หน้าแรก คำสอน หว่าน หว่านตอนที่ 4 “การหว่านในภาคปฎิบัติ”

หว่านตอนที่ 4 “การหว่านในภาคปฎิบัติ”

1595
0
The Sower statue atop Nebraska's State Capitol.

สอน 4 ตอนบ่าย เสาร์ที่ 16 มี.ค. 19

การหว่านในภาคปฎิบัติ

หนุนใจคนที่รู้ว่า การหว่านในสิ่งที่ตอบสนองพระวิญญาณเป็นเรื่องที่ดีแต่ไม่ค่อยได้ทำหรือทำไม่ค่อยได้ เวลาส่วนใหญ่มักจะหว่านในเรื่องที่ตอบสนองฝ่ายเนื้อหนัง ผมขอหนุนใจท่านว่าท่านจะหว่านในส่ิงที่ตอบสนองพระวิญญาณได้ แม้ท่านจะคิดว่าเป็นไปไม่ได้ หรือเป็นเรื่องยาก

ขอยกตัวอย่าง ผมเป็นคนชอบดูหนังมาก ไม่มีทางเลิกดูได้ แต่เมื่อเริ่มรับผิดชอบหว่านส่ิงที่ตอบสนองพระวิญญาณมากขึ้นๆๆๆ ทุกวันนี้ก็ยังชอบดูหนังต่างประเทศ แต่ในที่สุดเวลาดูหนังแป๊บเดียวสามนาทีก็หลับแล้ว ทำให้ผมจะไม่เสียเวลาดูหนังอีกแล้ว ไม่ต้องกลัวว่าเราจะทำไม่ได้

แต่ขอให้จัดเวลาในแต่ละวันเพิ่มขึ้นเพื่อการหว่านสิ่งที่ตอบสนองฝ่ายวิญญาณ ในที่สุดฝ่ายเนื้อหนังมันจะหายไปเอง มันจะถูกทำลายไปเอง มาดูพระคัมภีร์กัน

รม8:12-13เพราะฉะนั้น พี่น้องทั้งหลาย เราเป็นหนี้ แต่ไม่ใช่เป็นหนี้ฝ่ายเนื้อหนัง ที่จะดำเนินชีวิตตามเนื้อหนัง 13เพราะว่าถ้าท่านดำเนินชีวิตตามเนื้อหนังแล้ว ท่านจะต้องตาย แต่ถ้าโดยทางพระวิญญาณ ท่านทำลายกิจการของร่างกาย ท่าน ก็จะดำรงชีวิตได้ 

พระเจ้าเรียกให้เราทำในส่ิงที่เป็นไปได้ โดยเฉพาะเรื่องการหว่านที่ตอบสนองฝ่ายวิญญาณ  เราอย่าไปหาเวลาที่จะหว่านเพราะเราจะหาไม่เจอ แต่ถ้าเราจัดเวลา เราจะหว่านสิ่งที่ตอบสนองพระวิญญาณได้ 

ขอให้เริ่มจากความตั้งใจที่ดี แปรรูปเป็นการกระทำ การประพฤติ การดำเนินชีวิต ขอให้จัดเวลาสำหรับการหว่านในส่ิงที่ตอบสนองพระวิญญาณ ตลอดทั้งวัน

เหตุลก็เพราะว่า จะได้ไม่มีเวลาว่างหลงเหลือ เพื่อเราจะไปหว่านสิ่งที่ตอบสนองฝ่ายเนื้อหนัง

อย่าหลงเลย คนเรา .งูมาก่อน .ฉิ่ง (หมายความว่าโง่ก่อนฉลาด) เราหว่านในสิ่งที่ตอบสนองฝ่ายวิญญาณได้ตลอดทั้งวัน 24 ชั่วโมง แต่จัดกิจกรรมแตกต่างกันได้ ไม่จำเป็นต้องนั่งอ่านพระคัมภีร์ทั้งวันแล้วไม่ทำอะไรเลย

กิจกรรม เช่น เวลาผัดกับข้าวก็ตอบสนองพระวิญญาณได้ การไปคุยกับคนที่มีความทุกข์ใจให้เขาได้ระบายออกมาก็เป็นการหว่านสิ่งที่ตอบสนองพระวิญญาณการอธิษฐานเผื่อคนก็เป็นหว่านสิ่งที่ตอบสนองพระวิญญาณ การนั่งเฉยๆ พัก ก็เป็นการหว่านสิ่งที่ตอบสนองพระวิญญาณได้ ขอให้เราจัดเวลาในทุกวันเพื่อหว่าน

