ลักษณะชีวิตคริสเตียนที่ดำเนินชีวิต “สัมพันธ์สนิทกับคริสตจักรของพระคริสต์” (ชุมชนของพระเจ้า:เรียนรู้จากลักษณะคริสตจักรทั้งเจ็ด วว2:1-3:22)

ก้าวที่ 38 เรียนรู้จาก:คริสตจักรเมืองเอเฟซัส (วว2:1-7)

ก้าวที่ 39 เรียนรู้จาก:คริสตจักรเมืองสเมอร์นา (วว2:8-11)

ก้าวที่ 40 เรียนรู้จาก:คริสตจักรเมืองเปอร์กามัม (วว2:12-17)

ก้าวที่ 41 เรียนรู้จาก:คริสตจักรเมืองธิยาทิรา (วว2:18-29)

ก้าวที่ 42 เรียนรู้จาก:คริสตจักรเมืองซาร์ดิส (วว3:1-6)

ก้าวที่ 43 เรียนรู้จาก:คริสตจักรเมืองฟีลาเดลเฟีย (วว3:7-13)

ก้าวที่ 44 เรียนรู้จาก:คริสตจักรเมืองเลาดีเซีย (วว3:14-22)

ก้าวที่ 45 เรียนรู้จาก:ความสัมพันธ์ของพระเยซูคริสต์กับคริสตจักร

ก้าวที่ 46 เรียนรู้จาก: การรับรู้ของพระเยซูคริสต์ที่มีต่อคริสตจักร

ก้าวที่ 47 เรียนรู้จาก:ทัศนคติของพระเยซูคริสต์ต่อคริสตจักร

ก้าวที่ 48 เรียนรู้จาก:พระสัญญาของพระเยซูคริสต์ที่มีต่อคริสตจักร

ลักษณะชีวิตคริสเตียนที่ดำเนินชีวิต 

สัมพันธ์สนิทกับคริสตจักรของพระคริสต์ 

(ชุมชนของพระเจ้า:เรียนรู้จากลักษณะ

คริสตจักรทั้งเจ็ด วว2:1-3:22)

ก้าวที่ 48 เรียนรู้จาก:พระสัญญาของพระเยซูคริสต์ที่มีต่อคริสตจักร

ตอนที่ 11 เรียนรู้จาก:พระสัญญาของพระเยซูคริสต์ต่อคริสตจักรทั้ง 7

1.คริสตจักรที่เมืองเอเฟซัส 

2.คริสตจักรเมืองสเมอร์นา

3.คริสตจักรเมืองเปอร์กามัม 

4.คริสตจักรเมืองธิยาทิรา 

5.คริสตจักรเมืองซาร์ดิส 

6.คริสตจักรเมืองฟีลาเดลเฟีย 

7.คริสตจักรเมืองเลาดีเซีย 

โดย อ.กิจขจร  ลิ่วเฉลิมวงศ์ (11 มิ.ย. 2020)

เบื้องหลังของการเรียนรู้เรื่องทัศนคติของพระเยซูคริสต์ กับคริสตจักรทั้ง 7 จากพระธรรม วว2:1-3:22 มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้อ่านรู้ว่าพระเยซูคริสต์ มีพระสัญญาอะไร มีรางวัลอะไรสำหรับคริสตจักรที่มีชัยชนะในการดำเนินชีวิต ผ่านการทดลอง ผ่านการประนีประนอม และดำเนินชีวิตตามพระประสงค์พระเจ้า

เราเห็นว่าพระเยซูคริสต์ชื่นชม สองคริสตจักร(2,6)ไม่ตำหนิเลย มีแต่หนุนใจให้ทำดีต่อไป  ตำหนิสองคริสตจักร(1,7)ที่อยู่ในสภาพอันตรายมากให้กลับใจใหม่แม้มีส่ิงดีมากมายแต่ร่วงหล่นจากความรักของพระเจ้า  อีกสามคริสตจักร(3,4,5) มีการประนีประนอมต้องกลับใจใหม่ แม้มีการชมเชยบ้าง

โดยอ.ยอห์นได้รับการสำแดงจากพระเยซูคริสต์ ให้เขียนเรื่องนี้ไว้ในหนังสือม้วน และส่งไปให้คริสตจักรทั้งเจ็ด (วว1:11) ตรัสว่าสิ่งที่ท่านเห็นนั้นจงเขียนไว้ในหนังสือม้วน และส่งไปให้คริสตจักรทั้งเจ็ด คือคริสตจักรที่เมือง(1)เอเฟซัส เมือง(2)สเมอร์นา เมือง(3)เปอร์กามัม เมือง(4)ธิยาทิรา เมือง(5)ซาร์ดิส เมือง(6)ฟีลาเดลเฟียและเมือง(7)เลาดีเซีย

