศาสนศาสตร์แบ๊บติสต์, 2019, หน้า62-68.
5https://biblehub.com/greek/4442.htm
6จอห์น เอฟ วาลวูร์ด. แปลโดย ธนาภรณ์  ธรรมสุจริตกุล. วิวรณ์. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: ศูนย์ทีรันนัส (สำนักพิมพ์ จีพี), 2001, หน้า 136-139.
7https://biblehub.com/commentaries/meyer/revelation/3.htm
8https://biblehub.com/greek/40.htm
9https://biblehub.com/greek/228.htm
10https://biblehub.com/greek/2807.htm
11https://biblehub.com/greek/3144.htm
12https://biblehub.com/greek/4103.htm
13https://biblehub.com/greek/228.htm
14เจ. เกลน มอริส. แปลโดย ดารณี ประดับชนานุรัตน์. คู่มือศึกษาพระคัมภีร์ใหม่ วิวรณ์. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: โรงเรียนคริสตศาสนศาสตร์แบ๊บติสต์, 2019, หน้า78-82.

บทความก่อนหน้านี้ตอนที่ 7 เรียนรู้จาก:คริสตจักรเมืองเลาดีเซีย (วว3:14-22)
บทความถัดไปตอนที่ 9 เรียนรู้จาก:การรับรู้ของพระเยซูคริสต์ต่อคริสตจักรทั้ง 7

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่