เราจะจัดกิจกรรมอะไรก่อนหลัง เช้าบ่าย ขึ้นอยู่กับความฉลาดของเรา ข้อสังเกตคือ กิจกรรมไหนใช้สติปัญญา สมอง ความคิด จัดไว้เป็นอันดับแรก เช่น การอ่านพระคัมภีร์ การเฝ้าเดี่ยว ที่ผมสอนพระคำมาจากพระเจ้า เป็นสติปัญญาของพระเจ้า

เราต้องเอาเวลาดีที่สุด ที่เราสดชื่นมาหาพระเจ้า เพื่อเข้าใจความจริงของพระเจ้า ภายใต้พลานุภาพของพระเจ้า

เอาเวลาดีที่สุดสดใสที่สุดของเรา ซึ่งเวลาสดใสแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนก็เช้ามากๆ เพราะนอนแต่หัวค่ำ บางคนก็สายหน่อย ก็ปรับไปตามเวลาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

พระคำที่เราอ่าน บางครั้งอ่านแล้วอ่านอีกก็อ่านแล้วก็เหมือนเดิม ไม่เห็นมีอะไรสดใหม่เลย สดด119:18 ขอทรงเปิดตาข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะเห็น สิ่งอัศจรรย์จากธรรมบัญญัติของพระองค์

พระคำของพระเจ้ามีอะไรมากกว่าที่เราเห็น แต่ที่อ่านแล้วมีเท่านี้เพราะเราไม่เห็น ไม่ใช่ว่าพระคำไม่ได้มีอะไร แต่พระคำมีอะไรๆหลายอย่างเยอะมาก แต่เราต่างหากมองไม่เห็น ดังนั้นเราต้องถ่อมใจอธิษฐาน

ผู้เขียนสดุดีขอพระเจ้าเปิดตาใจ คือ ให้เขาเห็น ให้เขาเข้าใจ ให้เห็นส่ิงอัศจรรย์ เขาอธิษฐาน เพราะรู้ว่ามีเพียงผู้เขียนเท่านั้นจะอธิบายให้เขาเข้าใจได้

ถ้าเราจัดเวลาที่ไม่สดชื่นอ่านพระคัมภีร์ จะทำให้เราไม่ได้อะไรจากพระคำของพระเจ้า เพราะเห็นพระคัมภีร์ก็หาวแล้ว ง่วงนอนแล้ว

เรื่องพื้นๆแต่นำพระพรมาสู่ชีวิตของเราอย่างมากมาย ผ่านพระคำของพระเจ้า   ผมรับใช้พระเจ้าไม่ใช่เพราะวุฒิการศึกษา แต่เป็นการแสวงหาพระเจ้า ผ่านพระคำ พระเจ้าให้ผมเห็นความจริงของพระเจ้า

พระคัมภีร์บอกว่ากิจการฝ่ายร่างกาย กิจการฝ่ายเนื้อหนังจะถูกทำลายไปเมื่อเราหว่านในสิ่งที่ตอบสนองฝ่ายพระวิญญาณ เราจะไม่ยอมเสียเวลา เราไม่ต้องไปฝืนเลิก แต่พยายามไปจัดกิจกรรมการหว่านที่ตอบสนองพระวิญญาณทั้งวัน ทั้ง24ชั่วโมง เพื่อไม่ให้กิจกรรมฝ่ายเนื้อหนังเข้ามาในชีวิตได้ เพื่อเราจะมีนิสัย เหมือนที่พระเจ้าให้เราเป็น คือ เราจะหว่านในส่ิงที่ตอบสนองพระวิญญาณ

รม12:2เรารู้ว่า การที่พระเจ้าทรงลงโทษคนที่ประพฤติเช่นนั้นก็สมควรจริงๆ 

อย่าประพฤติตามค่านิยมที่ดีของคนในโลก เพราะถ้าเป็นค่านิยมที่ผิดกฎหมาย พระคัมภีร์ไม่ต้องห้ามเรา เพราะเราไม่ทำอยู่แล้ว แต่ที่เตือนเราไม่ให้ทำเพราะเป็นค่านิยมที่ดีต่างหากที่เราจะทำตาม

เราสามารถแยกแยะการจัดลำดับความสำคัญในแต่ละวันได้ถูกต้องสอด คล้องกับน้ำพระทัยพระเจ้าหรือไม่ เรารู้ไหมว่าเวลาอะไร วันไหน ฤดูไหน ช่วงไหน เราต้องหว่านอะไร เมื่อเรากลับมาจัดระเบียบชีวิต จริงๆ เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเรา  พระเจ้าจะเทพระพรลงมา พระเจ้าจะเทฤทธิ์เดชลงมา จนคุณไม่สามารถรองรับได้ ผมสอนดร.จบพระคัมภีร์มาหลายคนแล้ว แต่ผมยังไม่มีวุฒิการศึกษาเลย  จนโรงเรียนพระคัมภีร์ต้องให้วุฒิกิตติมศักดิ์ ผมรับใช้มาถึงทุกวันนี้ได้เพราะผมหว่านในส่ิงที่ตอบสนองพระวิญญาณ