เนื้อหาสำหรับตอนที่ 11 นี้เน้นพระสัญญาของพระเยซูคริสต์ ซึ่งเป็นความจริงเป็นการให้กำลังใจสำหรับผู้เชื่อ ให้ต่อสู้เพื่อมีชัยชนะเหนือการทดลอง ท่านสามารถยึดมั่นพระสัญญาพระเยซูคริสต์ได้ เพื่อเราจะเป็นผู้ชนะ ได้รับตามสิ่งที่พระเยซูคริสต์ทรงสัญญาว่าจะให้เราได้รับในวันสุดท้าย

วว2:1,8,12,18; 3:1,7,14 “จงเขียนถึง ทูตสวรรค์ของคริสตจักรที่เมืองเอเฟซัส,สเมอร์นา,เปอร์กามัม,ธิยาทิรา,ซาร์ดิส,ฟีลาเดลเฟีย และเลาดีเซีย

ฑูตสวรรค์ อาจจะหมายถึง ฑูตสวรรค์ที่เป็นวิญญาณจริงๆก็ได้หรือเป็นผู้นำผู้ปกครอง หรือศิษยาภิบาลของคริสตจักรก็ได้ การแปลความให้ใช้บริบทของเนื้อหาเป็นตัวชี้วัดในการตัดสินใจอีกที บางคนก็เชื่อว่าเป็นฑูตสวรรค์จริงๆไม่ใช่หมายถึงผู้นำหลักของคริสตจักร แต่ไม่มีทัศนไหนบอกว่า “ฑูตสวรรค์” ในคริสตจักรทั้งเจ็ดเป็นมนุษย์ ที่ทำหน้าที่เป็นผู้นำเท่านั้น

วันนี้เราจึงมาเรียนรู้เรื่อง ลักษณะชีวิตคริสเตียนที่ดำเนินชีวิต 

สัมพันธ์สนิทกับคริสตจักรของพระคริสต์ 

(ชุมชนของพระเจ้า:เรียนรู้จากลักษณะคริสตจักรทั้งเจ็ด วว2:1-3:22)

ตอนที่ 11 เรียนรู้จากพระสัญญาของ

พระเยซูคริสต์ต่อคริสตจักรทั้ง 7

1.คริสตจักรที่เมืองเอเฟซัส (วว2:7)

วว2:7 ใครมีหูก็ให้ฟังข้อความที่พระวิญญาณตรัสกับคริสตจักรทั้งหลาย คนที่ชนะ เราจะให้เขากินผลจากต้นไม้ที่ให้ ชีวิต  ที่อยู่ในเมืองบรมสุขเกษมของพระเจ้า” 

ต้นไม้แห่งชีวิต คือ คำสัญญาเรื่องชีวิตนิรันดร์

วว22:2,14 ไปที่กลางถนนของนครนั้น และริมแม่น้ำทั้งสองฝั่งมีต้นไม้แห่งชีวิต ที่ออกผลสิบสองชนิด มันออกผลทุกเดือน และใบของต้นไม้นั้นใช้สำหรับรักษาโรคของบรรดาประชาชาติ14คนทั้งหลายที่ชำระล้างเสื้อผ้าของตนก็เป็นสุข เพื่อว่าพวกเขาจะมีสิทธิ์ในต้นไม้แห่งชีวิต และเข้าไปในนครนั้นโดยทางประตูได้

ยอห์นอาจจะใช้ต้นไม้แห่งชีวิตเป็นคำเปรียบเปรย หมายถึง ชีวิตอมตะที่เกิดจากการได้รับประทานผลจากต้นไม้แห่งชีวิต ก่อนหน้านั้นในสวนเอเดนอาอัมและเอวาถูกขับไล่จากสวนและไม่ให้ใกล้ต้นไม้แห่งชีวิตอีก

ปฐก2:9แล้วพระยาห์เวห์พระเจ้าทรงให้ต้นไม้ทุกชนิดที่งามน่าดูและน่ากินงอกขึ้นจากพื้นดิน มีต้นไม้แห่งชีวิตต้นหนึ่งอยู่กลางสวนนั้น กับต้นไม้แห่งการรู้ถึงความดีและความชั่วต้นหนึ่งด้วย

ปฐก3:22-24แล้วพระยาห์เวห์พระเจ้าตรัสว่าดูสิ มนุษย์กลายเป็นเหมือนผู้หนึ่งในพวกเราแล้ว โดยที่รู้ความดีและความชั่ว บัดนี้ อย่าปล่อยให้เขายื่นมือไปหยิบผลจากต้นไม้แห่งชีวิตมากินด้วย แล้วมีอายุยืนชั่วนิรันดร์”  23เพราะฉะนั้นพระยาห์เวห์พระเจ้าจึงทรงไล่เขาออกไปจากสวนเอเดน ให้เพาะปลูกบนดินซึ่งใช้สร้างเขาขึ้นมา 24พระองค์ทรงขับไล่ชายนั้นออกไป และทรงตั้งเหล่าเครูบทางด้านทิศตะวันออกของสวนเอเดน และตั้งดาบเพลิงอันหนึ่งที่หมุนได้ไว้เฝ้าทางที่จะไปสู่ต้นไม้แห่งชีวิตนั้น

แต่ผู้มีชัยชนะในพระคริสต์จะได้รับอนุญาตให้เข้าในสวนเอเดน หรือสวรรค์ที่ประทับของพระเจ้า และรับประทานผลจากต้นไม้แห่งชีวิตเพื่อจะมีชีวิตนิรันดร์

2.คริสตจักรเมืองสเมอร์นา (วว2:10ข-11)

วว2:10-11 และเราจะมอบมงกุฎแห่งชีวิตให้แก่เจ้า 11ใครมีหูก็ให้ฟังข้อความที่พระวิญญาณตรัสกับคริสตจักรทั้งหลาย คนที่ชนะจะไม่ได้รับอันตรายจากความตายครั้งที่สองเลย

พระองค์สัญญาว่าคนที่ชนะ พระองค์จะมอบมงกุฎแห่งชีวิตและไม่ได้รับอันตรายจากความตายครั้งที่สอง

มงกุฎแห่งชีวิต 4735. stephanos (n) อ่านว่า (stef’-an-os)คือ สัญลักษณ์ของชัยชนะในการแข่งขัน พระพรนิรันดรที่พระเยซูคริสต์ ประทานให้ผู้รับใช้ที่แท้จริงของพระองค์

ยก1:12คนที่สู้ทนต่อการทดลองใจก็เป็นสุข เพราะเมื่อเขาผ่านการทดสอบแล้ว เขาจะได้รับมงกุฎแห่งชีวิตที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้กับคนทั้งหลายที่รักพระองค์

ไม่ได้รับอันตรายจากความตายครั้งที่สอง คือ หลังการพิพากษาหน้าพระที่นั่งใหญ่สีขาว คนที่ตายแล้วฝ่ายกายภาพครั้งที่ 1 จะมาอยู่หน้าพระที่นั่ง และหากพบว่าไม่มีชื่อในหนังสือแห่งชีวิต เขาจะพบกับความตายครั้งที่สอง

วว20:14 แล้วความตายและแดนคนตายก็ถูกโยนลงไปในบึงไฟ บึงไฟนี่แหละคือความตายครั้งที่สอง 

วว21:8 มรดกของพวกเขาอยู่ในบึงที่ไฟและกำมะถันกำลังลุกไหม้อยู่ ซึ่งเป็นความตายครั้งที่สอง

ความหมายของ ทั้งสองอย่างที่พระเยซูคริสต์ประทานให้กับผู้ชนะในตอนนี้จึงน่าจะหมายถึงว่า คนที่วางใจในพระเยซูคริสต์ ไม่ปฎิเสธความเชื่อแม้ถูกข่มเหงจนถึงความตาย คนนั้นจะมีชัยชนะได้รับชีวิตนิรันดร์ ไม่ใช่ความทุกข์ ทรมานนิรันดร์อย่างแน่นอน

3.คริสตจักรเมืองเปอร์กามัม (วว2:17)

วว2:17“ใครมีหูก็ให้ฟังข้อความที่พระวิญญาณตรัสกับคริสตจักรทั้งหลาย เราจะให้มานาที่ซ่อนอยู่แก่คนที่ชนะ และจะให้หินขาวแก่เขาด้วย และบนหินนั้นจะมีชื่อใหม่จารึกไว้ซึ่งไม่มีใครรู้เลยนอกจากผู้ที่ได้รับ