รม8:13-16 เพราะว่าถ้าท่านดำเนินชีวิตตามเนื้อหนังแล้ว ท่านจะต้องตาย แต่ถ้าโดยทางพระวิญญาณ ท่านทำลายกิจการของร่างกาย ท่านก็จะดำรงชีวิตได้ 14เพราะว่าพระวิญญาณของพระเจ้าทรงนำใคร คนนั้นก็เป็นบุตรของพระเจ้า 15เพราะว่าพระวิญญาณที่พระเจ้าประทานมานั้นจะไม่ทรงให้ท่านเป็นทาสซึ่งทำให้ตกในความกลัวอีก แต่พระวิญญาณจะทรงให้ท่านมีฐานะเป็นบุตรของพระเจ้า โดยพระวิญญาณนั้นเราจึงร้องเรียกพระเจ้าว่าอับบา (พ่อ)”

พระคัมภีร์บอกว่าพระวิญญาณทำให้เราเป็นบุตร  เมื่อเราหว่านในส่ิงที่ตอบสนองพระวิญญาณ เราเองก็จะเชื่อว่าเราใช่บุตรของพระเจ้า  พระวิญญาณบริสุทธิ์จะเป็นพยานให้เรารู้ว่าเราเป็นบุตรของพระเจ้า  เราจะมีความมั่นใจว่าเราจะได้เก็บเกี่ยวชีวิตนิรันดร์แน่นอน

ตัวอย่าง ผมเคยจัดอบรมให้ผู้รับใช้ เมื่อจบการสัมมนาแล้วประเมินผู้รับใช้ 300 คน 40% จากการอบรม บอกว่าเราทำไม่ได้ตามการสัมมนาเพราะเป็นวิธีของฝรั่ง แสดงว่าพวกเขาไม่เข้าใจเลยหรือ มันไม่ขึ้นอยู่กับว่าเราทำได้หรือทำไม่ได้ ขึ้นอยู่กับเราทำหรือไม่ทำต่างหาก ถ้าเราไปทำตามที่พระเจ้า พระองค์บอกให้เราทำ คนรับผิดชอบคือ พระเจ้า พระองค์ทำให้สำเร็จด้วยฤทธิ์เดชของพระเจ้า เวลาเราคิดว่าเราทำไม่ได้ เราก็จะไม่ทำ  ขอให้จำไว้ว่าพระเจ้าไม่บอกให้เราทำในส่ิงที่เราทำไม่ได้ พระเจ้าบอกให้เราทำในส่ิงที่เราทำได้

ผมสอนหลานให้รู้จักสัตว์ ไก่มีปีกบินได้ เดินสองขา  นกมีสองขา แต่บินได้ กระต่ายมีสี่ขามันเดินได้แต่บินไม่ได้ วันหนึ่งหลานเจอว่ากระต่ายบินได้ในโฆษณา เลยมาถามว่าอากงทำไมสอนว่ากระต่ายบินไม่ได้ ผมอธิบายหลานไม่ได้เลย จริงๆเรื่องนี้ทำให้หลานผมงง

ตัวอย่างนี้สอนให้เรารู้ว่า เราต้องขจัดนิสัยที่เห็นว่าเรื่องที่มาจากพระเจ้า เป็นเรื่องยาก เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้หรอก แต่ความเป็นจริง แอกของพระเจ้าพอเหมาะและเบาแรง เราแบกได้ เราทำได้ พระเจ้ารู้จักเรา พระองค์รู้ว่าเราทำได้ ขอเพียงแต่ให้เราจัดเวลาทำกิจกรรมที่หว่านในส่ิงที่ตอบสนองฝ่ายพระวิญญาณตลอด 24 ชั่วโมง เราจะทำได้อย่างแน่นอน

พระเจ้าสร้างกลางคืนให้เราพักผ่อน แต่เราก็ไม่นอน ขอให้วางแผนการนอน ให้ดี เพื่อเราจะมีสุขภาพที่ดี ผมเป็นหวัดประมาณ6-8 ชม. นอนก็หายแล้ว หลายปีแล้วไม่ค่อยเป็นหวัดเลย