มานา คือ อาหารที่พระเจ้าทรงประทานให้เพื่อเลี้ยงดูอิสราเอลในถิ่นทุรกันดาร 40 ปี ในธรรมเนียมเรื่องเล่าของชาวยิวมีการบันทึกถึงมานาไหหนึ่งที่ถูกเก็บรักษาไว้ในหีบพันธสัญญา (อพย.16:33-35; ฮบ.9:4) 

ก่อนที่พระวิหารจะถูกทำลาย เยเรมีย์หรือทูตสวรรค์ได้ทำการซ่อนหีบพันธสัญญาเอาไว้  และหีบนี้ถูกเก็บรักษาไว้จนถึงยุคของพระเมสสิยาห์  เมื่อถึงยุคที่ว่านี้ มานาจะถูกนำมาเป็นอาหารสำหรับประชากรของพระเจ้าอีกครั้งหนึ่ง  

ยอห์นอาจจะใช้มานาที่ซ่อนอยู่เป็นคำเปรียบเปรย หมายถึง อาหารสำหรับประชากรของพระเจ้าอีกครั้งหนึ่งในการเข้าร่วมงานเลี้ยงของพระเมษโปดก

หินขาว เป็นผลผลิตทางการค้าในโลกโบราณที่ขุดได้ในเมืองเปอร์กามัม มีการนำมาใช้หลายรูปแบบ  เช่น

1.ใช้ในศาลไต่สวนเพื่อนำมามอบให้คนที่ถูกไถ่สวนอย่างยุติธรรมและ ระบุว่าคนนั้นพ้นข้อกล่าวหาแล้ว 

2.ใช้มอบให้กับคนที่ได้รับอิสรภาพจากการเป็นทาส   

3.ใช้มอบให้แก่ผู้ชนะการแข่งขัน 

4.ใช้มอบให้แก่นักรบที่ได้รับชัยชนะ   

ความหมายของ หินขาวในตอนนี้จึงน่าจะเป็นสัญลักษณ์ที่หมายถึง ชัยชนะในบั้นปลายที่ผู้นั้นได้รับสิทธิ์ในการเข้าสู่สวรรค์   และคำจารึกชื่อใหม่

ในหินนั้นน่าจะหมายถึงว่า คนนั้นเป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับของพระเจ้า

ความหมายของ ทั้งสองอย่างที่พระเยซูคริสต์ประทานให้กับผู้ชนะในตอนนี้จึงน่าจะหมายถึงว่าได้เข้าร่วมงานเลี้ยงของพระเมษโปดกและเป็นที่รู้จักเป็นที่ยอมรับของพระเจ้า

4.คริสตจักรเมืองธิยาทิรา (วว2:26-29)

26และคนที่ชนะและปฏิบัติงานของเราจนถึงที่สุดเราจะประทานสิทธิอำนาจเหนือบรรดาประชาชาติกับเขา27และเขาจะปกครองดูแลคนทั้งหลายด้วยคทาเหล็กเหมือนอย่างหม้อกระเบื้องที่ถูกตีแตกเป็นเสี่ยงๆ28เหมือนอย่างที่เราได้รับอำนาจจากพระบิดาของเราแล้ว และเราจะมอบดาวประจำรุ่งให้กับเขาด้วย 29ใครมีหูก็ให้ฟังข้อความที่พระวิญญาณตรัสกับคริสตจักรทั้งหลาย” 

ประทานสิทธิอำนาจ คือ อำนาจในการปกครอง บริหาร (อำนาจที่ต้องเชื่อฟังและบังคับบัญชาส่งไปให้คนอื่น และต้องเชื่อฟัง) ในข้อนี้ หมายถึง ผู้เชื่อปกครองเหนือบรรดาประชาชาติที่ไม่ได้เชื่อพระเจ้าในอนาคต

วว20:4ข้าพเจ้าเห็นบัลลังก์หลายบัลลังก์ และผู้ที่นั่งอยู่บนนั้นได้รับมอบอำนาจในการพิพากษา ข้าพเจ้าเห็นดวงวิญญาณของคนทั้งหลายที่ถูกตัดศีรษะเพราะการเป็นพยานถึงพระเยซู และเพราะพระวจนะของพระเจ้า พวกเขาไม่ได้บูชาสัตว์ร้ายหรือรูปของมัน และไม่ได้รับเครื่องหมายของมันไว้ที่หน้าผากหรือที่มือของเขา เขาทั้งหลายกลับมีชีวิตขึ้นอีกและครอบครองร่วมกับพระคริสต์เป็นเวลาหนึ่งพันปี

ปกครองดูแลคน คือ เหมือนผู้เลี้ยงแกะที่ปกครองแกะ ดูแล บังคับบัญชา สามารถลงโทษคนไม่เชื่อได้ เหมือนอย่างที่พระเยซูคริสต์ได้รับมอบอำนาจจากพระเจ้าพระบิดา (ในอดีตพระเจ้าเคยใช้ชนชาติที่ไม่เชื่อพระเจ้า เช่น อัซซีเรีย, เปอร์เซียมีเดียน จัดการพิพากษาอิสราเอลเมื่อพวกเขากบฏและไม่เชื่อฟังพระเจ้ามาแล้ว เสริมเพื่อให้รู้ว่าอำนาจปกครองแท้จริงมาจากพระเจ้า)

พระเจ้าสัญญากับผู้รับการเจิมให้ปกครองด้วยสิทธิอำนาจของพระเจ้า

สดด2:7-9 ข้าพเจ้าจะบอกถึงกฎเกณฑ์ของพระยาห์เวห์พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่าเจ้าเป็นบุตรของเรา วันนี้เราให้กำเนิดเจ้าแล้ว8จงขอจากเราเถิด และเราจะมอบบรรดาประชาชาติให้เป็นมรดกของเจ้าตลอดจนแผ่นดินโลกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้า 9เจ้าจะตีพวกเขาให้แตกด้วยคทาเหล็กและฟาดให้แหลกเป็นชิ้นๆ ดุจภาชนะของช่างปั้นหม้อ

มอบดาวประจำรุ่ง คือ ดาวประจำรุ่งคือ พระเยซูคริสต์ คำนี้ใช้แค่สองครั้งในพันธสัญญาใหม่ คือ วว2:28 ตอนนี้  และวว22:16

วว22:16เราคือเยซูผู้ใช้ทูตสวรรค์ของเราไปเป็นพยานถึงสิ่งเหล่านี้ต่อท่านเพื่อคริสตจักรทั้งหลาย เราเป็นรากเหง้าและเชื้อสายของดาวิด และเป็นดาวประจำรุ่งอันสุกใส

พระเยซูคริสต์ต้องการสื่อสารว่าพระองค์ให้ความสนพระทัยกับคนที่ชนะ  เหมือนการฉายแสงดาวประจำรุ่งมาที่พวกที่มีชัยชนะ พวกเขาดูงดงาม และส่งแสงส่องสว่างกว่าคนอื่นๆ หรืออีกความหมายหนึ่งคือ พวกเขาจะมีชื่อเสียงดีบนแผ่นดินสวรรค์มากกว่าคนอื่นๆ  หรือพระเยซูคริสต์เป็นความหวังของพวกเขา ในเวลามืดมิดมีดาวประจำรุ่ง ในที่สุดพวกเขาจะพบพระองค์อีกครั้ง

มธ2:2,11พระกุมารผู้ที่ทรงบังเกิดมาเป็นกษัตริย์ของชนชาติยิวนั้นอยู่ที่ไหน? เราได้เห็นดาวของท่านทางทิศตะวันออก และเราจึงมาเพื่อจะนมัสการท่าน”11เมื่อเข้าไปในบ้านก็พบพระกุมารกับนางมารีย์มารดา จึงก้มลงนมัสการพระกุมารนั้น แล้วเปิดหีบสมบัติของพวกเขาและถวายเครื่องบรรณาการแด่พระกุมาร คือ ทองคำ กำยาน และมดยอบ

คนที่ชนะจะได้รับสิทธิอำนาจจากพระเจ้าในการปกครองประชาชาติ และเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้า จะได้พบกับพระองค์อีกครั้งหนึ่ง

5.คริสตจักรเมืองซาร์ดิส (วว3:5-6)

วว3:5-6 เช่นเดียวกัน คนที่ชนะก็จะสวมเสื้อสีขาว และเราจะไม่ลบชื่อของเขาออกจากหนังสือแห่งชีวิต เราจะรับรองชื่อของเขาเฉพาะพระพักตร์พระบิดาของเรา และต่อหน้าบรรดาทูตสวรรค์ของพระองค์ 6ใครมีหูก็ให้ฟังข้อความที่พระวิญญาณตรัสกับคริสตจักรทั้งหลาย