พยายามนอนมากๆเพื่อให้ตื่นขึ้นมาแล้วสดชื่น ตื่นมาจะได้จัดเวลาแสวงหาพระเจ้า ที่เหลือก็ไปทำงานหาเลี้ยงชีพ เราเคยคิดเรื่องการใช้เวลาอย่างจริงจังกับแต่ละกิจกรรมไหม พยายามจัดสรรเวลาของชีวิตให้ดี ให้เหมาะสม จัดเวลาในการหว่านสิ่งที่ตอบสนองในฝ่ายพระวิญญาณ ใช้เวลากับพระคำ กิจกรรมเหล่า นี้ทำให้เราอยู่ในเส้นทางการเก็บเกี่ยวในฝ่ายวิญญาณ โดยการทรงนำของพระเจ้า เราจะไม่เก็บเกี่ยวส่ิงท่ีเปื่อยเน่า

กท5:13พี่น้องทั้งหลาย เพราะว่าท่านถูกเรียกให้มีเสรีภาพ ขอแต่เพียงอย่าถือโอกาสใช้เสรีภาพเพื่อทำตามเนื้อหนัง แต่จงรับใช้กันและกันด้วยความรักเถิด

สิ่งที่ผมแนะนำมาให้ทั้งหมดคุณจะไม่ทำก็ได้  แต่ถ้าทำได้ก็จะดีกว่า ปัญหาของคริสเตียน ไม่ใช่ไม่รู้แต่ไม่ทำ

3ยน3-4 ข้าพเจ้าชื่นชมยินดีอย่างยิ่ง เมื่อพี่น้องบางคนมาหาและเป็นพยานถึงชีวิตของท่านอย่างจริงจังว่าท่านกำลังประพฤติตามความจริง 4ไม่มีอะไรทำให้ข้าพเจ้ายินดียิ่งไปกว่านี้ คือที่ได้ยินว่าลูกๆ ของข้าพเจ้าประพฤติตามความจริง

ให้ไปทำอย่าคงเส้นคงวา ไม่ใช่ไฟไหม้ฟาง

2พศด36:15-21พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของพวกเขาทรงกล่าวโดยทูตของพระองค์อย่างไม่หยุดยั้ง เพราะพระองค์ทรงเมตตาสงสารประชากรและที่ประทับของพระองค์ 16แต่เขาทั้งหลายเย้ยหยันบรรดาทูตของพระเจ้าอยู่เสมอ และดูหมิ่นพระวจนะของพระองค์ ทั้งเยาะเย้ยบรรดาผู้เผยพระวจนะของพระองค์ จนพระพิโรธของพระยาห์เวห์พลุ่งขึ้นต่อประชากรของพระองค์จนแก้ไขไม่ได้ 17พระเจ้าจึงทรงนำพระราชาของคนเคลเดีย มาต่อสู้กับเขาทั้งหลาย พระราชานั้นทรงฆ่าชายหนุ่มของพวกเขาด้วยดาบในพระนิเวศ อันเป็นสถานนมัสการของเขาและไม่มีความกรุณาต่อชายหนุ่ม หรือหญิงพรหมจารี คนแก่หรือคนชราพระเจ้าทรงมอบทุกคนไว้ในพระหัตถ์ของพระราชานั้น 18รวมทั้งเครื่องใช้ทั้งหมดแห่งพระนิเวศของพระเจ้า ทั้งใหญ่และเล็ก กับทรัพย์สมบัติแห่งพระนิเวศของพระยาห์เวห์ และทรัพย์สมบัติของกษัตริย์และพวกเจ้านายของพระองค์ พระราชานั้นทรงนำของทั้งหมดมายังบาบิโลน 19เขาทั้งหลายเผาพระนิเวศของพระเจ้า พังกำแพงกรุงเยรูซาเล็มลงและเอาไฟเผาวังทั้งหมดของเมืองนั้น ทั้งทำลายเครื่องใช้มีค่าทุกอย่างในนั้น 20และพวกที่เหลือรอดจากดาบนั้น พระราชานั้นทรงกวาดต้อนไปยังบาบิโลน พวกเขาจึงเป็นทาสรับใช้ของพระองค์ และของบรรดาราชวงศ์ของพระองค์จนถึงสมัยที่อาณาจักรเปอร์เซียเรืองอำนาจ 21เพื่อให้สำเร็จตามพระวจนะของพระยาห์เวห์ผ่านปากของเยเรมีย์ จนกว่าแผ่นดินได้พักตามสะบาโตที่ควรมี คือตลอดวันเวลาที่ถูกทิ้งร้างนั้น มันได้พักตามสะบาโต จนครบกำหนดเจ็ดสิบปี