วว3:4แต่เจ้าก็ยังมีสองสามคนในเมืองซาร์ดิสที่ไม่ได้ทำให้เสื้อผ้าของตนเป็นมลทิน และพวกเขาจะดำเนินไปกับเราในชุดสีขาว

คําว่า เสื้อผ้าของตนเป็นมลทิน  3435. molunó (v) อ่านว่า (mol-oo’-no) หมายถึง ผู้ที่รักษาชีวิตของพวกเขาให้บริสุทธิ์จากมลทินแห่งความบาป รากศัพท์มาจากคำที่มีความหมายว่า  เปื้อนดิน ทำให้สกปรก กลายเป็นวิญญาณที่สกปรกเปื้อนดิน

ดำเนินไปกับเราในชุดสีขาวเพราะว่าพวกเขาเป็นคนที่คู่ควร(ภาษาเดิมแปลว่า ที่มีคุณค่า)514. axios (adj) อ่านว่า (ax’-ee-os) หมายถึง เป็นที่โปรดปรานของการรับเชิญ

ดังนั้นเมื่อรวมความหมายของประโยคทั้งหมด น่าจะหมายถึง ผู้เชื่ออย่าเข้าใจผิดคิดว่าตนเองมีชีวิตกับพระเจ้า ทั้งๆที่ตนเองดำเนินชีวิตในความบาป นั่นหมายถึง พวกเขาตายฝ่ายวิญญาณไปแล้ว แต่พระเยซูคริสต์ โปรปรานผู้เชื่อที่ดำเนินชีวิตไปกับพระองค์โดยการรักษาชีวิตให้บริสุทธิ์ ชอบธรรม เพราะเขาเป็นคนที่มีคุณค่าเป็นที่โปรดปรานของการรับเชิญให้เข้าแผ่นดินของพระองค์

ไม่ลบชื่อของเขาออกจากหนังสือแห่งชีวิต คือ รายชื่อของบรรดาคริสตชนที่ซื่อสัตย์ พระเยซูคริสต์ทรงรับรองรายชื่อเหล่านั้นต่อพระพักตร์พระเจ้าพระบิดาบนสวรรค์ หนังสือแห่งชีวิตนี้เปรียบเทียบเหมือนทะเบียนราษฎร์ของประชาชนของชาติ

มธ10:32เพราะฉะนั้นทุกคนที่จะรับเราต่อหน้ามนุษย์ เราจะรับผู้นั้นเฉพาะพระพักตร์พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์

ความหมายของ ทั้งสองอย่างที่พระเยซูคริสต์ประทานให้กับผู้ชนะในตอนนี้จึงน่าจะหมายถึง พระเยซูคริสต์เป็นพยานรับรองผู้เชื่อที่สัตย์ซื่อเพื่อพวกเขาได้รับชีวิตนิรันดร์ ได้เข้าแผ่นดินของพระเจ้า เพราะพวกเขาเป็นพลเมืองของอาณาจักรพระเจ้า พวกเขาได้รับความชอบธรรมที่พระเจ้าให้เขาสวมใส่และรักษาชีวิตชอบธรรมกับพระเจ้า ไม่ดำเนินชีวิตอยู่ในความผิดบาป

6.คริสตจักรเมืองฟีลาเดลเฟีย (วว3:12)

วว3:12คนที่ชนะ เราจะตั้งให้เขาเป็นเสาหลักอยู่ในพระวิหารของพระเจ้าของเรา และเขาจะไม่ออกไปจากพระวิหารอีกเลย และบนตัวเขา เราจะจารึกพระนามพระเจ้าของเรา และชื่อเมืองของพระเจ้าของเรา คือนครเยรูซาเล็มใหม่ที่ลงมาจากสวรรค์จากพระเจ้าของเรา และเราจะจารึกนามใหม่ของเราด้วย 

เสาหลัก หมายถึง อยู่อย่างมั่นคงในแผ่นดินของพระเจ้า ไม่ออกไปจากพระวิหารอีกเลย พระเจ้าให้ความมั่นใจกับคริสตจักรเมืองฟีลลาเดลเฟีย เพราะในนครเยรูซาเล็มใหม่ไม่มีพระวิหารของพระเจ้าที่เป็นตัวอาคารแล้ว แต่พระเจ้ากับพระเมษโปดกทรงเป็นพระวิหาร พวกเขาจะอยู่ที่นั่น

วว21:22 ข้าพเจ้าไม่เห็นมีพระวิหารในนครนั้น เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าทรงฤทธานุภาพสูงสุด และพระเมษโปดกเป็นพระวิหารในนครนั้น

วว22:4พวกเขาจะเห็นพระพักตร์ของพระองค์ และพระนามของพระองค์จะอยู่บนหน้าผากของเขาทั้งหลาย

จารึก หมายถึง พระเจ้ายืนยันความเป็นพลเมืองแห่งแผ่นดินของพระเจ้าด้วยการจารึกนามของพระองค์บนตัวของพลเมืองของพระองค์ 

ฮบ12:22-23 แต่ไม่ใช่อย่างนั้น ท่านทั้งหลายมาถึงภูเขาศิโยน และมาถึงนครของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ คือนครเยรูซาเล็มแห่งสวรรค์ และมาถึงที่ชุมนุมรื่นเริงของทูตสวรรค์มากมายเหลือที่จะนับได้ 23และมาถึงคริสตจักรของบรรดาบุตรหัวปีผู้มีชื่อจารึกไว้ในสวรรค์แล้ว และมาถึงพระเจ้าผู้ทรงพิพากษาทุกคน และมาถึงจิตวิญญาณของคนชอบธรรมซึ่งถึงความสมบูรณ์แล้ว

จากกุญแจของดาวิด เกี่ยวข้องวังของดาวิด ซึ่งกษัตริย์ดาวิดประทับอยู่ในแผ่นดินอิสราเอล  เสาหลักในพระวิหาร ซึ่งพระวิหารก็เป็นที่ประทับของพระเจ้าในแผ่นดินของพระเจ้า

ดังนั้น โดยบริบทจึงเกี่ยวข้องกับพระเยซูคริสต์ในฐานะกษัตริย์แห่งแผ่นดินสวรรค์ ผู้ทรงบริสุทธิ์ถวายตนเองเป็นแกะไถ่บาปพลเมืองแห่งแผ่นดินสวรรค์ พระเจ้าจึงให้ความมั่นใจว่าคนเหล่านั้นที่รักษาคำของพระองค์ และไม่ปฎิเสธ นามของพระองค์ พวกเขาจะมีความมั่นคงในนครเยรูซาเล็มใหม่ เพราะเขาเป็นพลเมืองแห่งแผ่นดินสวรรค์ ประตูแห่งอาณาจักรสวรรค์นั้นเปิดโดยพระเยซูคริสต์ พระองค์มีกุญแจ มีสิทธิอำนาจ เพื่อให้พลเมืองของพระองค์เข้ามาในอาณาจักรของพระเจ้า

7.คริสตจักรเมืองเลาดีเซีย (วว3:21-22)

วว3:21-22 คนที่ชนะ เราจะให้เขานั่งกับเราบนพระที่นั่งของเรา เหมือนอย่างที่เรามีชัยชนะแล้ว และได้นั่งกับพระบิดาของเราบนพระที่นั่งของพระองค์ 22ใครมีหูก็ให้ฟังข้อความที่พระวิญญาณได้ตรัสกับคริสตจักรทั้งหลาย

Meyer ให้ความหมายของ ทั้งสองอย่างที่พระเยซูคริสต์ประทานให้กับผู้ชนะในตอนนี้จึงน่าจะหมายถึง การนั่งบนบัลลังก์ครอบครองร่วมกันกับพระเจ้าในสวรรค์ เหมือนพระเยซูคริสต์ผู้มีชัยชนะ

ฮบ12:2 โดยจับตามองที่พระเยซูผู้เบิกทางความเชื่อ และผู้ทรงทำให้ความเชื่อนั้นสมบูรณ์ พระองค์ทรงสู้ทนต่อกางเขน เพื่อความยินดีที่อยู่ต่อหน้าพระองค์ ทรงถือว่าความอับอายนั้นไม่เป็นสิ่งสำคัญ และพระองค์ประทับเบื้องขวาพระที่นั่งของพระเจ้า

2ทธ2:12ถ้าเราสู้ทน เราก็จะได้ครองร่วมกับพระองค์ ถ้าเราไม่ยอมรับพระองค์ พระองค์ก็จะไม่ทรงยอมรับเราเช่นกัน

วว22:3-4ทุกสิ่งที่ถูกสาปแช่งจะไม่มีอีกต่อไป พระที่นั่งของพระเจ้าและของพระเมษโปดกจะตั้งอยู่ที่นั่น และบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์จะนมัสการพระองค์ 4พวกเขาจะเห็นพระพักตร์ของพระองค์ และพระนามของพระองค์จะอยู่บนหน้าผากของเขาทั้งหลาย

คำสัญญาดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า น่าจะเป็นสัญญาของผู้เชื่อคนอื่นๆด้วย โดยกำหนดให้เป็นเป้าหมายสูงสุด และเหมาะสมที่สุดสำหรับความหวังของคริสเตียน รวมไปถึงคำสัญญาต่างๆของพระเจ้าที่อยู่ในการเปิดเผยจากข้อความที่ซ่อนไว้ในคำเผยวจนะจากพระธรรมวิวรณ์

กล่าวโดยสรุป 

1.คริสตจักรที่เมืองเอเฟซัส

ต้นไม้แห่งชีวิตคำสัญญาผู้มีชัยชนะจะได้รับชีวิตนิรันดร์

2.คริสตจักรเมืองสเมอร์นา

มงกุฎแห่งชีวิต – สัญลักษณ์ของชัยชนะในการแข่งขัน

ไม่ได้รับอันตรายจากความตายครั้งที่สองเลยไม่ต้องไปนรกบึงไฟ

3.คริสตจักรเมืองเปอร์กามัม

มานาที่ซ่อนอยู่อาหารสวรรค์เตรียมไว้สำหรับผู้ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงของพระเมษโปดก

หินขาวสัญลักษณ์ของชัยชนะและการเป็นที่ยอมรับของพระเจ้า

4.คริสตจักรเมืองธิยาทิรา

ดาวประจำรุ่งพระเยซูคริสต์ให้ความสนใจกับผู้ที่ชนะ พวกเขามีชื่อเสียงดี และจะได้พบพระองค์อีกครั้ง

5.คริสตจักรเมืองซาร์ดิส

สวมเสื้อสีขาว รักษาชีวิตชอบธรรมกับพระเจ้า ไม่ให้บาปปนเปื้อน

ไม่ลบชื่อของเขาออกจากหนังสือแห่งชีวิต พระเยซูคริสต์เป็นพยานในการเข้าแผ่นดินของพระเจ้า รับชีวิตนิรันดร์

6.คริสตจักรเมืองฟีลาเดลเฟีย

ไม่มีใครชิงเอามงกุฏตอนนี้มีชัยชนะแล้วให้รักษาต่อไปจนถึงที่สุด

เสาหลักอยู่ในพระวิหาร  มีความมั่นคงในแผ่นดินของพระเจ้า

จารึกบนตัวเขาคนนี้เป็นพลเมืองแห่งแผ่นดินของพระเจ้า

7.คริสตจักรเมืองเลาดีเซีย

นั่งกับพระเจ้า   สามัคคีธรรมกับพระเจ้า ครอบครองร่วมกันกับพระเจ้า

ขอพระเจ้าอวยพรท่าน ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

สนใจติดต่อเรา

www.facebook.com/FORWARD.CH.TH

Email: actsministry2017@gmail.com

อ้างอิง:
1เกรแฮม ลีด. พระเจ้าทรงครอบครองอยู่ ศึกษาพระธรรมวิวรณ์. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ:  กนกบรรณสาร, พฤศจิกายน 1997,หน้า 33.
2https://biblehub.com/greek/32.htm
3https://biblehub.com/greek/4735.htm
4 ลีออน มอร์ริส. วิวรณ์. แปลโดย .ชุมแสง เรืองเจริญสุข และคณะ. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ:  คริสเตียนศึกษา แบ๊บติสต์, 1997, หน้า 63.
5https://biblehub.com/greek/1849.htm
6https://biblehub.com/greek/4165.htm
7https://biblehub.com/greek/792.htm
8https://biblehub.com/greek/3435.htm
9https://biblehub.com/greek/514.htm
10 ลีออน มอร์ริส. วิวรณ์. แปลโดย .ชุมแสง เรืองเจริญสุข และคณะ. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ:  คริสเตียนศึกษา แบ๊บติสต์, 1997.
11https://biblehub.com/commentaries/ellicott/revelation/3.htm
12https://biblehub.com/commentaries/meyer/revelation/3.htm
บทความก่อนหน้านี้ตอนที่ 10 เรียนรู้จาก:ทัศนคติของพระเยซูคริสต์ต่อคริสตจักรทั้ง 7
บทความถัดไปสดุดี73:23-28 ลมหายใจแห่งความสนิทสนม

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่