แปลว่า คนของพระเจ้า ไม่ได้หว่านในส่ิงที่ตอบสนองฝ่ายพระวิญญาณ แต่หว่านในส่ิงที่ตอบสนองเนื้อหนัง เป็นการหลง เป็นการล้อ เยาะเย้ยพระเจ้า ดูหมิ่นพระเจ้า ข้อ16 ระวังพฤติกรรมล้อพระเจ้าเล่น เป็นการหลู่เกียรติพระองค์ จะโดนลงโทษ

ยรม25:8-9เพราะฉะนั้น พระยาห์เวห์จอมทัพจึงตรัสดังนี้ว่าเพราะเจ้าไม่เชื่อฟังถ้อยคำของเรา’ 9พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่านี่แน่ะ เราจะเรียกชนเผ่าทั้งสิ้นของทิศเหนือและเนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์บาบิโลนผู้รับใช้ของเรา และเราจะนำเขาทั้งหลายมาต่อสู้แผ่นดินนี้และชาวเมืองนี้และบรรดาประชาชาติเหล่านี้ซึ่งอยู่ล้อมรอบ เราจะทำลายเขาทั้งหลายให้สิ้น และเราจะทำให้เขาเป็นที่หวาดหวั่นและเป็นที่เยาะเย้ยและเป็นที่ทิ้งร้างเป็นนิตย์

อิสราเอลโดนลงโทษ เพราะไม่เชื่อฟังถ้อยคำของพระเจ้า  เราถูกเรียกให้เป็นผู้รับใช้พระเจ้า หากเราไม่ได้ทำเรื่องพื้นฐานการเป็นคนของพระเจ้า แสดงว่าคุณไม่ได้หว่านในส่ิงที่ตอบสนองฝ่ายวิญญาณ จะทำให้ฝ่ายวิญญาณไม่เกิด ทำให้คุณจะไม่มีสิทธิ์รับใช้พระเจ้าเลย

มารซาตานล่อลวงมนุษย์โดยใช้วิธีให้เราละเลยสองส่ิง คือ ละเลยพระวจนะพระเจ้า  และละเลยความสัมพันธ์ที่ดีและลึกซึ้งกับพระเจ้า

บางคนคิดว่าการหว่านในส่ิงที่ตอบสนองพระวิญญาณเป็นหน้าที่ของผู้รับใช้ ผู้รับใช้เท่านั้นต้องสนใจในการศึกษาพระวจนะอย่างจริงจัง นี่เป็นความเข้าใจไม่ถูกต้อง จริงๆทุกคนที่เป็นคนของพระเจ้าต้องศึกษาพระวจนะอย่างจริงจัง

คนไทยมีสองมาตรฐาน เวลานักเทศน์ทำบาปบอกว่าทำไปได้ยังไงเพราะรู้พระคัมภีร์อย่างดีมาก แต่ถ้าเป็นสมาชิกกลับไม่มีการต่อว่าเลยเพราะเห็นว่ายังไม่รู้พระคัมภีร์มากนัก เป็นเพราะระบบศักดินาที่ทำให้เราคิดแบบนี้  แต่ในพระเจ้า พระองค์ใช้มาตรฐานเดียวกันเลย

พระเจ้าอยากใช้คนของพระเจ้า คือ เรา แต่ถ้าเราไม่เอาพระเจ้า พระองค์ ก็ใช้เนบูคัดเนซาร์มาจัดการเราแทน  ตั้งแต่ปฐมกาลมารล่อลวงให้เราละเลยพระวจนะพระเจ้า มันล่อลวงเอวาว่าพระเจ้าพูดอย่างนี้จริงหรือ พอเราละเลยพระคำพระเจ้า เลยเอาชีวิตไปฟังคำสอนของมารซาตานแทน ทำให้ละเลยคำสอนของพระเจ้า ถ้าเราเริ่มต้นละเลยพระคำของพระเจ้าแล้ว ในที่สุดเราจะละเลยพระเจ้าอย่างแน่นอน

วันนี้ขอให้เรากลับใจใหม่ กลับมาจริงจังกับพระเจ้า เริ่มจากจัดเวลาสำหรับพระคำพระเจ้า อย่าหลงเลย อย่าล้อเล่นกับพระเจ้าไม่ได้

ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

บทความก่อนหน้านี้หว่านตอนที่ 3 “ตั้งใจทุ่มเทและตั้งใจละทิ้งในการหว่าน”
บทความถัดไปหว่านตอนที่ 5 “หว่าน คือ การดำเนินชีวิตในความสว่าง”

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่